ประจำเดือนบอกโรค

ประจำเดือนบอกโรค
ร่างกายคนเรานั้นมักจะมีสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติเสมอ หากเราสนใจ คอยเฝ้าระวัง ไม่ละเลย <br> เราจะสามารถหาความผิดปกติและรักษาได้ทันท่วงทีก่อนเกิดอันตรายถึงชีวิต <br> <br> <br> แม้ประจำเดือนจะเป็นเรื่องที่คุณผู้หญิงบ่นกันมาก ว่าเป็นภาระลำบากทำให้หงุดหงิดรำคาญ <br> แต่น้องๆรู้ไหมคะว่าประจำเดือนที่ปกติมักบ่งบอกว่าสุขภาพของเราปกติ <br> ส่วน ประจำเดือนที่ผิดเพี้ยนไปมักเป็นสัญญาณว่าร่างกายของเราไม่ปกติแล้วนั่นคือประจำเดือนสามารถชี้บอกโรคได้นั่นเองค่ะ... <br> <br> <br> <br> <br> มาฟังเรื่องประจำเดือนที่ผิดปกติ สาเหตุที่เกิด และความรุนแรงซึ่งบอกถึงความรีบด่วนที่ต้องไปพบแพทย์ จากน้อยไปหามากเรียงลำดับดังนี้นะคะ <br> <br> <br> <br> 1. ประจำเดือนไม่มา <br> สาเหตุส่วนใหญ่ของประจำเดือนไม่มาในคนที่มีเพศสัมพันธ์คือการตั้งครรภ์ค่ะ หาก <br> สงสัยควรซื้อแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจ หรือไปพบแพทย์ <br> หากไม่มีเพศสัมพันธ์แต่คุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมนเช่นยากิน ยาฉีด ยาฝังฯลฯ <br> ประจำเดือนไม่มาอาจเป็นฤทธิ์ของฮอร์โมน ซึ่งถ้าอยากให้มาเป็นปกติต้องไปปรึกษาแพทย์เช่นกันค่ะ <br> หากมีเพศสัมพันธ์แล้วตรวจพบว่าไม่ตั้งครรภ์ แต่ประจำเดือนไม่มา หรือไม่มีเพศสัมพันธ์แต่ประจำเดือนไม่มา ส่วนใหญ่เป็นปัญหาของฮอร์โมน แม้ไม่อันตรายแต่ต้องไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ <br> <br> <br> <br> 2. ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย <br> คำว่า กะปริบกะปรอย หมายถึง มาวันละนิดละหน่อยแต่ไม่ยอมหยุด มาติดต่อกัน <br> นานเกิน 7 วัน ก็ถือว่าผิดปกติแล้วค่ะ <br> <br> <br> 2.1 หากเกิดในเด็กผู้หญิงซึ่งเริ่มมีประจำเดือน อาจบ่งบอกว่าระบบฮอร์โมนยังไม่สมบูรณ์ <br> หากเป็นแล้วหายไปอาจรอดูได้อีก 1-2 เดือน หากเลือดไม่ยอมหยุด คือ เป็นเกิน2สัปดาห์ หรือเป็นซ้ำอีกในเดือนที่สองที่สาม ของการเป็นประจำเดือน ควรไปพบแพทย์ค่ะ <br> <br> <br> 2.2 หากเกิดในคุณผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วตรวจพบว่าตั้งครรภ์ อาจเป็นอาการของการตั้งครรภ์ที่ไม่ปกติ เช่นกำลังจะแท้ง ท้องไม่ปกติเช่นตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก หรือท้องนอกมดลูก ภาวะนี้ควรรีบไปพบแพทย์ <br> 2.3 หากเกิดในคุณผู้หญิงซึ่งไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ อาจเป็นระบบฮอร์โมนไม่ปกติ หรือเป็นเนื้องอกภายใน เช่น เนื้องอกปากมดลูกชนิดธรรมดา(Polyp),หรือเนื้องอกถุงน้ำที่รังไข่ <br> <br> 2.4 หากเกิดในคุณผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ตั้งครรภ์ นอกจากมีสาเหตุเหมือน ข้อ 2.3 แล้วยังอาจเกิดได้จาก การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อักเสบ หรือมีแผลภายในช่องคลอด, ปากมดลูก, มดลูก, หรือเกิดจากอุ้งเชิงกรานอักเสบ <br> <br> <br> 2.5 หากเกิดในคุณผู้หญิงที่ใกล้หมดประจำเดือน (อายุมากกว่า 40 ปี) อย่ามัวคิดว่าเป็นอาการปกติของคนใกล้วัยทองนะคะ เพราะนอกจากเกิดจากสาเหตุเหมือน ข้อ 2.2 และ 2.3 แล้ว อาจจะเกิดจากมะเร็งภายใน ได้แก่ มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือมะเร็งรังไข่ได้ค่ะ <br> สรุปหากเกิดภาวะนี้ไม่ควรรีรอ ควรไปพบแพทย์ เว้นแต่เป็นเด็กหญิงที่เริ่มมีประจำเดือนในเดือนแรกค่ะ <br> <br> <br> <br> 3. มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ <br> กรณีนี้ไม่ได้หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ที่อาจเกิดจาก เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดนะคะ <br> เมื่อเกิดอาการนี้ขึ้น คุณผู้หญิงหลายท่านคิดเอาเองว่าเกิดจากประจำเดือนตกค้าง แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่ ภาวะนี้ไม่ปกติ และเป็นความรีบด่วนที่ต้องไปพบแพทย์ เนื่องจากอาการนี้เป็นอาการเฉพาะของโรคมะเร็งปากมดลูก(คนไข้มะเร็งปากมดลูกมาด้วยอาการนี้มากที่สุด) แม้ส่วนใหญ่การมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นมะเร็งปากมดลูกเสมอไป แต่เกิดได้จากมากมายสาเหตุ เช่น การตั้งครรภ์ การคุมกำเนิด การอักเสบ มีแผล ติดเชื้อภายในฯลฯ <br> <br> <br> <br> 4. อาการสุดท้ายที่รุนแรงมากที่สุดและต้องไปพบแพทย์โดยด่วนคือ เลือดออกหลังหมดประจำเดือนไปแล้วเกิน 1 ปี <br> ภาวะนี้ไม่ปกติ และอย่าคิดว่าเป็นเลือดประจำเดือนกลับมาทำให้เป็นสาวใหม่นะคะ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อักเสบติดเชื้อ เป็นเนื้องอกธรรมดาของภายใน แต่ที่อันตรายมากคือเกิดได้จากโรคมะเร็ง ตั้งแต่มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลุก และมะเร็งรังไข่ โดยเฉพาะโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งมีโอกาสเกิดได้สูงถึงร้อยละ 10 ของคุณผู้หญิงที่มีเลือดออกหลังหมดประจำเดือนไป1ปี <br> <br> <br> <br> ดังนั้นถ้าหากเวลาที่น้อง ๆ มีประจำเดือน เราควรสนใจและคอยสังเกตว่า ประจำของเรานั้นมีลักษณะที่ผิดปกติ ตามอาการดังที่หมอกล่าวมาทั้ง 4 อาการนั้นหรือไม่ ถ้าหากมีอาการที่ผิดปกติ อย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่า สุขภาพ ร่างกายของน้อง ๆ ไม่ปกติแล้ว เราควรต้องหาเวลาไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์หาสาเหตและทำการรักษาได้ทันท่วงทีก่อนเกิดอันตรายถึงชีวิต <br> <br> พญ. ชัญวลี ศรีสุโข <br> www.lauriermybrand.com 12 Mar 2009 \| Post by : SweetNokk

ร่างกายคนเรานั้นมักจะมีสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติเสมอ หากเราสนใจ คอยเฝ้าระวัง ไม่ละเลย 
เราจะสามารถหาความผิดปกติและรักษาได้ทันท่วงทีก่อนเกิดอันตรายถึงชีวิต 
 
 
แม้ประจำเดือนจะเป็นเรื่องที่คุณผู้หญิงบ่นกันมาก ว่าเป็นภาระลำบากทำให้หงุดหงิดรำคาญ 
แต่น้องๆรู้ไหมคะว่าประจำเดือนที่ปกติมักบ่งบอกว่าสุขภาพของเราปกติ 
ส่วน ประจำเดือนที่ผิดเพี้ยนไปมักเป็นสัญญาณว่าร่างกายของเราไม่ปกติแล้วนั่นคือประจำเดือนสามารถชี้บอกโรคได้นั่นเองค่ะ... 
 
 
 
 
มาฟังเรื่องประจำเดือนที่ผิดปกติ สาเหตุที่เกิด และความรุนแรงซึ่งบอกถึงความรีบด่วนที่ต้องไปพบแพทย์ จากน้อยไปหามากเรียงลำดับดังนี้นะคะ 
 
 
 
1. ประจำเดือนไม่มา 
สาเหตุส่วนใหญ่ของประจำเดือนไม่มาในคนที่มีเพศสัมพันธ์คือการตั้งครรภ์ค่ะ หาก 
สงสัยควรซื้อแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจ หรือไปพบแพทย์ 
หากไม่มีเพศสัมพันธ์แต่คุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมนเช่นยากิน ยาฉีด ยาฝังฯลฯ 
ประจำเดือนไม่มาอาจเป็นฤทธิ์ของฮอร์โมน ซึ่งถ้าอยากให้มาเป็นปกติต้องไปปรึกษาแพทย์เช่นกันค่ะ 
หากมีเพศสัมพันธ์แล้วตรวจพบว่าไม่ตั้งครรภ์ แต่ประจำเดือนไม่มา หรือไม่มีเพศสัมพันธ์แต่ประจำเดือนไม่มา ส่วนใหญ่เป็นปัญหาของฮอร์โมน แม้ไม่อันตรายแต่ต้องไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ 
 
 
 
2. ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย 
คำว่า กะปริบกะปรอย หมายถึง มาวันละนิดละหน่อยแต่ไม่ยอมหยุด มาติดต่อกัน 
นานเกิน 7 วัน ก็ถือว่าผิดปกติแล้วค่ะ 
 
 
2.1 หากเกิดในเด็กผู้หญิงซึ่งเริ่มมีประจำเดือน อาจบ่งบอกว่าระบบฮอร์โมนยังไม่สมบูรณ์ 
หากเป็นแล้วหายไปอาจรอดูได้อีก 1-2 เดือน หากเลือดไม่ยอมหยุด คือ เป็นเกิน2สัปดาห์ หรือเป็นซ้ำอีกในเดือนที่สองที่สาม ของการเป็นประจำเดือน ควรไปพบแพทย์ค่ะ 
 
 
2.2 หากเกิดในคุณผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วตรวจพบว่าตั้งครรภ์ อาจเป็นอาการของการตั้งครรภ์ที่ไม่ปกติ เช่นกำลังจะแท้ง ท้องไม่ปกติเช่นตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก หรือท้องนอกมดลูก ภาวะนี้ควรรีบไปพบแพทย์ 
2.3 หากเกิดในคุณผู้หญิงซึ่งไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ อาจเป็นระบบฮอร์โมนไม่ปกติ หรือเป็นเนื้องอกภายใน เช่น เนื้องอกปากมดลูกชนิดธรรมดา(Polyp),หรือเนื้องอกถุงน้ำที่รังไข่ 
 
2.4 หากเกิดในคุณผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ตั้งครรภ์ นอกจากมีสาเหตุเหมือน ข้อ 2.3 แล้วยังอาจเกิดได้จาก การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อักเสบ หรือมีแผลภายในช่องคลอด, ปากมดลูก, มดลูก, หรือเกิดจากอุ้งเชิงกรานอักเสบ 
 
 
2.5 หากเกิดในคุณผู้หญิงที่ใกล้หมดประจำเดือน (อายุมากกว่า 40 ปี) อย่ามัวคิดว่าเป็นอาการปกติของคนใกล้วัยทองนะคะ เพราะนอกจากเกิดจากสาเหตุเหมือน ข้อ 2.2 และ 2.3 แล้ว อาจจะเกิดจากมะเร็งภายใน ได้แก่ มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือมะเร็งรังไข่ได้ค่ะ 
สรุปหากเกิดภาวะนี้ไม่ควรรีรอ ควรไปพบแพทย์ เว้นแต่เป็นเด็กหญิงที่เริ่มมีประจำเดือนในเดือนแรกค่ะ 
 
 
 
3. มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ 
กรณีนี้ไม่ได้หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ที่อาจเกิดจาก เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดนะคะ 
เมื่อเกิดอาการนี้ขึ้น คุณผู้หญิงหลายท่านคิดเอาเองว่าเกิดจากประจำเดือนตกค้าง แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่ ภาวะนี้ไม่ปกติ และเป็นความรีบด่วนที่ต้องไปพบแพทย์ เนื่องจากอาการนี้เป็นอาการเฉพาะของโรคมะเร็งปากมดลูก(คนไข้มะเร็งปากมดลูกมาด้วยอาการนี้มากที่สุด) แม้ส่วนใหญ่การมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นมะเร็งปากมดลูกเสมอไป แต่เกิดได้จากมากมายสาเหตุ เช่น การตั้งครรภ์ การคุมกำเนิด การอักเสบ มีแผล ติดเชื้อภายในฯลฯ 
 
 
 
4. อาการสุดท้ายที่รุนแรงมากที่สุดและต้องไปพบแพทย์โดยด่วนคือ เลือดออกหลังหมดประจำเดือนไปแล้วเกิน 1 ปี 
ภาวะนี้ไม่ปกติ และอย่าคิดว่าเป็นเลือดประจำเดือนกลับมาทำให้เป็นสาวใหม่นะคะ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อักเสบติดเชื้อ เป็นเนื้องอกธรรมดาของภายใน แต่ที่อันตรายมากคือเกิดได้จากโรคมะเร็ง ตั้งแต่มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลุก และมะเร็งรังไข่ โดยเฉพาะโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งมีโอกาสเกิดได้สูงถึงร้อยละ 10 ของคุณผู้หญิงที่มีเลือดออกหลังหมดประจำเดือนไป1ปี 
 
 
 
ดังนั้นถ้าหากเวลาที่น้อง ๆ มีประจำเดือน เราควรสนใจและคอยสังเกตว่า ประจำของเรานั้นมีลักษณะที่ผิดปกติ ตามอาการดังที่หมอกล่าวมาทั้ง 4 อาการนั้นหรือไม่ ถ้าหากมีอาการที่ผิดปกติ อย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่า สุขภาพ ร่างกายของน้อง ๆ ไม่ปกติแล้ว เราควรต้องหาเวลาไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์หาสาเหตและทำการรักษาได้ทันท่วงทีก่อนเกิดอันตรายถึงชีวิต 
 
พญ. ชัญวลี ศรีสุโข 
www.lauriermybrand.com

12 Mar 2009 | Post by : SweetNokk

Comment 2
ถ้าประจำเดือนมาเป็นลิ่มๆไหลมาเยอะมากกว่าน้ำเลือดเป็นไรป่าวค่ 28 Oct 2013 \| Comment by : แพรว

Comment 2

ถ้าประจำเดือนมาเป็นลิ่มๆไหลมาเยอะมากกว่าน้ำเลือดเป็นไรป่าวค่

28 Oct 2013 | Comment by : แพรว

Comment 1
ในช่วงอาิทิตย์นี้ปวดบริเวณท้องน้อยน่ะค่ะ อาทิตย์หนึ่งจะเป็นครั้งหนึ่ง ทางซ้ายบ้าง ทางขวาบ้างเป็นซัก2-3ชั่วโมงก็หายไปน่ะค่ะ <br> จะเป็นหลังจากมีประจำเดือนได้ซักอาทิตย์หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรไหม อาจจะเกี่ยวกับระบบอื่นของร่างกายนะคะ <br> แต่ไม่แน่ใจซักเท่าไหร่เพราะจะเป็นทุกอาิทิตย์ จะเกี่ยวกับอิริยบทไหม <br> เพราะนั่งหน้าคอมนาน นั่งขัดสมาธิ แล้วไม่ค่อยได้ลุกไปไหนมาไหนซักเท่าไหร่ [เหมือนง้อยเลยแฮะเรา] <br> อีกอย่างคือเวลาเล่นกีฬาที่โหมหน่อยอย่างว่ายน้ำระยะไกลๆหรือว่าบาสต้องกระโดดบ่อย พอเล่นเสร็จแล้วมาพักได้ก็ปวด <br> ้ถ้าเป็นเรื่องกินเยอะก็ไม่ได้เยอะ พอประมาณตามเวลา <br> <br> แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับบทความดีดีที่นำมาแบ่งปันและ lauriermybrand ด้วยนะคะ <br> <br> <br> 14 Mar 2009 \| Comment by : Perfect_One

Comment 1

ในช่วงอาิทิตย์นี้ปวดบริเวณท้องน้อยน่ะค่ะ อาทิตย์หนึ่งจะเป็นครั้งหนึ่ง ทางซ้ายบ้าง ทางขวาบ้างเป็นซัก2-3ชั่วโมงก็หายไปน่ะค่ะ 
จะเป็นหลังจากมีประจำเดือนได้ซักอาทิตย์หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรไหม อาจจะเกี่ยวกับระบบอื่นของร่างกายนะคะ 
แต่ไม่แน่ใจซักเท่าไหร่เพราะจะเป็นทุกอาิทิตย์ จะเกี่ยวกับอิริยบทไหม 
เพราะนั่งหน้าคอมนาน นั่งขัดสมาธิ แล้วไม่ค่อยได้ลุกไปไหนมาไหนซักเท่าไหร่ [เหมือนง้อยเลยแฮะเรา] 
อีกอย่างคือเวลาเล่นกีฬาที่โหมหน่อยอย่างว่ายน้ำระยะไกลๆหรือว่าบาสต้องกระโดดบ่อย พอเล่นเสร็จแล้วมาพักได้ก็ปวด 
้ถ้าเป็นเรื่องกินเยอะก็ไม่ได้เยอะ พอประมาณตามเวลา 
 
แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับบทความดีดีที่นำมาแบ่งปันและ lauriermybrand ด้วยนะคะ

14 Mar 2009 | Comment by : Perfect_One

Beauty Clinic

Absolute Beauty Clinic

View Details

Webboard
รบกวนช่วยตอบด้วยคะ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: cdefg 2
รูปสุดเซ็กซี่จากดาราทั้งหลายได้อารมณ์กว่าคนอื่นเยอะ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: panchaya 4
อยากรู้จัง? ว่าใครชอบเเต่งตัว อินดี้ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: define 2
rtrgrtg5rgt 1 Jan 1970 โพสต์โดย: mint-k-b 3
เป็นคุณจะเลิกไหม???(ภาค 2) 1 Jan 1970 โพสต์โดย: Cream 8
กลูตา เพื่อเปลี่ยนผิวดำให้ขาวสวยแบบดารา ใสมีออร่า ปลอดภัย1000% มีอย ค่ะมีรูปค่ะ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: tamaka 0
ใครเคยมีอาการท้องผูกบ่อยบ้างคะ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: aynee 2
ทำให้ผู้หญิงรัก อิอิ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: Momay 9

Webboard