Talk About Women

ชาวaztecชนเผ่าป่าเถื่อนหรืออัจริย
ห่างหายจากเวปบอดไปนานคราวนี้ก้อกลับมาพร้อมกับเรื่องของชาวaztecครับ^^ <br>
<br>
<br>
ชาว Aztec จัดเป็นกลุ่มผู้อพยพกลุ่มใหญ่ที่อพยพมาจากทางตอนเหนือของอเมริกา เดินทางมาเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณที่ราบลุ่มใน Central Mexico เมื่อประมาณศริสต์ศักราชที่ 12-13 จึงได้หยุดการอพยพและตัดสินใจตั้งถิ่นฐาน ก่อร่างสร้างเมืองบนเกาะกลางทะเลสาบ Texcoco (ปัจจุบันอยู่ในเมือง Mexico City) โดยมีเมืองหลวงของอาณาจักรชื่อว่า Tenochtitlan และมีช่วงอายุของความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมนับตั้งแต่ศริสต์ศักราชที่ 13 จนถึง 16 ครับ <br>
เมื่อเอา Aztec ไปเปรียบกับ Maya ก็จะพบว่า Aztec เกิดที่หลัง Maya ถึงพันกว่าปีเลยทีเดียวครับ และถ้าพิจารณาอาณาเขตของอาณาจักร ท่านผู้อ่านพอจะจำได้มั้ยครับว่า Maya รุ่งเรืองที่บริเวณใด ถ้าจำไม่ได้ผมก็จะบอกอีกครั้งว่า Maya อยู่บริเวณ Yucatan Peninsula ครับ (แหลมที่ยื่นออกไปในอ่าวเม็กซิโกในแผนที่ที่ผมเอามาให้ดูข้างล่างครับ) แต่ Aztec นี่จะตั้งอยู่ทางตอนเหนือขึ้นไปอีก (บริเวณ Mexico City) เรียกง่ายๆคือ อยู่ชายแดนไกลๆของอาณาจักรมายาครับ <br>
ชาว Aztec เป็นกลุ่มอารยชนที่ ฉลาด มากครับสามารถพลิกพื้นแผ่นดินที่ไม่มีใครเหลียวแล แผ่นดินที่ถูกเรียกว่าเป็น poor land ของชนกลุ่มอื่นๆ ให้กลายเป็นแผ่นดินทอง กลายเป็นแผ่นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถสร้างเมืองและทำเกษตรกรรม การเลี้ยงสัตว์ และการประมงได้อย่างมีประสิทธิภาพ <br>
<br>
นอกเหนือจากความชาญฉลาดแล้ว..ชาว Aztec ดูเหมือนว่าจะโหดร้ายอยู่ซักหน่อยครับ เพราะ นิยมการบูชายันต์ โดยใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวยต่อเทพเจ้า (Human Sacrifices) แม้ว่าชาวมายาและชาวอินคาจะกระทำบ้าง แต่ไม่ถือว่าเป็นกิจวัตรหรือแพร่หลายแบบชาว Aztec หลักฐานทางโบราณคดีและข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้บ่งชี้ <br>
<br>
กรณีการสังเวยครั้งใหญ่คือเมื่อตอนการเฉลิมฉลอง Great Pyramid of Tenochtitlan ในปี ค.ศ.1487 โดยชาว Aztect อ้างว่าพวกเขาได้สังเวยเชลยถึง 84,400 คน ในช่วงเวลาสี่วัน <br>
(ในช่วงนั้นชาว Aztec ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงมีทั้งสิ้นประมาณ 80,000 ถึง 120,000 คนเท่านั้น) เรียกได้ว่าฆ่าเชลยที่จับมาได้เกือบเท่ากับจำนวนประชากรของตนเลยทีเดียว <br>
วัฒนธรรมของชาว Aztec นี่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอย่างมากครับ เพราะนิยมการบูชายันต์มนุษย์ให้แก่เทพเจ้าที่ชื่อว่า Huitzilpochti นอกจากจะใช้มนุษย์เป็นเครื่องบูชายันต์แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ พริก ครับ คาดว่าคงเอามาเผาให้เกิดควันเพื่อการบูชายันต์ด้วยครับ <br>
<br>
ด้วยวัฒนธรรมที่เน้นการบูชายันต์เป็นหลัก จึงเป็นสาเหตุให้ชาว Aztec เป็นศัตรูกับอาณาจักรข้างเคียงและมีการทำสงครามกันหลายครั้งเพื่อจับคนจากอาณาจักรอื่นๆมาเป็นเชลยเพื่อใช้ในการบูชายันต์ นอกจากจะทำสงครามเพื่อแย่งชิงเชลยแล้ว ชาว Aztec ยังต้องทำสงครามปกป้องอาณาเขตที่อุดมสมบูรณ์ของตนกับผู้รุกรานอยู่เสมอ <br>
ชาว Aztec ทำสงครามขยายอาณาเขตอย่างกว้างขวาง โดยมีเมืองหลวงอยู่บริเวณเกาะกลางน้ำ ส่วนพื้นที่รอบๆ จะเป็นของชาวพื้นเมืองเผ่าต่างๆที่ Aztec ชนะสงครามและปรับให้เป็นเมืองประเทศราชไปซะ โดยที่เมืองประเทศราชเหล่านี้ต้องส่ง ส่วย ไปให้ชนชั้นปกครองที่เมืองหลวงโดยตลอดครับ <br>
<br>
ชาว Aztec มีการแบ่งชนชั้นออกเป็นสองระดับ คือ <br>
<br>
1. Commoners คือประชาชนทั่วๆไป <br>
2. Nobility ซึ่งคือนักปกครอง นักบวช และนักรบ <br>
ผมว่าการแบ่งชนชั้นของ Aztec นี่ดีครับ เพราะถึงแม้จะแบ่งชนชั้นแต่เค้าก็ให้โอกาสพวก commoners ขยับขึ้นมาเป็น nobility ได้ ครับ ถ้าแสดงให้เห็นถึงสามารถและฝีมือการรบ ซึ่งการเป็นนักรบนั้นจะแบ่งออกเป็นระดับอีกเช่นกันครับ คือเป็น Elite Eagle และ Jaguar Warrior ครับ <br>
<br>
กลุ่ม nobility จะถูกสอนเรื่องการปกครองและพิธีกรรมทางความเชื่อต่างๆ ในขณะที่เด็กชายทุกคนในเมืองหลวงจะถูกสอนเรื่องศาสนา การค้าขาย ศิลปะ และการต่อสู้ <br>
<br>
ช่วงปี 1428-1521ขณะที่ชาวอินคาครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ ในอเมริกากลางก็ถูกชาว aztec ครอบครองเช่นกันถือเป็นยุคทองเลยก็ว่าได้ กินพื้นที่ เม็กซิโกปัจจุบัน ฮอนดูรัส และประเทศใกล้เคียง ชาว aztec มักถูกเรียกว่า mexica อันเป็นที่มาของชื่อเม็กซิโก ศูนย์กลางอำนาจอยู่ที่เมือง tenochtitlan ปัจจุบันคือกรุงเม็กซิโกซิตี้ แต่เดิมเมืองนี้สวยงามไม่ต่างจากเวนิสเพราะมีคลองมากมายหลายสายตัดเป็นระเบียบ และตัวเมืองสร้างอยู่บนเกาะกลางหนองนำขนาดใหญ่ จัดเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่มากในแถบอเมริกาในเวลานั้น จนพวกสเปนเข้ายึดครองต่อมาจึงได้ถมคูคลองและหนอง รวมทั้งปล้นสดมภ์ ทำลายเมืองทิ้งและสร้างเมืองใหม่บนซากเมืองเดิม ปัจจุบันบางครั้งเวลาตัดถนนหรือสร้างตึกก็มักพบโบราณวัตถุเสมอๆ <br>
<br>
จักรวรรดิ Aztec ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่กว้างขวางแต่กลับเปราะบางเพียงแต่ดำรงอยู่ได้ด้วยสายใยบางๆของการค้าขายและการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรเท่านั้น <br>
<br>
ซึ่งตรงกันข้ามกับจักรวรรดิมายาอย่างสิ้นเชิง เหตุผลหลักที่ทำให้จักรวรรดิอ่อนแอ เพราะชาว Aztec มีจุดประสงค์การขยายพื้นที่อาณาเขตเพื่อการล่าเชลยศึกเพื่อนำมาบูชายันต์และเรียกร้องเอาเครื่องบรรณาการจากหัวเมืองต่างๆเท่านั้น . <br>
<br>
โดยนักปกครองเมืองหลวงจะปกครองหัวเมืองต่างๆแบบทิ้งๆขว้างๆ และไม่แสดงท่าทีที่จะบังคับหรือสั่งสอนให้ประชาชนในหัวเมืองเคารพและจงรักภักดีต่อกษัตริย์ในเมืองหลวง ดังนั้นในช่วงเวลาที่ชาวสเปนรุกรานอเมริกากลาง ชาวสเปนจึงสามารถโน้มน้าวจิตใจของหัวเมืองต่างๆในจักรวรรดิให้มาเป็นพันธมิตรเพื่อรบกับชาว Aztec ได้ <br>
<br>
ผมอธิบายความดุร้ายไปแล้วในเรื่องของการบูชายันต์มนุษย์ แต่ตอนนี้ผมจะมาอธิบายว่า ทำไมผมถึงบอกว่าชาว Aztec ฉลาดมากครับ ? <br>
<br>
ก่อนจะเข้าเรื่อง ต้องทำความเข้าใจพื้นที่ Mesoamerica ให้ถ่องแท้ก่อนว่า ในช่วงสมัยก่อนนั้นแต่ละพื้นที่ก็ถูกครอบครองด้วยชนเผ่าต่างๆหลายร้อยเผ่า บ้างก็รวมตัวกันอย่างหนาแน่น เช่น มายา เป็นต้น บ้างก็ไม่รวมกัน แต่กระจัดกระจายกันครอบครองพื้นที่เป็นส่วนๆ อาจมีการติดต่อค้าขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้ากันบ้างในบางคราว <br>
<br>
กลุ่มชนชาว Aztec เป็นชนกลุ่มที่ไม่ถูกยอมรับจากชนเผ่าอื่นๆที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เพราะเรื่องค่านิยมในการบูชายันต์นั่นเอง ชนเผ่าต่างๆจึงได้พยายามกดดันให้ชาว Aztec ต้องเดินทางลงมาทางใต้เรื่อยๆ เพื่อหาที่อยู่เองโดยที่จะไม่ต้องติดต่อกับพวกเผ่าอื่นๆ <br>
<br>
บรรพบุรุษของชาว Aztec เดินทางมาจนถึงบริเวณทะเลสาบ Texcoco ซึ่งเป็นบริเวณที่ชนเผ่าอื่นๆเห็นว่าเป็นดินแดนที่ไม่น่าครอบครอง แต่ชาว Aztec ซึ่งไม่อยากเดินทางต่อไปอีกแล้ว กลับตัดสินใจตั้งถิ่นฐานบริเวณเกาะกลางน้ำ และพยายามสร้างบ้านแปลงเมืองจนยิ่งใหญ่กลาย <br>
<br>
ในสมัยนั้นชนเผ่าต่างๆพากันดูถูกชาว Aztec ว่าเป็นชนเผ่าที่ไม่เจริญ (least civilization) ดังนั้นชาว Aztec จึงพยายามปรับประยุกต์เอาความเชื่อเรื่องศาสนาของชนเผ่าต่างๆ <br>
<br>
ซึ่งศาสนาหลักก็คือ Toltec เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความเชื่อ ทั้งนี้เพื่อประกาศถึงความศิวิไลซ์ของตน <br>
<br>
เวลาผ่านไปไม่นาน ภายหลังชาว Aztec ได้พัฒนาการตนตรีและศิลปะตลอดจนการกสิกรรมที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงสถาปัตยกรรมต่างๆ <br>
จึงทำให้ชนเผ่าต่างๆหันมาเกรงในอำนาจและความยิ่งใหญ่ของ Aztec เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรวมถึงการที่ชาว Aztec เก่งกาจทางด้านการทำสงครามแย่งชิงเชลยศึก และระบบค้าขายแลกเปลี่ยนรวมถึงระบบการติดต่อขนส่ง จึงทำให้ชาว Aztec สามารถขยายพื้นที่จนตั้งเป็นจักรวรรดิได้ในที่สุด <br>
<br>
ผมเอามหาปีรามิดแห่งพระอาทิตย์มาให้ดูครับ ว่าในสภาพปัจจุบันเป็นอย่างไร <br>
<br>
<br>
ชาว Aztec มีชื่อเสียงเรื่องการเกษตรกรรม เพราะคิดค้นระบบการทำเกษตรกรรมในทะเลสาบได้ด้วยตนเอง <br>
<br>
โดยการสร้างสวนลอยน้ำขึ้นมาเพื่อทำการเพาะปลูกพืช เช่น ข้าวโพด ถั่ว พริก มะเขือเทศ อโวคาโด บางครั้งอาจใช้ในการปลูกดอกไม้ด้วย <br>
<br>
สวนลอยน้ำนี้มีชื่อว่า Chinampas สร้างโดยการนำท่อนไม้มาปักลงบนพื้นที่ตื้นของทะเลสาบ ทำให้เป็นรั้วลักษณะสี่เหลียมผืนผ้า หลังจากนั้นแต่ละมุมของรั้วไม้นี้จะปลูกไม้ยืนต้น เพื่อให้รากไม้ซอนลงไปในดินและสร้างความแข็งแรงให้กับรั้วไม้นี้ หรืปักด้วยหมุดขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความแข็งแรง หลังจากนั้นจะนำเสื่อที่สานจากต้นกกมาปูทับข้างบน (น่าจะใช้ท่อนไม้ปูก่อนเพื่อเป็นคานรองรับ) แล้วจึงนำโคลนที่ขุดได้รอบๆขึ้นมาแผ่ไว้บนเสื่อเพื่อใช้เป็นดินสำหรับการเพราะปลูก นอกจากจะคลุมเสื่อด้านบนแล้ว บางแห่งก็จะเอาเสื่อมาหุ้มที่รั้วไม้อีกทีเพื่อกันน้ำเข้า <br>
<br>
<br>
<br>
ด้วยเทคนิคการทำเกษตรกรรมอย่างที่ผมบอกมา จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Aztec ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงมีอาหารและพืชผลทางการเกษตรรับประทานตลอดปี นอกจากนั้นชาว Aztec ยังใช้เทคนิคเดียวกับการสร้างสวนลอยน้ำในการขยายเมืองออกไปอีกด้วยครับ จึงทำให้เกาะกลางน้ำเพิ่มพื้นที่ไปเรื่อยๆ <br>
<br>
<br>
<br>
นอกจากความชาญฉลาดในเรื่องของการทำเกษตรกรรมแล้ว <br>
เรื่องโหราศาสตร์ ก็ดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งในความรู้ที่นักโบราณคดีต่างชื่นชมและยอมรับในความสามารถของชาว Aztec ครับ เพราะว่าด้วยองค์ความรู้ที่ตนมีเมื่อหลายพันปีก่อน ทำให้ชาวชาว ” Aztec สามารถคิดค้นปฏิทิน ” ขึ้นมาใช้เพื่อการทำพิธีต่างๆ <br>
<br>
<br>
<br>
และปฏิทินนั้นได้รับการยอมรับจากนักโบราณคดีว่า ถูกต้องมากกว่าปฏิทินที่เราใช้กันอยู่เสียอีกครับ <br>
<br>
อย่างไรก็ตามเมื่อมีเจริญสูงสุดก็ย่อมมีการเสื่อมสลาย จักรวรรดิ Aztec ล่มสลาย เพราะผ่ายแพ้ให้กับ การรุกรานของกองทัพจากสเปน โดยการนำของ Hernan Cortes <br>
<br>
แม้ว่า Cortes จะมีกำลังเพียงแค่ 500 คน แต่ก็ได้พันธมิตรจากชนเผ่าอื่นๆที่อยู่ภายใต้การปกครองของชาว Aztec เข้าช่วยเหลือในการสู้รบ ในขณะที่ชาว Aztec ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ณ ฐานที่มั่นบนเกาะกลางน้ำของตน ด้วยกำลังรบของ Cortes บวกกับชนเผ่าต่างๆอีก รวมทั้งสิ้นถึงประมาณ 150,000 – 200,000 คนเลยทีเดียวครับ….อย่างนี้แล้วชาว Aztec แทบจะไม่มีทางชนะใดๆเลยครับ <br>
<br>
ซ้ำร้ายชาวเมือง Aztec ยังประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารและเป็นโรคฝีดาษ จึงทำให้กองกำลังอ่อนแอและผ่ายแพ้ในที่สุด ดังนั้นกองกำลังพันธมิตรชาวสเปนจึงครอบครอง Tenochtitlan ได้ในวันที่ 13 สิงหาคม คริสต์ศักราช 1521 ในช่วงที่มีการเสียเมืองให้กับข้าศึก…กวีชาว Aztec ได้เขียนบทกลอนไว้ว่า <br>
<br>
“How can we save our homes, my people <br>
The Aztecs are deserting the city <br>
The city is in flames and all is darkness and destruction“ <br>
<br>
Weep my people <br>
Know that with these disasters <br>
We have lost the Mexacan nation <br>
The water has turned bitter <br>
Our food is bitter <br>
These are the acts of the Giver of Life <br>
<br>
<br>
เครดิต <br> <a href="http://www.designer.in.th/inspiration/aztec-culture-aztec-clothing.html" target="_blank">http://www.designer.in.th/inspiration/aztec-culture-aztec-clothing.html</a><br>


29 Jun 2009  |  Post by : MING1994

Comment



Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: anyaza45 5
โพสต์โดย: minibump 5
โพสต์โดย: PickPostPack 0
โพสต์โดย: StrawberryPinky 3
โพสต์โดย: Alexaz 3
โพสต์โดย: nanny_na_ka 3
โพสต์โดย: aleenatalee 7
โพสต์โดย: GoneHin 11

Interest Product