For Health

For Health
อึดอัดถ่ายไม่ออก เมนส์ไม่มา คอลัมน์แพทย์แผนไทย : นิตยสารตั้งตัว <br> <br> <br> <br> เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ซึ่งลงบทสัมภาษณ์ของดาราสาวสวยระดับนางเอกท่าน <br> <br> หนึ่ง เกี่ยวกับร่างกายของเธอที่มีการผิดปกติ เธอมีอาการอุจจาระไม่ออก เมนส์ไม่มา แถมเธอยังเข้า <br> <br> ใจว่าการที่เมนส์มาบ้างไม่มาบ้างแล้วแต่อารมณ์นั้นเป็นเรื่องปกติขอผู้หญิงซะอีก <br> <br> <br> <br> เธอบอกว่าไม่ชอบดื่มน้ำเพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อย ส่วนใหญ่พวกดาราก็มักเป็นอย่างนี้ เพราะต้องอยู่แต่ <br> <br> ในกองถ่ายจะหาห้องน้ำสะอาดๆยาก เลยต้องอั้นอุจจาระปัสสาวะเอาไว้ หรือแก้โดยการไม่ดื่มน้ำจะได้ไม่ <br> <br> ต้องปัสสาวะ พฤติกรรมดังกล่าวนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะดาราหรอกครับ มีอีกหลายอาชีพที่เป็นกันอย่างนี้ อาจจะ <br> <br> เป็นเพราะภาวะสังคมที่รีบเร่งแข่งขันกัน ท่านที่ทำงานนั่งอยู่กับคอมพิวเตอร์หรือพนักงานทำบัญชีด้วยแล้ว <br> <br> ไม่ค่อยอยากจะลุกไปเข้าห้องน้ำกัน กลัวจะเสียเวลาทำงานหรือลืมเข้าห้องน้ำก็มี พอทำอย่างนี้ไปนานๆ <br> <br> เข้าร่างกายเราก็สร้างความคุ้นเคยว่าไม่ต้องอุจจาระไม่ต้องปัสสาวะกันเลย โดยร่างกายเข้าใจว่าวิธี การนี้ถูกต้อง <br> <br> <br> <br> ร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำ 70 กว่าเปอร์เซนต์ เลือดเราประกอบด้วยน้ำ 90 กว่าเปอร์เซนต์ <br> <br> กระดูกเราก็ประกอบด้วยน้ำ 22 เปอร์เซนต์ ร่างกายเราเสียน้ำวันละ 2 ลิตรเศษ แล้วรับน้ำเข้าไป <br> <br> เพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่พอเราก็ถือว่าขาดน้ำ ร่างกายและอวัยวะภายในจะรวนผิดปกติไปหมด <br> <br> เลือดเราจะข้นหนืดยากที่หัวใจจะสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายส่วนต่างๆของร่างกายหัวใจเองนั่น <br> <br> แหละจะตีบตันเสียก่อน ต้องทำบายพาสกันวุ่นวาย ความจำก็จะเสื่อมหรือเป็นอัลไซเมอร์ เพราะเลือด <br> <br> เลี้ยงสมองไม่พอ เส้นเลือดก็จะตีบตันหมดหรือไม่มีเลือดจะขึ้นไปเลี้ยง <br> <br> <br> <br> จากประสบการณ์ที่พบคนไข้ที่เป็นโรคความจำเสื่อมเป็นถึงระดับผู้บริหารใหญ่ๆก็หลายท่าน ดื่มน้ำวันละ2-3 <br> <br> แก้ว ไม่เกิน 500 ซี.ซี. เลือดก็ข้นหนืด เต็มไปด้วยไขมัน สังเกตุได้หัวตาเหมือนกับเอาพู่กันป้ายสีขาวไว้ <br> <br> และก็ฟันธงได้เลยว่าทุกรายถ้าดื่มน้ำอย่างนี้คลอเรสเทอรอลสูงทุกคน รอให้เส้นเลือดอุดตันได้เลย <br> <br> <br> <br> เมื่อไปหาหมอ หมอก็จะจ่ายยาละลายลิ่มเลือดให้กิน มันก็เหมือนเราเอาสารส้มแกว่งในตุ่มน้ำเพื่อให้น้ำใส <br> <br> ตะกอนเมื่อมันนอนก้นน้ำก็จะใส แต่ถ้าเอาอะไรไปแกว่งทำให้น้ำกระเทือน ตะกอนก็ยังจะลอยขึ้นมาทำให้ <br> <br> น้ำขุ่นอีกอยู่ดี เช่นเดียวกัน เมื่อเรากินยาเลือดก็จะใส แค่ตะกอนในร่างกายมันยังไม่ออก ยังนอนก้นอยู่ใน <br> <br> ร่างกายเรา ดังนั้นเราต้องใช้น้ำพาตะกอนเหล่านั้นออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะกลับไปอุดตันเส้นเลือด <br> <br> เราอีก <br> <br> <br> <br> เมื่อร่างกายขาดน้ำลำไส้ก็แห้ง ไม่มีน้ำที่จะพอเอาอุจจาระออกมาได้ของเสียก็จะสะสมอยู่ในลำไส้ และ <br> <br> ลำไส้ก็ดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายอีก เลือดเราก็ยังสกปรกและข้นหนืดมากขึ้นไปอีก และลอง <br> <br> พิจารณาดูครับว่า เลือดที่เสียเมื่อเข้าไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายแล้วนั้น จะให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก <br> <br> มายเพียงใด <br> <br> <br> <br> ที่ถูกแล้วเราควรจะอุจจาระ 1-3 ครั้งทุกๆวัน ออกมาเป็นเส้นไม่เล็กนัก ปริมาณพอสมควรกับอาหารที่เรา <br> <br> ทานเข้าไป ไม่ใช่ทานเข้าไป 1 กิโลกรัม ถ่ายออกมา 1 ขีด ที่เหลือหายไปไหนหมด มันเข้าไปบำรุงร่าง <br> <br> กายเราทั้งหมดหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราคงตัวโตเท่าช้างแน่ <br> <br> <br> <br> การที่รอบเดือนหายไป 5-6 เดือนหรือมาๆหยุดๆ แล้วแต่อารมณ์นั้น ไม่ใช่เรื่องปกติของผู้หญิงทั่วไป ที่ถูก <br> <br> แล้วรอบเดือนจะช้าเร็วไม่ควรเกิน 7 วัน ถ้าผิดไปจากนี้ถือว่าไม่ถูกต้องยกเว้นแต่ตั้งครรภ์ <br> <br> <br> <br> สำหรับดาราสาวท่านนี้ ดื่มน้ำน้อยมาก เลือดคงจะข้นหนืด ผนังมดลูกคงจะแห้งไม่ลอกหลุดออกมาเมื่อมีไข่ <br> <br> ตกและไม่ได้รับการผสมพันธุ์ เลือดนั้นก็ยังสะสมเป็นของเสียอยู่ที่ผนังมดลูกเดือนแล้วเดือนเล่า เมื่อช่อง <br> <br> ทางการขับของเสียดำเนินไม่ได้ตามธรรมชาติ ร่างกายก็จะสร้างรั้วขอบเขตเป็นถุงเป็นเนื้องอก มาหุ้ม <br> <br> ห่อของเสียนั้นไว้ ของเสียก็จะค่อยๆกลายเป็นเนื้องอกและกลายเป็นมะเร็งในที่สุด <br> <br> <br> <br> ช่องทางในการขับของเสียออกจะมีอยู่ 5 ช่องทางด้วยกันคือ <br> <br> 1. ไต ขับออกมาทางปัสสาวะ <br> <br> 2. ลำไส้ใหญ่ ขับออกมาทางอุจจาระ <br> <br> 3. ปอด ขับออกมาทางลมหายใจ <br> <br> 4. ผิวหนัง ขับออกมาทางเหงื่อ <br> <br> 5. รอบเดือน ขับออกมาทางประจำเดือน <br> <br> <br> <br> เมื่อช่องทางการขับของเสียไม่สมบูรณ์ หรือถูกปิดกั้นมันก็จะต้องพยายามหาทางออกให้ได้ เช่น ออกมาเป็น <br> <br> สิว ฝ้า กระ ฝี ริดสีดวง สิ่งเหล่านี้เป็นของเสียที่ร่างกายพยายามขับออกมาทั้งนั้น ดังนั้นถ้าเรามีอาการดังที่กล่าวมา <br> <br> ก็ขอให้เราจงเข้าใจด้วยว่าร่างกายเรามีของเน่าเสียอยู่ภายในแล้ว มันเป็นสัญญาณเตือนภัย <br> <br> ที่เราไม่ควรมองข้าม หรือกินแต่ยา ฉีดยากดอาการเหล่านี้ไว้ไม่ให้แสดงออก เพราะนั่นไม่ใช่วิธีการรักษา <br> <br> หรือบำบัดโรคต่างๆให้หายไป แต่กลับเป็นการทำให้โรคหรืออาการนั้นรุกคืบไปเรื่อยๆ เหมือนรุกใต้ดินโดย <br> <br> ที่เราไม่รู้สึกอะไร จะรู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่อสายเสียแล้ว... <br> <br> <br> <br> ที่มา : นิตยสารตั้งตัว ฉบับเดือน เมษายน <br> 20 Jul 2006 \| Post by : PangRum

อึดอัดถ่ายไม่ออก เมนส์ไม่มา คอลัมน์แพทย์แผนไทย : นิตยสารตั้งตัว 
 
 
 
เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ซึ่งลงบทสัมภาษณ์ของดาราสาวสวยระดับนางเอกท่าน 
 
หนึ่ง เกี่ยวกับร่างกายของเธอที่มีการผิดปกติ เธอมีอาการอุจจาระไม่ออก เมนส์ไม่มา แถมเธอยังเข้า 
 
ใจว่าการที่เมนส์มาบ้างไม่มาบ้างแล้วแต่อารมณ์นั้นเป็นเรื่องปกติขอผู้หญิงซะอีก 
 
 
 
เธอบอกว่าไม่ชอบดื่มน้ำเพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อย ส่วนใหญ่พวกดาราก็มักเป็นอย่างนี้ เพราะต้องอยู่แต่ 
 
ในกองถ่ายจะหาห้องน้ำสะอาดๆยาก เลยต้องอั้นอุจจาระปัสสาวะเอาไว้ หรือแก้โดยการไม่ดื่มน้ำจะได้ไม่ 
 
ต้องปัสสาวะ พฤติกรรมดังกล่าวนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะดาราหรอกครับ มีอีกหลายอาชีพที่เป็นกันอย่างนี้ อาจจะ 
 
เป็นเพราะภาวะสังคมที่รีบเร่งแข่งขันกัน ท่านที่ทำงานนั่งอยู่กับคอมพิวเตอร์หรือพนักงานทำบัญชีด้วยแล้ว 
 
ไม่ค่อยอยากจะลุกไปเข้าห้องน้ำกัน กลัวจะเสียเวลาทำงานหรือลืมเข้าห้องน้ำก็มี พอทำอย่างนี้ไปนานๆ 
 
เข้าร่างกายเราก็สร้างความคุ้นเคยว่าไม่ต้องอุจจาระไม่ต้องปัสสาวะกันเลย โดยร่างกายเข้าใจว่าวิธี การนี้ถูกต้อง 
 
 
 
ร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำ 70 กว่าเปอร์เซนต์ เลือดเราประกอบด้วยน้ำ 90 กว่าเปอร์เซนต์ 
 
กระดูกเราก็ประกอบด้วยน้ำ 22 เปอร์เซนต์ ร่างกายเราเสียน้ำวันละ 2 ลิตรเศษ แล้วรับน้ำเข้าไป 
 
เพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่พอเราก็ถือว่าขาดน้ำ ร่างกายและอวัยวะภายในจะรวนผิดปกติไปหมด 
 
เลือดเราจะข้นหนืดยากที่หัวใจจะสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายส่วนต่างๆของร่างกายหัวใจเองนั่น 
 
แหละจะตีบตันเสียก่อน ต้องทำบายพาสกันวุ่นวาย ความจำก็จะเสื่อมหรือเป็นอัลไซเมอร์ เพราะเลือด 
 
เลี้ยงสมองไม่พอ เส้นเลือดก็จะตีบตันหมดหรือไม่มีเลือดจะขึ้นไปเลี้ยง 
 
 
 
จากประสบการณ์ที่พบคนไข้ที่เป็นโรคความจำเสื่อมเป็นถึงระดับผู้บริหารใหญ่ๆก็หลายท่าน ดื่มน้ำวันละ2-3 
 
แก้ว ไม่เกิน 500 ซี.ซี. เลือดก็ข้นหนืด เต็มไปด้วยไขมัน สังเกตุได้หัวตาเหมือนกับเอาพู่กันป้ายสีขาวไว้ 
 
และก็ฟันธงได้เลยว่าทุกรายถ้าดื่มน้ำอย่างนี้คลอเรสเทอรอลสูงทุกคน รอให้เส้นเลือดอุดตันได้เลย 
 
 
 
เมื่อไปหาหมอ หมอก็จะจ่ายยาละลายลิ่มเลือดให้กิน มันก็เหมือนเราเอาสารส้มแกว่งในตุ่มน้ำเพื่อให้น้ำใส 
 
ตะกอนเมื่อมันนอนก้นน้ำก็จะใส แต่ถ้าเอาอะไรไปแกว่งทำให้น้ำกระเทือน ตะกอนก็ยังจะลอยขึ้นมาทำให้ 
 
น้ำขุ่นอีกอยู่ดี เช่นเดียวกัน เมื่อเรากินยาเลือดก็จะใส แค่ตะกอนในร่างกายมันยังไม่ออก ยังนอนก้นอยู่ใน 
 
ร่างกายเรา ดังนั้นเราต้องใช้น้ำพาตะกอนเหล่านั้นออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะกลับไปอุดตันเส้นเลือด 
 
เราอีก 
 
 
 
เมื่อร่างกายขาดน้ำลำไส้ก็แห้ง ไม่มีน้ำที่จะพอเอาอุจจาระออกมาได้ของเสียก็จะสะสมอยู่ในลำไส้ และ 
 
ลำไส้ก็ดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายอีก เลือดเราก็ยังสกปรกและข้นหนืดมากขึ้นไปอีก และลอง 
 
พิจารณาดูครับว่า เลือดที่เสียเมื่อเข้าไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายแล้วนั้น จะให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก 
 
มายเพียงใด 
 
 
 
ที่ถูกแล้วเราควรจะอุจจาระ 1-3 ครั้งทุกๆวัน ออกมาเป็นเส้นไม่เล็กนัก ปริมาณพอสมควรกับอาหารที่เรา 
 
ทานเข้าไป ไม่ใช่ทานเข้าไป 1 กิโลกรัม ถ่ายออกมา 1 ขีด ที่เหลือหายไปไหนหมด มันเข้าไปบำรุงร่าง 
 
กายเราทั้งหมดหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราคงตัวโตเท่าช้างแน่ 
 
 
 
การที่รอบเดือนหายไป 5-6 เดือนหรือมาๆหยุดๆ แล้วแต่อารมณ์นั้น ไม่ใช่เรื่องปกติของผู้หญิงทั่วไป ที่ถูก 
 
แล้วรอบเดือนจะช้าเร็วไม่ควรเกิน 7 วัน ถ้าผิดไปจากนี้ถือว่าไม่ถูกต้องยกเว้นแต่ตั้งครรภ์ 
 
 
 
สำหรับดาราสาวท่านนี้ ดื่มน้ำน้อยมาก เลือดคงจะข้นหนืด ผนังมดลูกคงจะแห้งไม่ลอกหลุดออกมาเมื่อมีไข่ 
 
ตกและไม่ได้รับการผสมพันธุ์ เลือดนั้นก็ยังสะสมเป็นของเสียอยู่ที่ผนังมดลูกเดือนแล้วเดือนเล่า เมื่อช่อง 
 
ทางการขับของเสียดำเนินไม่ได้ตามธรรมชาติ ร่างกายก็จะสร้างรั้วขอบเขตเป็นถุงเป็นเนื้องอก มาหุ้ม 
 
ห่อของเสียนั้นไว้ ของเสียก็จะค่อยๆกลายเป็นเนื้องอกและกลายเป็นมะเร็งในที่สุด 
 
 
 
ช่องทางในการขับของเสียออกจะมีอยู่ 5 ช่องทางด้วยกันคือ 
 
1. ไต ขับออกมาทางปัสสาวะ 
 
2. ลำไส้ใหญ่ ขับออกมาทางอุจจาระ 
 
3. ปอด ขับออกมาทางลมหายใจ 
 
4. ผิวหนัง ขับออกมาทางเหงื่อ 
 
5. รอบเดือน ขับออกมาทางประจำเดือน 
 
 
 
เมื่อช่องทางการขับของเสียไม่สมบูรณ์ หรือถูกปิดกั้นมันก็จะต้องพยายามหาทางออกให้ได้ เช่น ออกมาเป็น 
 
สิว ฝ้า กระ ฝี ริดสีดวง สิ่งเหล่านี้เป็นของเสียที่ร่างกายพยายามขับออกมาทั้งนั้น ดังนั้นถ้าเรามีอาการดังที่กล่าวมา 
 
ก็ขอให้เราจงเข้าใจด้วยว่าร่างกายเรามีของเน่าเสียอยู่ภายในแล้ว มันเป็นสัญญาณเตือนภัย 
 
ที่เราไม่ควรมองข้าม หรือกินแต่ยา ฉีดยากดอาการเหล่านี้ไว้ไม่ให้แสดงออก เพราะนั่นไม่ใช่วิธีการรักษา 
 
หรือบำบัดโรคต่างๆให้หายไป แต่กลับเป็นการทำให้โรคหรืออาการนั้นรุกคืบไปเรื่อยๆ เหมือนรุกใต้ดินโดย 
 
ที่เราไม่รู้สึกอะไร จะรู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่อสายเสียแล้ว... 
 
 
 
ที่มา : นิตยสารตั้งตัว ฉบับเดือน เมษายน

20 Jul 2006 | Post by : PangRum

Comment 2
ร่างกายคนเรานี่มี2ด้านเนอะ มีทั้งทำให้ดีและไม่ดีสุดท้ายร่างกายเราเองก็ได้รับผลกระทบมากที่สุด น่ากลัวจัง 24 Jul 2006 \| Comment by : TingTong

Comment 2

ร่างกายคนเรานี่มี2ด้านเนอะ มีทั้งทำให้ดีและไม่ดีสุดท้ายร่างกายเราเองก็ได้รับผลกระทบมากที่สุด น่ากลัวจัง

24 Jul 2006 | Comment by : TingTong

Comment 1
<br> ถูกต้องแล้วค่ะ <br> เพราะนอกจากการที่เราจะอดน้ำไม่ฉี่หรือกลั้นอุจจาระ จะเป็นผลร้ายต่อร่างกายแล้ว มันจะทำให้เป็นนิ่วด้วยนะคะ อันตรายต่อร่างกายมากๆ แล้วถ้ายิ่งเป็นดารา ต่อให้ร่างกายขาดน้ำพวกครีมชะโลมผิวก็ช่วยให้ผิวคุณชุ่มชื่นได้ไม่เต็มที่เหมือนกับน้ำเปล่าหรอกนะคะ <br> แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องเห็นใจเพราะการเป็นดารานั้นก็งานยุ่งแถมเป็นอะไรที่ต้องใส่ใจกับความสวยความงามไปซะหมด เวลาที่มีให้กับตัวเองก็ไม่ค่อยจะมี แต่ยังไงก็อยากฝากให้พวกเรา (ซึ่งเป้นคนดู) ก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ <br> <br> <img src="pic/b4.gif"> 21 Jul 2006 \| Comment by : MilkyWay

Comment 1

ถูกต้องแล้วค่ะ 
เพราะนอกจากการที่เราจะอดน้ำไม่ฉี่หรือกลั้นอุจจาระ จะเป็นผลร้ายต่อร่างกายแล้ว มันจะทำให้เป็นนิ่วด้วยนะคะ อันตรายต่อร่างกายมากๆ แล้วถ้ายิ่งเป็นดารา ต่อให้ร่างกายขาดน้ำพวกครีมชะโลมผิวก็ช่วยให้ผิวคุณชุ่มชื่นได้ไม่เต็มที่เหมือนกับน้ำเปล่าหรอกนะคะ 
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องเห็นใจเพราะการเป็นดารานั้นก็งานยุ่งแถมเป็นอะไรที่ต้องใส่ใจกับความสวยความงามไปซะหมด เวลาที่มีให้กับตัวเองก็ไม่ค่อยจะมี แต่ยังไงก็อยากฝากให้พวกเรา (ซึ่งเป้นคนดู) ก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ 
 
<img src="pic/b4.gif">

21 Jul 2006 | Comment by : MilkyWay

Beauty Clinic

เมโกะ คลินิก Meko Clinic

View Details

Webboard
ทาลิปสติก สำหรับสาวปากคล้ำ! 1 Jan 1970 โพสต์โดย: NongLukBua 3
การฝังเข็มช่วยในการรักษาให้ได้ผลได้อย่างไร? 24 Dec 4190 โพสต์โดย: jndweb 0
ดอกไม้สวยๆ ดูแล้วสดชื่นจังเลย 1 Jan 1970 โพสต์โดย: แม้ว 13
Pix..รอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ที่ติทส์สุดในประเทศ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: dudesweet 0
กู้หน้าพัง ปราบสิว ให้หน้าใส 1 Jan 1970 โพสต์โดย: aime_clinic 0
วินาทีสุดโรแมนติค ในโลกของมนุษย์ และโลกของแมว 1 Jan 1970 โพสต์โดย: maewmiao 3
สาวน้อยเปลือยอกริมหาด ? 1 Jan 1970 โพสต์โดย: ใบตอง 1
รีวิว CeraVe : Facial Lotion ไอเทมสุดฮิตที่ทุกคนกำลังตามหา ตัวที่ปูเป้แนะนำในพันทิพ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: EOS 0

Webboard