ผู้หญิงคนไหนบ้าง..ที่เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม

ผู้หญิงคนไหนบ้าง..ที่เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม
ใครบ้างเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม <br> <br> ผู้หญิงเป็นเพศที่ต้องอดทนต่อเรื่องจุกจิกไม่น้อย <br> เพราะร่างกายถูกออกแบบมาให้ต้องดูแลเอาใส่ใจเป็นพิเศษ <br> และธรรมชาติยังมอบหมายให้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ <br> นั่นคือการเป็นแม่ <br> <br> ดังนั้นนับว่าไม่ว่าสถานการณ์ใดผู้หญิงสามารถอดทนต่อ <br> ความเจ็บปวดต่างๆ นานาได้เป็นอย่างดี ยกเว้นโรคภัยซึ่ง <br> ไม่มีใครอยากอ้าแขนรับ ยิ่งเป็นโรคที่มาบั่นทอนความสวยงาม <br> และความเป็นหญิงแล้ว ยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก มะเร็งเต้านมเป็น <br> หนึ่งในหลายโรคร้ายที่ผู้หญิงหวาดกลัว เพราะส่วนใหญ่ <br> เมื่อเป็นแล้วจำเป็นต้องโบกมือลาส่วนนูนโค้งบนหน้าอก <br> แถมยังทรมานจากการรักษาอีกด้วย <br> <br> <br> <br> ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องที่ผู้หญิงควรตื่นตัว และระวังมากยิ่งขึ้น <br> เพราะผลวิจัยพบว่า 1 คน ใน 20 คน ของผู้หญิงทั่วโลกมีโอกาส <br> เป็นมะเร็งเต้านม ฟังแล้วน่าตกใจทีเดียว เพราะไม่นึกว่า <br> มะเร็งเต้านมจะคุกคามใกล้ตัวผู้หญิงถึงเพียงนี้ ทำให้เกิดคำถาม <br> ตามมาว่า เราจะสังเกตได้อย่างไรว่าเป็นมะเร็งเต้านมและ <br> ใครที่มีโอกาสเสี่ยงบ้าง? <br> <br> คำตอบแรกอาจจะอธิบายเป็นความเจ็บปวดได้ยาก <br> เนื่องจากมะเร็งเต้านมมักไม่แสดงอาการเจ็บปวดในระยะแรก <br> จึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าตนเองเผชิญกับโรคร้าย <br> อย่างไรก็ตามมีวิธีสังเกตอาการผิดปกติคร่าวๆ ดังนี้ <br> <br> คลำปุ่มก้อนได้บริเวณเต้านม หรือใต้วงแขน <br> <br> มีสะเก็ด รอยย่น และสีผิวของเต้านมเริ่มเปลี่ยน <br> <br> หัวนมตกสะเก็ด และมีของเหลวไหลออกมาทางหัวนม <br> <br> <br> หากรู้สึกถึงความผิดปกติเหล่านี้เมื่อไหร่ อย่านิ่งนอนใจ <br> รีบไปพบหมอทันที แต่ก็ไม่ควรกังวลมากจนมานั่งจับผิดร่างกาย <br> ตนเองตลอดเวลา จะเครียดโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจาก <br> เต้านมของผู้หญิงสามารถเปลี่ยนแปลงตลอดอายุขัย <br> และขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น การเปลี่ยนแปลง <br> ฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์หรือมีประจำเดือน เป็นต้น <br> <br> ด้วยเหตุนี้เองผู้หญิงจึงต้องอาศัยความคุ้นเคย สังเกตร่างกายตนเองเป็นสำคัญ <br> <br> <br> <br> แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเจ็บป่วย ยิ่งโรคร้ายอย่างมะเร็งเต้านม <br> ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่เราก็ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเป็น <br> โรคนี้หรือไม่ ไม่สามารถให้หมอดูที่ไหนดูลายมือแล้วบอกไ <br> ด้ว่าจะเป็นเมื่อไร แต่อย่างน้อยการแพทย์ในปัจจุบันสามารถ <br> เตือนและคาดเดาว่าใครมีสิทธิ์ที่จะเป็นมะเร็งเต้านมได้มากกว่า <br> โดยกลุ่มวัยที่เสี่ยงมากสุดจะอายุ 40 ปีขึ้นไป <br> นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตข้อมูลจาก... <br> <br> ประวัติสมาชิกของครอบครัวที่เป็นโรค <br> จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่าหากแม่เป็นมะเร็ง <br> เต้านม ลูกมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งประมาณ 1.8 เท่า <br> และหากมีทั้งแม่และพี่หรือน้องเป็น ก็มีโอกาสเป็นเพิ่มขึ้น <br> ถึง 2.5 เท่า <br> <br> เวลาเริ่มและหมดของประจำเดือน <br> ผู้ที่มีประจำเดือนมาก่อนอายุ 12 ปี และหมดประจำเดือน <br> หลังอายุ 50 ปี มีโอกาสเสี่ยงเป็นมากกว่าคนอื่นๆ <br> <br> สถานภาพและการคลอดบุตร <br> ผู้ที่เป็นโสด หรือคลอดบุตรคนแรกหลังอายุ 30 ปี <br> มีโอกาสเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป <br> <br> ผู้ที่รับการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน ทั้งช่วงเข้าสู่วัยทอง <br> หรือผู้ที่ต้องตัดมดลูกรังไข่ออก ได้รับฮอร์โมนทดแทนติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน <br> <br> อายุที่เพิ่มมากขึ้น <br> เมื่อผ่านอายุ 50 ปี ก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยง <br> เป็นมากขึ้น เรียกว่ายิ่งอายุมากเท่าไหร่ <br> โอกาสเกิดโรคก็มีมากเท่านั้น <br> <br> ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ <br> หากคุณยิ่งดื่มมากเท่าไร โอกาสที่จะเป็นมะเร็งเต้านม <br> ก็มากขึ้น เนื่องจากแอลกอฮอล์มีผลต่อระดับฮอร์โมน <br> ในร่างกาย เพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนให้สูงขึ้น <br> ซึ่งหากมีมากจะทำให้เกิดมะเร็งเต้านม ผลวิจัยกล่าวว่า <br> หากคุณดื่ม 3- 9 แก้วต่อสัปดาห์ จะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรค <br> ประมาณ 30% หากดื่มมากกว่า 9 แก้ว ต่อสัปดาห์โอกาส <br> ของโรคจะเพิ่มเป็น 60% <br> <br> ปัจจัยอื่นๆ <br> ได้แก่ โรคอ้วน และผู้ที่เคยมีประวัติเป็นเนื้องอกบริเวณเต้านม <br> <br> <br> อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่เคยมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง <br> ก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจว่าตนเองไม่มีสิทธิ์เป็น เพราะผู้ป่วยมะเร็ง <br> เต้านมกว่า 70% ไม่เคยมีประวัติว่าคนในครอบครัวเคยเป็น <br> มะเร็งมาก่อนเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าโรคมะเร็งเป็นภัยร้ายใกล้ตัวเราจริงๆ <br> แต่คนส่วนใหญ่มักละเลย บอกตัวเองเสมอว่า "ฉันไม่มีทางเป็นหรอก <br> ดูสิ คนอื่นเสี่ยงกว่ายังไม่เป็นอะไรเลย..." อันที่จริงโรคภัย <br> ไข้เจ็บไม่เข้าใครออกใคร หากเราไม่ใส่ใจ ไม่ดูแลร่างกาย <br> โอกาสเป็นก็ยิ่งมีมากขึ้น เรียกว่าเป็นวิธีลดความเสี่ยงลงบ้าง <br> ยังดีกว่าไม่ป้องกันอะไรเลย ส่วนวิธีรับมือป้องกันโรคร้ายนี้มีดังนี้ <br> <br> หมั่นตรวจเช็คสุขภาพทุกปี <br> เดี๋ยวนี้ตามโรงพยาบาลทั่วไปมีโปรแกรมการตรวจสุขภาพ <br> ให้เลือกหลากหลาย เพิ่มความสะดวกสบายในการตรวจเช็ค <br> ร่างกายอย่างมาก ที่สำคัญอย่าลืมเลือกโปรแกรมที่มีการ <br> ตรวจหามะเร็งเต้านมด้วย <br> <br> ตรวจเต้านมตนเองเป็นประจำ <br> ไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อย ผู้หญิงต้องคลำและตรวจเต้านม <br> ตนเองสม่ำเสมอ อาจทำในขณะอาบน้ำ ฟอกสบู่ ใช้นิ้วคลำ <br> รอบๆ เต้านม หากคลำเจอสิ่งผิดปกติ ให้รีบปรึกษาหมอโดยด่วน <br> อย่าปล่อยทิ้งไว้ <br> <br> กินอาหารที่มีประโยชน์ <br> นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าอย่างน้อย 1 ใน 3 ของมะเร็งทั้งหลาย <br> เกี่ยวข้องกับการกินทั้งสิ้น แต่ก็ไม่มีอาหารใดที่จะรักษามะเร็ง <br> ได้อย่างน่าอัศจรรย์ แบบกินปุ๊บหายปั๊บ อย่างน้อยการกินอาหาร <br> ที่มีประโยชน์จะทำให้เราไม่เป็นโรคอ้วน และหากออกกำลังกาย <br> ควบคู่ไปแล้ว โอกาสที่โรคถามไถ่ก็ลดลง เริ่มจาก <br> <br> 1. การกินอาหารที่มีไขมันไม่เกิน 20% ของพลังงานทั้งหมด <br> 2. กินอาหารที่มีเส้นใยให้ได้วันละ 25 กรัม <br> 3. กินผักและผลไม้ให้ได้วันละ 5-9 ส่วน <br> 4. กินผลไม้ที่มีวิตามินเอ ซี และอี <br> 5. งดอาหารที่มีเกลือมาก มีส่วนผสมของไนเตรท <br> หรืออาหารรมควัน เช่น ฮ็อตดอก แฮม เบคอน <br> <br> <br> <br> อยากให้หญิงไทยหันมาตื่นตัวเรื่องโรคร้ายที่อยู่ใกล้ตัวอย่างมะเร็งเต้านมกันมากขึ้น เพราะหลายคนมักคิดปลอบใจตัวเองอยู่เสมอว่าตนเองสุขภาพแข็งแรง แต่ทว่าโรคมะเร็งนั้นยากจะคาดเดา ทางที่ดีควรระมัดระวังอยู่เสมอ ทั้งการใช้ชีวิต อาหารการกิน การตรวจสุขภาพ พฤติกรรมเหล่านี้ช่วยลดอัตราการเป็นมะเร็งได้อย่างดีทีเดียว ยอมเสียเวลาสักนิด เสียเงินตรวจรักษาสุขภาพสักหน่อย ดีกว่านั่งทรมานภายหลังค่ะ <br> <br> <br> ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today <br> 18 Jan 2008 \| Post by : Rattiya69

ใครบ้างเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม 
 
ผู้หญิงเป็นเพศที่ต้องอดทนต่อเรื่องจุกจิกไม่น้อย 
เพราะร่างกายถูกออกแบบมาให้ต้องดูแลเอาใส่ใจเป็นพิเศษ 
และธรรมชาติยังมอบหมายให้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ 
นั่นคือการเป็นแม่ 
 
ดังนั้นนับว่าไม่ว่าสถานการณ์ใดผู้หญิงสามารถอดทนต่อ 
ความเจ็บปวดต่างๆ นานาได้เป็นอย่างดี ยกเว้นโรคภัยซึ่ง 
ไม่มีใครอยากอ้าแขนรับ ยิ่งเป็นโรคที่มาบั่นทอนความสวยงาม 
และความเป็นหญิงแล้ว ยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก มะเร็งเต้านมเป็น 
หนึ่งในหลายโรคร้ายที่ผู้หญิงหวาดกลัว เพราะส่วนใหญ่ 
เมื่อเป็นแล้วจำเป็นต้องโบกมือลาส่วนนูนโค้งบนหน้าอก 
แถมยังทรมานจากการรักษาอีกด้วย 
 
 
 
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องที่ผู้หญิงควรตื่นตัว และระวังมากยิ่งขึ้น 
เพราะผลวิจัยพบว่า 1 คน ใน 20 คน ของผู้หญิงทั่วโลกมีโอกาส 
เป็นมะเร็งเต้านม ฟังแล้วน่าตกใจทีเดียว เพราะไม่นึกว่า 
มะเร็งเต้านมจะคุกคามใกล้ตัวผู้หญิงถึงเพียงนี้ ทำให้เกิดคำถาม 
ตามมาว่า เราจะสังเกตได้อย่างไรว่าเป็นมะเร็งเต้านมและ 
ใครที่มีโอกาสเสี่ยงบ้าง? 
 
คำตอบแรกอาจจะอธิบายเป็นความเจ็บปวดได้ยาก 
เนื่องจากมะเร็งเต้านมมักไม่แสดงอาการเจ็บปวดในระยะแรก 
จึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าตนเองเผชิญกับโรคร้าย 
อย่างไรก็ตามมีวิธีสังเกตอาการผิดปกติคร่าวๆ ดังนี้ 
 
คลำปุ่มก้อนได้บริเวณเต้านม หรือใต้วงแขน 
 
มีสะเก็ด รอยย่น และสีผิวของเต้านมเริ่มเปลี่ยน 
 
หัวนมตกสะเก็ด และมีของเหลวไหลออกมาทางหัวนม 
 
 
หากรู้สึกถึงความผิดปกติเหล่านี้เมื่อไหร่ อย่านิ่งนอนใจ 
รีบไปพบหมอทันที แต่ก็ไม่ควรกังวลมากจนมานั่งจับผิดร่างกาย 
ตนเองตลอดเวลา จะเครียดโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจาก 
เต้านมของผู้หญิงสามารถเปลี่ยนแปลงตลอดอายุขัย 
และขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น การเปลี่ยนแปลง 
ฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์หรือมีประจำเดือน เป็นต้น 
 
ด้วยเหตุนี้เองผู้หญิงจึงต้องอาศัยความคุ้นเคย สังเกตร่างกายตนเองเป็นสำคัญ 
 
 
 
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเจ็บป่วย ยิ่งโรคร้ายอย่างมะเร็งเต้านม 
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่เราก็ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเป็น 
โรคนี้หรือไม่ ไม่สามารถให้หมอดูที่ไหนดูลายมือแล้วบอกไ 
ด้ว่าจะเป็นเมื่อไร แต่อย่างน้อยการแพทย์ในปัจจุบันสามารถ 
เตือนและคาดเดาว่าใครมีสิทธิ์ที่จะเป็นมะเร็งเต้านมได้มากกว่า 
โดยกลุ่มวัยที่เสี่ยงมากสุดจะอายุ 40 ปีขึ้นไป 
นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตข้อมูลจาก... 
 
ประวัติสมาชิกของครอบครัวที่เป็นโรค 
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่าหากแม่เป็นมะเร็ง 
เต้านม ลูกมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งประมาณ 1.8 เท่า 
และหากมีทั้งแม่และพี่หรือน้องเป็น ก็มีโอกาสเป็นเพิ่มขึ้น 
ถึง 2.5 เท่า 
 
เวลาเริ่มและหมดของประจำเดือน 
ผู้ที่มีประจำเดือนมาก่อนอายุ 12 ปี และหมดประจำเดือน 
หลังอายุ 50 ปี มีโอกาสเสี่ยงเป็นมากกว่าคนอื่นๆ 
 
สถานภาพและการคลอดบุตร 
ผู้ที่เป็นโสด หรือคลอดบุตรคนแรกหลังอายุ 30 ปี 
มีโอกาสเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป 
 
ผู้ที่รับการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน ทั้งช่วงเข้าสู่วัยทอง 
หรือผู้ที่ต้องตัดมดลูกรังไข่ออก ได้รับฮอร์โมนทดแทนติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน 
 
อายุที่เพิ่มมากขึ้น 
เมื่อผ่านอายุ 50 ปี ก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยง 
เป็นมากขึ้น เรียกว่ายิ่งอายุมากเท่าไหร่ 
โอกาสเกิดโรคก็มีมากเท่านั้น 
 
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
หากคุณยิ่งดื่มมากเท่าไร โอกาสที่จะเป็นมะเร็งเต้านม 
ก็มากขึ้น เนื่องจากแอลกอฮอล์มีผลต่อระดับฮอร์โมน 
ในร่างกาย เพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนให้สูงขึ้น 
ซึ่งหากมีมากจะทำให้เกิดมะเร็งเต้านม ผลวิจัยกล่าวว่า 
หากคุณดื่ม 3- 9 แก้วต่อสัปดาห์ จะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรค 
ประมาณ 30% หากดื่มมากกว่า 9 แก้ว ต่อสัปดาห์โอกาส 
ของโรคจะเพิ่มเป็น 60% 
 
ปัจจัยอื่นๆ 
ได้แก่ โรคอ้วน และผู้ที่เคยมีประวัติเป็นเนื้องอกบริเวณเต้านม 
 
 
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่เคยมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง 
ก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจว่าตนเองไม่มีสิทธิ์เป็น เพราะผู้ป่วยมะเร็ง 
เต้านมกว่า 70% ไม่เคยมีประวัติว่าคนในครอบครัวเคยเป็น 
มะเร็งมาก่อนเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าโรคมะเร็งเป็นภัยร้ายใกล้ตัวเราจริงๆ 
แต่คนส่วนใหญ่มักละเลย บอกตัวเองเสมอว่า "ฉันไม่มีทางเป็นหรอก 
ดูสิ คนอื่นเสี่ยงกว่ายังไม่เป็นอะไรเลย..." อันที่จริงโรคภัย 
ไข้เจ็บไม่เข้าใครออกใคร หากเราไม่ใส่ใจ ไม่ดูแลร่างกาย 
โอกาสเป็นก็ยิ่งมีมากขึ้น เรียกว่าเป็นวิธีลดความเสี่ยงลงบ้าง 
ยังดีกว่าไม่ป้องกันอะไรเลย ส่วนวิธีรับมือป้องกันโรคร้ายนี้มีดังนี้ 
 
หมั่นตรวจเช็คสุขภาพทุกปี 
เดี๋ยวนี้ตามโรงพยาบาลทั่วไปมีโปรแกรมการตรวจสุขภาพ 
ให้เลือกหลากหลาย เพิ่มความสะดวกสบายในการตรวจเช็ค 
ร่างกายอย่างมาก ที่สำคัญอย่าลืมเลือกโปรแกรมที่มีการ 
ตรวจหามะเร็งเต้านมด้วย 
 
ตรวจเต้านมตนเองเป็นประจำ 
ไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อย ผู้หญิงต้องคลำและตรวจเต้านม 
ตนเองสม่ำเสมอ อาจทำในขณะอาบน้ำ ฟอกสบู่ ใช้นิ้วคลำ 
รอบๆ เต้านม หากคลำเจอสิ่งผิดปกติ ให้รีบปรึกษาหมอโดยด่วน 
อย่าปล่อยทิ้งไว้ 
 
กินอาหารที่มีประโยชน์ 
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าอย่างน้อย 1 ใน 3 ของมะเร็งทั้งหลาย 
เกี่ยวข้องกับการกินทั้งสิ้น แต่ก็ไม่มีอาหารใดที่จะรักษามะเร็ง 
ได้อย่างน่าอัศจรรย์ แบบกินปุ๊บหายปั๊บ อย่างน้อยการกินอาหาร 
ที่มีประโยชน์จะทำให้เราไม่เป็นโรคอ้วน และหากออกกำลังกาย 
ควบคู่ไปแล้ว โอกาสที่โรคถามไถ่ก็ลดลง เริ่มจาก 
 
1. การกินอาหารที่มีไขมันไม่เกิน 20% ของพลังงานทั้งหมด 
2. กินอาหารที่มีเส้นใยให้ได้วันละ 25 กรัม 
3. กินผักและผลไม้ให้ได้วันละ 5-9 ส่วน 
4. กินผลไม้ที่มีวิตามินเอ ซี และอี 
5. งดอาหารที่มีเกลือมาก มีส่วนผสมของไนเตรท 
หรืออาหารรมควัน เช่น ฮ็อตดอก แฮม เบคอน 
 
 
 
อยากให้หญิงไทยหันมาตื่นตัวเรื่องโรคร้ายที่อยู่ใกล้ตัวอย่างมะเร็งเต้านมกันมากขึ้น เพราะหลายคนมักคิดปลอบใจตัวเองอยู่เสมอว่าตนเองสุขภาพแข็งแรง แต่ทว่าโรคมะเร็งนั้นยากจะคาดเดา ทางที่ดีควรระมัดระวังอยู่เสมอ ทั้งการใช้ชีวิต อาหารการกิน การตรวจสุขภาพ พฤติกรรมเหล่านี้ช่วยลดอัตราการเป็นมะเร็งได้อย่างดีทีเดียว ยอมเสียเวลาสักนิด เสียเงินตรวจรักษาสุขภาพสักหน่อย ดีกว่านั่งทรมานภายหลังค่ะ 
 
 
ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today

18 Jan 2008 | Post by : Rattiya69

Hospital / Wellness

BDMS Wellness Clinic

View Details

Webboard
ทายซิใครเอ่ย 1 Jan 1970 โพสต์โดย: zaza 1
อย่าตกเป็นเหยื่อ!!! กลูต้าวิตามินปลอมเตือนสติก่อนซื้อ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: Many 4
แหวน Style Mokume gane ( โมกุเม่ กาเน่ ) 1 Jan 1970 โพสต์โดย: mrprosper 6
เลิกกินยาคุม 25 Dec 3520 โพสต์โดย: julia 1
ขอคำแนะนำในการเลือกเครื่องฟอกอากาศฮิตาชิหน่อยค่ะ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: labuaza 3
ใครเคยนวดน้ำมันบ้างคะ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: AGANGA 5
เซงมาก 25 Dec 3348 โพสต์โดย: tookloveme 3
น้องเก้า - จิรายุ แบบที่คุณต้องไม่เคยเห็น (เบื้องหลังโฆษณาที่ไม่มีในทีวี) 1 Jan 1970 โพสต์โดย: NONGNU 5

Webboard

ทายซิใครเอ่ย

1 Jan 1970 โพสต์โดย: zaza 1