Menu หน้าร้อนที่ต้องระวัง !!

Menu หน้าร้อนที่ต้องระวัง !!
<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:PunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--> <p class="MsoNormal"><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family: "Angsana New";color:green" lang="TH">อุณหภูมิสูงปรี๊ด ช่างเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่กระจายล่องลอยอยู่ในอากาศ ทั่วทุกแห่ง พอตกลงไปในอาหารก็ทำให้อาหารบูด เมื่อรับประทานอาหารนั่นเข้าไปก็ทำให้เกิดอาการท้องร่วงรุนแรงจนอาจถึงแก่ ชีวิตได้</span></strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New""></span></p> <p class="MsoNormal"><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New""> </span></p> <p><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH">อาหารปนเปื้อนในหน้าร้อนไม่ได้เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์ เพราะอาการบูดเน่าและอาหารที่มีแมลงวันตอมเท่านั้น แต่การกินอาหารสุกๆ ดิบๆ และอาหารปนเปื้อนสารเคมี โลหะหนักเป็นพิษก็เป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตของเราได้เหมือนกัน</span><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New""></span></p> <p><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH">โรคที่พึงระวังในหน้าร้อนไม่พ้น โรคทางเดินอาหาร ต่างๆ ทั้ง<strong><span style="font-family:"Angsana New"; color:darkorange">โรคท้องร่วง-อาหารเป็นพิษ-โรคไทฟอยด์-อหิวาตกโรค-โรคบิด </span></strong><strong><span style="font-family:"Angsana New"">อ.สง่า ดามาพงษ์ นักโภชนาการ และผู้จัดการแผนงานโภชนาการเชิงรุก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) </span></strong>แนะ นำว่า โรคเหล่านี้มักมาในหน้าร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่มีงานเทศกาล มีการท่องเที่ยวและการเดินทางมากขึ้น อย่างไรก็ตามโรคดังกล่าวเหล่านี้เป็นโรคที่ป้องกันได้ไม่ยาก หากเราใส่ใจ คิดให้ดีก่อนที่จะรับประทาน</span><span style="font-size:16.0pt; font-family:"Angsana New""></span></p> <p><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH">สำหรับอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคในหน้าร้อนมี </span><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"">7<span lang="TH">ประเภท ดังนี้</span></span></p> <p><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New""><span style="mso-spacerun:yes"> </span><strong><span style="font-family:"Angsana New"; color:red">1.<span lang="TH">อาหารประเภทกะทิ </span></span></strong><span lang="TH">เช่น แกงเขียวหวาน แกงเผ็ด ขนมพวกกะทิ ซึ่งเป็นอาหารที่ง่ายต่อการบูดเสีย เชื้อจุลินทรีย์ชอบ ดังนั้น ต้องมั่นใจว่าเป็นอาหารปรุงสุกใหม่ ถ้ากินไม่หมดต้องนำเข้าตู้เย็นแล้วนำมาอุ่น ทางที่ดีควรรับประทานให้หมดภายในมื้อเดียว ถ้าสามารถหลีกเลี่ยงไม่กินอาหารประเภทกะทิที่ไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยหรือไม่ โดยเฉพาะอาหารแผงลอย ริมฟุธบาตก็น่าจะลดความเสี่ยงได้มากทีเดียว</span></span></p> <p><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New";color:red">2.<span lang="TH">อาหารประเภทยำ</span></span></strong><span style="font-size: 16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH">ที่ มีเนื้อต่างๆ ทั้งหมู ไก่ ปลา อาหารทะเล รวมถึงส้มตำ สำหรับอาหารยำ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีลวก แต่ลวกไม่สุกทำให้เชื้อโรคไม่ตาย หากรับประทานเข้าไปเชื้อโรคก็อาจเข้าไปขยายพิษในร่างกาย <br></span></p><p><br><span style="font-size: 16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH"></span><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New""></span></p> <p><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH">ส่วน <span style="color:#3366FF">ส้มตำ</span> น่าจะเป็นอาหารไทยที่ทำให้คนท้องเดินมากที่สุด ทั้งปลาร้าที่ไม่ผ่านการต้มสุก ปูดองดิบๆ ที่เชื้อจุลินทรีย์ซ่อนอยู่ในขาปูที่เราชอบดูด รวมทั้งถั่วลิสงป่นที่มีเชื้ออัลฟาท็อกซิน กุ้งแห้งใส่สีที่ไม่ได้ล้าง มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว มะละกอไม่ได้ล้างน้ำ ครกที่มีแมงลงวันตอม ซึ่งที่กล่าวมานี้ไม่ใช่กินไม่ได้ แต่ขอให้เราใส่ใจเลือกแค่นั้นก็ปลอดภัยแล้ว</span><span style="font-size:16.0pt; font-family:"Angsana New""></span></p> <p><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New";color:red">3.<span lang="TH">ขนมจีน </span></span></strong><span style="font-size:16.0pt; font-family:"Angsana New"" lang="TH">มี ความเสี่ยง ทั้งจากเส้นขนมจีน น้ำยากะทิ และผักสดที่ไม่ล้างหรือล้างไม่สะอาด เนื่องจากทั้งเส้นขนมจีนและกะทินั้นบูดง่ายมาก ส่วนผักไม่ว่าจะผักสด ผักดอง ก็ล้วนต้องระมัดระวัง </span><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"; color:red"></span></strong></p> <p><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New";color:red">4.<span lang="TH">อาหารทะเล </span></span></strong><span style="font-size:16.0pt; font-family:"Angsana New"" lang="TH">จะบูดเน่าง่ายในหน้าร้อน ก่อนกินต้องทำให้สุกทุกครั้ง โดยเฉพาะยำหอยแครง ปลาหมึก</span><strong><span style="font-size:16.0pt; font-family:"Angsana New";color:red"></span></strong></p> <p><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New";color:red"><span style="mso-spacerun:yes"> </span>5.<span lang="TH">อาหารค้างคืน </span></span></strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH">หรืออาหารที่เหลือจากมื้ออื่น ต้องมั่นใจว่าไม่บูดเสีย และมีการอุ่นให้ได้ที่ ทางที่ดีควรกินอาหารปรุงสุกใหม่ทุกครั้ง</span><span style="font-size:16.0pt; font-family:"Angsana New""></span></p> <p><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New";color:red">6.<span lang="TH">อาหารที่มีแมลงวันตอม </span></span></strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH">สัก เกตได้ง่ายนิดเดียว โดยเฉพาะอาหารปรุงสำเร็จที่วางขายในภาชนะที่ไม่มีฝาและสิ่งใดปกปิด ที่สำคัญคงไม่ใช่แค่แมลงวันที่ไปไต่ตอม แต่พวกฝุ่นละออง เชื้อโรค ก็ร่วงหล่นลงไปในอาหารด้วย </span><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New""></span></p> <p><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New";color:red">7.<span lang="TH">น้ำดื่ม และน้ำแข็ง </span></span></strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH">ต้อง มั่นใจว่าเป็นน้ำดื่มที่อาดได้มาตรฐาน อย. น้ำแข็งที่แช่ร่วมกับอาหารนั้นเสี่ยงต่อการทำให้ท้องร่วงมาก ขณะเดียวกันน้ำที่ใส่เหยือกหรือกาไว้ก็ไม่น่าไว้ว่างใจเช่นเดียวกัน</span><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New""></span></p> <p style="margin-bottom:12.0pt"><b><span style="font-size:16.0pt;font-family: "Angsana New";color:darkorange"><br> <strong><span style="font-family:"Angsana New""><span lang="TH">อาหาร ทั้ง </span>7 <span lang="TH">ประเภท ไม่ได้หน้าสะพรึงกลัวอย่างที่คิด เพียงแค่อยากให้เพิ่มความระมัดระวังให้มากในฤดูร้อน เพราะเป็นอาหารที่มีความเสี่ยงสูง เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารทั่วไป</span></span></strong></span></b><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New""></span></p> <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> 2 Apr 2013 \| Post by : jeeda

อุณหภูมิสูงปรี๊ด ช่างเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่กระจายล่องลอยอยู่ในอากาศ
ทั่วทุกแห่ง พอตกลงไปในอาหารก็ทำให้อาหารบูด เมื่อรับประทานอาหารนั่นเข้าไปก็ทำให้เกิดอาการท้องร่วงรุนแรงจนอาจถึงแก่
ชีวิตได้

 

อาหารปนเปื้อนในหน้าร้อนไม่ได้เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์
เพราะอาการบูดเน่าและอาหารที่มีแมลงวันตอมเท่านั้น แต่การกินอาหารสุกๆ ดิบๆ และอาหารปนเปื้อนสารเคมี
โลหะหนักเป็นพิษก็เป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตของเราได้เหมือนกัน

โรคที่พึงระวังในหน้าร้อนไม่พ้น
โรคทางเดินอาหาร ต่างๆ ทั้งโรคท้องร่วง-อาหารเป็นพิษ-โรคไทฟอยด์-อหิวาตกโรค-โรคบิด อ.สง่า ดามาพงษ์ นักโภชนาการ
และผู้จัดการแผนงานโภชนาการเชิงรุก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
(สสส.) แนะ นำว่า โรคเหล่านี้มักมาในหน้าร้อน
ซึ่งเป็นช่วงที่มีงานเทศกาล มีการท่องเที่ยวและการเดินทางมากขึ้น อย่างไรก็ตามโรคดังกล่าวเหล่านี้เป็นโรคที่ป้องกันได้ไม่ยาก
หากเราใส่ใจ คิดให้ดีก่อนที่จะรับประทาน

สำหรับอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคในหน้าร้อนมี
7ประเภท
ดังนี้

 1.อาหารประเภทกะทิ เช่น แกงเขียวหวาน แกงเผ็ด ขนมพวกกะทิ ซึ่งเป็นอาหารที่ง่ายต่อการบูดเสีย เชื้อจุลินทรีย์ชอบ
ดังนั้น ต้องมั่นใจว่าเป็นอาหารปรุงสุกใหม่ ถ้ากินไม่หมดต้องนำเข้าตู้เย็นแล้วนำมาอุ่น
ทางที่ดีควรรับประทานให้หมดภายในมื้อเดียว ถ้าสามารถหลีกเลี่ยงไม่กินอาหารประเภทกะทิที่ไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยหรือไม่
โดยเฉพาะอาหารแผงลอย ริมฟุธบาตก็น่าจะลดความเสี่ยงได้มากทีเดียว

2.อาหารประเภทยำที่ มีเนื้อต่างๆ ทั้งหมู ไก่ ปลา อาหารทะเล
รวมถึงส้มตำ สำหรับอาหารยำ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีลวก แต่ลวกไม่สุกทำให้เชื้อโรคไม่ตาย หากรับประทานเข้าไปเชื้อโรคก็อาจเข้าไปขยายพิษในร่างกาย 

ส่วน ส้มตำ น่าจะเป็นอาหารไทยที่ทำให้คนท้องเดินมากที่สุด
ทั้งปลาร้าที่ไม่ผ่านการต้มสุก ปูดองดิบๆ ที่เชื้อจุลินทรีย์ซ่อนอยู่ในขาปูที่เราชอบดูด
รวมทั้งถั่วลิสงป่นที่มีเชื้ออัลฟาท็อกซิน กุ้งแห้งใส่สีที่ไม่ได้ล้าง มะเขือเทศ
ถั่วฝักยาว มะละกอไม่ได้ล้างน้ำ ครกที่มีแมงลงวันตอม ซึ่งที่กล่าวมานี้ไม่ใช่กินไม่ได้
แต่ขอให้เราใส่ใจเลือกแค่นั้นก็ปลอดภัยแล้ว

3.ขนมจีน มี ความเสี่ยง ทั้งจากเส้นขนมจีน น้ำยากะทิ และผักสดที่ไม่ล้างหรือล้างไม่สะอาด
เนื่องจากทั้งเส้นขนมจีนและกะทินั้นบูดง่ายมาก ส่วนผักไม่ว่าจะผักสด ผักดอง ก็ล้วนต้องระมัดระวัง


4.อาหารทะเล จะบูดเน่าง่ายในหน้าร้อน ก่อนกินต้องทำให้สุกทุกครั้ง
โดยเฉพาะยำหอยแครง ปลาหมึก

 5.อาหารค้างคืน หรืออาหารที่เหลือจากมื้ออื่น
ต้องมั่นใจว่าไม่บูดเสีย และมีการอุ่นให้ได้ที่
ทางที่ดีควรกินอาหารปรุงสุกใหม่ทุกครั้ง

6.อาหารที่มีแมลงวันตอม สัก เกตได้ง่ายนิดเดียว โดยเฉพาะอาหารปรุงสำเร็จที่วางขายในภาชนะที่ไม่มีฝาและสิ่งใดปกปิด
ที่สำคัญคงไม่ใช่แค่แมลงวันที่ไปไต่ตอม แต่พวกฝุ่นละออง เชื้อโรค ก็ร่วงหล่นลงไปในอาหารด้วย


7.น้ำดื่ม และน้ำแข็ง ต้อง มั่นใจว่าเป็นน้ำดื่มที่อาดได้มาตรฐาน
อย. น้ำแข็งที่แช่ร่วมกับอาหารนั้นเสี่ยงต่อการทำให้ท้องร่วงมาก ขณะเดียวกันน้ำที่ใส่เหยือกหรือกาไว้ก็ไม่น่าไว้ว่างใจเช่นเดียวกัน

 
อาหาร ทั้ง 7
ประเภท ไม่ได้หน้าสะพรึงกลัวอย่างที่คิด เพียงแค่อยากให้เพิ่มความระมัดระวังให้มากในฤดูร้อน
เพราะเป็นอาหารที่มีความเสี่ยงสูง เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารทั่วไป

2 Apr 2013 | Post by : jeeda

Comment 1
<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:PunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--> <p style="text-align:center" align="center"><b><u><span style="font-size: 18.0pt;font-family:"Angsana New";color:fuchsia" lang="TH">สำหรับเมนูคลายร้อน<span style="mso-spacerun:yes">  </span>ที่อยากแนะนำ คือ</span></u></b><b><u><span style="font-size:18.0pt;font-family:"Angsana New";color:fuchsia"></span></u></b></p> <p><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH">ข้าวแช่ชาววัง</span></strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"" lang="TH"> เป็นอาหารคาวที่นิยมรับประทานกันในคนไทยหมู่มาก ตั้งแต่สมัยโบราณในช่วงฤดูร้อน</span><span style="font-size:16.0pt;font-family: "Angsana New""> <span lang="TH">โดยการนำข้าวสุกไปแช่กับน้ำเย็นที่ลอยด้วยดอกไม้กลิ่นหอม</span><span style="mso-spacerun:yes">  </span><span lang="TH">ซึ่งทานกับเครื่องเคียงหลากหลายชนิด</span> <span lang="TH">คือ ลูกกะปิทอด ผักผัดหวาน พริกหยวกสอดไส้</span>  <span lang="TH">เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน</span> <span lang="TH">หัวหอมสอดไส้ ผักกาดเค็มผัด หวาน ปลาแห้งผัดหวาน เป็นต้น</span></span></p> <p><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"; color:black" lang="TH">หวานเย็น น้ำแข็งใส </span></strong><span style="font-size: 16.0pt;font-family:"Angsana New";color:black" lang="TH">ดับร้อนด้วยของหวาน <span style="mso-spacerun:yes"> </span>เป็นน้ำแข็งบด ราดด้วย น้ำหวาน นมข้น และท๊อปปิ้ง ฯ</span><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New""></span></p> <p><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"; color:black" lang="TH">ขนมหวานหอมแบบไทยๆ</span></strong><span style="font-size: 16.0pt;font-family:"Angsana New";color:black" lang="TH"> <strong><span style="font-family: "Angsana New"">ซ่าหริ่ม</span></strong> หรือ <strong><span style="font-family: "Angsana New"">สลิ่ม</span></strong> เป็นของหวานไทยมีลักษณะเป็นเส้นกินกับน้ำกะทิมีหลากหลายสี</span><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New";color:black"></span></p> <p><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New";color:black"><br> <strong><span style="font-family:"Angsana New"" lang="TH">ขนมทับทิมกรอบ</span></strong><span lang="TH"> เป็นขนมหวานที่รับประทานได้ทุกฤดูกาล นิยมมากที่สุดในฤดูร้อน รับประทานแล้วหอมหวานเย็นอร่อยชื่นใจคลายร้อนได้ดี ประกอบด้วยเม็ดทับทิมกรอบสีแดงสดใสและเม็ดทับทิมกรอบสีชมพูสวย เมื่อเคี้ยวแล้วกรอบมันด้วยรสชาดของแห้ว มีน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทราย ลอยด้วยดอกมะลิ มีกะทิสดจากการคั้นมะพร้าว น้ำแข็งบดละเอียดหรือน้ำแข็งทุบให้เป็นเม็ดเล็กๆ หอมชื่นใจ</span></span></p> <p><strong><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New"; color:black" lang="TH">ผลไม้แห่งฤดูกาล</span></strong><span style="font-size:16.0pt; font-family:"Angsana New";color:black">  <span lang="TH">ผลไม้เนื้อฉ่ำน้ำสามารถช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ เช่น แตงโม สาลี่ มะเฟือง มะไฟ องุ่น ฯลฯ</span></span><span style="font-size: 16.0pt;font-family:"Angsana New""> <br> <br> <strong><span style="font-family:"Angsana New";color:black" lang="TH">ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ </span></strong><strong><span style="font-family:"Angsana New";color:black">8 <span lang="TH">แก้ว </span></span></strong><span style="color:black" lang="TH">เนื่องจากหน้าร้อนจะสูญเสียเหงื่อมาก ควรหลีกเลี่ยงน้ำหวาน</span><span style="color:black"> <br> <span lang="TH">เพราะจะยิ่งทำให้กระหายน้ำมากขึ้น อาจดื่มน้ำผลไม้ หรือน้ำสมุนไพรที่มีรสไม่หวานจัดแทน</span></span></span></p> <p><span style="font-size:16.0pt;font-family:"Angsana New";color:#FF9900"> </span></p> <p style="text-align:center" align="center"><span style="font-size:20.0pt; font-family:"Angsana New";color:#993300" lang="TH">ขอบคุณข้อมูลจาก</span><span style="font-size:20.0pt;font-family:"Angsana New";color:#993300"></span></p> <p style="text-align:center" align="center"><span style="font-size:20.0pt; font-family:"Angsana New";color:#993300"><a href="http://www.dek-d.com/"><span style="color:#993300">http://www.dek-d.com</span></a></span></p> <p style="text-align:center" align="center"><span style="font-size:20.0pt; font-family:"Angsana New";color:#993300">www.thaihealth.or.th<span lang="TH"></span></span></p> <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> 2 Apr 2013 \| Comment by : jeeda

Comment 1

2 Apr 2013 | Comment by : jeeda

Beauty Clinic

เมโกะ คลินิก Meko Clinic

View Details

Webboard
ว่าด้วยเรื่องรอยแผลเป็น 1 Jan 1970 โพสต์โดย: Rose 1
พาลูกไปทำ D.I.Y. Pizza 25 Dec 2464 โพสต์โดย: anya 1
เรื่องของประจำเดือน 25 Dec 1655 โพสต์โดย: eee 4
ปรึกษาหน่อยค่ะ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: kwangbeloved 5
ผิวหนังที่ได้รับแสงแดดมากเกินไป 1 Jan 1970 โพสต์โดย: Been 0
+++ข้าวกล่อง+++ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: Cream 14
เป็นเหมือนกันมั๊ย ลดน้ำหนักมาหลายที ไม่ลงสักที 1 Jan 1970 โพสต์โดย: nu2cute 0
มีใครกำลังประสบ พบเจอเกี่ยวกับหน้ามันเหมือนเราบ้างคะ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: LaaLaa 3

Webboard