Talk About Women

ขณะจูบ
เพิ่งจะได้จูบกะแฟนครั้งแรกค่ะ ตื่นเต้นมาก แฟนเขาก้อให้สัญญานะคะ ว่า แค่จูบอย่างเดียว ไม่มีอย่างอื่น ซึ่งเขาก้อทำได้อย่างที่เขาบอกจริงๆ .. ทีนี้ เวลาจูบเนี่ย ดิชั้นลืมตาดูเขาจูบตลอดเลยค่ะ มีคนบอกว่า ขณะจูบไม่ควรลืมตา เพราะจะเป้นการเสียมารยาท จริงหรือเปล่า ดิชั้นลืมตาตลอดเลย ดูหน้าเขา เวลาจูบ เขาก้อหลับตา .. น่ารักดีค่ะ .. หรือว่า การหลับตา ทำให้สามารถ จินตนาการ อะไรต่ออะไรได้คะ.. ดิชั้นอยากจูบเก่งๆ ให้เขาประทับใจ ต้องทำยังไงดีคะเนี่ย

31 Jul 2006  |  Post by : หญิง
Comment 10
ถ้าลืมตาต้องลืมทั้งคู่ ไม่งั้ยจาเหมือนแอบมอง

22 May 2007  |  Comment by : varot
Comment 9
<img src="pic/b5.gif">

3 Apr 2007  |  Comment by : fancream
Comment 8
จูบด้วยความรักไม่น่าเกลียด ลืมตาก้อดีคับ <br>
<br>
<br>
((โอ้ววว โลกนี้ช่างสดใส ความรักช่างหวานซึ้งงงงง))

1 Aug 2006  |  Comment by : SatoruEx
Comment 7
เราก็จูบไม่เป็นหรอก ให้เขาจูบเราฝ่ายเดียวอะ แต่เราชอบหลับตานะ เพราะว่า รู้สึกว่าอบอุ่นเวลาเขาจูบเสร็จเขาก็จะกอดเราไว้แน่นมาก เราก็หลับตาอีก ลองทำดูสิ แล้วจะรู้สึกว่าอบอุ่นและรักเขามากขึ้นด้วย

1 Aug 2006  |  Comment by : มือใหม่เหมือนกัน
Comment 6
แล้วแต่คนจิงๆนะคะ ผู้ชายบางคนอยากให้เราลืมตาแล้วเค้าก็ลืมตามองตาเราด้วย มันรู้สึกถึงความรู้สึกเค้าได้เหมือนกันนะคะ แต่ถ้าให้หลับตาก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ จูบเก่งเนี้ยมันต้องมีเทคนิคส่วนบุคคลนะคะ หรืออาจจะแบบว่า เค้าจูบมายังไง เราก็จูบแบบนั้นเค้ากลับไปก็ได้คะ

1 Aug 2006  |  Comment by : MoonoY
Comment 5
เรามองไม่เห็นรูปประเภทใดประเภทหนึ่ง ที่จะครอบงำจิตใจของบุรุษ แล้วตั้งมั่นอยู่ เหมือนรูป <br>
ของสตรี; และไม่เห็นกลิ่นชนิดใดชนิดหนึ่งที่ครอบงำจิตใจของบุรุษ แล้วตั้งมั่นอยู่เหมือนกลิ่น <br>
ของสตรี; แล้วก็ไม่เห็นรสชนิดใดชนิดหนึ่ง เกิดขึ้นครอบงำจิตใจของบุรุษ แล้วตั้งมั่นอยู่เหมือน <br>
รสที่เกิดมาจากหรือเนื่องมาจากสตรี; ไม่เห็นโผฏฐัพพะหรือสัมผัสทางผิวหนังชนิดใดชนิดหนึ่ง <br>
เกิดขึ้นครอบงำจิตบุรุษ แล้วตั้งมั่นอยู่เหมือนโผฏฐัพพะที่เนื่องมาจากสตรี; ไม่เห็นธรรมารมณ์อัน <br>
ใดอันหนึ่ง คือความคิด ความนึก ความฝัน อะไรก็ตาม ที่ครอบงำจิตใจบุรุษ แล้วตั้งมั่นอยู่เหมือน <br>
ธรรมารมณ์ที่เนื่องด้วยสตรี พูดตรงกันข้ามก็ครอบงำจิตใจของสตรี...เหมือน รูป เสียง รส <br>
สัมผัส ธรรมารมณ์ ที่มาจากบุรุษ <br>
<br>
เพศรส เหล่านี้มันเป็นเพียงความหลอกลวงในทางอายตนะ ถ้าเรายังไม่รู้ทันอยู่เพียงใดมันหลอก <br>
ลวงได้อยู่เพียงนั้น คำว่า &quot;หลอกลวง&quot; นี้ มีความหมายลึกซึ้งมาก คือไม่รู้เท่า ตลอดเวลาที่ไม่รู้เท่า <br>
หรือไม่รู้ความจริง หลอกลวงนี้มีอยู่ ๒ อย่าง หลอกลวงเหมือนกับหลอกลวงคู่ปรปักษ์ อย่าง <br>
นี้ก็อย่างหนึ่ง แล้วหลอกลวงของธรรมชาติโดยที่มนุษย์ไม่อาจจะรู้ ไม่รู้สึกได้ นี้อีกอย่างหนึ่ง <br>
ที่แท้ก็คือหลอกลวงของธรรมชาติทั้งนั้น ถ้าเรายังโง่มากเกินไป เราก็ยังไม่รู้เรื่องธรรมชาติหลอก <br>
ลวง เพราะฉะนั้น เราจะเห็นว่า คนต่อคนหลอกลวงกันนี้มันตื้นนิดเดียว แต่ธรรมชาติหลอกลวง <br>
แล้ว มันลึกซึ้งจนคนไม่รู้สึก <br>
<br>
รสอร่อยที่เกิดรู้สึกอยู่ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ นั้น เป็นความหลอกลวง <br>
ภาษาจิตวิทยาก็จะเรียกว่า imagination คือมโนภาพ หรือ มโนคติ ที่สร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติ โดยไม่ <br>
รู้สึก เรื่องของเพศตรงกันข้ามทุกเรื่อง จะเป็น ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ <br>
อะไรก็ตาม ก็สำคัญที่สุดอยู่ที่เรื่องทางผิวหนัง สัมผัสทางผิวหนัง จิตมันสร้างมโนภาพซ้อนขึ้นมา <br>
อีกทีหนึ่ง เนื่องจากถูกอดีตสัญญาปรุงแต่ง ซึ่งเราไม่มีทางจะรู้สึกได้ตามธรรมชาติ เพราะว่ารูป <br>
รส กลิ่น เสียง สัมผัส อะไรก็ตาม ของเพศตรงกันข้ามนั้น มันเป็นวัตถุไม่เข้าไปในจิตใจของเราได้ <br>
คุณฟังดูให้ดี ตัวเสียง ตัวกลิ่น ตัวผู้หญิง อะไรนั้นมันไม่เข้าไปในจิตใจของเราได้ แต่ว่าจิตใจสร้าง <br>
imagination เหมือนนั้นทุกอย่างทุกประการ ขึ้นมาทันควันโดยอัตโนมัติ และไม่รู้สึกตัว ดังนั้น มัน <br>
จึงเข้าไปถึงจิตใจคนได้ <br>
<br>
ข้อนี้ถ้าเราพิสูจน์มันก็ยาก แต่พิสูจน์ได้ด้วยเหตุผลง่าย ๆ เช่นว่าเสียงของเพศตรงกันข้ามที่เรา <br>
หลงรัก แม้ถูกบันทึกในจานเสียง ในเทป มันก็ช่วยให้เกิดความรู้สึกชนิดนั้นได้ แม้จะเป็นกลิ่นรส <br>
อะไรก็ตาม ฉะนั้น คนจึงใช้ของปลอมหรือของเทียม เช่นหุ่นเทียมหรืออะไร ประกอบกิจกรรม <br>
ทางเพศได้ ถ้าสามารถสร้าง imagination ได้ แต่ถ้าไม่สามารถสร้าง imagination ได้มันก็เป็น <br>
ไปไม่ได้ แม้คนจริง ๆ หรือคนที่เรารักจริง ๆ แต่มันมีอะไรที่มาทำให้เราไม่สร้างความรู้สึกว่า <br>
เป็นอย่างนั้นได้ มันก็ไม่มีความหมายอะไร เช่น ความเกลียด หรือความอิดหนาระอาใจ เกิดขึ้น <br>
ในขณะนั้นด้วยเหตุใดก็ตาม คน ๆ นั้นก็ไม่สร้างความรู้สึกทางเพศให้ได้เหมือนกัน <br>
<br>
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ไปครอบงำจิตใจแล้วตั้งมั่นอยู่ เหมือนพระพุทธเจ้าตรัสนั้น มันคือ imagination <br>
ที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยไม่รู้สึกตัว แล้วเร็วยิ่งกว่าเร็ว จนเรากำหนดรู้ไม่ได้ว่ามันเป็นเพียง <br>
imagination นี่หลักใหญ่มีอยู่เพียงเท่านั้น คุณไปหารายละเอียดสังเกตดูเองเถิด เพราะฉะนั้น <br>
จึงพูดเป็นบทนิยามว่า &quot;เพศรส เป็นเพียงความหลอกลวงทางอายตนะ&quot; ขอย้ำว่าเพศรสที่กำลังรู้สึก <br>
อยู่นี้เป็นเพียงความหลอกลวงทางอายตนะ อายตนะ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ <br>
<br>
ทีนี้ อายตนะของใคร? ก็ของอายตนะ พูดกำปั้นทุบดินว่าของอายตนะ แล้วอายตนะของใคร? <br>
มันก็ของธรรมชาติอันเร้นลับที่สุด ธรรมชาติ ในความหมายว่า พระธรรมหรือกฎธรรมชาติ หรือ <br>
กฎธรรมชาติ อะไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ลึกลับแล้วก็สร้างสิ่งนี้มาในลักษณะอย่างนั้น คือในลักษณะ <br>
ที่ลวงมนุษย์ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นมนุษย์สูญพันธุ์ มันขึ้นอยู่กับการสืบพันธุ์ ธรรมชาติจึงฉลาดยิ่งกว่า <br>
คน หรืออะไร จนเราต้องเรียกว่าพระเจ้า หรือพระธรรม สามารถลวงสัตว์มีชีวิตหรือสิ่งมีชีวิต <br>
ทุกสิ่งได้ ด้วยอาศัยเพศรสทางอายตนะ <br>
<br>
สิ่งที่เป็นความมุ่งหมายต่อไป คือการสืบพันธุ์ ทีนี้การสืบพันธุ์ มันเป็นเรื่องไม่สนุก น่าเกลียด <br>
น่าขยะแขยง ลำบากลำบนเหลือเกิน เช่นมีลูกออกมาก็ต้องเลี้ยงดูรักษา อย่างที่มนุษย์ไม่ชอบ ไม่ <br>
ชอบที่สุด แต่ก็ต้องสมัครใจทำโดยไม่รู้สึกตัว เพราะการหลอกลวงของธรรมชาตินี้ ถ้ามีแต่การ <br>
สืบพันธุ์ล้วน ๆ ไม่มี &quot;ค่าจ้าง&quot; ชนิดที่ไม่รู้สึก ก็ไม่มีใครสืบพันธุ์ เพราะฉะนั้นในทางเพศรส หรือความ <br>
หลอกลวงทางอายตนะนี้ มันเป็นเครื่องมือหรือเป็นค่าจ้าง ที่ธรรมชาติมันจ้างคนให้ทำการ ให้ <br>
ทำในสิ่งที่คนตามธรรมดาไม่ยอมทำ คือว่า ความยุ่งยากลำบาก สกปรก โกลาหล วุ่นวายนี้ คนไม่ยอม <br>
ทำ แต่ก็มีเครื่องมือหรือค่าจ้างที่บังคับหลอกลวงให้ทำได้ โดยไม่รู้สึกตัว เพราะฉะนั้นจึงสร้างต่อม <br>
แกลนด์ชนิดหนึ่งมา เพื่อการสืบพันธุ์นั้น ให้เกิดความรู้สึกสูงสุดทางอายตนะ คืออายตนะถูกกระตุ้น <br>
ถึงที่สุดทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางผิวหนัง มันถูกกระตุ้นในอัตราที่พอเหมาะ ลึกซึ้ง <br>
สุขุมที่สุด นั้นคือสิ่งที่เรียกว่าความอร่อย หรือเรียกในบาลีว่า อัสสาทะ <br>
<br>
อัสสาทะ คือ ความอร่อยทางตา อร่อยทางหู อร่อยทางจมูก อร่อยทางผิวหนัง แล้วทางผิวหนัง <br>
เป็นเรื่องสูงสุด อร่อยสูงสุดจนคนหรือสัตว์พ่ายแพ้แก่สิ่งนี้ อร่อยสูงสุดจนคนหรือสัตว์พ่ายแพ้แก่ <br>
สิ่งนี้ ยอมเป็นทาสของสิ่งนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงถือว่าธรรมชาติมีเพศรสเป็นเครื่องมือ หรือเป็นค่าจ้าง <br>
ให้มนุษย์ทำสิ่งที่ตามปรกติมนุษย์ไม่ยอมทำ นี่พระเจ้ามาเหนือเมฆ ธรรมชาติมาเหนือเมฆกว่ามนุษย์ที่ <br>
เต็มไปด้วยความโง่ ธรรมชาติฉลาดกว่า จึงใส่อะไรมาให้เสร็จ ถ้าไม่มีการกระทำอันนี้ มนุษย์ไม่อาจ <br>
จะเกิดขึ้น ไม่อาจจะสืบพันธุ์มาจนถึงบัดนี้ มนุษย์ก็สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว หรือไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น <br>
ความเกิดขึ้นแล้วสืบพันธุ์กันมาได้จนถึงบัดนี้ ขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ คือความรู้สึกทางเพศ ที่เป็นความ <br>
อร่อยสูงสุด ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจนี้ ถ้าเรียกอย่างที่จะเตือนสติตัวเราเอง <br>
ก็เรียกว่า &quot;ค่าจ้าง&quot; มันจ้างให้เราทำสิ่งที่สกปรกโกลาหลวุ่นวาย ที่ตามธรรมดาเราไม่อยากจะทำ <br>
<br>
ขอให้ดูสัตว์เดรัจฉานต่อลงไปอีก สัตว์เดรัจฉาน เช่นสุนัข เมื่อต่อมแกลนด์มันสุกถึงที่สุด <br>
มันไม่มีชีวิตเป็นอย่างอื่น นอกจากเรื่องผสมพันธุ์กับเพศ มันกัดกันจนตาย สุนัขของเราก็เคยตาย <br>
มันกัดกันจนตายในชั่วระยะเวลา ๕-๖ วัน ที่ความรู้สึกทางเพศสูงสุด นั่นมันก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม แต่ที่ <br>
มันรู้สึกก็เพื่ออร่อยทางอายตนะสูงสุด มันเลยพยายามสุดความสามารถ ต่อสู้กัดกันจนตาย อย่างนี้ <br>
แล้วมันก็ไม่ได้รู้ว่า เพื่อการสืบพันธุ์ เพราะ &quot;นายจ้าง&quot; คือธรรมชาติ ซ่อนเร้นความลับอันนี้ไว้ <br>
ในลักษณะที่สิ่งที่มีชีวิตไม่อาจจะรู้ได้ <br>
<br>


1 Aug 2006  |  Comment by : จากท่านพระพุทธทาส
Comment 4
หลับตาจะรู้สึกปล่อยอารมณ์เราสุดๆไปเลย แต่ลืมตาไม่น่าเกียจหรอกทำให้ ช รู้สึกดีซะอีก แต่ระวังนะจูบอ่ะเปงสิ่งที่นำพาไปสู่ xxx ได้นะจ๊ะบอกให้

31 Jul 2006  |  Comment by : snoopy
Comment 3
อืม.....ถ้าเอาตาม ช ชอบเหรอคับ <br>
ก็แล้วแต่คนอีกนะ <br>
<br>
ดูแล้วกันคับว่าเค้าชอบแบบเบาๆ นุ่มๆ โรแมนติก <br>
หรือชอบแบบตื่นเต้น แลกลิ้น เร้าใจ <br>
อันนี้คงไม่ต้องสอนกันหรอกคับ <br>
เดี๋ยวมันก็เป็นเองฮะ =P

31 Jul 2006  |  Comment by : smallrock
Comment 2
<b> ไม่รู้ง่ะT_T </b> <img src="pic/b2.gif">

31 Jul 2006  |  Comment by : ayoyo
Comment 1
ก็แล้วแต่ว่าชอบลืมตาหรือเปล่า แต่ถ้าหลับตาก็อาจจะดีกว่า เหมือนอยู่ในความฝัน แต่บางคนชอบสบตากันเวลาจูบ ก็ดีไปอีกแบบนะคะ <br>
<br>
ยังไงก็ฝากด้วยละกันค่ะ จูบกันแล้ว ยังไงก็มีโอกาสที่จะเกิดอารมณ์วาบหวิวจนห้ามตัวเองไม่ไหวทั้งสองฝ่าย <br>
<br>
อยากจูบเก่งๆก็คงต้องฝึกหน่อยล่ะค่ะ เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา ไม่ต้องรีบร้อนหรอกค่ะ

31 Jul 2006  |  Comment by : StrawberryPinky

Comment



Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: emution 9
โพสต์โดย: ladyboys 3
โพสต์โดย: tawann8 0
โพสต์โดย: rungrat191 1
โพสต์โดย: myninaa 2
โพสต์โดย: แย่ๆ 18
โพสต์โดย: kHARITES 2
โพสต์โดย: buffalozy 1

Interest Product