Talk About Women

ระวัง....9 โรค..ที่คนทำงาน office ต้องเจอแน่
เริ่มกันตั้งแต่หัวดีกว่า <br>
<br>
1. โรคผมร่วง ใช่แล้วค่ะ มันเป็นโรคร้ายเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ 1 แต่มันร่วงถึง 30 เส้นต่อวัน เหอะ ๆ อาการมันก็มีสาเหตุมาจากความเครียดของท่านพนักงานทั้งหลายนั่นแหละ ยิ่งเครียดยิ่งร่วง ยิ่งร่วง โอยยิ่งเครียด <br>
<br>
แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่คุณอาจไม่เคยคิด นั่นก็คือการขาดแสงอาทิตย์ ? <br>
จริงหรือ ?? สังเกตหรือไม่คะว่าส่วนใหญ่แล้ว พนักงานฯจะไม่ค่อยได้รับแสงแดดในยามเข้า แดดในยามเช้าจะช่วยให้เราสังเคราะห์วิตามิน K ที่จำเป็นต่อร่างกาย <br>
รวมถึงหนังศรีษะด้วย ( ดูเอกสารประกอบได้จาก สุขศึกษาม.ต้น หรือวิทยาศาสตร์ ม.ต้น ) <br>
<br>
2. อาการปวดหัว , ไมเกรน , เบลอเป็นกิจวัตร <br>
สาเหตุ ก็คงทราบโดยทั่วไปด้วยว่าเกิดจากความเครียด ( ตัวนี้จะเจอในอีกหลาย ๆ โรค) แต่สาเหตุอีกประการที่น่าสนใจคือ การรับประทาน... ท่านที่มีอาการดังกล่าว เคยทานสิ่งเหล่านี้หรือไม่คะ <br>
<br>
แอลกอฮอล์ คาร์เฟอีน ( กาแฟ น้ำอัดลม ยาชูกำลัง ) อาหารไขมันสูง <br>
อาหารประเภทเนื้อสัตว์ 90% ของอาหารหลัก <br>
อีกสาเหตุหนึ่งที่น่าสนใจคือการขาดการออกกำลังกาย <br>
โดยปกติเราต้องออกกำลังกายประมาณ 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อย <br>
( ไม่นับการยกช้อน หรือเดินจากห้องนอนไปยังโต๊ะทานข้าว รวมทั้งการเคี้ยวอาหารและการหายใจ ) แต่พนักงานเงินเดือนเอาเวลาไหนไปออกำลังกายล่ะเคอะ แค่ทำงานก็ฟุบแร้ว <br>
<br>
3. อาการปวดตา น้ำตาแห้ง หน้าจอดับ เอ๊ย.. เรตินาผิดปรกติ <br>
นอกจากความเครียดแล้วก็เหตุใหญ่ ๆ ก็คือ การนั่งหน้าจอเกินวันละ 6 ชั่วโมง <br>
และการเพ่งอยู่หน้าจอในที่มืด ( ดูเวปอะไรหนอต้องเพ่งในที่มืด ) รวมทั้งการขาดวิตามิน A และ B - complex <br>
* มีบางคนบอกว่าในพริกมีวิตามิน A เลยซดเข้าไปเป็นถ้วย ๆ เออ สายตาดี <br>
แต่กระเพาะพัง ( สม ) ‘-_- <br>
หมายเหตุ : การอกหักบ่อย ๆ กระเทือนต่อสายตานะเอ้อ ร้องให้ตาบวมงี้ <br>
หรืออินเลิฟมาไปก็ระวังตาบอดนา อิอิอิ <br>
<br>
4. อาการไซนัส เป็นหวัด คัดจมูก ภูมิแพ้ <br>
ก็วัน ๆ จำศีลอยู่แต่ในห้องปรับอากาศ ถ้าเครื่องปรับอากาศเป็นรุ่นประหยัด... <br>
ประหยัดส่วนประกอบ ไม่มีตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิ์ภาพ หรือมีแต่ในห้องเจ้านาย อาการเหล่านี้จะถามหาแน่นอน ควรออกไปสูดอากาศข้างนอก...นอก กทม.บ้างอ่านะ ปอดน้อย ๆ จะได้ไม่พังก่อนเวลาอันควร <br>
<br>
5. ปากหมา ไม่ช่าย ๆ ปากเหม็นตะหาก <br>
อันเนื่องมาจาก...เอ่อ...มันอีกแล้ว ... ความเครียด แบคทีเรียจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในภาวะที่คุณเครียด รวมทั้งการพูดจาที่น้อยกว่าปกติ ( สำหรับบางท่านที่มีปัญหากับการสื่อสารกับมนุษย์ ) ทำให้น้ำลาย...บูด... เอ้าจริงนะคะ ลองสังเกตุง่าย ๆ ว่าในยามเช้า <br>
ท่านจะรู้สึกว่าอมชักโครกไว้ในปากก็ไม่ปาน (เพราะในตอนกลางคืนตอนนอนหลับเนี่ย คงไม่มีใครอุตริพูดหรอกนะ) น้ำลายจะไม่ถูกบีบออกมาในยามที่เราไม่ได้ขยับปาก ดังนั้นปากจึงแห้ง และแบคทีเรียก็จะย่อยน้ำลาย และฟันฟางของท่าน ๆ แล้วปล่อยแก๊สออกมา <br>
<br>
** อาการฟันผุก็เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ปากเหม็นได้ ** <br>
<br>
6. อาการปวดคอ ปวดไหล่ โดยมากเกิดจากอาการนั่งทำงานผิดท่าทาง <br>
นั่งเก้าอี้โต๊ะที่ไม่รองรับต่อการทำงาน (หรือถูกแฟนเตะเอา 55555) แต่ท่านรู้หรือไม่ แม้ท่านนั่งถูกท่าแล้ว แต่หากนั่งเป็นเวลานาน ๆ ก็เมื่อยอ่าเด่ะ หรือไม่จริง <br>
<br>
7. อาการ....อ้วน...อ้วน...อ้วน ก็อ้วน อ้วน อ้วน <br>
นึกถึงลูกโป่ง ถ้าเราใส่น้ำเข้าไปโดยเจาะรูให้มันออกน้อย ๆ มันก็บวมขึ้น ๆ ๆ ๆ <br>
เช่นกัน ทุกวันเรากินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อ มีพลังงานมากมายเข้า <br>
แต่ออกน้อยนิดมานก็อ้วนเป็นธรรมดา โดยที่ยาลดความอ้วยยี่ห้อไหนก็ช่วยไม่ได้ <br>
ยกเว้นยานั้นจะทำให้ไขมันในตัวท่านเปลี่ยนเป็นพลังงานทั้งหมด ( ไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 กิโลแคลลอรี่ ในตัวท่านมีกี่กรัมล่ะ <br>
แปลงเป็นพลังงานความร้อนแค่ครึ่งตัว ไฟก็ไหม้สำนักงานแล้ว ) <br>
อาหารประเภท ฟาดดูด ( พิมพ์ไม่ผิด ๆ )เช่น แฮมเบอร์เกอร์ น้ำอัดลม พิซซ่า <br>
ก็เป็นส่วนสำคัญ งานด่วน แล้วกินด่วน ก็อ้วนด่วน <br>
รวมทั้งการกินอาหารแบบกินไปทำงานไป จะทำให้อิ่มช้า <br>
และกินได้มาก ( มันไม่รู้จะอิ่มตอนไหน เห็นยุ่ง ๆ อยู่ไม่อยากขัด ) <br>
<br>
8. อาการโรคกระเพาะ กระเพาะคราก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว <br>
เคี้ยว.... ไม่ต้องโปรโมต ( แต่ไม่รวมท้องไม่มีพ่อนะคะ อิอิอิ ) <br>
มันมาอีกแล้วค่ะ ... ความเครียด ตัวการหลัก ท่าน ๆ ก็ทราบดีอยู่แล้วไม่พูดดีกว่า <br>
แต่การนอนไม่พอ ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการเหล่านี้ด้วยเช่นกัน <br>
การกินอาหารแบบเร่งรีบ ทำให้กระเพาะ และระบบขับถ่ายทำงานได้ไม่มีประสิทธิ์ภาพ และการกินไม่เป็นเวลา ดื่มกาแฟมากไป เป็นต้น <br>
<br>
9. ริดสีดวง <br>
อ่านไม่ผิด ริด-สี-ดวง เกิดจากการที่ท่านนั่งกันวันหนึ่ง ๆ กี่ชั่วโมงกัน ไหนจะ OT อีก บั้นท้ายท่านก็รับการกดทับ เส้นเลือดดำบริเวณปลายลำไส้ก็เกิดอาการเลือดคั่ง บวมเป่งสิทีนี้ ยิ่งน้ำหนักมาก อาการก็เป็นไว ควรลุกเดินบ้าง ลุกไปเชียงใหม่ <br>
ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา สุโขทัย ปัตตานี ยะลา สงขลา อุดรธานี ศรีษะเกษ แล้วค่อยกลับมานั่งทำงานต่อ <br>
<br>
ชีวิตเฉลี่ยตั้ง 60 ปีขอแค่ 7 วันต่อปีปพักผ่อนจิงๆ คงไม่มากเนอะ ยังงัยๆก็พักผ่อนกันบ้างนะคะเพื่อนๆ เที่ยวเมืองไทย ไม่ไป ไม่มีตัง เอ้ย... <br>
เที่ยวเมืองไทย ไม่ไป ไม่รู้ <br>


22 Nov 2006  |  Post by : Rattiya69
Comment 2
ดีคับอ่านแล้วได้ความรู้พร้อมกับอมยิ้มไปด้วย ขอบคุณนะคับ

3 Dec 2006  |  Comment by : เพชรคับ
Comment 1
ฮามากค่ะ แต่ได้สาระด้วย

22 Nov 2006  |  Comment by : Grace

Comment



Insurance

Webboard
โพสต์โดย: 7-11 0
โพสต์โดย: Congrats 0
โพสต์โดย: Rattiya69 2
โพสต์โดย: 7-11 1
โพสต์โดย: buddy 1
โพสต์โดย: pk400 0
โพสต์โดย: ma 0
โพสต์โดย: baobao 0

Interest Product