Talk About Women

งงค่ะ...ช่วยหาคำตอบให้หน่อยนะคะ มีแบบนี้ด้วยหรือค่ะ
คือ เค้าคนนั้น (ผู้ชาย) เป็นเพื่อนเรา วันนึงเค้าขอยืมตังค์เรา ไม่กี่บาท ตอนแรกเราก็พูดทีเล่นทีจริงว่าจะยืมจริงหรือ เค้าก็บอกว่าจริง ยืมก็คือยืม ขอก็คือขอ เราก็กลับมานั่งคิดดูแล้วก็โอนไปให้เค้า พอวันรุ่งขึ้น ฉันบอกว่าฉันโอนไปให้เธอแล้วนะแต่เค้ากลับมาพูดกับฉันว่า .... เธอจะให้ฉันทุกอย่างเเลยหรือ ที่เค้าขอ ถ้าเค้าขออะไร เธอมิต้องให้เค้าหมดหรือ ... ฉันก็นิ่งฉุน และพูดไปว่า ถ้าเธอเดือดร้อนฉันก็จะช่วยเหลือ ... ฉันไม่ได้คิดถึงประเด็นนั้นเลย .... เค้าก็เงียบไป ... เวลาผ่านไปเดือนกว่า เค้าก็บอกว่า เนี่ย กลับจากกรุงเทพ ฯ คราวนี้ เค้าจะเอาตังค์มาคืนฉัน พร้อมกันจ่ายค่าดอกเบี้ย โดยการจะพาฉันไปกินข้าวที่บ้าน หรือไม่ก็ไปกินข้าวที่ไหนสักแห่ง ... ด้วยความที่เค้าเป็นคนเจ้าชู้มาก ขั้นเสือผู้หญิงเลยหล่ะ ฉันก็กลัว ๆ นะ เลยตอบไปว่า .... เธอจะพาฉันไปทำอะไรรึเปล่า ... เค้าแย้งทันทีว่า ลูกเค้ามีพ่อมีแม่.... ฉันก็ไม่ว่าอะไร ..... <br>
<br>
... จนเค้าลงมาจากกรุงเทพ ฯ จริง .... ฉันกลับมานั่งคิดถึงคำพูดเค้า ว่าถ้าพาไปกินข้าวที่บ้าน มันยังไม่ใช่นะ ... มันยังไม่ถึงเวลานั้น.... เร็วเกินไป ..... เพราะฉันยัง 22 อยู่เลย ..... ฉันเลยตัดสินใจโทรไปหาเค้า เพื่อจะยกเลิกการกินข้าวนั้นซะ แต่ก็ไม่รู้วาจะเริ่มต้นยังไง ก็เกริ่น ๆ ไปเรื่อย ๆ ว่าจะกลับขึ้นวันไหน เค้าว่ายังไม่ขึ้น เพราะไม่ได้พาเด็กบางไปกินข้าวเลย พูดยังกะว่าฉันเป็นเด็กยังไงยังงั้นแหละ .... ฉันนิ่ง ไม่กล้าปฏิเสธ เห็นเค้าตั้งใจมุ่งมั่นจะพาไป.... แต่ในใจคิดว่ามันก็เร็วเกินไป .....เค้าก็เลยถามฉันว่ามีอะไรรึเปล่า ... สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจตอบ ....เค้านิ่ง และว่า เค้าพาฉันไปคิดข้าวในฐานะเพื่อน เฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้น เค้าคิดกับฉันแค่เพื่อนเท่านั้น.... ฉันก็ถามย้ำเค้าว่าจริงหรือ เธอคิดกับฉันเป็นเพื่อนจริงหรือ .... แล้วทำไมต้องคิดที่จะพาไปกินข้าวที่บ้าน .... เค้ากลับมีอารมณ์ขึ้นมา พูดประชดประมาณว่า ถ้าเธอไม่สบายใจเดี๋ยวเค้าพาน้องเค้า (ผู้หญิง) ไปด้วยก็ได้ แต่ถ้าเธอยังไม่สบายใจอีก เธอจะยกเลิกไปเลยก็ได้ แล้วเค้าจะเอาเงินไปคืนให้.... ฉันก็บอกเค้าว่า ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ถ้าไปกินแบบเพื่อน ฉันก็ไปกินได้ เพราะเพื่อนผู้ชายคนอื่น ฉันก็ยังไปกิน ฉันว่าถ้าคิดจะกินกันแบบเพื่อน ฉันก็จะไป แต่ถ้าคิดเกินว่านั้น มันเร็วเกินไป ... เค้าว่าฉันคิดมาก เค้ายังไม่ได้คิดเลย .... เค้าคิดกับฉันแค่เพื่อนตลอด .....สุดท้ายเค้าขอวางหูไปก่อน <br>
<br>
..... ถัดจากวันนั้น ฉันก็โทร.ไปหาเค้าใหม่ เค้าบอกว่าเดี๋ยวเค้าจะเอาตังค์มาให้ ส่วนกินข้าวคงไม่ได้ไปกินแล้ว เพราะเธอคิดแบบนี้ เค้าบอกว่า เค้าจะไม่ไปกินข้าวกับฉัน เพราะแคร์สายตาคนอื่น เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะเข้าใจผิด คิดว่าฉันเป็นแฟนเค้า และเค้าเป็นแฟนฉัน ฉันก็ถามว่า เธอแคร์สายตาคนอื่นด้วยหรือ เค้าว่าเค้าแคร์ เพราะ ฉันไม่ใช่แฟนเค้า เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี เข้าใจผิดกันไปหมด.... ฉันก็บอกว่า ฉันไม่ได้หยิ่งหรอกนะ เค้าก็ว่าฉันว่า... เห็นวันนั้นไม่เห็นพูดแบบนี้เลย ... <br>
<br>
.... เพื่อน ๆ ค่ะ เค้าเคยบอกว่าชอบดิฉัน รักดิฉัน มาหลายครั้งอยู่ ... แบบประมาณว่าเปิดเพลงเพื่อนสนิทแล้วบอกว่าฉันชอบเธอนะ แต่เธออย่าไปจริงจังอะไรกับมันมากเลย ดิฉันก็ว่า ดิฉันไม่จริงจังอะไร เธอก็เจ้าชู้เรื่อยเปื่อยไปอยู่แล้ว... <br>
<br>
..... ตอนเด็ก ๆ ม.2 ดิฉันเคยกินข้าวกับคนที่บ้านเค้ามาแล้ว ก็คิดว่ามันยังเด็ก คงไม่มีอะไรมากหรอก คือวันนั้นดิฉันเดินผ่านบ้านเค้า เพื่อจะกลับบ้าน ครอบครัวเค้านั่งกินข้าวอยู่ครบหน้า เค้าก็อยู่ด้วย แม่เค้าก็บอกว่ามากินข้าวกันก่อนลูก ดิฉันก็ตอบเบี่ยง เพราะจะรีบกลับบ้าน เค้าว่ามาก่อนแป๊บนึง ดิฉันก็กินด้วย เพราะผู้ใหญ่พูด .... พอนั่งกินปั๊บ น้องเค้าที่เป็นผู้หญิงตะโกนลั่นร้านอาหารเลยค่ะ ว่าดิฉันเนี่ย พี่สะใภ้ เค้า .... ถึงดิฉันจะอยู่ ม.2 ในตอนนั้น แต่มันก็พอจะรู้เรื่องอยู่บ้าง ได้ยินอย่างนั้น มันก็อึ้งไปสิคะ แต่ก็คิดว่าน้องเค้าเด็กอนุบาล อย่าไปคิดอะไรมาก... เค้าก็ห้ามน้องเค้าเรียบร้อยนะคะ ว่าอย่ามัดมือชก .... โล่งค่ะคราวนี้ ... <br>
<br>
.... เรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัวเค้า เค้าก็เล่าให้ฟัง ทำอะไร อยู่ที่ไหนเค้าก็บอก ดิฉันก็บอก.... มันยังใช่เพื่อนอีกหรือค่ะคราวนี้ <br>
<br>
..... และเค้าเคยขอคบดิฉัน แบบประมาณว่า ถ้าไม่ลองคบกันดูก่อนแล้วจะรู้หรือว่านิสัยยังไง ดิฉันก็ว่า เธอนะ อยู่กรุงเทพ ฯ ฉันอยู่ต่างจังหวัด มีเวลาที่ไหนจะมาคบกัน และอีกอย่างดิฉันไม่มีเวลาให้เค้าหรอก เพราะที่นี่งานก็ยุ่ง เป็นไปไม่ได้เลย คนกรุงเทพ ฯ อาจจะสวยกว่าคนต่างจังหวัดก็ได้ สวย ๆ เยอะไป ....... <br>
<br>
.... งงค่ะ คราวนี้ ดิฉันงงค่ะ .... หมอนี่มันมาไม้ไหนของมัน.... วันนั้น ยังบอกว่าชอบฉันอยู่เลย กะอีแค่วันนี้ฉันปฏิเสธที่จะไปกินข้าวกับเค้า เพราะเร็วเกินไป และดิฉันก็คิดว่าดิฉันได้ยินเต็ม 2 หู ชัดเจนด้วย ว่าเค้าเป็นคนพูดว่าจะพาไปกินข้าวบ้านอยู่เลย ความหมายของการไปกินข้าวที่บ้านมันก็น่าจะรู้เป็นนัยอยู่แล้วว่าหมายความว่ายังไง... แค่ปฏิเสธแค่นี้ ทำไมต้องกลับหลายเป็นเรื่องใหญ่ด้วย ... <br>
<br>
<br>
ตกลงเค้ายังไงกันแน่ค่ะ ดิฉันงง ช่วยด้วยเถอะค่ะ ดิฉันจะทำยังไงต่อไปดี เพราะเค้าก็เคยดีกับดิฉันมาไม่ใช่น้อย .... มิตรภาพ ความรู้สึกดีดี ที่มีต่อกัน ยังอยากให้อยู่ต่อ .... เพราะอย่างน้อยถึงไม่ได้เป็นแฟน เป็นเพื่อนก็ยังดี .... ไม่อยากให้ตัดไปเลยค่ะ ... บอกตามตรง ดิฉันก็ชอบเค้านั่นแหละ แต่มันต้องดูเวลาด้วย... และมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ที่ปฏิเสธ เพราะ ดิฉันคิดว่าอย่างน้อยที่ปฏิเสธไป เพราะเราอยู่ห่างกัน เค้าและดิฉันอาจจะมีเวลาพบใครอีกเยอะ เพื่อให้เค้าคิดดูให้ดีก่อน เผื่อเค้าอาจจะเจอคนที่ดีกว่าดิฉัน ใช่กว่า จะได้ไม่ปิดโอกาสของกันและกัน ...และถ้ายังไง ถ้าใช่จริง ๆ วันนึงมันก็ใช่ เพื่อน ๆ ว่าดิฉันทำถูกมั๊ยคะ .... งงกับชีวิตค่ะคราวนี้ <br>
<br>
ขอโทษด้วยนะคะที่ยาวเกินไป .... ขอบคุณด้วยค่ะที่ช่วยทนอ่าน <img src="pic/b11.gif">

29 Apr 2007  |  Post by : vanda
Comment 14
เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณนิรนามคะ <br>


13 May 2007  |  Comment by : hamtaro
Comment 13
ไม่รู้ว่าเราได้เชียร์ให้คุณแวนด้าคบกับเค้าจนเกินเหตุรึป่าวนะ แต่ก้ยินดีด้วย ที่กล้าเผชิญกับมัน ขอให้มีความสุขนะคะ อื้อ ลืมไป อยากจะบอกว่า ถ้าตัดสินใจจะคบ ตัดสินใจจะรักแล้ว เราต้องเชื้อในตัวเค้า อย่ามัวไปละแวงเค้านะ มันจะทำให้เราไม่มีความสุขเปล่าๆ แล้วถ้าสมมุติว่าอกหัก ก้ถือว่านั่นเปนประสบการณ์ ทุกอย่างเปนประสบการณ์นะ เปนตัวของตัวเองกับเค้าตั้งแต่แรกเลยนะ ขอให้มีความสุขนะ อวยพรจากใจจริงๆ

1 May 2007  |  Comment by : มีน
Comment 12
เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณนิรนามคะ <br>
ถ้าเค้ารักเราจริง เค้าตงจะบอกเราเองนะคะ <br>
ไม่ต้องให้เรามานั่งเดาอยู่หรอก

1 May 2007  |  Comment by : i-love-you
Comment 11
ขอบคุณมากค่ะ คุณมีน ดิฉันกลัวจริง ๆ ด้วยค่ะ อย่างที่คุณมีนบอก ถ้ากลัวแล้วเราจะรับรู้ถึงความสุขได้อย่างไร ตกลงดิฉันจะลองคบกับเค้าดูสักตั้งนึงค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณมีน

1 May 2007  |  Comment by : แวนด้า
Comment 10
เราว่าตอนนี้เค้าก้คงไม่เข้าใจมากกว่า ว่าทำไมในเมื่อ คุณแวนด้า ก้บอกว่ารู้สึกดีกับเค้า แต่ทำไมไม่ไปกินข้าว ไปคบกับเค้ารัยงี้ <br>
ผู้หญิงส่วนใหญ่(รวมทั้งเราด้วย)กลัวการโดนหรอกกันทั้งนั้น ไม่อยากเปนคนโง่ และส่วนใหญ่จะคิดแบบนี้ตอนจะคบกับผู้ชายเจ้าชู้ (อันนี้เราก้เปนอีก ... ตอนนี้ก้ยังเปนนิดหน่อย) อืม แต่อยากจะบอกจริงๆอะ ว่าถ้าเรามัวแต่ไปกลัวสิ่งที่ยังมาไม่ถืงอะ เราไม่มีวันมีความสุขได้หรอก แล้วเรื่องที่เค้าจะไปมีคนอื่นรึป่าวรัยเงี๊ย ถ้าไม่ลองคบดูจะรู้ป่าวอะ คบกันดูก้ไม่เสียหายอะรัย ถ้าเราไม่ได้ไปทำรัยไม่สมควร ส่วนจะรักกันได้นานรึป่าวหรือว่าจะรักกันจริงรึป่าวอะ เราว่ามันขึ้นอยู่กับการกระทำของเราหลังจากคบกันมากกว่า แล้วอีกอย่างนึง เรื่องที่เราจะไม่มีเวลาให้เค้าหรือเรื่องอื่นๆ ทีคุณแวนด้าเปนห่วงอยู่อะ ก้คุยกับเค้า ถามว่าได้ไม๊ ถ้าได้ก้คบ ไม่ได้ก้ไม่คบดีกว่า เรามีอะรัยเราเปนอะรัยก้บอกตั้งแต่เนิ่นๆไปเลย จะได้ปรับตัวทำใจรับกันได้ง่าย (เพราะยังข้าวใหม่ปลามัยอยู่ อะรัยไม่ดีมั๊นก้คงทำใจรับได้หมดแหละ)

30 Apr 2007  |  Comment by : มีน
Comment 9
ผมว่าคุณแอบชอบเขาจิงๆ แหละ ไม่งั้นจะมาโพสทำไม ก็ระวังไว้ดีดี ก็แล้วกัน คนเจ้าชู้ก็มักมีเสน่ห์ เสมอ กับคนอื่นๆด้วย <br>
<br> <a href="http://thailandparad.blogspot.com" target="_blank">http://thailandparad.blogspot.com</a><br> <a href="http://nurseschool.blogspot.com" target="_blank">http://nurseschool.blogspot.com</a><br>


30 Apr 2007  |  Comment by : แวน
Comment 8
เค้าเคยถามความรู้สึกกับดิฉันไปแล้วครั้งหนึ่ง ว่ารู้สึกยังไงกับเค้า ดิฉันก็บอกว่า รู้สึกดีด้วย แต่ถ้าจะให้คบกันก็กลัวว่าจะไม่มีเวลาให้ค่ะ ดิฉันก็อยากให้โอกาสเค้าค่ะ แต่ทำไมไม่รู้เหมือนกัน บางทีดิฉันแอบคิดเหมือนกันนะคะว่าเค้าอาจจะน้อยใจเรื่องกินข้าว เพราะกับเพื่อนผู้ชายคนอื่นดิฉันยังไปกินได้ แต่กับเค้าทำไมดิฉันปฏิเสธ ซึ่งอันนี้ก็ไม่รู้ว่าเข้าข้างตัวเองไปรึเปล่า <br>
<br>
ค่ะคุณนิรนาม ดิฉันก็ชอบเค้าอย่างที่บอก อย่างเวลาเรียน มีคนขอหนังสือเค้า แต่เค้ากลับเอามาให้ดิฉัน น้ำหอมก็มีเลือกซื้อมาให้ มันทำให้ดิฉันคิดแบบนี้ยังไงล่ะค่ะ

29 Apr 2007  |  Comment by : แวนด้า
Comment 7
เราว่า ถามใจตัวเองก่อนว่าชอบเขารึเปล่า ถ้าไม่ใช่ก้จบไม่ต้องไปคิดมาก ตัดให้ขาดไปเลยผู้ชายคนนี้ แต่ถ้าชอบเค้าหรือรักเค้า ก้ลองให้โอกาสเค้าดู เพียงแต่เราต้องตามเค้าให้ทันและมีจุดยืนของเรา ไม่ให้เค้ามาบงการเราได้ จะทำอะรัยเราต้องเปนคนตัดสินใจได้ แต่ที่อ่านมาอะ ติดใจอยู่อย่างนึง ดูเหมือนว่ามีอะรัยจะไม่พูดออกไปเพราะไม่กล้าใช่ป่าว แบบเนี้ยผู้ชายไม่ค่อยชอบหรอก มันยุ่งยากอะ ถ้าจะให้ดีเลยนะ เราว่าลองพูดความรู้สึกทั้งหมดที่มีตอนเนี๊ยแล้วเค้าฟังเลยดีกว่า แล้วดูว่าเค้าจะว่างัย ถือว่าเปนการวัดใจกันไปเลย ถ้าเค้ารอได้ก้คบกัน รอไม่ได้ก้ไม่ต้องผูกมัดกัน <br>
(โอ๊ย คนเขียนเริ่มงงครับ) <br>
เอาเปนว่าลองพูดกันตรงๆดูแล้วกัน

29 Apr 2007  |  Comment by : มีน
Comment 6
จากที่ได้อ่านมา เราคิดว่า เขาคนนั้นก็กลัวการผูกมัดน่ะ ยังไม่คิดจริงจังกับใครสักคนง่ายๆแน่ และก็ไม่ชอบคนรู้ทันน่ะ ถ้าเรารู้ทันเขา หรือคิดไปถึงเหตุการณ์ที่มันเป็นไปได้ เขาอาจจะไม่พอใจ แต่คุณอาจจะเบี่ยงๆไปก็ได้ อาจจะไม่ไปทานข้าวที่บ้านเขา แต่เลือกที่จะไป ตามร้านอาหาร...แทน....แล้วคุณก็มีใจให้เขาตั้งแต่ต้นแล้ว เพียงแต่ผู้ชายคนี้ เราไม่สมควร ไปเชื่อใจอะไรเขามาก เพราะแฟนก็ไม่ใช่ เพื่อนก็ได้ อะไรประมาณนี้ เขายังไม่อยากเป็นแฟนไปเลยซะทีเดียว อย่างที่บอกอ่ะแหละ เขายังมีตัวเลือกในชีวิตมากกว่านี้ <img src="pic/b10.gif">

29 Apr 2007  |  Comment by : impish
Comment 5
เท่าที่อ่านดูแสดงว่าคุณรักเขามากสินะ ไม่งั้นคงไม่คิดมากเรื่องเขาหรอก ใช่ไหม แต่อีกใจหนึ่งคุณก็พยายามปฏิเสธว่าเป็นแค่เพื่อนกับเขา เพราะคุณกลัวอกหักใช่ไหม เพราะเขาเป็นคนเจ้าชู้ เท่าที่ดู แทบจะไม่รู้เลยว่าเขารักคุณหรือป่าว แต่คุณคิดว่าเขารักคุณแต่สิ่งที่เขากระทำคือเพื่อประชดคุณ(คุณคิดอย่างนั้น) งัยก็ดูให้ดีแล้วกัน แต่ในความรู้สึกเหมือนเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ดีนะ

29 Apr 2007  |  Comment by : นิรนาม
Comment 4
ผู้ชาย ติงต๊อง ในความรู้สึกของเรา เปงเราเราไม่สนใจหรอก นิสัยดูไม่ค่อยเปงผู้ใหญ่ หรือบางทีเค้าอาจจะอายุยังน้อย เหอะๆๆ

29 Apr 2007  |  Comment by : TEAMO
Comment 3
<img src="pic/b1.gif"> <img src="pic/b1.gif"> <img src="pic/b1.gif"> <img src="pic/b1.gif"> <img src="pic/b7.gif"> <img src="pic/b7.gif"> <img src="pic/b7.gif"> <img src="pic/b8.gif"> <img src="pic/b8.gif">คิดมากก็ปวดหัวมาก เขาคงจะหยิกแกมหยอกคุณ หยั่งเชิงดู ถ้ายังไม่รักเขาไรมากมายปล่อยไป ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทรา

29 Apr 2007  |  Comment by : คนเคยมีคุ่
Comment 2
ต่ออีกนิดนะคะ ดิฉันได้ข่าวมาเยอะว่าเค้าฟันผู้หญิงมามาเยอะ จริงไม่จริงอันนี้ไม่รู้ แต่เจ้าชู้ ป้อเรื่อยเปื่อยนะจริง หยอดคำหวานอย่างนู้นอย่างนี้นะจริง แต่กับดิฉันหยอดไม่มากนะคะ เพราะดิฉันว่าเค้าอยู่บ่อย ๆ .... คือกลัวค่ะ จะคบก็กลัว เดี๋ยวพอคบไป อาจจะตกอยู่ในฐานะคนโง่ ค่ะ ....

29 Apr 2007  |  Comment by : vanda
Comment 1
ปล. ตอน ม.2 นั้น เค้าก็มีแฟนอยู่ด้วยแล้วนะคะ ตอนเลิกแฟนคนแรก ซึ่งเป็นเพื่อนดิฉัน เค้าก็ยังมาปรึกษาดิฉัน ดิฉันก็เบี่ยงไปว่าไปเคลียร์กันเองเถอะ เดี๋ยวจะหาว่าฉันเป็นมือที่สาม เธอก็เพื่อนฉัน แฟนเธอก็เพื่อนฉัน พอเลิกคนนี้ ก็มีคนอื่นมาอีกคน ตอนคบคนนี้ คนที่สองเค้าคบอยู่สามปี ทำให้ดิฉันกับเค้าห่างกันไป.... จนเลิกกัน ดิฉันกับเค้าก็เพิ่งได้กลับมาคุยกันใหม่อีกครั้งเนี่ยแหละค่ะ

29 Apr 2007  |  Comment by : vanda

Comment



Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: Momay 5
โพสต์โดย: ob 14
โพสต์โดย: juriporn 3
โพสต์โดย: ohlunla 6
โพสต์โดย: nownamta 1
โพสต์โดย: bankyu 2
โพสต์โดย: frtyn41 13
โพสต์โดย: threecat 4

Interest Product