Talk About Women

ห่วงอนามัยใส่ครั้งเดียวคุมได้นาน 3-5 ปี (ใส่รูปเพิ่มแล้วค่ะ)
ห่วงอนามัย เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ดีและนิยมใช้กันในปัจจุบันห่วงอนามัยมักมีขนาดเล็กโค้งงอได้ มีลวดทองแดงพัน หรือห่อหุ้มอยู่ใช้ใส่ในโพรงมดลูกของสตรีโดยผ่านทางช่องคลอด <br>
<br>
การใส่ห่วงอนามัยเพียงครั้งเดียวสามารถคุมกำเนิดได้นาน 3-10 ปี แล้วแต่ชนิดของห่วงอนามัยที่ใส่ <br>
<br>
เป็นวิธีคุมกำเนิดชั่วคราว เมื่อต้องการมีบุตรอีกก็สามารถถอดห่วงอนามัยออกได้ง่าย และสามารถตั้งครรภ์ได้ในระยะเวลาอันสั้น <br>
<br>
ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างไร <br>
ห่วงอนามัยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก เมือกในโพรงมดลูก และท่อนำไข่ทำให้ตัวอสุจิผ่านได้ยาก หรืออาจทำลายตัวอสุจิรวมทั้งไข่ที่ผสมแล้วอาจถูกทำลายหรือไม่สามารถฝังตัวได้ <br>
<br>
สตรีที่เหมาะจะใส่ห่วงอนามัย <br>
<br>
1.อยู่ระหว่างให้นมบุตร <br>
2.มีข้อห้ามในการใช้ ฮอร์โมนคุมกำเนิด เช่น สูบบุหรี่ ปวดศีรษะบ่อย ความดันโลหิตสูง เป็นต้น <br>
3.มีปัญหาจากการคุมกำเนิดวิธีอื่น เช่น ไม่สะดวกในการใช้ถุงยางอนามัย ลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดบ่อยๆหรือมักลืมไปฉีดยาคุมกำเนิดตามนัด <br>
4.ไม่ต้องการบุตรแล้วและไม่ต้องการใช้วิธีคุมกำเนิดถาวร <br>
<br>
เวลาที่เหมาะสมในการใส่ห่วงอนามัย <br>
<br>
1.ใส่ได้ทันทีแน่ใจว่าไม่ตั้งครรภ์หรือใส่ในวันที่ระดูใกล้หมด <br>
2.ใส่ 6-8 สัปดาห์หลังคลอด <br>
3.ใส่ได้ทันทีหลังแท้งในไตรมาสแรกถ้าไม่มีการติดเชื้อ <br>
4.ใส่ 6-8 สัปดาห์หลังแท้งในไตรมาสที่สองถ้าไม่มีการติดเชื้อ <br>
<br>
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น <br>
2-3 วันแรกหลังใส่ห่วงอนามัย อาจเกิดอาการ ปวดท้องน้อยหรือปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย มีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย หรือ เลือกออกกะปริดกะปรอย <br>
<br>
3-4 วันแรกหลังใส่ห่วงอนามัย อาจจะมีอาการผิดปกติ ได้แก่ ประจำเดือนออกมาก และนานกว่า อาจมีปวดท้องน้อยขณะมีระดู และอาจมีตกขาวเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นอาการต่างๆ จะหายไป <br>
<br>
อาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์ <br>
<br>
1.ระดูขาด ระดูกะปริดกะปรอย ระดูออกผิดปกติหรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ <br>
2.ปวดท้องน้อยเพิ่มขึ้นหรือปวดขณะร่วมเพศ <br>
3.ตกขาวสีผิดปกติ หรือมีกลิ่นเหม็น <br>
4.รู้สึกไม่สบาย มีไข้หนาวสั่น <br>
<br>
ข้อปฏิบัติหลังใส่ห่วงอนามัย <br>
ประสิทธิภาพของห่วงอนามัยขึ้นอยู่กับตำแหน่งของห่วงอนามัยในโพรงมดลูก ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี <br>
<br>
สตรีที่ใส่ห่วงจึงควรตรวจสายห่วงเองที่บ้านทุกเดือน ๆ ละ 1 ครั้งหลังระดูหมด 2-3 วัน โดยล้างมือให้สะอาด ใช้มือข้างที่ถนัด ทำมือดังรูป ก. สอดนิ้วกลางเข้าในช่องคลอด เพื่อคลำหาสายห่วงที่บริเวณปากมดลูก ดูรูป ข. ถ้าคลำสายห่วงไม่พบสายห่วงสั้นหรือยาวกว่าปกติ คลำพบส่วนของห่วงหรือพบว่าห่วงเลื่อนหรือหลุด ควรรีบกลับมาพบแพทย์ โดยงดร่วมเพศหรือใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนจนกว่าจะเปลี่ยนห่วงอนามัยอันใหม่ <br>
<br>
<br>
ให้มาพบแพทย์ตามนัด หรือเมื่อครบ 2 เดือนหลังใส่ห่วงอนามัย หลังจากนั้น ปีละครั้งเพื่อตรวจภายใน ตรวจห่วงอนามัย และตรวจหามะเร็งปากมดลูก <br>
<br>
ข้อมูลจาก: โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ <br>
<center><img src=http://healthy.in.th/files/201004/1.jpg></center> <center><img src=http://healthy.in.th/files/201004/2.jpg></center>

22 Apr 2010  |  Post by : GGuruGirl
Comment 2
<br>

24 Jan 2014  |  Comment by : neeni
Comment 1
รูป 2 อ่าค่ะ

22 Apr 2010  |  Comment by : jeeloveboon

Comment



Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: chanakun18 0
โพสต์โดย: PangRum 1
โพสต์โดย: nutty_jen 3
โพสต์โดย: Ninelove 0
โพสต์โดย: Momay 1
โพสต์โดย: phung 15
โพสต์โดย: turelove02 6
โพสต์โดย: muffyqueen 2

Interest Product