Talk About Women

6 พฤติกรรมพ่อแม่…”แย่จังเลย”
1. พ่อแม่จอมโกหก

คุณพ่อคุณแม่เคยทำกันบ้างไหมคะ กับการหลอกลูก ๆ ที่ไม่ยอมทำในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการว่าเดี๋ยวตุ๊กแกจะมากินตับ ตำรวจจะมาจับ ผีจะมาหลอก หมอจะจับไปฉีดยา ฯลฯ ถ้าเคยก็ทราบเถิดค่ะว่าเหล่านี้ล้วนสร้างความหวาดกลัวให้เกิดกับลูกและทำให้ ลูกมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว

หรือการโกหกอีกประเภทหนึ่งที่พ่อแม่อาจนำมาใช้ก็คือ การสัญญาว่าจะให้นั่น โน่น นี่ สัญญาว่าจะพาไปเที่ยว แต่สุดท้ายไม่ทำตามที่รับปากเอาไว้ ซึ่งในใจของเด็กนั้นรับรู้ได้ถึงความหลอกลวงค่ะ
อาจกล่าวได้ว่าบางครั้งการพยายามให้ลูกปฏิบัติในสิ่งที่พ่อแม่ต้อง การก็ไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องโกหกเสมอไป การเสนอทางเลือกให้ลูกเลือกทางใดทางหนึ่งก็น่าจะเพียงพอ (แน่นอนว่าพ่อแม่ก็แค่เพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวเลือกที่พ่อแม่อยากให้ลูก เลือกให้มากกว่าตัวเลือกอีกข้อหนึ่งเท่านั้นเอง) ดีกว่าการสร้างเรื่องโกหกหลอกลวงเด็ก ๆ จนพวกเขาจำฝังใจ โตขึ้นไปก็กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ขี้โกหกเลียนแบบพ่อแม่เสียเปล่า ๆ


17 Aug 2014  |  Post by : deknoinid
Comment 5
6. พ่อแม่ที่หลงในอบายมุข

การใช้เวลากับสมาชิกในครอบครัวอาจลดน้อยลงในกรณีที่พ่อแม่หลงมัวเมา อยู่กับอบายมุข รวมถึงเงินทองและความสุขที่จะค่อย ๆ ร่อยหรอตามไปด้วย หากคุณพ่อคุณแม่ตระหนักได้ว่าตนเองตกอยู่ในภาวะดังกล่าว ก็ถือเป็นโชคดีที่จะได้รู้ถึงความเลวร้ายและถอนตัวออกมา แต่หลายคนก็ไม่สามารถทำได้ เพราะจิตใจไม่เข้มแข็ง เมื่อถูกเพื่อนชวนก็ใจอ่อนตกปากรับคำไปกับเขา ปล่อยให้ลูก ๆ และครอบครัวล่มสลายทางใครทางมันก็มีให้พบเห็นอยู่บ่อย ๆ

ท้ายที่สุดนี้ ทีมงานเชื่อว่า ข้อเสียของคนเป็นพ่อแม่ทั้ง 6 ประการ หากลด ละ เลิกได้ ครอบครัวและลูก ๆ จะมีความสุขขึ้นอีกมากค่ะ และเราเชื่อว่าคนเราเมื่อเลือกเป็นพ่อแม่ของเด็กสักคนหนึ่งแล้ว การจะกล่อมเกลาเลี้ยงเขาให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ อาจไม่จำเป็นต้องหาเทคนิคสร้างเด็กดีจากที่ไหน เพราะบางเรื่องก็สร้างได้จากตัวคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง อยู่ที่ว่า วันนี้คุณจะยอมรับและปรับตัวเพื่อลูก ๆ กันหรือเปล่าค่ะ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

17 Aug 2014  |  Comment by : deknoinid
Comment 4
5. พ่อแม่ที่พูดในสิ่งไม่ดี

มีผู้ใหญ่หลายคนที่คิดว่าตนเองโตแล้วจะพูดอะไรก็ได้ และคนที่ต้องรับฟังก็คือเด็กที่ไม่สามารถต่อกรได้ ในจุดนี้อยากเรียนว่า คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเด็กล้วนมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กทั้งสิ้น ถ้าอยากให้ลูกเติบโตเป็นคนดีของสังคม ก็ควรจะป้อนสิ่งดี ๆ ให้ลูก ในทางตรงกันข้าม ถ้าพ่อแม่หรือคนเลี้ยงเด็กคอยแต่ป้อนสิ่งไม่ดี เช่น พูดจากระแนะกระแหน ต่อว่าด่าทอ เชื่อว่าจิตใจของเด็กก็จะบอบช้ำ และต้องทุกข์กับความเลวร้ายของคำพูดแย่ ๆ เหล่านี้ไปอีกนาน

ส่วนคำถามที่ว่าจะฝึกตัวเองให้พูดในสิ่งดี ๆ ได้อย่างไร ในทางพุทธศาสนาได้ให้คำชี้แนะเอาไว้ดังนี้ค่ะ ได้แก่ การเลือกพูดแต่ความจริง เลือกกล่าวในสิ่งที่ทำให้ผู้ฟังสบายใจ การกล่าวด้วยถ้อยคำสุภาพ และเป็นถ้อยคำที่ให้สติแก่ผู้อื่น เรื่องบางเรื่องตอบไม่รู้ไปบ้างดีกว่าการกล่าวถ้อยคำที่เป็นโทษออกไปก็น่าจะ ดีกว่าค่ะ


17 Aug 2014  |  Comment by : deknoinid
Comment 3
4. พ่อแม่ที่อารมณ์ปรวนแปร

เพราะการเลี้ยงลูกต้องใช้ความอดทนอย่างสูง โดยเฉพาะลูกที่ยังเป็นเด็กไร้เดียงสา บางครั้งก็อาจเผลอทำบางสิ่งบางอย่างขัดตาขัดใจพ่อแม่ขึ้นมาได้ จนพ่อแม่บางคนสะกดอารมณ์ไม่อยู่ต้องตีกันสักเพี้ยะสองเพี้ยะ แต่ถ้านั่นเป็นแค่การแสดงอารมณ์โกรธ และตีเพื่อระบายอารมณ์ของตัวเอง ก็เท่ากับเป็นการสอนเรื่องการใช้ความรุนแรงให้กับลูกไปในตัว

แม้ว่าการแก้ไขนิสัยเจ้าอารมณ์ของคนเป็นพ่อแม่จะเป็นเรื่องยาก แต่พ่อแม่ที่มีนิสัยนี้ติดตัวก็คงเข้าใจถึงความเลวร้ายของมันได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยไม่มีใครต้องการส่งต่อนิสัยเจ้าอารมณ์ให้กับลูกเป็น แน่ ดังนั้น การฝึกความอดทนอดกลั้นเป็นทางเดียวที่จะยุติปัญหานี้ ถ้าทนไม่ไหวจริง ๆ แทนที่จะตีลูกอาจเดินออกไปสงบสติอารมณ์ข้างนอก (แต่ถ้าจะทิ้งลูกไว้คนเดียวในห้อง ต้องมั่นใจว่าแกอยู่ในที่ที่ปลอดภัยด้วยนะคะ)

นอกจากนั้น การเปลี่ยนทัศนคติ มองสิ่งต่าง ๆ ที่ลูกทำในแง่บวกเข้าไว้ก็ช่วยได้เช่นกัน เพราะเมื่อลูกทำบางสิ่งที่ไม่ถูกใจ การมองในแง่บวกก็อาจช่วยให้คุณหัวเราะไปกับความน่ารักของเด็ก ๆ แทนการโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง หรือตีความว่าลูกดื้อ ลูกท้าทาย นั่นเอง


17 Aug 2014  |  Comment by : deknoinid
Comment 2
3. พ่อแม่ที่เมินกฎของบ้าน

กฎของบ้านจะตั้งโดยใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ (โดยเฉพาะตอนลูกเล็ก ๆ ลูกไม่มีทางมาตั้งกฎแข่งกับพ่อแม่ได้แน่นอน) แต่ก็อาจจะมีบ้างเช่นกันที่คนเป็นพ่อแม่ลืมกฎที่ตนเองเคยตั้งไว้ และทำบางสิ่งบางอย่างผิดไปจากกฎนั้น ๆ เช่น เคยบอกลูกว่าต้องเก็บของให้เรียบร้อย แต่พอถึงคราวตนเองกลับวางของทิ้งเรี่ยราด ไม่เป็นที่เป็นทาง เคยสอนลูกให้ประหยัด เหลือเงินกลับบ้านให้นำมาหยอดกระปุก แต่ตนเองกลับใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนบางครั้งต้องมาแอบแคะกระปุกลูก

เมื่อพ่อแม่เป็นเช่นนี้บ่อย ๆ สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือ การที่ลูกพยายามจะฝ่าฝืนกฎของบ้านบ้าง แน่นอนว่าเมื่อลูกทำ พ่อแม่ก็จะตำหนิว่าลูกดื้อ แต่อาจไม่ได้มองไปว่า ตนเองต่างหากที่ละเมิดกฎของบ้านให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง

กรณีนี้ ไม่มีทางแก้ใดดีไปกว่าการพยายามสำรวจตัวเองในทุก ๆ วัน ว่าคุณทำสิ่งใดลงไปบ้าง มันผิดหรือมันถูก เสียใจหรือดีใจ และพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อที่ในทุก ๆ วันที่ยังได้ตื่นขึ้นมาเจอหน้าลูก ๆ และครอบครัว พวกเขาจะได้เจอคุณพ่อคุณแม่ที่น่ารักมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง


17 Aug 2014  |  Comment by : deknoinid
Comment 1
2. พ่อแม่ไม่มีวินัย

พ่อแม่ผู้ปกครองที่ถือคติว่าขอเบียดเบียน (คนอื่น) สักหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอก เช่น ไปรับส่งลูกก็ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร หรือไปซื้อของก็ไม่ต่อแถวกลับหาทางลัดคิวคนอื่น เหล่านี้ จะสร้างลูกให้เป็นคนดีของสังคมก็อาจจะยาก เพราะเด็กก็จะดูจากพฤติกรรมของพ่อแม่ และมองว่าการทำสิ่งเหล่านี้คงไม่เป็นไร

สำหรับพ่อแม่ที่สะกิดใจและคิดว่าตนเองอาจมีปัญหาดังกล่าว ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราอีกสักนิดหนึ่งว่า ถ้าเป็นคนอื่นมาจอดรถเกะกะขวางทางหน้ารถคุณพ่อคุณแม่ คุณจะรู้สึกหงุดหงิดเพียงใด ถ้าได้ลองคิดและพยายามทำความเข้าใจมุมมองของคนอื่นดูบ้างแล้ว ก็เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่เองก็จะพยายามลด ละ เลิก นิสัยไม่มีวินัยของตนเองลงเช่นกัน ซึ่งถ้าทำได้ ลูก ๆ ก็จะได้เรียนรู้พฤติกรรมดี ๆ และสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุขนั่นเองค่ะ (ส่วนพ่อแม่ก็จะได้นอนตายตาหลับกันด้วยค่ะ)


17 Aug 2014  |  Comment by : deknoinid

Comment



Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: BOY2014 1
โพสต์โดย: RibbitTang 19
โพสต์โดย: nu_numfon 1
โพสต์โดย: flockie 18
โพสต์โดย: thememory 10
โพสต์โดย: chinnatat 1
โพสต์โดย: Momay 0
โพสต์โดย: *-* 12

Interest Product