Talk About Women

พบผลไม้ไทย 30 ชนิด อุดมด้วยสารทำลายมะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจและต้อกระจก..
กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนให้คนไทยหันมารับประทานผัก <br>
ผลไม้สดให้มากขึ้น ชี้ประโยชน์เพียบ โดยผลวิจัยล่าสุดพบ <br>
มีผลไม้ 30 ชนิด ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี <br>
และเบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ทำลายอนุมูลอิสสระ <br>
ซึ่งเป็นตัวการสำคัญก่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจ <br>
และโรคตาต้อกระจกในผู้สูงอายุ <br>
<br>
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข <br>
เปิดเผยว่าในขณะนี้คนไทยกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่เกิดมา <br>
จากพฤติกรรมการกินการอยู่มากขึ้น มีข้อมูลการวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญ <br>
ทั้งในและต่างประเทศบ่งชี้ว่า ปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับสาร <br>
ที่เรียกว่า อนุมูลอิสระ โดยอนุมูลอิสระดังกล่าวสามารถทำปฏิกิริยา <br>
โยงใยในร่างกายได้มากมาย ก่อให้เกิดการอักเสบ การทำลายเนื้อเยื่อ <br>
เกิดต้อกระจกในผู้สูงอายุ โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด <br>
โดยเฉพาะโรคมะเร็ง และโรคหัวใจนี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก <br>
<br>
ทั้งนี้ คนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว <br>
จากปี 2540 เสียชีวิต 26,237 คน เป็น 52,062 คน ในปี 2549 <br>
เฉลี่ยชั่วโมงละ 6 ราย <br>
<br>
เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดปีละ 34,000 ราย <br>
เฉลี่ยชั่วโมงละ 4 ราย <br>
<br>
โดยอนุมูลอิสระนี้ มาจากภายนอกและภายในร่างกาย ไ <br>
ด้แก่มลพิษในอากาศ จากควันบุหรี่ แสงแดด รังสีแกมมา <br>
คลื่นความร้อน ส่วนที่มาจากภายในร่างกายเกิดจากกระบวนการ <br>
เผาผลาญของอ็อกซิเจนภายในเซลล์ หรือเกิดจากย่อยทำลาย <br>
เชื้อแบคทีเรียของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ก็ทำให้เกิดอนุมูลอิสระได้ <br>
<br>
นพ.ปราชญ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยดังกล่าวพบว่า <br>
มีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่วิตามินอี วิตามินซีและเบต้า <br>
แคโรทีน สารทั้ง 3 ตัวนี้ สามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้ โดยวิตามินซี <br>
ซึ่งละลายน้ำได้จะทำหน้าที่จับอนุมูลอิสระในเซลล์ที่เป็นของเหลว <br>
ป้องกันการถูกอนุมูลอิสระทำลาย <br>
<br>
ส่วนวิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน จะช่วยยับยั้งการเกิด <br>
อนุมูลอิสระได้ <br>
วิตามินเอ ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันที่อยู่ในรูปของเบตาแคโรทีน <br>
หรือแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีในอาหารธรรมชาติประมาณ 600 กว่าชนิด <br>
ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการก่อ <br>
กลายพันธุ์ ป้องกันเนื้องอก และมีความเกี่ยวข้องกับสุขภาพด้านอื่นๆ <br>
ได้แก่ ลดความเสี่ยงเกี่ยวกับการเสื่อมของตาเนื่องจากสูงอายุ <br>
และต้อกระจก รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิด <br>
และโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างดี <br>
<br>
ทั้งนี้สารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ มีมากในผักผลไม้หลายชนิด <br>
โดยเฉพาะที่มีสีเขียว แดง แสด และเหลือง เช่น ผักใบสีเขียวเข้ม <br>
ได้แก่ ผักขม ผักคะน้า ผักตำลึง ผักบุ้ง <br>
<br>
ผักผลไม้ที่มีสีเหลือง เช่น ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ มะม่วงสุก <br>
มะละกอสุก เป็นต้น <br>
<br>
วิตามินอี เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำมัน และมีมากในน้ำมันพืชทั่วไป <br>
เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกคำฝอย เป็นต้น <br>
<br>
ในผักและผลไม้มีวิตามินอีค่อนข้างน้อย ส่วนวิตามินซีมีมากในผัก <br>
และผลไม้สดทั่วไป <br>
<br>
ด้านนพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า <br>
กรมอนามัยได้ทำการศึกษาแหล่งอาหารไทยที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ <br>
ทั้ง 3 ตัวนี้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลส่งเสริมให้ประชาชนทั่วประเทศได้บริโภค <br>
สารสำคัญนี้อย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยศึกษาผลไม้ที่มีบริโภค <br>
ในประเทศไทย 83 ชนิด ในปริมาณส่วนที่รับประทาน 100 กรัม <br>
<br>
ผลปรากฏว่า....... <br>
<br>
<br>


24 Jan 2008  |  Post by : Rattiya69
Comment 3
ขนุนน่ากินมาก ๆ เลยอ่ะค่ะ <br>
อิอิ

24 Jan 2008  |  Comment by : Bette
Comment 2
(ขนุนหนังมีวิตามินมินอีสูงสุด) <br>
<br>
<br>
นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยปกติเราจะได้รับ <br>
สารอาหารทั้ง 3 ชนิดจากการรับประทานอาหาร <br>
โดยทั่วไปน้อย เพราะถูกทำลายได้ง่ายจากความร้อน <br>
จึงต้องเพิ่มการรับประทานผลไม้และผักสดด้วย <br>
โดยแนะนำให้รับประทานอาหารให้หลากหลายชนิด <br>
และให้ได้สัดส่วนตามธงโภชนาการ <br>
<br>
โดยใน 1 วันคนเราควรบริโภคผลไม้ให้ได้ วันละ 4 ส่วน <br>
<br>
โดย 1 ส่วนของผลไม้ หากเป็นผลไม้ขนาดเล็ก เช่น <br>
องุ่น ลิ้นจี่ ลำไย เท่ากับ 6-8 ผล, <br>
<br>
ผลไม้ขนาดกลาง เช่น ส้ม ชมพู่ กล้วยน้อยหน่า <br>
เท่ากับ 1-2 ผล <br>
<br>
ส่วนผลไม้ขนาดใหญ่เช่น แตงโม สับปะรด มะละกอ <br>
จะเท่ากับ 6-8 ชิ้นพอคำ <br>
<br>
อย่างไรก็ดี ในกลุ่มที่ต้องคุมปริมาณน้ำตาล <br>
โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวานอาจต้องเลือกผลไม้ที่ <br>
รสไม่หวาน <br>
<br>
ในอเมริกาได้แนะนำให้ผู้ชายบริโภคแคโรทีนอยด์ <br>
วันละ 6 มิลลิกรัม <br>
<br>
ในคนไทยแนะนำให้บริโภค วิตามินอีวันละ 6-15 มิลลิกรัม และวิตามินซีวันละ 40-90 มิลลิกรัม <br>
<br>
ที่มาของข้อมูล: ผู้จัดการออนไลน์ 20 มกราคม 2551

24 Jan 2008  |  Comment by : Rattiya69
Comment 1
<br>
ผลไม้ที่พบสารเบตาแคโรทีนมากที่สุด <br>
10 อันดับแรกคือ <br>
<br>
มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มี 873 ไมโครกรัม <br>
รองลงมาได้แก่ มะเขือเทศราชินีมี 639 ไมโครกรัม <br>
มะละกอสุกมี 532 ไมโครกรัม <br>
แคนตาลูปเหลืองมี 217 ไมโครกรัม <br>
มะปรางหวาน มี 230 ไมโครกรัม <br>
มะยงชิด มี 207 ไมโครกรัม <br>
สัปปะรดภูเก็ต มี 150 ไมโครกรัม <br>
แตงโม มี 122 ไมโครกรัม <br>
ส้มสายน้ำผึ้งมี 101 ไมโครกรัม <br>
และลูกพลับมี 93 ไมโครกรัม <br>
<br>
ผลไม้ที่มีวิตามินอีสูงสุด 10 อันดับแรกได้แก่ <br>
ขนุนหนัง มี 2.38 มิลลิกรัม <br>
มะขามเทศ มี 2.29 มิลลิกรัม <br>
มะม่วงเขียวเสวยดิบ มี 1.52 มิลลิกรัม <br>
มะเขือเทศราชินี มี 1.34 มิลลิกรัม <br>
มะม่วงเขียวเสวยสุก มี 1.23 มิลลิกรัม <br>
มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มี 1.1 มิลลิกรัม <br>
มะม่วงยายกล่ำสุก มี 0.97 มิลลิกรัม <br>
กล้วยไข่ มี 0.47 มิลลิกรัม <br>
แก้วมังกรเนื้อสีชมพู มี 0.59 มิลลิกรัม <br>
และสตรอเบอรี มี 0.54 มิลลิกรัม <br>
<br>
ส่วนผลไม้ที่มีวิตามินซีมากที่สุด 10 อันดับแรกคือ <br>
ฝรั่งกลมสาลี่ มี 187 มิลลิกรัม <br>
ฝรั่งไร้เมล็ดมี 151 มิลลิกรัม <br>
มะขามป้อม มี 111 มิลลิกรัม <br>
มะขามเทศ มี 97 มิลลิกรัม <br>
เงาะโรงเรียน มี 76 มิลลิกรัม <br>
ลูกพลับ มี 73 มิลลิกรัม <br>
สตรอเบอรี มี 66 มิลลิกรัม <br>
มะละกอแขกดำสุก มี 55 มิลลิกรัม <br>
พุทราแอปเปิล มี 47 มิลลิกรัม <br>
และส้มโอขาวแตงกวา มี 48 มิลลิกรัม <br>
<br>
นอกจากนี้ ในกลุ่มของกล้วยต่างๆ 24 สายพันธุ์ <br>
มีทั้งเนื้อสีขาว สีเหลือง สีเหลืองอมแสด จากการศึกษา <br>
พบว่า กล้วยไข่พม่ามีสารเบตาแคโรทีนสูงสุด <br>
คือ 528 ไมโครกรัม <br>
รองลงมาคือกล้วยงาช้างมี 520 ไมโครกรัม <br>
กล้วยไข่โนนสูงมี 397 ไมโครกรัม <br>
กล้วยนางพญามี 393 ไมโครกรัม <br>
กล้วยไข่มี 271 ไมโครกรัม <br>
และกล้วยหักมุกนวลมี 270 ไมโครกรัม <br>


24 Jan 2008  |  Comment by : Rattiya69

Comment



Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: โก้ 14
โพสต์โดย: postwebthai.net 0
โพสต์โดย: imagination 1
โพสต์โดย: lamyai 2
โพสต์โดย: Dubs 1
โพสต์โดย: blairbear 0
โพสต์โดย: fh400 0
โพสต์โดย: Numtip 16

Interest Product