MON PARIS
เปล่งประกาย เย้ายวน ชวนลุ่มหลง
การนำเสนอแนวกลิ่นชีเพรในรูปแบบใหม่
ความรักที่ทำให้รู้สึกราวกับโลกหมุนฝากรอยกลิ่นหอมชวนเคลิบเคลิ้ม Mon Paris เป็นการนำเสนอแนวกลิ่นชีเพร (chypre) ในรูปแบบใหม่ น้ำหอมที่ห้อมล้อมผู้พร่างพรมด้วยความเร่าร้อนและความมุ่งหมายใหม่
ชีเพรเป็นแนวกลิ่นคลาสสิกที่มีโครงสร้างงดงามทว่าเคร่งครัด เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความเก๋แบบปารีสย้อนยุค Mon Paris ฉีกรูปแบบของแนวกลิ่นนี้ไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง สร้างสรรค์ความกลมกลืนต่อเนื่องใหม่โดยการพลิกโครงสร้างของแนวกลิ่นชีเพรดั้งเดิม แล้วเปิดตัวแนวกลิ่นไวท์ ชีเพร (white chypre) อันชวนเคลิบเคลิ้มและท้าทาย ซึ่งเหมาะกับความรักยุคใหม่
ผลที่ได้คือแนวกลิ่นชีเพรที่ไม่เคยมีมาก่อน ทันสมัยสุดๆ ไม่เหมือนใคร และไม่เคยมีใครสร้างสรรค์มาก่อนนอกจากนักปรุงน้ำหอมผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่านนี้: โอลิวิเยร์ แค็รส์พ (Olivier Cresp) ดอร่า บากห์ริช (Dora Baghriche) และแฮร์รี่ เฟรมองต์ (Harry Frémont)
หันหลังให้กับโครงสร้างแบบดั้งเดิม แล้วเล่นกับวัตถุดิบและความรู้สึกใหม่ๆ พวกเขาร่วมมือกันสร้างสรรค์ประสบการณ์จากแนวกลิ่นชีเพรที่แตกต่าง ความสมบูรณ์อันเย้ายวนและกลิ่นดอกไม้ที่หอมปลอดโปร่งแจ่มใสทำให้ Mon Paris โดดเด่นในแนวกลิ่นชีเพรจากการผสานความหอมของดอกไม้และผลไม้อันทันสมัย ที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น เย้ายวน และมีเสน่ห์เร้าใจ
แนวกลิ่นไวท์ ชีเพรใหม่นี้หอมจับใจตั้งแต่แรกพร่างพรม ทำให้เคลิบเคลิ้ม หลงใหลดั่งต้องมนตร์ ด้วยความกระจ่างใสบริสุทธิ์เป็นพิเศษ ซึ่งผสานกลิ่นพิมเสนใบ (patchouli) เข้ากับกลิ่นหอมจากดอกไม้สีขาว และทำให้สมดุลด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนของมัสก์ (musk)
ที่ใดมีความมืด ที่นั่นย่อมมีแสงสว่าง ที่ใดคุณคาดหวังความหวานชื่น ที่นั่นคุณย่อมได้พบกับแรงดึงดูดทางเพศ เฉกเช่นที่ทุกอย่างถูกพลิกกลับหัวกลับหางในความรัก ...กับ Mon Paris ก็เช่นกัน
กลิ่นหอมชวนเคลิบเคลิ้มราวกับโลกหมุน
2 กลิ่น (accord) ใหม่ก่อให้เกิดแนวกลิ่นไวท์ชีเพรชวนเคลิบเคลิ้ม
ดอกลำโพง (Datura) ซึ่งน่ารักพอๆ กับน่ากลัว เป็นดอกไม้ในตำนานที่สวยงามชวนมอง เริ่มบานช่วงหัวค่ำและหุบในตอนบ่าย วิธีเดียวที่จะเก็บสารหอมสะกดใจของดอกลำโพงได้คือใช้เทคโนโลยีเฮดสเปซ (headspace)
ชูกลิ่นของดอกลำโพงด้วยความขาวสะอาดใสที่โชยกลิ่นหอมดึงดูดใจเนิ่นนานของพิมเสนต้น ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งแต่เป็นสองสายพันธุ์ แม้จะแตกต่างกันแต่เติมเต็มซึ่งกันและกัน สารหอมจากพิมเสนต้นจากกัวเตมาลา (Guatemala) เป็นที่ชื่นชอบในกลิ่นแฝงแบบอำพัน (amber) และวูดดี้ (woody) ส่วนพิมเสนต้นจากอินโดนีเซีย (Indonesia) มีกลิ่นหอมที่อบอุ่นเผ็ดร้อนแบบเครื่องเทศ (spicy) การจับคู่พิมเสนต้น 2 พันธุ์นี้ก่อเกิดเป็นกลิ่นหอมทรงอานุภาพที่ให้รอยกลิ่นของความปรารถนา เมื่อผสานกันกลิ่นมัสก์ กลิ่นหอมของพิมเสนต้นเปลี่ยนไปเป็นโครงสร้างพิเศษที่ให้ความรู้สึกโปร่งเบาราวอากาศ ขาว และสะอาด กฎเกณฑ์เดิมถูกทำลาย แล้วแทนที่ด้วยกลิ่นหอมใหม่ที่ชวนเคลิบเคลิ้มราวกับโลกหมุน
โครงสร้างผกผัน
สบายเหมือนสโมกกิ้ง แจ็กเก็ต (smoking jacket) พลิ้วราวกับเสื้อผูกโบว์ที่คอ Mon Paris คือความลงตัวระหว่างเซ็กซ์กับความเย้ายวนซึ่งพลิกโครงสร้างน้ำหอมแนวกลิ่นชีเพรดั้งเดิม ระหว่างความเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอนกับการบังคับควบคุม น้ำหอมนี้ทำให้เคลิบเคลิ้มและประกอบด้วยสิ่งดีที่สุดซึ่งสรรหาจากแหล่งต่างๆ เช่นเดียวกับพลังของความรักที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์
นักปรุงน้ำหอมแต่ละท่านร่วมกันบันทึกประสบการณ์ที่เน้นให้เห็นความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวอย่างชัดเจน จากโอลิวิเยร์ แคร็ส์พ: ไอเดียของการนำเสนอแนวกลิ่นชีเพรในรูปแบบใหม่ และแนวคิดของแนวกลิ่นชีเพรที่ทันสมัย ชวนเคลิบเคลิ้ม ให้ความรู้สึกสดชื่น และสะอาด จากแฮร์รี่ เฟรมองต์: ความต้องการที่จะเปิดเผยและเปล่งประกายจากภายใน ด้วยความเบิกบานแจ่มใสจากดอกไม้ที่รวยรินอยู่ตลอดการพัฒนากลิ่นของน้ำหอม และจากดอร่า บากห์ริช: ความโก้หรูอันเกิดจากความรู้ความเชี่ยวชาญในเอกลักษณ์ของแนวกลิ่นชีเพร
เรื่องราวของแนวกลิ่นชีเพรยุคใหม่ เริ่มต้นด้วยกลิ่นแรกที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาของมะกรูดจากแคว้นคาลาเบรีย (Calabria) กับความสดชื่นของกลิ่นราสพ์เบอรี่ (raspberry accord) และกลิ่น
สตรอว์เบอรี่ (strawberry accord) เสริมด้วยกลิ่นหอมของลูกแพร์ (pear) มอบความสดชื่นชุ่มฉ่ำ – ขั้นตอนลับสู่ความเคลิ้มสุข
ถัดมา ในกลิ่นกลาง แทนการใช้ส่วนผสมที่ให้ความรู้สึกทึบตันอันเป็นแบบฉบับของแนวกลิ่นชีเพรโดยส่วนใหญ่ กลิ่นกลางของ Mon Paris ให้ความรู้สึกโปร่งใส สะอาด และสดชื่น พุ่งขึ้นและลงเหมือนลำแสงตลอดการพัฒนากลิ่นของน้ำหอมนี้ เบ่งบาน รุ่งโรจน์ ร้อนแรง ด้วยกลิ่นดอกโบตั๋น (peony accord) ที่โปร่งเบาราวอากาศ ผสานกับสารหอมจากดอกมะลิลา (Jasmine Sambac absolute) จากอินเดีย และสารหอมจากมะลิจากมณฑลยูนนาน (Yunnan) ของจีน ระเบิดความเป็นหญิงที่เอิบอาบกลิ่นดอกลำโพงอันสดใสหอมตรึงใจ ตามมาด้วยความอบอุ่นของพิมเสนต้น
กลิ่นฐาน เป็นอีกครั้งที่ฉีกกรอบ แทนที่จะปรากฏเฉพาะในกลิ่นฐานเหมือนอย่างน้ำหอมแนวกลิ่น
ชีเพรทั่วไป Mon Paris ท้าทายรูปแบบเดิมๆ ด้วยการระเบิดกลิ่นมัสก์ที่โชยกลิ่นอยู่โดยตลอดการพัฒนากลิ่นของน้ำหอมนี้ ตั้งแต่กลิ่นแรกจนถึงกลิ่นฐาน
กลิ่นไวท์มัสก์ (white musk) 3 ชนิด มีบทบาทสำคัญและสลับซับซ้อน ผสมผสานกับกลิ่นดอกไม้ขาว เพื่อเอิบอาบแนวกลิ่นชีเพรที่ชวนลุ่มหลงในแสงสีขาวอันสว่างสดใส เสริมความโดดเด่นให้กับความโปร่งเบาของกลิ่นกลางจากดอกไม้และกลิ่นพิมเสนต้นที่กระจ่างใส ก่อให้เกิดสัมผัสพิเศษของความโปร่งใสและบริสุทธิ์
ปิดท้ายอย่างสวยงามด้วยกลิ่นหอมอบอุ่นเย้ายวนของแอมบร็อกซ์ (ambrox) ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหรา เสมือนความสบายของอ้อมแขนคนรัก เพื่อถ่วงดุลความสดใสของ Mon Paris เน้นกลิ่นน้ำหอมด้วยความเข้มข้น หรูหรา และสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และปราศจากกลิ่นแบบมอสส์ที่หม่นและขุ่นมัว
ความรู้สึกที่ยากต่อต้าน คือความมีชีวิตชีวาที่ทันสมัย ชวนให้เคลิบเคลิ้ม ความบริสุทธิ์ที่ทรงอำนาจไม่สิ้นสุด และความขาวที่เปล่งประกายกระจ่างใส
แนวกลิ่นชีเพรรูปแบบใหม่ถือกำเนิดแล้ว
ความดึงดูดใจแรก
ล้มล้างรูปแบบเดิมๆ อย่างน่าดูชม รูปทรงเหลี่ยมทว่าเย้ายวน
ขวดน้ำหอม Mon Paris กำลังจะติดอันดับหนึ่งในขวดน้ำหอมที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ที่สุดของอีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ และสานต่อมรดกของขวดน้ำหอม Paris กลิ่นดั้งเดิม ขวดแก้วหลายเหลี่ยมมุมไม่เพียงคู่ควรกับน้ำทิพย์สีชมพูเลอค่าที่บรรจุอยู่ภายในเท่านั้น หากยังเหมาะสมที่จะเป็นการแสดงคารวะต่อสาว Mon Paris ผู้มีเสน่ห์แบบร็อคสตาร์และมีสไตล์แบบแฟชั่นชั้นสูงที่ล้ำสมัยไม่ซ้ำใคร
ได้แรงบันดาลใจจากภาพสเก็ตช์ลาวัลลิแยร์ (lavallière) – โบว์แบบคลาสสิกที่ผูกอยู่ด้านหน้าคอเสื้อ แคทเธอรีน ครูนาส์ (Catherine Krunas) ผู้ออกแบบขวดน้ำหอม พลิกรูปแบบและเปลี่ยนขวดน้ำหอมนี้ให้กลายเป็นอุปลักษณ์ของความสัมพันธ์ยุคใหม่ยามอารมณ์รักพลุ่งพล่านถึงขีดสุด คู่รัก Mon Paris ซึ่งตกอยู่ภายใต้อำนาจแห่งความเย้ายวน เดิมทีถูกจำกัดด้วยผ้าผูกคอ การแก้โบว์ที่ผูกไว้ออกเป็นสัญลักษณ์ของการปลดปล่อยที่มาพร้อมกับความรัก
ลาวัลลิแยร์ที่ผูกอยู่อย่างมั่นคงรอบคอขวดน้ำหอม Mon Paris นั้นเท่และทันสมัยอย่างยิ่ง ทำจากริบบิ้นผ้าไหมเนื้อนุ่ม เคียงข้างกับสายหนังสองเส้นที่ให้ความรู้สึกร็อค และแผ่นป้ายสีทองเงาวาวทันสมัยดุนนูนเป็นตราสัญลักษณ์กาส์ซองดร์ (Cassandre) ซึ่งเป็นอักษรย่อ YSL
ครูนาส์เปลี่ยนรูปทรงของขวดเป็นทรงสี่เหลี่ยมซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก le smoking แจ็คเก็ตสไตล์แบล็คไททักซิโด้ แก้วเนื้อหนาสะท้อนความกล้าและความหมายสำคัญเบื้องหลังรูปทรงสี่เหลี่ยมของแจ็คเก็ต ขณะที่ขอบและมุมของขวด Mon Paris โค้งมนให้ความรู้สึกเป็นผู้หญิงเหมือนหัวไหล่กลมกลึงของหญิงสาว ยามผ่อนคลายในอ้อมกอดของคนรัก
เมื่อถือไว้ในมือให้ความรู้สึกหนักแน่น ขวดแก้วเจียระไนเป็นแนวสันขอบมนในแนวนอน 3 แถบ และแนวตั้ง 12 แถบ ซึ่งมาบรรจบกันที่คอขวด ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์แบบ 3 มิติ สะท้อนแสง ความหลงใหล และหลายๆ แง่มุมของสาว Mon Paris ที่ทำให้โลกหมุนติ้ว
ราคา 30 มล. 2,700 บาท, 50 มล. 4,200 บาท และ 90 มล. 6,000 บาท
พบกับน้ำหอม Mon Paris ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนตกหลุมรักใหม่อีกครั้งได้ที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางอีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ โบเต้ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป