คุณเลือกคนรัก ด้วยหัวใจหรือสมอง? |
---|
......เรื่องราวต่อไปนี้ที่ท่านกำลังจะอ่านเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของดิฉัน ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งที่บูชาความรักจนเกินไป "รักไม่ได้ทำให้ฉันตาบอด ฉันเองที่ยอมตาบอดเพราะรักเธอ แกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไรที่ไม่ดี รักไม่ได้ทำให้ฉันตาบอด ฉันที่เลือกมองสิ่งดีที่เธอนั้นมี ......... สิ่งใดที่มันร้ายจะมองข้ามไปเพราะรักเธอ" ประโยคหนึ่งจากเพลงที่ดังในศูนย์การค้าแว่วมาขณะที่ดิฉันกำลังเลือกซื้อหนังสืออยู่ ดิฉันก็พยายามไม่สนใจเพลง และหันเหมาจดจ่อกับหนังสือที่จะซื้อแทน แต่แล้วที่หน้าหนังสือที่ฉันกำลังเปิดอ่านอยู่ก็มีหยดน้ำหยดลงมา ทีละหยด ทีละหยด....นี่เราเป็นอะไร ทำไม.....ทำไมลืมเค้าไม่ได้สักที เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ 2 ปี เมื่อ กค.2548 ดิฉันเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆคนหนึ่ง อายุขณะนั้น 28 ปี ดิฉันเป็นเจ้าของกิจการร้านSTUDIO 2 สาขา ทั้งเชียงใหม่และลำพูน ชีวิตมีความสุขมาก มีครอบครัว พ่อแม่ น้อง งานการที่มั่นคง เพื่อนฝูงมากมาย ด้วยงานที่ต้องพบปะผู้คนจึงทำให้มีผู้ชายบางคน(หลงๆ)มาจีบบ้าง แต่ด้วยนิสัยดิฉันที่เป็นคนไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ฉนั้นใครมาจีบจึงไม่ค่อยสนใจ ถ้าไม่ได้คุยกันเรื่องงานดิฉันก็แทบไม่อยากคุยด้วย ดิฉันไม่ใช่คนดีแต่ดิฉันยึดมั่นเที่สุดอยู่ 2 เรื่อง 1.คือเรื่องการถือศลี 5 2. คือเรื่องศักดิ์ศรี 2อย่างนั้นทำให้ดิฉันคิดว่าดิฉันสามารถมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข ดิฉันจึงยึดมั่นเสมอมา ดิฉันไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องอะไรให้คนอย่างดิฉันไม่สบายใจได้ จนวันหนึ่งที่พ่อแม่ได้บอกว่าหมายตาผู้ชายคนหนึ่งให้ ลองคบดูแล้วถ้าชอบจะได้ตกลงแต่งงานกันซะ "แต่งงาน???" กับคนที่ดิฉันไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าเค้า ดิฉันไม่ยอมและไม่ยอม ผลตอบแทนจากการประชดพ่อแม่คือท่านไม่สบายใจมาก ดิฉันไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวัง พอเห็นพ่อแม่เสียใจ ดิฉันก็เศร้าใจมาก กลุ้ม เครียด หาทางระบายไม่ได้จึงหวังระบายกับคนไม่รู้จักทาง MSN`ดิฉันเปิดดูรายชื่อจากเว็ปๆหนึ่งว่าพอจะมีใครที่มีวุฒิภาวะความเป็นผู้ใหญ่พอให้ดิฉันได้ปรึกษาและระบายความอัดอั้นตันใจได้บ้าง และแล้วก็มองเห็นอีเมลล์หนึ่งที่เค้าโพสไว้และใช้ข้อความชักชวนให้เข้าไปคุยกับเค้าเป็นถ้อยคำที่ไม่ลามก ไม่ส่อไปในทางชู้สาว ผิดกับคนอื่นๆ ที่โพสไว้ จึงได้ แอดเข้าไปคุยกับเค้าดิฉันปรึกษาหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องที่ดิฉันกลุ้มใจมากๆคือเรื่องแต่งงาน ปลายทางที่ให้คำปรึกษาบอกว่าควรทำตามที่พ่อแม่ต้องการ พ่อแม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แล้ว นั่นเป็นคำตอบที่ทำให้ดิฉันอยากได้ยินเสียงเขา อยากรู้จักเขาให้มากกว่านี้ ดิฉันขอเบอร์เขาจากการได้พูดคุยกันทำให้ทราบว่าเค้าเป็นผู้ชาย น่าจะอายุราวๆ 40 ปี ครั้งแรกที่ได้ยินเสียเค้าดิฉันก็ตกหลุมรักทันที ถามว่าเรียกว่าบ้าหรือเปล่าแค่ได้ยินเสียงก็ตกหลุมรักได้ แต่ดิฉันเชื่อเหลือเกินว่าใครได้ยินเสียงของเค้าก็ต้องเป็นอาการเดียวกับดิฉันทั้งนั้น เสียงเค้านุ่มฟังแล้วมีเสน่ห์ ฟังแล้วติดหู ดิฉันก็คิดว่าก็แค่คุยกันเล่นๆแก้เครียดเพราะตั้งใจไว้แล้วว่าอยากคุยกับคนที่เราคิดว่าชาตินี้จะไม่มีวันได้เจอกันแน่ๆ เพราะจะได้กล้าพูดในเรื่องที่ไม่กล้าคุยกับคนที่เรารู้จัก และฉันกับเค้าคงไม่มีวันเจอกันแน่ๆอยู่แล้วเพราะดิฉันเลือกคุยกับเค้าเพราะรู้ว่าเค้าอยู่ กทม. ส่วนฉันอยู่ เชียงใหม่ดิฉันคงไม่บ้าลงไปหาเค้า และเค้าก็คงไม่บ้าขึ้มมาหาฉันแน่นอน จึงทำให้ดิฉันเปิดอกคุยกับเค้าทุกๆเรื่อง ทุกๆเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องsex เราโทรคุยกันทุกคืน แรกๆก็วันละชม. แล้วก็เป็น 2 ชม. -3 ชม. การคุยกันนานๆอย่างนี้แล้วเค้าไม่รีบขึ้นนอนทำให้ดิฉันมั่นใจว่าเขาเป็นโสดและเขาก็บอกว่าที่บ้านอยู่กับแม่และพี่สาว เราเริ่มคุยกันมากขึ้น มากขึ้น จนดิฉันเริ่มรู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตดิฉันไปแล้ว หลังๆวันๆเราแทบโทรคุยกัน ร่วม 6-7 ชม. ต่อวัน เราส่งอีเมลล์หากันทุกวัน เวลาผ่านมาไม่ถึง เดือนเรามีอีเมลล์ส่งถึงกันเกือบร้อยฉบับ ดิฉันหลงรักผู้ชายคนนี้ซะแล้ว แล้ววันหนึ่งขณะที่โทรคุยกันก็มีเสียงผู้หญิงลอดเข้ามาในสาย ดิฉันก็อึ้ง ส่วนเค้าก็ปิดสายเลย ดิฉันพอเข้าใจทันทีว่ามันคืออะไร.... ดิฉันนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะโทรศัพท์ดังตลอด เค้าโทรมาแต่ดิฉันไม่อยากรับ พอเช้าก็ทนไม่ไหวรับโทรศัพท์ก็พบว่ามีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้แล้วบอกว่า "ฉันเป็นเมียเค้า เธอเป็นใคร โทรคุยกับสามีเค้าทำไม ถ้าไม่ตอบจะกินยาตายและจะเอายากรอกปากลูกให้ตายไปพร้อมๆกันด้วย" ดิฉันไม่รู้ว่าจะบอกว่าเป็นความรู้สึกยังไงเหมือนมีคนเดินเข้ามาตบหน้า ตบซ้าย ตบขวา แล้วดิฉันก็ยังยืนอึ้งให้เค้าตบต่อไปเพราะยังอึ้งกับสิ่งที่ได้รับฟังมา เค้ามีเมียแล้ว เค้ามีลูกด้วย ลูกสองคนด้วย อึ้งงงงงงง เคยคิดว่าอายุขนาดนี้คงมีแฟนแล้วแต่ไม่คิดว่าเค้าจะปกปิดได้ขนาดนั้นเนียนมาก เนียนจนไม่รู้ระแคะระคายเลย พอตั้งตัวได้สักพักดิฉันก็ตอบพี่สาวคนนั้นไปว่า ให้ใจเย็นและอย่าทำอะไรลูกๆ ดิฉันกับสามีคุณเราไม่เคยเห็นหน้ากันเลย (นั่นคือความจริง) เราเพียงแต่คุยกันผ่านโทรศัพท์เท่านั้น พี่สาวคนนั้นบอกให้ดิฉันคุยกับสามีเค้าว่าเราทั้งสองจะไม่ติดต่อกันอีก ดิฉันบอกพี่สาวว่าได้คะ พี่สาวเปิดลำโพงโทรศัพท์ มีแต่เสียงฉันที่บอกให้เค้ามาคุยกันให้รู้เรื่อง ส่วนเค้าไม่มีเสียงเลยเค้าเลือกที่จะเงียบ ไม่พูด ดิฉันเข้าใจว่านั่นคือวิธีที่ดีที่สุดเพราะเค้าคงไม่รู้จะพูดกับดิฉันแบบไหน แล้วเราทั้งสองก็คงหมดเรื่องที่ต้องพูดคุยกันแล้ว ตอนนั้นมีเพียงเสียงร้องไห้ของพี่สาวคนนั้นกับเสียงของเด็กๆที่ร้องไห้กัน จ้าระหวั่น พี่สาวให้เค้าสาบานว่าจะไม่ติดต่อกับดิฉันอีก เค้ารับปากและสาบานว่าถ้าติดต่อกับดิฉันอีกเค้าจะมีอันเป็นไป... ดิฉันร้องไห้ ทั้งเสียใจที่ตัวเองโง่ ทั้งเสียใจที่ทำให้ครอบครัวคนอื่นต้องเดือดร้อน เสียงของพี่สาวคนนั้นยังดังก้องอยู่ตลอดเวลา ดิฉันคิดอะไรไม่ออกรู้แต่เพียงว่าเราทำให้ครอบครัวคนอื่นต้องเดือดร้อนเกือบมีเด็กที่ต้องโดนแม่ฆ่าเพราะเรา เรามันแย่ เรามันเลว แต่ยังดีที่เรากับผู้ชายคนนั้นไม่เคยเจอกันเลย อย่างน้อยๆอีกสักพักคงจะลืมเค้าได้แต่ แต่ แต่........ มันสายไปแล้วดิฉันรักเค้าเข้าแล้วสุดหัวใจ รักจนเกินบรรยาย รักแบบไม่ได้สนใจหน้าตา ฐานะ ดิฉันเสียใจและทุกข์ใจ คิดถึงผู้ชายคนนั้นตลอดเวลา คุณเคยไหมคะคิดถึงใครมากๆจนรู้สึกหายใจไม่ออก ดิฉันเป็นคะ หัวใจมันห่อเหี่ยว ลืมไม่ลงสักที งานการเสียหมด หน้าตาไม่ยิ้มรับลูกค้าเลย จนลูกน้องและคนรอบข้างสังเกตุ วิธีเดียวที่ดิฉันคิดจะลืมเค้าได้คือแต่งงานซะ ดิฉันตัดสินใจแต่งงานคะ กับผู้ชายที่พ่อแม่หมายตาไว้ผู้ชายที่ไม่รู้จัก ผู้ชายที่ไม่เคยทานข้าวด้วย ผู้ชายที่ดิฉันไม่แม้แต่จะรู้จักชื่อจริงเค้า ตอนนั้นดิฉันรู้ข้อมูลของผู้ชายที่จะต้องแต่งงานด้วยแค่เพียงเค้าชื่อเล่นชื่อ คุณเอก เป็นคนเชียงราย อายุรุ่นแม่ เป็นรุ่นน้องที่ทำงานของพ่อดิฉัน ดิฉันทราบแค่นี้จริงๆ ดิฉันบอกแม่ว่าตกลงแต่งงานแต่ขอให้เร็วที่สุดแม่ดิฉันดีใจมากๆ ดิฉันเห็นหน้าท่านที่ท่านดีใจดิฉันก็คลายความคิดถึงเค้าคนนั้นได้ไปบางส่วน หลังจากวันที่ดิฉันบอกว่าตกลงแต่งงานคุณเอกก็เริ่มเข้ามาวนเวียนในชีวิตดิฉันมากขึ้น มากขึ้น ฉันคิดว่าจะทำให้ดิฉันลืมผู้ชายคนนั้นได้ แต่เปล่าเลย เค้ายังคงติดอยู่ในหัวใจเสมอ ผ่านไปได้ไม่ถึงอาทิตย์เค้าโทรมา เค้าบอกดิฉันว่าไม่ได้ตั้งใจปกปิดแต่คิดว่าไม่จำเป็นต้องบอก ดิฉันบอกให้เค้าเลิกโทรมาเพราะดิฉันรู้สึกผิด แต่เค้าบอกว่าเค้ารักดิฉัน อยากคุยด้วย อยากโทรมาได้ยินเสียงเพื่อเติมกำลังใจให้กันและกัน ดิฉันบอกเค้าว่าอย่าเลย มันสายไปแล้ว ดิฉันตกลงแต่งงานกับผู้ชายที่พ่อแม่เลือกให้แล้ว เค้าเงียบไป..... ฉันพูดกับเค้าน้ำเสียงราบเรียบ แต่ตอนนั้นเค้าไม่รู้หรอกว่าฉันหยิกขาของฉันเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ ไม่อยากให้เค้าสงสาร เค้าบอกว่าไม่เป็นไรนะ วันแต่งงานเค้าจะส่งใจไปยืนอยู่ข้างๆดิฉัน ให้ดิฉันคิดว่าแต่งงานกับเค้าดิฉันจะได้อยากแต่งงานและเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขเพราะเหมือนได้แต่งงานกับเค้า ....(เหรอ มันง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ ) ดิฉันมารู้ว่าตัดสินใจผิดเมื่อถึงวันแต่งงาน ดิฉันคงเป็นเจ้าสาวที่หน้าตาดูไม่ได้เลยเพราะไม่มีรอยยิ้มออกมาจากใบหน้าฉันเลยจนเพื่อนๆดิฉันทักว่าถูกบังคับแต่งงานแน่ๆ ก็ถูกอย่างที่เพื่อนพูดนั่นแหละคะ และพอเข้าเรือนหอยิ่งเป็นอะไรที่เจ็บปวดและทรมาน ที่เรารู้สึกว่าหัวใจเราเป็นของใครสักคนแล้วต้องมานอนกับอีกคน ดิฉันไม่ได้มีความรักให้กับผู้ชายที่ดิฉันแต่งงานด้วยเลยแม้แต่นิด แต่ก็สงสารเขาเพราะเขาดีกับดิฉันมากๆ พ่อแม่ดิฉันดีใจที่ได้เขาเป็นลูกเขย พูดอวดชาวบ้านทุกวัน ช่วงนั้นสภาพจิตใจฉันย่ำแย่เพราะการร่วมหลับนอนของฉันและสามีเป็นไปด้วยความบังคับและดิฉันก็ถูกข่มเหงน้ำใจทุกๆวัน น้ำตาเปียกหมอนตลอด เพราะรู้สึกผิดต่อผู้ชายที่ฉันเรียกเขาว่า ที่รัก ที่รักก็ได้แต่ให้กำลังใจฉันห่างๆ โดยการพิมพ์อีเมลล์และโทรคุยกัน บ่อยๆ ช่วงนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเค้าโทรและส่งSMS หาฉันทุก 5 นาที เพียงไม่กี่เดือนเรามีอีเมลล์ที่ส่งไปมาให้กำลังใจกันและกัน เกือบ 500 ฉบับ ความรักของเราสุกงอม เรานัดเจอกัน เราสองคนเจอกันครั้งแรกเป็นความประทับใจที่ชาตินี้ยังไงฉันก็ไม่มีวันลืม มีความสุขมากเค้าพาฉันไปสะพานพระราม 8 ดิฉันประทับใจในบุคลิคของที่รัก ดิฉันรู้สึกว่าอยู่กับที่รักอบอุ่นและปลอดภัย หลังจากนั้นไม่นานเค้าก็บินมาหาฉันที่เชียงใหม่ เรารักกันและมีความสุขมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เราสลับกับไปมา กทม-ชม อย่างนี้สักระยะ แล้ววันหนึ่งสามีดิฉันก็เปิดเจอข้อความที่ดิฉันคุยกิบที่รักทางMSNมันเป็นข้อความที่อ่านแล้วทราบได้เลยว่าดิฉันกับที่รักเราเป็นคนพิเศษของกันและกันไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดา และเห็นรูปที่ดิฉันและที่รักไปถ่ายกันตอนไปเที่ยวต่างจังหวัด เค้าปริ้นส์มันออกมาให้ดิฉันอ่าน ถามว่ามันคือใคร ติดต่อกันนานแล้วหรือยัง ที่ไม่ได้รักเค้าและไม่ยอมนอนกับเค้าเพราะผู้ชายคนนี้ใช่ไหม ดิฉันไม่อยากทะเลาะด้วยจึงเก็บของออกจากบ้าน สามีดิฉันขอร้องไม่ให้ไปเค้าให้อภัยดิฉันหมดทุกอย่างขอแค่อย่าทิ้งเค้าไป ด้วยความที่ดิฉันไม่ได้รักเค้าและเค้าใช้กำลังรังแกเหยียบย่ำฉันบ่อยๆ ฉันจึงไม่มีความรู้สึกสงสารเค้าเลย ฉันจากเค้ามา อยู่กินและหลับนอนที่ทำงาน ฉันบ้างาน อยู่พักใหญ่และยิ่งทำให้ฉันได้มีโอกาศคุย เที่ยวกับที่รักฉันมากขึ้น ด้วยความคิดถึงและความรักเราบินหากันบ่อยและเที่ยวกันบ่อยขึ้นจนวันหนึ่ง ที่รักของดิฉันพาไปรู้จักกับแม่น้องและเพื่อนๆ ของเขามันเป็นความสุขมากๆสำหรับฉัน ฉันรู้ว่ามันหมายถึงอะไร มันหมายถึงเค้ารักและไว้ใจฉัน หน้าตาเค้าก็มีความสุขเช่นกัน เวลานั้นฉันรู้ว่าการรักใครมากๆ สักคนเราสามารถยอมตายแทนเค้าได้มันเป็นความรู้สึกแบบนี้นี่เอง ฉันตัดสินใจปิดร้าน ทิ้งรถ ทิ้งครอบครัว ทิ้งอาชีพ เพื่อใปอยู่ใกล้ๆกับหัวใจของฉัน การที่ต้องโดนพ่อแม่ด่าว่ากำลังทำอะไร ทำไมทำแบบนี้ มันเป็นความเสียใจที่ไม่สามารถตอบท่านได้ว่าเรารักผู้ชายอีกคนมากมายขนาดไหน เรารักและคิดถึงเค้าทุกๆวัน รักมากมายแต่ไม่สามารถพูดให้ใครฟังได้ การตัดสินใจครั้งนี้ผลิกชิวิตของดิฉันจากหน้ามือเป็น.....อย่างสิ้นเชิง ดิฉันมาอาศัยอยู่ในกทม. ก็พยายามหาที่พักเอง หางานเอง ดิฉันค่อยๆทยอยเอาเงินที่เก็บสะสมมาใช้ไปเรื่อยๆ จนเริ่มหร่อยหรอก็จำเป็นที่จะต้องเอาทองเข้าไปจำนำ เพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับผู้ชายอันเป็นที่รักของดิฉันเพิ่มขึ้นอีกนิด ที่รักของดิฉันดีใจมากเราเจอกันแทบทุกวัน และจบลงที่ไม่รถก็ม่านรูดแทบทุกครั้ง ฉันอยู่กทม. ผ่านมาได้ครึ่งปี แต่ไม่มีเลยสักคืนที่เค้าจะมานอนเป็นเพื่อน ฉันต้องนอนเหงาแทบทุกคืน เวลาที่เค้ามาเจอเป็นช่วงกลางวัน เค้าบอกว่าอยากมีลูกกับฉัน ฉันคิดอยู่แค่ในใจว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันไม่อยากให้ลูกกำพร้าพ่อ เพราะฉันคงไม่คิดแย่งสามีคนอื่นมาเป็นสามีของตัวเอง แต่ใจลึกๆที่รักเค้าอยู่เต็มหัวใจก็อยากมีเจ้าตัวเล็กกับเค้าเหมือนกันฉันจึงไม่ได้สนใจเรื่องคุมกำเนิด จนวันหนึ่งที่ฉันเวียนหัวบ่อย หน้ามืด ก็ไปตรวจจึงพบว่าท้องอ่อนๆยังไม่ถึงเดือน วันที่จะได้เจอเค้าดิฉันตื่นเต้นไม่รู้จะพูดยังไง จะบอกยังไง เค้าจะดีใจไหม หรือจะเสียใจ หรือตกใจ หรือเค้าจะหายไปจากชีวิตฉันเลยถ้ารู้ว่าฉันท้องกับเขา (ดิฉันมั่นใจว่าไม่ได้ท้องกับสามีเพราะดิฉันกับสามีเราไม่มีอะไรกันเลย 2 เดือนที่ผ่านมา เค้าสัญญาว่าจะไม่รังแกดิฉันถ้าดิฉันไม่เต็มใจ) ระหว่างที่คิดคำพูดกับที่รักอยู่ว่าจะบอกเค้ายังไงก็มีโทรศัพท์จากผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาบอกว่าเป็นเมียของเค้าและกำลังตั้งท้องได้ 4 เดือน ดิฉันตกใจ งง และไม่รู้จะทำยังไง คิดมาก สับสนได้แต่นั่งกินสปาย และอยากถามเค้าให้รู้เรื่อง ไหนภรรยาเค้าบอกให้เค้าไปทำหมัน ทำไมยังปล่อยให้ท้องได้อีก????? บอกดิฉันว่าอยู่กับภรรยาของเค้าแทบไม่แข็งตัวทำไมต้องโกหก? ผู้หญิงที่โทรหาฉันเป็นใครทำไมให้เบอร์ดิฉันกับเขาไป? ทำไมปิดดิฉัน? ทำไมอยากมีลูกกับดิฉันอีก? คำถามมากมายพรั่งพรูและต้องการคำตอบ ดิฉันจึงไปหาเค้าที่ทำงาน นั่งคิดว่าจะบอกเรื่องดิฉันท้องดีไหม แต่ความน้อยใจก็ทำให้ฉันไม่บอก พอเค้าเลิกงานจึงได้คุยกันและเราเริ่มทะเลาะกันด้วยความที่ดิฉันคออ่อนแค่เริ่มทานสปายไปได้ 2 ขวดก็เริ่มมึนๆ วันนั้นคุยอะไรไปบ้างแทบจำไม่ได้ พอจะจับประเด็นได้แค่ว่าฉันขู่เขาว่าถ้าไม่ตอบมาดิฉันจะโทรไปถามภรรยาเค้าเอง เค้าจึงบอกว่าภรรยาเค้าท้องลูกคนที่ 3 จริงฉันร้องไห้ อยู่พักใหญ่และสักพักก็มีภรรยาเค้าโทรเข้ามาที่มีถือเค้าบอกว่าได้ยินเสียงเราสองคนทะเลาะกันเพราะดิฉันโทรไปหาเค้า(ภรรยาเค้าบอก) ดิฉันไม่ได้ถือโทรศัพท์เลยจะโทรไปได้ยังไง แต่`!!!` เค้าก็ไม่คิดจะเชื่อฉันเลย ก่อนเค้าจะกลับไปง้อภรรยาของเขาเขาบอกฉันเพื่อเรียกร้องความสงสารให้ดิฉันไม่จากเค้าไปว่า เขามั่นใจว่าเด็กในท้องภรรยาไม่ใช่ลูกของเขา ดิฉันสะอึกกับคำพูดประโยคนี้ ผู้ชายที่ดิฉันรักเค้ามากมายเพราะความที่เค้ามีความรับผิดชอบ เพราะความที่เขารักครอบครัว กลับพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ลูกผู้ชายเค้าพูด แล้วเค้าก็กลับไปหาภรรยา โดยที่เค้าไม่มีความสงสัยเลยสักนิดว่าทำไมดิฉันถึงได้น้อยใจเค้าขนาดนั้น คำตอบก็คือ เพราะฉันท้อง นี่คือสิ่งที่ฉันได้แต่หยิกตัวดิฉันเองว่าอย่าพูด และเริ่มนึกได้ว่าสิ่งที่ผู้ชายคนนี้เคยบอกว่าอยากมีลูกกับดิฉันมันคงเป็นแค่เรื่องสนุกปากของเค้า แต่ดิฉันดันคิดไปเองว่าเป็นเรื่องจริง ดิฉันรักลูกเมื่อรู้ว่าตั้งท้องก็หาของดีๆมาทานแต่พอน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นเค้าคงเห็นว่าดิฉันน่าเกลียดเค้าเริ่มไม่ค่อยมีเวลาให้ดิฉัน ทุกครั้งที่เจอกันเค้าต้องคุยโทรศัพท์กับแฟนเค้าให้ดิฉันได้ยิน จะกลับบ้านแล้วนะ อีกแป๊บเดียวก็ถึง คิดถึงลูกอยากคุยกับลูก ฉันน้อยใจเหลือเกิน เดินไปทานข้าวด้วยกันเค้าก็ซื้อมะม่วงเปรี้ยวฝากภรรยาเค้าที่แพ้ท้อง ส่วนดิฉันปวดท้องจะเป็นลมเดินตามเค้าไม่ทันเค้ากลับเดินไม่รอ ความน้อยเนื้อต่ำใจประเดประดังเข้ามา และแล้ววันหนึ่งก็มาถึงวันที่เค้าเริ่มเบื่อและพยายามจะตีจากดิฉัน เค้าพยายามปั้นเรื่องขึ้นมาว่าภรรยาเค้าจ้างนักสืบเพื่อจับพิรุธเค้า เราคงต้องอยู่ห่างกันสักระยะ นั่นคือคำพูดที่ดิฉันเริ่มคิดว่าเค้าคงมีผู้หญิงอีกคนแล้ว ที่รักฉันบอกว่าเค้าสงสัยว่าฉันโทรไปก่อกวนภรรยาเค้าและผู้หญิงที่โทรก่อกวนภรรยาเค้าต้องการเรียกร้องเงิน.............. คำพูดเค้าพูดมาเหมือนไม่รู้จักดิฉัน ดิฉันคบกับเค้ามาเงินไม่เคยขอเค้าเลย ตลอดเวลาที่คบกันมา 2 ปี ดิฉันเคยได้รับเงินจากเค้ารวมๆ ประมาณ 2,000 บาท ที่เค้าให้ นั่นเพราะเค้าเห็นว่าดิฉันไม่มีเงินพกติดตัวแล้ว ดิฉันเริ่มทานมาม่าแทนข้าวแล้ว เงินทองดิฉันไม่เคยขอจากเค้า ทำไมถึงได้คิดว่าฉันไม่มีศักดิ์ศรีขนาดต้องขอเงินคนอื่นด้วยวิธีบ้าๆอย่างนั้น เค้าออกกฎว่าต่อไปไม่ว่าดิฉันจะเป็นจะตายยังไงอย่าโทรหาเค้า เราจะติดต่อกันได้ต่อเมื่อเค้าจะโทรมาหาดิฉันเอง ห้ามส่งSMS และE-mail หาเค้าเพราะภรรยาเค้าจะเปิดดู(เค้าคงจำไม่ได้ว่าเคยบอกฉันว่าภรรยาเค้าเปิดดูไม่เป็น) และต่อไปเค้าคงไม่มีเวลาเล่น MSN คุยกับดิฉันอีกแล้ว ถ้าเค้าโทรมาอาจจะคุยได้แค่ไม่กี่นาทีนะ แล้วเค้าคงต้องกลับบ้านเร็วขึ้น เพราะต้องไปดูแลภรรยาที่แพ้ท้อง ต่อไปนี้คงไม่ได้นัดเจอกันแล้วเพราะภรรยาเค้าจะมาที่ทำงานด้วย (ที่รักฉันBlock เบอร์ฉันไม่ให้โทรเข้าเครื่องเค้าได้แต่บอกว่าภรรยาเค้าเป็นคนทำไม่ใช่เขา) ------ฉันได้แต่ก้มหน้าพยักหน้ารับคำ กัดฟันอย่าร้องไห้ จากวันนั้นเค้าไม่โทรหาฉันเลยเป็นอาทิตย์ ฉันแพ้ท้องและทานอะไรไม่ลง สับสนมากว่าจะทำยังไงดีเพราะผู้ชายที่ฉันแต่งงานกับเค้าเริ่มสงสัย(เค้าตามมาอยู่กับดิฉัน โดยให้เหตุผลว่าจะมาเรียนปริญญาโท และดูแลดิฉัน) ดิฉันไปปรึกษาเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนให้ดิฉันไปทำแท้ง ดิฉันโกรธเพื่อนมากที่แนะนำแบบนี้แต่แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ดิฉันรับสาย อ๋อ...ที่รักของดิฉันโทรมานั่นเอง ดิฉันดีใจมากแต่สิ่งที่เค้าพูดคือ เค้ามีเรื่องจะปรึกษา มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรก่อกวนภรรยาเค้า ใช่ฉันหรือเปล่า? ฉันน้ำตาอาบแก้มเลย ทำไมเค้าไม่ได้มีดิฉันแค่คนเดียว ทำไมเค้าคิดว่าดิฉันจะทำร้ายครอบครัวเค้า ทำไม ทำไม ทำไม ........................................... ทำไมโทรมาแค่ถามเรื่องนี้แล้ววางสายไป เค้าไม่ได้คิดถึงฉันเลยเหรอ ฉันตัดสินใจทำแท้งโดยมีเพื่อนไปส่ง ตอนแรกคุณหมอจะไม่ทำให้เพราะดูดิฉันไม่ปกติ ดิฉันหน้าบวมเพราะร้องไห้และก็น้ำตาไหลไม่หยุด คุณหมอบอกให้ไปคิดให้ดีๆก่อน ดิฉันสงบสติอารมณ์นั่งคิดทบทวนในคลีนิคนานมาก จนเกรงใจเพื่อน แต่ก็ไม่อยากเอาเด็กออก แต่ก็ไม่รู้จะให้เด็กเกิดมาไม่มีพ่อได้ยังไง ดิฉันเข้ามาคลีนิคตั้งแต่ บ่ายโมงตัดสินใจอยู่นานจนคลีนิคจะปิดจึงยืนยันกับหมอว่าคิดดีแล้ว เอาเด็กออก ตอนทำดิฉันกลัวมากแทบจะเป็นลมบนขาหยั่ง เจ็บมาก สงสารลูกด้วย หมอปลอบใจว่าเด็กยังไม่ถึง 6 สัปดาห์ ยังไม่เป็นตัวหรอกแค่ก้อนเลือดอยู่เลย ดิฉันเกลียดตัวเองมากๆ ทำไมถึงได้เลวขนาดนี้........ ชั่วจริงๆ ผ่านความเจ็บปวดออกมานั่งอยู่ที่เค้าเตอร์จ่ายเงิน ดิฉันมีเงินติดตัวอยู่แค่ 5,000.- ดิฉันให้เพื่อนเดินไปชำระให้แทนเพราะยืนไม่ไหว ไม่ทราบว่าค่าทำแท้งเค้าคิดราคากันเท่าไหร่ แต่เพื่อนดิฉันควักเงินของตัวเองออกจากกระเป๋ามาจ่ายเพิ่มให้ดิฉันด้วย ฉันไม่มีเงินคืนให้เพื่อนถามเพื่อนว่าจ่ายเพิ่มเท่าไหร่เดี๋ยวมีจะเอามาคืนให้ เพื่อนก็ช่างแสนดีบอกว่าไม่เอา เรารู้ว่าเธอกำลังไม่มีเงิน ดิฉันโกรธและโมโหในความโง่ของดิฉันมากๆ ทำไมชีวิตต้องมาเป็นแบบนี้ ถัดมาอีก 2 วันที่รักของดิฉันโทรมานัดเจอดิฉันที่ห้องพัก ดิฉันคิดถึงลูกและเค้าจึงไปพบอยากกอดเค้าให้หายคิดถึงแต่ เค้าเริ่มไม่ได้หยุดอยู่ที่กอดกัน เค้าเริ่มจะมีอะไรกับดิฉันอีก ดิฉันยังเลือดไหลจากการทำแท้งและไม่อยากให้เค้ารู้จึงอิดออดไม่ยอมเค้า เค้าก็พยายามเล้าโลม ดิฉันไม่ยอม จนเค้าพูดออกมาว่า ทำไมต้องเล่นตัว เค้ามีเวลาน้อยนะมา......กับฉันแล้วเค้าก็ต้องไปแล้ว (((เป็นคำพูดที่ทำให้ฉันหมดทั้งแรง หมดทั้งใจ))) ฉันปล่อยให้เค้าทำตามที่ต้องการทั้งที่เจ็บมดลูกมาก หลังจากนั้นผ่านมาเกือบเดือนเค้าก็ไม่ติดต่อมา จนเค้ามีอารมณ์แต่ทำกับภรรยาเค้าที่ท้องไม่ได้เพราะกลัวลูกเค้าจะกระทบกระเทือนเค้าจึงโทรมานัดดิฉันไปนอนด้วย ดิฉันคิดถึงเค้าแต่ไม่ได้อยากนอนกับเค้าด้วยเพราะเลือดยังไหลไม่หยุดและปวดท้องมาก แต่ด้วยความรักที่รักเค้าและคิดว่าเค้าคงคิดถึงเราถึงได้โทรหาเรา แต่....ไม่ใช่เลย เค้าแค่อยากมานอนด้วย นัดเจอกัน เค้ามีอะไรกับดิฉันไม่ถึง 30 นาทีเสร็จแล้วก็สตารท์รถกลับบ้านเค้า โดยที่เค้าไม่ได้เอะใจเลยว่านอนกับฉันกี่ครั้งฉันก็เป็นเมนส์ทุกครั้ง ครั้งนี้ดิฉันปวดท้องมากผิดปกติหน้าไม่มีสีเลือดเลย จึงกลับไปหาหมอ หมอบอกว่าดิฉันมดลูกทะลุ จึงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ดิฉันได้แต่รักษาตัวเองเพราะเงินเริ่มร่อยหรอแล้วไม่มีเงินไปซื้อหายามาทาน อีกหนึ่งอาทิตย์เค้าก็นัดเจอฉันอีกครั้งดิฉันบอกเค้าว่าถ้าเราเจอกันแบบที่ไม่ต้องมีอะไรกันจะได้ไหม เราเป็นเพื่อนกันได้ไหม เค้าบอกว่าได้ แต่สุดท้ายเขาก็เลี้ยวรถเข้าโรงแรม เค้าบอกว่าแค่อยากกอดดิฉัน ดิฉันบอกเค้าว่าดิฉันเป็นประจำเดือนนะ อย่าทำอะไรกัน เค้าเริ่มสงสัยว่าทำไมเมนส์มาบ่อยจัง แต่ดิฉันก็ไม่ได้บอกอะไรเค้าไป เค้าเริ่มเล้าโลมดิฉันอีกใช้คำหวานต่างๆนานา และตบท้ายที่ดิฉันไม่ยอมเค้าสักทีด้วยคำว่า อย่าเล่นตัว ทำอย่างกับคนไม่เคย ดิฉันเสียใจมาก น้อยใจเหลือเกิน ดิฉันทนเจ็บทั้งตัว ทั้งใจ กลับมาถึงห้องพักเลือดไหลจากที่มันเริ่มซึมๆกลายเป็นไหลแบบนอง ไปทำงานได้ครึ่งวันก็เกิดหน้ามืดเพื่อนที่ทำงานพามาส่งที่โรงพยาบาลหน้าปากซอยหมอสั่งให้พักเติมน้ำเกลือแต่วันนั้นลูกค้าที่ร้านเยอะมากดิฉันจึงขอหมอว่าตอนเย็นๆจะมา แต่ตอนนี้ขอไปทำงานก่อน พอตกดึกดิฉันไม่ไหวจริงๆเพราะเริ่มชาไปทั้งตัวปลายมือปลายเท้าเย็นไม่รู้เพราะอะไร จึ่งเดินไปโรงพยาบาลเอง(ที่พักอยู่ใกล้โรงบาลคะ) ดิฉันนอนให้น้ำเกลือคืนหนึ่ง แล้วสามีที่ดิฉันแต่งงานด้วยโทรมาหาว่าดิฉันหายไปไหนพอทราบว่าดิฉันอยู่โรงพยาบาลเค้าเป็นห่วงมาก มาหาดิฉันและนอนเฝ้าทั้งคืน ตื่นเช้ามาดิฉันเห็นสามีนั่งหลับและเอามือแตะขาฉันไว้ พอดิฉันไปห้องน้ำก็ตกใจว่าทำไม กางเกงในที่ใส่ไม่ใช่ของดิฉัน ดิฉันเห็นสามีหลับอยู่จึงไม่ได้ถาม จึงถามพยาบาล ได้คำตอบว่าเมื่อคืนดิฉันหลับไปแล้วด้วยฤทธ์ของยานอนหลับที่หมอผสมในน้ำเกลือดิฉันจึงหลับไปอย่างไม่รู้เรื่อง เลือดที่มดลูกดิฉันไหลนองเตียง เปื้อนกางเกงโรงพยาบาลและผ้าปูที่นอนสามีดิฉันและพยาบาลจึงช่วยกันเปลี่ยนทั้งกางเกงใน ผ้าปูที่นอนและกางเกงโรงบาลให้ ดิฉันจึงเข้าใจ พอเดินออกมาที่ระเบียงก็พบว่าสามีของดิฉันเค้าซักกางเกงในที่เปื้อนเลือดของดิฉันให้แล้ว ดิฉันรู้สึกสำนึกถึงความรักที่เค้ามีให้กับดิฉันทันที ฉันเลวกับเขาขนาดนี้ทำไมเค้าถึงได้รักดิฉันขนาดนี้ แต่เรื่องของความรักมันบังคับกันไม่ได้ ต่อให้สามีดีกับฉันแค่ไหนลองฉันปักใจรักที่รักของฉันแล้วฉันไม่เคยปันใจไปสามีของดิฉันเลย ฉันฝันถึงลูกทุกคืนมันปวดร้าวและตอกย้ำความเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็น ผู้หญิงที่ท้องเดินผ่านไปมาตามท้องถนน ฉันเริ่มท้อถอยในชีวิต ไม่รู้จะอยู่เพื่ออะไร.............เพื่อใคร ฉันตัดสินใจที่จะตัดใจจากที่รัก ฉันไม่รับโทรศัพท์ที่ที่รักโทรมา...... ที่รักก็ส่งSMS มาบอกว่า จบละครน้ำเน่าได้แล้ว และส่งข้อความมาด่าว่าฉันเป็นผู้หญิงขายตัว ส่งข้อความมาด่าตั้งมากมาย ฉันทนไม่ไหวจึงโทรกลับไปหาเพื่อถามว่าทำไมต้องส่งข้อความมาด่ากันด้วยเพราะฉันก็ยอมจากมาโดยดีแล้วทำไม ที่รักต้องการอะไรจากฉัน เมื่อโทรไปเขาไม่พูดอะไร ไม่ยอมพูดอะไร ฉันโกรธมากบอกเขาว่าในเมื่อยัดเยียดให้ฉันเป็นคนเลวฉันก็จะเลวให้สุดๆ ในเมื่อรับสายแล้วไม่ยอมคุยกับฉันงั้นฉันก็จะไปหาที่บ้านคุณ .....เค้าไม่ตอบ ฉันจึงไปบ้านของเขาด้วยเหตุผลเดียวคืออยากรู้ว่าในเมื่อฉันยอมเดินจากไปโดยดีแล้วทำไมยังต้องส่งข้อความมาด่าอีก ที่สำคัญตกลงเค้ามองเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเราเป็นเรื่องน้ำเน่าใช่ไหม เมื่อไปบ้านเขา เขาไม่อยู่ดิฉันโทรไปที่มือถือเค้าบอกว่าดิฉันอยู่หน้าบ้านเขาแล้ว ...........แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากปลายทาง ดิฉันบอกเขาว่าถ้าเป็นลูกผู้ชายจริงมาคุยกันให้รู้เรื่อง ......ไม่มีเสียงตอบรับจากปลายทาง แม่บ้านที่บ้านเขาบอกว่าให้เข้ามาข้างในบ้านดื่มน้ำก่อนฉันจึงเข้าบ้านเค้าสิ่งแรกที่เห็นแล้วต้องรีบกลับเลย รูปแต่งงานขนาด20*24 ของที่รัก ดิฉันจำได้ว่าที่รักบอกว่าไม่เคยถ่ายภาพแต่งงานในสตูดิโอ ดิฉันจำได้ว่าที่รักบอกว่าไม่ได้รักภรรยาเค้าเลยแต่สิ่งที่ดิฉันเห็นมันไม่ใช่ ทุกคำที่เค้าพูดล้วนโกหก หลอกลวง ให้ดิฉันหลงสงสาร เค้าไม่กล้ามาพบดิฉัน ดิฉันจึงกลับไปทำงาน และการมาที่บ้านของที่รักนั่นทำให้ ภรรยาของที่รักดิฉันทราบว่าคบกับฉันอยู่จึงเกิดเรื่องทะเลาะกันขึ้น โทรไปเล่าให้แม่และน้องสาวของที่รักฉันฟังว่าเค้านอกใจ เค้ารักภรรยาของเค้ามาก และคงไม่เหลือความรักให้ฉันแล้ว เพราะสิ่งที่เค้าและฉันร่วมกันบ่มเพาะต้นรักขึ้นมาเค้าทำลายมันโดยให้เหตุผลกับภรรยาเค้าและคนรอบข้างเค้าว่า ที่เค้ามาคบกับดิฉัน เพราะดิฉัน เล่นของ ทำขุนไส ทำเสน่ห์ให้เค้าหลง นั่นเป็นคำที่ดิฉันฟังแล้วแทบทรุดลงกองกับพื้น ความเป็นลูกผู้ชายของเค้าไม่มีเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมามันคืออะไร? คำพูดที่พร่ำบอกว่ารัก คำพูดที่บอกว่ารักฉันแค่คนเดียว คำพูดที่บอกว่าคิดถึงฉันทุกลมหายใจ เวลาสุขๆ ด้วยกัน แต่เมื่อทุกข์เค้ากลับโยนบาปและความผิดทุกอย่างมาที่ฉันคนเดียว เค้าไม่ได้มีแค่ดิฉันคนเดียวเพราะเค้าบอกครอบครัวเค้าว่าดิฉันเป็นคนเดียวกับผู้หญิงที่โทรมาก่อกวนที่บ้านเค้า ซึ่งฉันไม่ได้ทำ แต่จะบอกใครได้......... เค้าคงต้องการปกป้องผู้หญิงคนใหม่ของเค้า และต้องการเขี่ยฉันทิ้ง ฉันตั้งใจที่จะตัดใจจากเค้าจึงปิดโทรศัพท์และระงับการติดต่อเพื่อให้เค้าเลิกโทรมา ดิฉันไม่อยากได้ยินเสียงเขา ปิดโทรศัพท์ไปได้ 3 อาทิตย์ก็โดนเจ้านายว่า ว่าไม่สามารถติดต่อเราได้เลยจึงเปิดเครื่อง แล้วเค้าก็โทรเข้ามา โทรเข้ามาง้อ โทรมาชวนไปไหว้พระ โทรมาบอกว่าครอบครัวมีปัญหาอยากเจอดิฉัน ดิฉันทำให้เขาสบายใจได้ เขาบอกว่าตั้งแต่ไม่มีดิฉันเค้ากลายเป็นคนขี้เมา ดิฉันก็โง่เชื่อตามที่เขาพูด ความสงสารและความรักที่มีให้เค้าเป็นทุนเดิมทำให้ไปหาเค้าที่ทำงาน เราจบลงที่ม่านรูด ก่อนจากกันวันนั้นเค้าบอกว่าเค้าอยากได้โน๊ตบุคคืน อีกวันสองวันดิฉันก็ให้เขามารับโน๊ตบุคไป ตั้งแต่นั้งเขาก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย ทำให้ฉันรู้ว่าครั้งสุดท้ายที่เค้าพร่ำเพ้อ เพ้อเจ้อว่าคิดถึงฉันอยากเจอฉันมันก็แค่อยากได้โน๊คบุคเค้าคืน พอได้คืนแล้วก็ไม่จำเป็นที่ต้องโทรมาหาหรือติดต่อฉันอีก.............................. นี่ไง ความจริง ที่เจ็บปวดแต่ฉันต้องรับมันให้ได้........................................... จากเคยเป็นเจ้าของกิจการก็ต้องมาเป็นลูกน้อง จากเคยมีรายได้เดือนละ30,000-40,000.-/เดือน ก็ต้องทำงานแลกเงินเดือน 8,000.- จากที่มีรถส่วนตัว 2 คัน ทุกวันนี้ฉันต้องเดินทางโดยรถเมลล์ จากเคยอยู่กับครอบครัว พ่อ-แม่-น้องสาว ต้องมานอนร้องไห้คนเดียวทุกๆวัน จากมีทองใส่เต็มตัว วันนี้ฉันไม่เหลืออะไรเลย จากผู้หญิงที่ร่าเริง ทะลึ่งทะเล้นกับเพื่อนไปวันๆ วันนี้ฉันเป็นผู้หญิงอมทุกข์ จากที่ทุกวันสนุกกับงาน กลายเป็นทุกวินาทีมีไว้เพื่อรอคอย ให้เค้าโทรมาหาฉันบ้าง จากเคยติดต่อทางอีเมลล์วันละ 2-3 ฉบับ วันนี้ ไม่มี จากเคยโทรหากันวันละ5-6 ชม. วันนี้ ไม่มี จากเคยส่ง SMS มาหา วันนี้ ไม่มี สิ่งสุดท้ายที่ฉันขอจากที่รักเพื่อให้เรายังคบกันต่อไปได้ นั่นคือ การส่งข้อความ SMS หาฉันวันละ 1 ข้อความ นี่คือสิ่งเดียวที่ฉันขอเพื่อแลกกับการรั้งให้ฉันอยู่กับเขา แต่.....เค้าก็ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องลำบากไปที่จะทำให้ฉัน --เค้าทำให้ไม่ได้ แม้จะรับปากแล้วก็ตาม ก่อนหน้าที่ฉันจะเลิกติดต่อกับเขา เมื่อเค้ามีผู้หญิงคนใหม่เค้าบอกดิฉันว่า สงสารดิฉันที่ต้องมาทนอยู่แบบนี้กับเขา วิธีแก้ปัญหาที่ดีต่อฉันที่สุดคือให้ฉันเก็บของกลับเชียงใหม่ซะ.................. !!!!!! เป็นการบอกเลิกดิฉันที่นุ่มนวลและดูเป็นพ่อพระเหลือเกิน ฉันน้อยใจ ทั้งเจ็บ ทั้งปวดใจเหลือเกินที่จะประคับประครองความรักที่เป็นความรักข้างเดียวของฉันให้มันผ่านไปวันๆ เค้าคงกลัวว่าฉันจะมารบกวนเงินของเขา เขาจึงสอนให้ฉันคุมการเงินของสามีฉัน """"ต้องดูแลเรื่องเงินให้ได้อย่าหยิ่งเรื่องนี้ไม่งั้นจะน้ำตาตกในตอนมีลูก เชื่อนะ"""" ฉั
14 Apr 2007 | Post by :
pickeenuu
|
Comment 13 |
---|
ทำมายยาวจางคิเกียจอ่านอ่ะ by my flute
25 Nov 2007 | Comment by :
mintiya
|
Comment 12 |
---|
หากว่าคุณได้ลองรักกับผู้ชายเลวๆ สักครั้งหรือสองครั้งใจชีวิต คุณจะรู้สึกขอบคุณที่ได้เจอคนดีสักคน ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||| บางคนเชื่อว่าการยึดมั่นหรือการเกาะติด คือสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง แต่มีอยู่หลายครั้งในชีวิตที่เราต้องใช้ความเข้มแข็งมากขึ้น ที่จะปล่อยบางอย่างให้จากไป ////////////////////////////////////////////////////////////////// ทำไมเราต้องเสียเวลารักคนที่เค้าไม่ชอบเราด้วย? หลายคนคงตอบว่า "เพราะความรักของฉันมันยกให้เค้าไปหมดแล้ว ฉันไม่สามารถรักใครได้อีก เค้าเป็นคนที่ฉันรักที่สุด ฯลฯ"
22 Apr 2007 | Comment by :
TOFFYLOVE
|
Comment 11 |
---|
คุณทำตัวคุณเองนี่คะ จะมาโอดครวญอะไรอีก คุณทำผิดศีลธรรมทั้งที่รู้ อย่ามาใช้คำแก้ตัวว่ารักด้วยหัวใจเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นคงเป็นหัวใจที่ใจร้ายและเห็นแก่ตัวมาก คุณบอกว่าคุณไม่เคยคิดคุกคามเมียหลวง แต่คุณบุกไปถึงบ้านเขาทำไม เมียหลวงคนนี้เป็นคนดีนะเนี่ย ถ้าเป็นเมียหลวงคนอื่นเขาอาจจะอาละวาดใส่คุณแล้วก็ได้ แสดงว่าผู้ชายคนนี้เขาคิดถูกแล้วที่เขาเลือกเมียของตัวเอง เพราะคุณยังเล่นชู้ทั้งที่มีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้ว สิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมดลูกทะลุ หรือจากรวยมาเป็นคนจน มันเป็นเวรกรรมที่คุณก่อกรรมทำเข็ญกับลูกผู้หญิงด้วยกันนั่นแหละ
19 Apr 2007 | Comment by :
ทางตัน
|
Comment 10 |
---|
![]() ขอบคุณนะค่ะ เป็นอุทาหรณ์จริง ๆ อย่างแรก แม้ความรักจะทำให้คนตาบอด หรือโง่งี่เง่าซะเต็มประดาในสายตาคนอื่น แต่บางคนก็ยอมที่จะให้คนอื่นมองตัวเราเองอย่างนั้น เราในฐานะคน ๆ หนึ่ง ขอพูดว่า "ในโลกของความรัก ไม่มีใครตาบอด หรือใครที่โง่งี่เง่า ความสุขคือการที่ได้รัก" อย่างสอง แม้จะรักมากแค่ไหน? เจ็บมากแค่ไหน? ก็ตัวเราเอง คนอื่นไม่ได้มารับรู้ความรู้สึกของเรา เมื่อมนุษย์เป็นแค่สิ่งหายใจที่สามารถเคลื่อนไหวไปวัน ๆ ฉะนั้นจิตใจก็ไม่เที่ยงแท้ หรือหยุดอยู่แค่เราได้ เลือกที่จะรัก ก็ต้องพร้อมที่จะเจ็บเช่นกัน อย่างสาม เมื่อมองในอีกแง่หนึ่ง ถ้ารักให้เป็นก็คงไม่ต้องมีใคร ๆ หลาย ๆ คน มาเจ็บหรือทรมานกับการกระทำของเรา หรือแม้แต่ตัวเราเอง อย่าลืมนะความรักสามารถทำให้คนเรามีความสุขซะเต็มประดา แต่มันก็สามารถทำให้ความทุกข์เกิดขึ้นได้เช่นกัน ขอให้มีความสุขกับปัจจุบันนะค่ะ ประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นเครื่องเตือนใจให้เรา "ระมัดระวังที่จะก้าวต่อ" เป็นไปในทางที่ดีค่ะ
19 Apr 2007 | Comment by :
oo
|
Comment 9 |
---|
ขอบคุณมากสำหรับเรื่องราวที่ส่งมาให้อ่านเพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่นๆ ต่อไป ซึ่งคุณต้องเสี่ยงกับการถูกคนอื่นด่าว่าหรือดูถูก แต่ถ้าคนที่มองโลกกว้างๆ จะเข้าใจว่าเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ได้อ่านต่อไป
18 Apr 2007 | Comment by :
venus
|
Comment 8 |
---|
ไม่คิดจะซ้ำเติมนะ แต่คุณก็ชั่วจริงๆ คุณรู้ว่าเขามีครอบครัวตั้งแต่แรก คุณก็ยังไปมีไรกะเขาอีก (เป็นชู้)คุณเคยเข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกันไหม เมียเค้าจะรู้สึกยังงัย แค่คุณคิดว่าเขาไม่ได้มีคุณคนเดียวคุณก็เจ็บมากพออยู่แล้ว คุณลองคิดดูสิ เค้ามีไรกะคุณเมียเค้าเจ็บขนาดไหน ตอนท้ายที่คุณต้องทุกข์ทรมาน เพราะบาปกรรมที่คุณก่อขึ้น มันมาตามสนองคุณงัย (ขอโทษนะ)
18 Apr 2007 | Comment by :
มิ้นท์
|
Comment 7 |
---|
ผมว่าคุณโง่มากเลย เป็นผมๆไม่คิดจะมองผู้ชายคนอื่นเลยเพราะรู้สึกสามีคุณออกจะแสนดี สงสัยเหมือนที่เพลงบอก ความรักทำให้คนตาบอด ที่รักของคุณก็ชั่วจริงๆนะ คุณก็อย่ากลับไปชั่วอีกแล้วกัน
16 Apr 2007 | Comment by :
สมพล
|
Comment 6 |
---|
อย่างแรกผมต้องขอวิจารว่าคุนชั่วมากๆถ้าคุนไม่รักเขาเเล้วทำไมคุนแต่งงานกับเขาอย่างสองคุนเล่นชู้อย่างสามคุนเป็นฆาตกรเลือดเย็นฆ่าเด็กที่ไร้เดียงสาได้ลงคอ
16 Apr 2007 | Comment by :
porekub
|
Comment 5 |
---|
ใหม่!!!! ธุรกิจเฟรนชาย์ด้านสุขภาพและความงาม สำหรับคนที่เบื่องานประจำ หรืออยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองเพิ่ม ที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากแต่มีผลตอบแทนระยะยาวสูง เริ่มต้นเพียงไม่กี่บาทกับธุรกิจเฟรนชายส์ที่ลงทุนต่ำ เป็น ธุรกิจเกี่ยวกับด้านสุขภาพและความงามที่ กำลังเป็นที่นิยมของสาวๆ และวัยรุ่นในหลายๆประเทศ รวมถึงประเทศไทย แบบว่าทำธุรกิจไปด้วยสวยหุ่นดีไปด้วย ซึ่งตอนนี้มีสาวๆสนใจธุรกิจนี้และทำกันเยอะมากเพราะสามารถทำได้ ในทุกๆที่ ทั้งบนเน็ตและที่บ้าน ขณะนี้มีการเปิดโอกาศให้ผู้ที่สนใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตามที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจนี้ ได้เข้ารับฟัง โอกาศทางธุรกิจเพื่อเป็นเจ้าของธุรกิจได้แล้ว สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม มาที่ s i a m w o r k f r o m h o m e . c o m / i n d e x . a s p ? i d = 538 (ก๊อบไปพิมให้ชิดกัน) (รีบด่วนเพราะโอกาศอาจไม่รอคุณก่อนที่คนจะแห่ไปทำกันเกร่อ)
15 Apr 2007 | Comment by :
สุรเชษฐ์
|
Comment 4 |
---|
อย่างแรกเลยต้องบอกว่าขอบคุณมากเน้องหนูแห่งนครพิงค์ ลยครับคุณที่คุณต้องเรียกว่าพี่ถึงจะถูกเนอะเอาเป็นว่าผมก้อคิดว่าผมเจอปัญหาเดียวกันกับพี่เหมือนกันคือไอ้ประเภทที่เรารักเค้าแล้วเราไม่รู้ว่าเค้ารักเราหรือเปล่าพี่คงไม่ว่าอะไรนะครับถ้าผมจะcoppyขอความไปให้แฟนของผมอ่านผมต้องขอบอกว่าผมก้อเป็นอีกคนหนึ่งที่บูชาความรักและอีกอย่างหนึ่งคือไม่ต้องการให้ลูกที่จะเกิดมาต้องรับกรรมที่ผมได้ก่อไว้กับผู้หญิงหลายๆคนผมต้องการที่จะหยุดไว้ที่ตรงนี้และคนนี้แต่ด้วยความที่นองเค้ายังเด็กหรือเปล่าไม่ทราบ(แฟนผมอายุ16ส่วนผม24)น้องเค้าเลยยังคิดแต่สนุกสนานไปวันๆไม่คิดถึงคนรอบข้างและคนที่มองเค้าว่าจะคิดอย่างไรกับการกระทำของเขาผมต้องบอกตรงว่าผมเข้าไปโพรสกระทู้ไม่เป็นผมเลยต้องขอพื้นที่ว่างตรงนี้เป็นที่ได้บอกให้คนทั่วไปได้รู้ว่าผมก้อเป็นอีกคนหนึ่งในล้านหรืออีกหลายล้านที่มีปัญหาเรื่องความรัก ทุกคนแถ้วบ้านน้องเค้ามมองผมด้วยสายตาแปลกตั้งแต่เราคบกันผมซึ่งเป็นคนที่มีอนาคตอีกยาวไกลหน้าที่การงานยังไปได้ดีมีหน้ามีตาในสังคมทำไมต้องมาชอบกับเด็กที่เที่ยวเก่งเจ้าชู้มีแฟนไม่เลือกหลายคนตั้งคำถามกับผม ครั้งแรกเลยผมต้องบอกว่าผมไม่ได้คิดที่จะรักหรือชอบแต่ในมโนสันดานของผมต้องการแค่ฟันแล้วทิ้งนี้คือสัจจะธรรมที่ผมคิดในตนนั้นเนื่องจากผมพึ่งจะเลิกกับแฟนมานั้นเองผมต้องการล้างแค้นเพศที่ทำให้ผมเจ็บผมลืมนึกไปเลยว่าสิ่งที่ผมกระทำอยู่ในเวลานี้ตอนนี้เป็นเพศเดียวกับแม่ผู้ให้กำเนิดแต่เมื่อผมเข้าไปเห็นสภาพบ้านน้องเค้าถามว่ารับได้ไหมใครจะไปรับกับบ้านที่ซอมซ่อเด็กอีกหลายคนแต่ด้วยเหตุผลอะไรก้อไม่ทราบผมกับสงสารเด็กผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาน้องเค้าเอาใจและรักเราทำทุกอย่างเพื่อเราได้จากความคิดที่ว่าจะทิ้งน้องเค้าไปกลับกลายเป็นว่าเรารักเค้ามากอย่างถอนตัวไม่ขึ้นทุกวันจันทรถึงศุกร์หลังจากเลิกงานไม่เกินห้าโมงหน้าของผมต้องหน้าบานอยู่ที่บ้านของเค้าเป็นอย่างนี้ได้ประมาณห้าถึงหกเดือนความรักของเรามาเมสะดุดตอนที่ผมให้โทรศัพย์ไปใช้ผมซึง8.30เข้าทำงานกลับบ้านตอน16.30 น.ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยว่ามีใครโทรมาจีบแฟนเราจนกระทั่งญาผู้ใหญ่เค้าบอกเราคุยกันผมถามว่ามันเป้นใครน้องตอบว่ามันมาที่หลังเค้ามีสมองพอที่จะคิดได้ว่าควรจะคบกลับใครแล้วผมถามว่ามันจะมาที่ตราดไหม(เพราะวันนั้นน้องไปสมัครเรียนที่เทคนิค) น้องเค้าตอบว่ามันไม่ได้ลงมาเพราะเค้าขอร้องไว้ ครับผมเชื่อตามที่น้องเค้าบอกทุกคำพูดแล้วยังให้รถข้นไปใช้อีก วันนั้นผมเลิกงานตามปกติคือสี่โมงครึ่งผมรอน้องเค้ามารับจนเกื่อบจะสองทุ่มไม่มาครับ ผมเป็นห่วงเค้ามาน้องไม่มีใบขับขี่ จะเป็นอะไรหรือเปล่าจะโดนจับไหมหรือว่ารถจะล้มมีอุบัติเหตุตรงไหนหรือเปล่า บอกตรงว่าเป็นห่วงมาก อาบน้ำได้อย่างเดียวเราก้อมาหาน้องเค้าที่บ้านหวังจะเจอหน้าแต่ปล่าวเลยน้องยังไม่กลับมานี้ก้อจะปาเข้าไปสามทุ่มแล้วทำไมยังไม่กลับทำอะไรอยู่ พ่อของน้องเค้าโทรไปถามให้น้องบอกว่ากำลังหลบด่านอยู่ ผมได้ยินน้องเค้าบอกผมรอประมาณ 10นาทีผมก้อขี่รถตามมาดูในใจรู้สึกสังหรใจยังไงบอกไม่ถูกผมรออยู่ในเงามืดเกือบชั่วโมงไม่เห็นแม้แต่เงาฝนก้อตกหนาวก้อหนาวแถมยุงยังมากัดอีกในเอาเป็นว่าผมขอสรุปเพียงสันว่าผมรอจนกระทั้งตี1 ผมก้อไม่เจอน้องเค้าเลยน้องเค้ากลับาในตอนเช้าเราคุยกันหลายเรื่อง ผมบอกเค้าว่รู้งี้ผมไม่ตามไปซะยังดีกว่า น้องเค้าตอบว่าแล้วเ..อก..ตามไปทำไม ทานผุ้อ่านครับเป็นพวกท่านจะให้ผมคิดยังไง น้องเค้าขอเลิกกลับผม คิดดูสิครับมันทรามาณจิตใจผมขนาดไหน เค้ามีเหตุผลคือไม่อยากเห็นเราเจ็บท่ต้องมารู้อะไรหลายอย่างไม่ต้องคอยมาเป้นห่วงเวลาเค้ากลับมาดึกๆ ถ้าเป็นผู้ชายหลายๆคนก้อคงจะรีบรับข้เสนอนี้แน่นอน แต่ไม่ใช่ผมผมขอร้องให้น้องเค้าอยู่ต่อผมจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าได้กระทำทุกวันนี้ผมต้องบอกว่าผมอยู่ด้วยความหวาดระแวงกลัวคนนั้นจะกลับมาหาแฟนเราอีกกลัวทุกอย่าง ถามว่าทำไมผมถึงไม่คิดที่จะหาคนใหม่เข้ามาเป็นตัวแทนผมบอกได้เลยว่าผมไม่ต้องการที่จะให้ลูกที่เกิดมาต้องชดใช้กรรมที่ผมได้กระทำกลับเพศที่ได้ขึ้นชื่อว่าแม่อีก และอีกอย่างหนึ่งคือตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมเป็นคนที่ผิดเอง ที่ทำตัวเอาแต่ใจไม่เคยคิดว่าน้องเค้าต้องทนเอาใจคนที่เอาแต่ใจมากขนาดไหน ตอนนี้ผมไม่ขอรับรู้อะไรทั้งนั้นรุ้แต่ว่าผมรักน้องเค้าเพียงคนเดียว หรือแม้แต่น้องเค้าจะทิ้งผมไปผมก้อจะขอหยุดไว้เพียงเท่านี้จะไม่ขอสร้างบาปให้กลับตัวเองหรือกลับใครในอนาคตอีกเลย ถึงตรงนี้ผมต้องขอบอกว่าผมเป็นคนที่อ่อนไหวมากกลับเรื่องความรักและการเอาใจของเพศตรงข้ามเคยมีคนพูดไว้ว่าการที่จะเสกเด็กเข้าท้องใครสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะหาคนที่มาเป็นแม่ของลูกที่ดีนั้นหายาก สุดท้ายนี้ถ้ามีใครที่เดมาเจอข้อความที่ผมเขียนไว้นี้พอเป็นอุทาหรณ์เตือนใจได้บ้างหรือให้ข้อคิดกลับทุกท่านที่อ่านหรือมีข้อความที่จะให้กำลังใจก็ส่งเมลล์หรือเข้ามาที่เอ็มของผมได้ สุดท้ายแล้วนะภัคที่จะเขียนให้ได้อ่านอยากจะบอกภัคว่าภัคคือคนที่จารักมากที่สุดถึงแม้จะมีผู้หญิงมากมายที่จะเข้ามาในชีวิตแต่จาขอที่จะเลือกภัคมาเป็นแม่ของลูกภัคไม่จำเป็นต้องดีหรือเป้นกุลสตรีแต่ขอให้มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้รับหมอบหมายและพร้อมที่จะเดินไปด้วยกันแค่นี้จาก้อมีความสุขแล้ว รักนะน้องภัค
15 Apr 2007 | Comment by :
ninja เราเป็นผู้ชาย
|
Comment 3 |
---|
สู้ต่อไปนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ เป็นอุทาหรณ์เตือนใจเราจัง เพราะเราก็ชอบคบหากับคนใน msn เป็นประจำ
14 Apr 2007 | Comment by :
foning
|
Comment 2 |
---|
ดีค่ะที่คุณเอามาเล่าแบบนี้ ขอบคุณนะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะที่คุณนำมาเล่า ยังงัยก็ขอให้คุณและสามีของคุณมีเจ้าตัวน้อยด้วยกันเร็วๆนะค่ะ และอย่าไปคิดถึงผู้ชายเลวๆที่คุณเคยเรียกเขาว่าที่รักเลยค่ะ เขาไม่มีค่าพอที่จะให้คุณเรียกเขาแบบนั้น ดีใจด้วยนะค่ะที่หลุดพ้นจากคนเลวๆอย่างนั้นมาได้ ยังงัยมีเจ้าตัวน้อยเร็วๆนะค่ะ แล้วอย่าลืมมาบอกด้วยนะค่ะ ส่งเมลล์มาหา มาบอกกันบ้างนะค่ะ อยากเห็นเจ้าตัวน้อยของคุณจังว่าจะน่ารักมากแค่ไหน ^^ ขอให้มีความสุขมากๆนะค่ะ และขอให้ความทุกข์ที่คุณเคยรับหายไปจากใจคุณให้หมดโดยสามีที่น่ารักของคุณนะค่ะ ดีใจด้วยค่ะ
14 Apr 2007 | Comment by :
fujihara
|
Comment 1 |
---|
รักที่คุณมอบให้คนที่คุณเรียกว่า "ที่รัก" มันคงมากที่สุดในชีวิต ...แต่คุณรู้มั้ย .... รักจาก"ที่รัก"ที่มอบให้ลูกและภรรยา มันก้อมากที่สุดในชีวิตของเขา รักจากภรรยาของ"ที่รัก"ที่มอบให้กับสามี มันก้อมากที่สุดในชีวิต รักจากสามีคุณที่มอบให้กับคุณ มันก้อมากที่สุดในชีวิต รักจากครอบครัวที่มอบคุณให้กับคุณ มันก้อมากที่สุดในชีวิต .... เช่นกัน หากคุณรู้จักเลือก .. ที่จะรัก คุณจะได้รัก คนที่เขารักคุณให้สุดในชีวิต ไม่ต้องทนเจ็บเป็นสองรองใคร มีสามีดีที่รักคุณอย่างสุดชีวิต พร้อมกับครอบครัวที่รักคุณอย่างสุดหัวใจเช่นกัน ... ดีใจนะคะ แม้จะผ่านมันมาอย่างยากเย็น แต่ตอนนี้คุณรู้แล้วนี่คะ ว่าคุณควรที่จะรักใคร และมีใครบ้างที่รักคุณอย่างจริงใจ .. เนอะ
14 Apr 2007 | Comment by :
i-love-you
|
เสื้อเชิ้ต แขนสั้น รุ่นยอดฮิต มินิมอล วัสดุผ้าไหมอิตาลี
สั่งซื้อ https://shope.ee/6fHTEBAQ56ราคา 389 บาท
Dr.PONG Timeless Bakuchiol anti-aging lip mask ลิป มาสก์ ชะลอริมฝีปากเหี่ยวย่น ผิวกระชับ ปากอวบอิ่ม
สั่งซื้อ https://shope.ee/9pFXBUZ9BKราคา 199 บาท
4U2 DEAR ME LIQUID BLUSH - บลัชออนเนื้อน้ำ (บลัชหูกระต่าย)
สั่งซื้อ https://s.shopee.co.th/qVIFv6sJNราคา 179 บาท
FULI หมอนนวดคอไฟฟ้า FULI Ergo Massage Neck Pillow ของแท้
สั่งซื้อ https://s.shopee.co.th/2VdWI0qeW3ราคา 1990 บาท
ผ้าม่านตีนตุ๊กแก ผ้ากั้นห้อง ลายการ์ตูน สไตล์มินิมอล ไม่ต้องเจาะผนัง
สั่งซื้อ https://s.shopee.co.th/wBQAqGgOราคา 89 บาท
เก้าอี้แคมป์ปิ้ง เก้าอี้สนามที่พับได้ camping ขาตั้งอลูมิเนียม รับน้ำหนักได้ 300กก
สั่งซื้อ https://s.shopee.co.th/9UnGaogmqoราคา 239 บาท
ท๊อฟฟี่เค้ก ชลบุรี
สั่งซื้อ https://shope.ee/8pMa8a0Cdjราคา 95 บาท
Care Bears 45 cm. (ตุ๊กตาแคร์แบร์ 45 ซม.) I CareBears ลิขสิทธิ์ประเทศไทย ของแท้
สั่งซื้อ https://shope.ee/B3raUcoopราคา 1390 บาท
Intensive care Hand Cream Healthy Hands & Nail
สั่งซื้อ https://s.shopee.co.th/7Kilzuujh9ราคา 83 บาท
HOMEMATE เครื่องอุ่นถ้วยกาแฟ นม เครื่องอุ่นกาแฟ รุ่น HOM-EB2188 โดย Verasu
สั่งซื้อ hhttps://s.shopee.co.th/6V9f0YAiBMราคา 857 บาท
Lenovo LP40 PRO หูฟัง TWS หูฟังบลูทูธ ไร้สายบลูทูธ 5.1 เวอร์ชันใหม่ LP40 พร้อมไมค์ IPX5
สั่งซื้อ https://shope.ee/1VZF8MS316ราคา 264 บาท
กระถางต้นไม้แบบใส เก๋มาก วางโต๊ะทำงานสวยๆ
สั่งซื้อ https://s.shopee.co.th/50KrDVTGGxราคา 45 บาท