ไขข้อข้องใจโฆษณาหนังสือ พลังแห่งชีวิต

Talk About Women

ไขข้อข้องใจโฆษณาหนังสือ พลังแห่งชีวิต
ทุกคนอาจจะสงสัยว่าเป็นโฆษณาของอะไร และเพื่ออะไร บางคนเห็นครั้งแรกนึกว่าเป็นการโฆษณาหนังสือพ๊อกเก๊ตบุ๊คเล่มใหม่ ของปุ๊ -อัญชลี จงคดีกิจ เนื่องจากถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นชุดแรกๆที่ออนแอร์โดยมีอัญชลีเป็นพรีเซ็นเตอร์ และช่วงนั้นยิงสปอตถี่มาก ก่อนที่จะมีชุดอื่น โดยมีพรีเซ็นเตอร์คนอื่นตามมาอีกระลอกใหญ่ เนื้อหาในโฆษณาจะเป็นการให้พรีเซ็นเตอร์พูดโดยสรุปแล้วคือ ชีวิตที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีปัญหาอะไร แต่เมื่อเปิดใจและศึกษาตลอดจนอ่านคัมภีร์ไบเบิ้ลแล้วก็ทำให้ชีวิตและจิตใจเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ความจริงแล้วโฆษณาชุดดังกล่าวนี้ เป็นโฆษณาที่ไม่ได้หวังผลเชิงพาณิชย์ เพราะว่าไม่มีสินค้าที่จะให้ซื้อหรือนำมาขาย แต่เป็นการโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้คน อ่านหนังสือเล่มดังกล่าวเท่านั้นเอง และที่สำคัญหนังสือเล่มนี้ก็ไม่ได้ขายด้วยแต่เป็นการแจกฟรีตามเงื่อนไขที่ทางเจ้าของโฆษณานั้นบอกมา เมื่อต้องการรับหนังสือฟรี ให้โทรไปที่ 0-2576-5555 หรือ โทร 1722 อีกวิธีหนึ่งคือ ส่งชิ้นส่วนที่มีแทรกอยู่ตามสื่อสิ่งพิมพ์ไปยังที่อยู่ที่ระบุไว้เพื่อรับหนังสือ พลังแห่งชีวิต ฟรี 1 เล่ม ทั้งนี้มีข้อความที่ย้ำด้วยว่า ไม่รับบริจาคใดๆทั้งสิ้น โดยมีการพิมพ์หนังสือ พลังแห่งชีวิต เพื่อเตรียมไว้แจกฟรีจำนวน 600,000 เล่ม เจ้าของงานชิ้นนี้คือ "มูลนิธิ อาเธอร์ เอส เดอมอส" ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ตั้งอยู่ในอเมริกา โดยผู้ก่อตั้งเป็นชาวคริสเตียน และมีความต้องการที่จะนำเสนอว่า พระเจ้าทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงได้ "จริงๆ แล้วโฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้ต้องการอะไรเลย ไม่ได้ขายของเพราะไม่มีของให้ขาย ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองหรืออะไรทั้งสิ้น คนที่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ไม่มีค่าตัวด้วย แต่เจ้าของทำเพื่อต้องการให้คนทั่วไปรู้จักคำสั่งสอนของพระเจ้ามากขึ้น ย้ำคำสอนของพระเจ้าว่า ถ้าคนทั่วโลกมีความรักกันโลกก็ไม่มีปัญหาเท่านี้เอง หนังออนแอร์แค่เดือนเดียวก็จบกันไป" ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้กล่าวให้ฟัง สำหรับผลงานโฆษณาชิ้นนี้เป็นฝีมือความคิดสร้างสรรค์ของโอกิลวี่ โดยมีทางบริษัท 124 คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาการประชาสัมพันธ์ ซึ่งเริ่มออนแอร์ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะมีระยะเวลาออนแอร์นานประมาณ 4 สัปดาห์เท่านั้นเอง พรีเซ็นเตอร์ที่มาร่วมงานแสดงโฆษณาชิ้นนี้เท่าที่เห็นมี 4 คนคือ ปุ๊-อัญชลี จงคดีกิจ นักร้องดังในอดีต, บอย โกสิยพงษ์ โปรดิวเซอร์ นักร้อง นักแต่งเพลง, กอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) , ลอร่า นักแสดงและพิธีกร นอกจากสื่อทีวีแล้วก็ยังมีบิลบอร์ด สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออื่นๆ อีกจำนวนมากหลากหลายกระจายทั่วกรุงเทพฯ ทั้งหมดนี้คือข้อมูลและความเป็นไปของโฆษณาชิ้นดังกล่าว สำหรับความเห็นส่วนตัวนะคะ.....โฆษณานี้ทำได้ดีนะคะ ดูสบายๆ แต่พอช่วงที่พูดถึงพระเจ้ารู้สึกว่าทำไมต้องโฆษณากันอย่างนี้เลยเหรอ แต่ก็โอเค เป็นความคิดที่ดีสำหรับการเผยแพร่ศาสนาของทางคริสต์ แต่ว่าโดยมากแล้วคนที่ไม่ได้นับถือคริสต์มักจะไม่อยากข้องเกี่ยวเพราะว่า บางทีเราเพียงแค่อยากศึกษาเรื่องราวเท่านั้น กลับกลายเป็นว่าเค้าโทรมาหาหรือถามอะไรต่อมิอะไร และพยายามชักจูงให้เข้าศาสนา ทั้งๆที่หนังสือเล่มนี้อาจจะมีข้อคิดที่ดีๆสำหรับบุคคลทั่วไปโดยไม่จำกัดศาสนาเลยทีเดียว ถ้าโฆษณานี้ไม่บ่งบอกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า คนทั่วไปคงอยากได้หนังสือเล่มนี้มาไว้ในครอบครองเพื่ออ่านและทำความเข้าใจ นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวนะคะ มิได้หมิ่นศาสนาใดๆ เพียงแค่ออกความเห็นเกี่ยวกับตัวโฆษณาเท่านั้นค่ะ 24 Oct 2004 \| Post by : BlueGirl

ทุกคนอาจจะสงสัยว่าเป็นโฆษณาของอะไร และเพื่ออะไร บางคนเห็นครั้งแรกนึกว่าเป็นการโฆษณาหนังสือพ๊อกเก๊ตบุ๊คเล่มใหม่ ของปุ๊ -อัญชลี จงคดีกิจ เนื่องจากถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นชุดแรกๆที่ออนแอร์โดยมีอัญชลีเป็นพรีเซ็นเตอร์ และช่วงนั้นยิงสปอตถี่มาก ก่อนที่จะมีชุดอื่น โดยมีพรีเซ็นเตอร์คนอื่นตามมาอีกระลอกใหญ่ เนื้อหาในโฆษณาจะเป็นการให้พรีเซ็นเตอร์พูดโดยสรุปแล้วคือ ชีวิตที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีปัญหาอะไร แต่เมื่อเปิดใจและศึกษาตลอดจนอ่านคัมภีร์ไบเบิ้ลแล้วก็ทำให้ชีวิตและจิตใจเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

ความจริงแล้วโฆษณาชุดดังกล่าวนี้ เป็นโฆษณาที่ไม่ได้หวังผลเชิงพาณิชย์ เพราะว่าไม่มีสินค้าที่จะให้ซื้อหรือนำมาขาย แต่เป็นการโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้คน อ่านหนังสือเล่มดังกล่าวเท่านั้นเอง และที่สำคัญหนังสือเล่มนี้ก็ไม่ได้ขายด้วยแต่เป็นการแจกฟรีตามเงื่อนไขที่ทางเจ้าของโฆษณานั้นบอกมา เมื่อต้องการรับหนังสือฟรี ให้โทรไปที่ 0-2576-5555 หรือ โทร 1722

อีกวิธีหนึ่งคือ ส่งชิ้นส่วนที่มีแทรกอยู่ตามสื่อสิ่งพิมพ์ไปยังที่อยู่ที่ระบุไว้เพื่อรับหนังสือ พลังแห่งชีวิต ฟรี 1 เล่ม ทั้งนี้มีข้อความที่ย้ำด้วยว่า ไม่รับบริจาคใดๆทั้งสิ้น โดยมีการพิมพ์หนังสือ พลังแห่งชีวิต เพื่อเตรียมไว้แจกฟรีจำนวน 600,000 เล่ม เจ้าของงานชิ้นนี้คือ "มูลนิธิ อาเธอร์ เอส เดอมอส" ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ตั้งอยู่ในอเมริกา โดยผู้ก่อตั้งเป็นชาวคริสเตียน และมีความต้องการที่จะนำเสนอว่า พระเจ้าทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงได้

"จริงๆ แล้วโฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้ต้องการอะไรเลย ไม่ได้ขายของเพราะไม่มีของให้ขาย ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองหรืออะไรทั้งสิ้น คนที่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ไม่มีค่าตัวด้วย แต่เจ้าของทำเพื่อต้องการให้คนทั่วไปรู้จักคำสั่งสอนของพระเจ้ามากขึ้น ย้ำคำสอนของพระเจ้าว่า ถ้าคนทั่วโลกมีความรักกันโลกก็ไม่มีปัญหาเท่านี้เอง หนังออนแอร์แค่เดือนเดียวก็จบกันไป" ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้กล่าวให้ฟัง

สำหรับผลงานโฆษณาชิ้นนี้เป็นฝีมือความคิดสร้างสรรค์ของโอกิลวี่ โดยมีทางบริษัท 124 คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาการประชาสัมพันธ์ ซึ่งเริ่มออนแอร์ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะมีระยะเวลาออนแอร์นานประมาณ 4 สัปดาห์เท่านั้นเอง

พรีเซ็นเตอร์ที่มาร่วมงานแสดงโฆษณาชิ้นนี้เท่าที่เห็นมี 4 คนคือ ปุ๊-อัญชลี จงคดีกิจ นักร้องดังในอดีต, บอย โกสิยพงษ์ โปรดิวเซอร์ นักร้อง นักแต่งเพลง, กอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) , ลอร่า นักแสดงและพิธีกร

นอกจากสื่อทีวีแล้วก็ยังมีบิลบอร์ด สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออื่นๆ อีกจำนวนมากหลากหลายกระจายทั่วกรุงเทพฯ ทั้งหมดนี้คือข้อมูลและความเป็นไปของโฆษณาชิ้นดังกล่าว

สำหรับความเห็นส่วนตัวนะคะ.....โฆษณานี้ทำได้ดีนะคะ ดูสบายๆ แต่พอช่วงที่พูดถึงพระเจ้ารู้สึกว่าทำไมต้องโฆษณากันอย่างนี้เลยเหรอ แต่ก็โอเค เป็นความคิดที่ดีสำหรับการเผยแพร่ศาสนาของทางคริสต์ แต่ว่าโดยมากแล้วคนที่ไม่ได้นับถือคริสต์มักจะไม่อยากข้องเกี่ยวเพราะว่า บางทีเราเพียงแค่อยากศึกษาเรื่องราวเท่านั้น กลับกลายเป็นว่าเค้าโทรมาหาหรือถามอะไรต่อมิอะไร และพยายามชักจูงให้เข้าศาสนา ทั้งๆที่หนังสือเล่มนี้อาจจะมีข้อคิดที่ดีๆสำหรับบุคคลทั่วไปโดยไม่จำกัดศาสนาเลยทีเดียว ถ้าโฆษณานี้ไม่บ่งบอกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า คนทั่วไปคงอยากได้หนังสือเล่มนี้มาไว้ในครอบครองเพื่ออ่านและทำความเข้าใจ นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวนะคะ มิได้หมิ่นศาสนาใดๆ เพียงแค่ออกความเห็นเกี่ยวกับตัวโฆษณาเท่านั้นค่ะ

24 Oct 2004 | Post by : BlueGirl

Comment 18
ดิแนชอบหนังสือพลังแห่งชิวิตมากค่ะ 21 Feb 2006 \| Comment by : จีจี้

Comment 17
i was buddish before.how i have accept jesus christ and to belive in God?.......i used to c this world in a very negative way.....sometimes i cant get wat i want or no one caould understand me!!!!!......i go and find friends.....but now i know jesus is my best friend!i pray andddd ask him to be with me...when i was doing my exam and many things....there is hope.....just have faith in him.......i have just got this book and i believe that this book will help u a lot...in anything u do....ya...we must pray ya....it is the way u can feel his presence...... 7 Dec 2004 \| Comment by : nan

Comment 17

i was buddish before.how i have accept jesus christ and to belive in God?.......i used to c this world in a very negative way.....sometimes i cant get wat i want or no one caould understand me!!!!!......i go and find friends.....but now i know jesus is my best friend!i pray andddd ask him to be with me...when i was doing my exam and many things....there is hope.....just have faith in him.......i have just got this book and i believe that this book will help u a lot...in anything u do....ya...we must pray ya....it is the way u can feel his presence......

7 Dec 2004 | Comment by : nan

Comment 16
ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีจึงไม่จำเป็นต้องมาโฆษณาให้หันไปนับถือศาสนาตนเองหลอกคับ ปล่อยให้แต่ละคนจะศัทธาศาสนาใดจะดีว่าคับ 14 Nov 2004 \| Comment by : oxten2000

Comment 16

ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีจึงไม่จำเป็นต้องมาโฆษณาให้หันไปนับถือศาสนาตนเองหลอกคับ ปล่อยให้แต่ละคนจะศัทธาศาสนาใดจะดีว่าคับ

14 Nov 2004 | Comment by : oxten2000

Comment 15
ผมก็เป็นคนหนึ่งเมื่อก่อนไม่มีความเข้าใจในเรื่องของพระเจ้า เห็นว่าไม่มีจริง และรู้สึกอคติอยู่บ้าง พอวันหนึ่งคือเมื่อ3ปีกว่า มานี้ผมได้เริ่มรู้จักพระเจ้าด้วยความบังเอินมาก บางคนอาจไม่เชื่อแต่มันเกิดกับตัวผมคือคืนนั้นผมฝันเห็นกางเขน และผมก็ตกใจ เพราะคิดถึงความตายคือป่าช้าที่มีไม้กางเขน แต่ก็ไม่ได้สนใจนัก ตอนเช้าเริ่มเที่ยงผมเข้าอ่านหนังสือในห้องสมุดพบหนังสือเล่มหนึ่งตั้งอยู่เรื่องว่า ปี2000ไม่ใช่วันสิ้นโลก พอเปิดอ่านที่ใหนได้เป็นเรื่องพระเยซู พระเจ้าทั้งเล่มเลย ผมก็แปลกใจคิดว่าบังเอนพอนึกถึงเมือคืนที่ฝัน ผมอ่านยังไม่ทันจบ อยู่ก็มีพี่คนหนึ่งเดินเข้ามา จะเล่าเรื่องพระเยซู ตอนนั้นผมตกใจมาก มันบังเอินอะไรขนาดนี้ ผมก็เริ่มศึกษาเรื่องพระเยซู แล้วเห็นว่าดีมาก และพระเจ้าก็เป็นจริงในชีวิตผม พระเจ้าเปลี่ยนชีวิตผมให้ดีขึ้นในหลายๆเรื่อง และมีเพื่อนที่จริงใจมากๆ และพระองค์ก็รักเราด้วย ขอบคุณพระเจ้าครับ 8 Nov 2004 \| Comment by : สิทธิพล จันทร์ผ่อง

Comment 15

ผมก็เป็นคนหนึ่งเมื่อก่อนไม่มีความเข้าใจในเรื่องของพระเจ้า เห็นว่าไม่มีจริง และรู้สึกอคติอยู่บ้าง พอวันหนึ่งคือเมื่อ3ปีกว่า มานี้ผมได้เริ่มรู้จักพระเจ้าด้วยความบังเอินมาก บางคนอาจไม่เชื่อแต่มันเกิดกับตัวผมคือคืนนั้นผมฝันเห็นกางเขน และผมก็ตกใจ เพราะคิดถึงความตายคือป่าช้าที่มีไม้กางเขน แต่ก็ไม่ได้สนใจนัก ตอนเช้าเริ่มเที่ยงผมเข้าอ่านหนังสือในห้องสมุดพบหนังสือเล่มหนึ่งตั้งอยู่เรื่องว่า ปี2000ไม่ใช่วันสิ้นโลก พอเปิดอ่านที่ใหนได้เป็นเรื่องพระเยซู พระเจ้าทั้งเล่มเลย ผมก็แปลกใจคิดว่าบังเอนพอนึกถึงเมือคืนที่ฝัน ผมอ่านยังไม่ทันจบ อยู่ก็มีพี่คนหนึ่งเดินเข้ามา จะเล่าเรื่องพระเยซู ตอนนั้นผมตกใจมาก มันบังเอินอะไรขนาดนี้ ผมก็เริ่มศึกษาเรื่องพระเยซู แล้วเห็นว่าดีมาก และพระเจ้าก็เป็นจริงในชีวิตผม พระเจ้าเปลี่ยนชีวิตผมให้ดีขึ้นในหลายๆเรื่อง และมีเพื่อนที่จริงใจมากๆ และพระองค์ก็รักเราด้วย ขอบคุณพระเจ้าครับ

8 Nov 2004 | Comment by : สิทธิพล จันทร์ผ่อง

Comment 14
ผมขอยกตัวอย่างให้ฟัง ถ้าคุณได้พบอะไรที่คุณประทับใจในชีวิต คงจะไม่เก็บไว้คนเดียวใช่ไหมครับ คงอยากจะบอกคนที่เราอยากจะบอก และประเทศไทยเราก็มีเสรีภาพในขอบเขตเหมือนกัน ถ้าคุณมีจิตใจที่เข้าใจในกฎหมายบ้านเมือง คุณจะเข้าใจว่า การที่เรามีสิทธิเสรีภาพในการนับถือ สิ่งที่เรารักและต้องการแบ่งปันความปรารถนาดีให้ผู้อื่น นั่นแหละครับ จิตใจที่บริสุทธิ์ และการศึกษาสามารถเสริมสร้างให้เรารู้จักวิเคราะห์ว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี เราคงไม่ฟังและหลงเชื่อไปตามกระแสมวลชน โดยไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีคุณลองโทรมาคุยกับผมสิครับ ผมยินดีเป็นเพื่อนที่ดีและคุยอย่างมีเหตุผลจริงๆนะครับ เรื่องศาสนา การโฆษณาชวนเชื่อ จะไม่มีผลอะไรเลย ถ้าถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นจริง คนเหล่านั้นที่ออกมา แนะนำชีวิตของเขาเองก็มีการศึกษาดี หน้าที่ตำแหน่งการงานก็ดี และยังมีประวัติการดำเนินชีวิตที่ไม่มีข้อตำหนิได้เลย ครับ ด้วยความนับถือ 02-7188119 paiboon_dang@yahoo.com 4 Nov 2004 \| Comment by : Paiboon

Comment 14

ผมขอยกตัวอย่างให้ฟัง ถ้าคุณได้พบอะไรที่คุณประทับใจในชีวิต คงจะไม่เก็บไว้คนเดียวใช่ไหมครับ คงอยากจะบอกคนที่เราอยากจะบอก และประเทศไทยเราก็มีเสรีภาพในขอบเขตเหมือนกัน ถ้าคุณมีจิตใจที่เข้าใจในกฎหมายบ้านเมือง คุณจะเข้าใจว่า การที่เรามีสิทธิเสรีภาพในการนับถือ สิ่งที่เรารักและต้องการแบ่งปันความปรารถนาดีให้ผู้อื่น นั่นแหละครับ จิตใจที่บริสุทธิ์ และการศึกษาสามารถเสริมสร้างให้เรารู้จักวิเคราะห์ว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี เราคงไม่ฟังและหลงเชื่อไปตามกระแสมวลชน โดยไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีคุณลองโทรมาคุยกับผมสิครับ ผมยินดีเป็นเพื่อนที่ดีและคุยอย่างมีเหตุผลจริงๆนะครับ เรื่องศาสนา การโฆษณาชวนเชื่อ จะไม่มีผลอะไรเลย ถ้าถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นจริง คนเหล่านั้นที่ออกมา แนะนำชีวิตของเขาเองก็มีการศึกษาดี หน้าที่ตำแหน่งการงานก็ดี และยังมีประวัติการดำเนินชีวิตที่ไม่มีข้อตำหนิได้เลย ครับ ด้วยความนับถือ 02-7188119 paiboon_dang@yahoo.com

4 Nov 2004 | Comment by : Paiboon

Comment 13
ผมเข้าใจและเห็นใจในความคิดของแต่ละบุคคล ในมุมมองของแต่ละคน และในประสบการณ์ในชีวิตในสังคมที่ต้องพบกับการหลอกลวง ผมจะขอเล่าให้ทุกท่านฟังเพื่อทุกๆท่านจะได้เข้าใจ คำว่า "พลังแห่งชีวิต" คืออะไร ผมในฐานะคนที่เชื่อพระเยซูคริสต์ (พระเจ้าที่ชาวคริสต์นับถือ)ผมรับเชื่อพระองค์มาแล้ว 24 ปี ขอเล่าให้ฟังว่า บุคคลที่ทุกท่านได้เห็นในจอทีวีนั้น มี คุณอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊) คุณบอย โกสิยพงษ์ คุณศศิธร วัฒนกุล (ลอร่า) คุณกอบชัย จิราธิวัฒน์ คุณศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร (โต๋) คุณประพฤติ ชัยธนสกุล (รมย์ สุรินทร์) คุณมนตรี ศรไพศาล คุณคาเรน คล่องตรวจโรค คุณณัฐ ยนตรรักษ์ บุคคลเหล่านี้นั้นล้วนแล้วมีสติปัญญาในการทำงานและมีการศึกษา การที่ท่านเหล่านี้ได้อุทิศตนเพื่อแสดงออกถึง "คำพยานแห่งชีวิต" เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของตนเองนั้นย่อมมีเหตุผลอย่างแน่นอน คำพยานชีวิตของแต่ละท่านนั้น ได้สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวที่คนทั่วๆไปก็อาจเหมือนท่านเหล่านี้ แต่ท่านเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นที่ ได้สัมผัสกับพระเยซูคริสต์ แล้วเกิดมีการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมในชีวิตปัจจุบันที่ดีกว่าชีวิตในอดีต ท่านผู้สนใจและท่านผู้ยังสงสัยถึง เรื่องงบประมาณในการลงโฆษณา ผมจะอธิบายให้ทุกท่านฟัง นะครับ เมื่อมีใครสักคนหนึ่งที่ร่ำรวยและมีเงินเหลือใช้ และเมื่อเขาสำนึกถึงความรักที่พระเจ้าคือพระเยซูคริสต์ ยอมตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาป และผู้นั้นที่ได้ยอมรับพระองค์เข้ามาในจิตใจ สำนึกถึงพระคุณที่พระเจ้ารักเขา อยากจะบอกถึงความรักของพระเจ้าให้คนทั่วโลกได้รับรู้ และรับการเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีเหมือนที่เขาได้รับและได้สัมผัส โดยประสบการณ์ส่วนตัว ไม่มีใครมาบังคับ นี่แหละครับ ความรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง จริงใจ ให้ฟรีๆ รักคนที่ไม่น่ารักได้ ให้อภัยและเข้าใจ ทุกท่าน ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เข้าใจ มูลนิธิ อาร์เธอร์ เอส เดอมอส ซึ่งเจ้าของก็เป็นผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์เช่นกัน ไม่ว่าจะชนชาติไหนๆ เราเป็นพี่น้องกันในความรักที่ถูกไถ่จากความบาปเช่นกัน ครับ ถ้าท่านอยากจะได้ข้อมูลให้กระจ่างชัดกรุณาติดต่อผมได้ที่ 06-6264643 หรือ 02-7188119 คุณไพบูลย์ จิระวิจิตรกุล www.neramithost.com 4 Nov 2004 \| Comment by : Paiboon

Comment 13

ผมเข้าใจและเห็นใจในความคิดของแต่ละบุคคล ในมุมมองของแต่ละคน และในประสบการณ์ในชีวิตในสังคมที่ต้องพบกับการหลอกลวง ผมจะขอเล่าให้ทุกท่านฟังเพื่อทุกๆท่านจะได้เข้าใจ คำว่า "พลังแห่งชีวิต" คืออะไร ผมในฐานะคนที่เชื่อพระเยซูคริสต์ (พระเจ้าที่ชาวคริสต์นับถือ)ผมรับเชื่อพระองค์มาแล้ว 24 ปี ขอเล่าให้ฟังว่า บุคคลที่ทุกท่านได้เห็นในจอทีวีนั้น มี คุณอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊) คุณบอย โกสิยพงษ์ คุณศศิธร วัฒนกุล (ลอร่า) คุณกอบชัย จิราธิวัฒน์ คุณศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร (โต๋) คุณประพฤติ ชัยธนสกุล (รมย์ สุรินทร์) คุณมนตรี ศรไพศาล คุณคาเรน คล่องตรวจโรค คุณณัฐ ยนตรรักษ์ บุคคลเหล่านี้นั้นล้วนแล้วมีสติปัญญาในการทำงานและมีการศึกษา การที่ท่านเหล่านี้ได้อุทิศตนเพื่อแสดงออกถึง "คำพยานแห่งชีวิต" เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของตนเองนั้นย่อมมีเหตุผลอย่างแน่นอน คำพยานชีวิตของแต่ละท่านนั้น ได้สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวที่คนทั่วๆไปก็อาจเหมือนท่านเหล่านี้ แต่ท่านเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นที่ ได้สัมผัสกับพระเยซูคริสต์ แล้วเกิดมีการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมในชีวิตปัจจุบันที่ดีกว่าชีวิตในอดีต ท่านผู้สนใจและท่านผู้ยังสงสัยถึง เรื่องงบประมาณในการลงโฆษณา ผมจะอธิบายให้ทุกท่านฟัง นะครับ เมื่อมีใครสักคนหนึ่งที่ร่ำรวยและมีเงินเหลือใช้ และเมื่อเขาสำนึกถึงความรักที่พระเจ้าคือพระเยซูคริสต์ ยอมตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาป และผู้นั้นที่ได้ยอมรับพระองค์เข้ามาในจิตใจ สำนึกถึงพระคุณที่พระเจ้ารักเขา อยากจะบอกถึงความรักของพระเจ้าให้คนทั่วโลกได้รับรู้ และรับการเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีเหมือนที่เขาได้รับและได้สัมผัส โดยประสบการณ์ส่วนตัว ไม่มีใครมาบังคับ นี่แหละครับ ความรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง จริงใจ ให้ฟรีๆ รักคนที่ไม่น่ารักได้ ให้อภัยและเข้าใจ ทุกท่าน ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เข้าใจ มูลนิธิ อาร์เธอร์ เอส เดอมอส ซึ่งเจ้าของก็เป็นผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์เช่นกัน ไม่ว่าจะชนชาติไหนๆ เราเป็นพี่น้องกันในความรักที่ถูกไถ่จากความบาปเช่นกัน ครับ ถ้าท่านอยากจะได้ข้อมูลให้กระจ่างชัดกรุณาติดต่อผมได้ที่ 06-6264643 หรือ 02-7188119 คุณไพบูลย์ จิระวิจิตรกุล www.neramithost.com

4 Nov 2004 | Comment by : Paiboon

Comment 12
จาก "คม ชัด ลึก" บอกว่า มีคนไทยกว่า 1 ล้านคนสนใจจองหนังสือเล่มนี้นะ 3 Nov 2004 \| Comment by : ฟาง

Comment 11
ผมได้รู้จักกับพระเจ้าสามารถแก้ปัญหาความทุกข์ 3 Nov 2004 \| Comment by : GREEN

Comment 10
ชอบหนังสือพลังแห่งชีวิต 3 Nov 2004 \| Comment by : อัญชลินทร์ ทองทา

Comment 9
เราควรแจกมั่ง เลิกเรี่ยไรได้แล้ว 31 Oct 2004 \| Comment by : คนพรุธ

Comment 8
เป็นชาวพุทธครับ (ไม่ได้เป็นเพียงแค่ในสำมะโนครัวด้วย) เขียนไปขอหนังสือเหมือนกัน ได้รับแล้วด้วย เค้าใช้กระดาษอย่างดี เรียกว่าลงทุนไปเยอะเเหละ แต่เท่าที่อ่านจากพรีเซ็นเตอร์ทั้ง 10 คน ดูเหมือนว่าจะมีแค่ 2-3 คนเอง ที่เป็นคริสต์โดยกำเนิด ที่เหลือก็คงเปลี่ยนศาสนามา (สังเกตุจากประโยค "แล้ววันหนึ่ง....ก็รับพระเจ้าเข้ามาในชีวิต" อะไรทำนองเนี้ย) เนื้อหาพยายามโยงความสำเร็จของบุคคลเหล่านั้นเข้ากับ พระเจ้า อ่านแล้วเฉยๆ ครับ ยังไงปรัญชาพุทธก็สูงกว่าเยอะเลย มีเหตุผลดีกว่าด้วย 29 Oct 2004 \| Comment by : ชาวพุทธ

Comment 8

เป็นชาวพุทธครับ (ไม่ได้เป็นเพียงแค่ในสำมะโนครัวด้วย) เขียนไปขอหนังสือเหมือนกัน ได้รับแล้วด้วย เค้าใช้กระดาษอย่างดี เรียกว่าลงทุนไปเยอะเเหละ แต่เท่าที่อ่านจากพรีเซ็นเตอร์ทั้ง 10 คน ดูเหมือนว่าจะมีแค่ 2-3 คนเอง ที่เป็นคริสต์โดยกำเนิด ที่เหลือก็คงเปลี่ยนศาสนามา (สังเกตุจากประโยค "แล้ววันหนึ่ง....ก็รับพระเจ้าเข้ามาในชีวิต" อะไรทำนองเนี้ย) เนื้อหาพยายามโยงความสำเร็จของบุคคลเหล่านั้นเข้ากับ พระเจ้า อ่านแล้วเฉยๆ ครับ ยังไงปรัญชาพุทธก็สูงกว่าเยอะเลย มีเหตุผลดีกว่าด้วย

29 Oct 2004 | Comment by : ชาวพุทธ

Comment 7
ขอสังเกตุนิดหนึ่งเจ้าค่ะสำหรับ นักร้องที่มา โฆษณา พลังแห่งชีวิต ตามความเป็นจริงแล้วคุณเป็น คริสเตียน มาตั้งแต่กำเนิด และอยู่กับพระเจ้ามาก่อนหน้าที่คุณจะมาป็นนักร้องด้วยซ้ำไป แล้วเหตุไรจึงมาบอกว่า หลอกตนเอง และหลอกผู้อื่นในตอนที่คุณเป็นนักร้อง หรือว่า พระเจ้าของคุณ สอนคุณให้มาโกหก จ๊ะคุณ 28 Oct 2004 \| Comment by : กกก

Comment 7

ขอสังเกตุนิดหนึ่งเจ้าค่ะสำหรับ นักร้องที่มา โฆษณา พลังแห่งชีวิต
ตามความเป็นจริงแล้วคุณเป็น คริสเตียน มาตั้งแต่กำเนิด และอยู่กับพระเจ้ามาก่อนหน้าที่คุณจะมาป็นนักร้องด้วยซ้ำไป แล้วเหตุไรจึงมาบอกว่า หลอกตนเอง และหลอกผู้อื่นในตอนที่คุณเป็นนักร้อง หรือว่า พระเจ้าของคุณ สอนคุณให้มาโกหก จ๊ะคุณ

28 Oct 2004 | Comment by : กกก

Comment 6
Yes, it's a good book. If you have never known about God, u shouldn't miss it. Try God, and who knows it can change your life, like it has changed many lives already. Of course, change to be a better person, not changing to worse. 27 Oct 2004 \| Comment by : Sorn

Comment 5
GOOD JUNG LUIY!!!! I AM INTERESTED IN CHRISTIAN... THERE'S NOTHING TO LOSE IN LEARNING ABOUT THE GOD... IT'S GOOD TO TRY TO SEE HOW DIFFERENT BETWEEN CUDHISH AND CHIRSTIAN CAUSE I WONDER WHY THERE ARE A LOOOOOT OF CHRISTIANS IN THIS WORKD... AND WHY SO MANY PEOPLE TRUST THIS GOD SO MUCH... 27 Oct 2004 \| Comment by : PINK WORLD

Comment 4
สำหรับคนที่ที่นับถือศาสนาอื่นนั้นแล้วประสบความสำเร็จก็หมายความว่าใช้ความสามารถของตนเอง สำหรับผู้ที่วางใจในพระเจ้านั้นได้ มอบถวายทั้งชีวิตไว้กับพระเจ้า ถ้าพูดได้ก็การให้พระเจ้ามามีส่วนในการทำงานของเรา และหลายๆสิ่ง ซึ่งการประสบผลสำเร็จนั้นด้วยความพยายามของเรา บอกกับ แรงศรัทธในพระเจ้า ด้วย 25 Oct 2004 \| Comment by : ซัง

Comment 4

สำหรับคนที่ที่นับถือศาสนาอื่นนั้นแล้วประสบความสำเร็จก็หมายความว่าใช้ความสามารถของตนเอง สำหรับผู้ที่วางใจในพระเจ้านั้นได้ มอบถวายทั้งชีวิตไว้กับพระเจ้า ถ้าพูดได้ก็การให้พระเจ้ามามีส่วนในการทำงานของเรา และหลายๆสิ่ง ซึ่งการประสบผลสำเร็จนั้นด้วยความพยายามของเรา บอกกับ แรงศรัทธในพระเจ้า ด้วย

25 Oct 2004 | Comment by : ซัง

Comment 3
ถ้าไม่ใช่ความสามารถตัวเอง งี้พวกคนที่นับถือศาสนาอื่นที่ประสบความสำเร็จล่ะค่ะ.... หนังสือเล่มนี้น่าจะดีสำหรับคนทั่วไปในแง่การคิด การใช้ชีวิต การพึ่งตนเอง ถ้านับถืออะไรสักอย่างแต่ไม่เริ่มต้นทำแล้วจะสำเร็จได้อย่างไรคะ ...ไม่พูดต่อดีกว่าค่ะ ไม่อยากให้เป็นประเด็นทางศาสนา ที่เอามาให้อ่านก็เพราะเห็นว่าหนังสือน่าจะมีประโยชน์น่ะค่ะ 25 Oct 2004 \| Comment by : BlueGirl

Comment 3

ถ้าไม่ใช่ความสามารถตัวเอง งี้พวกคนที่นับถือศาสนาอื่นที่ประสบความสำเร็จล่ะค่ะ.... หนังสือเล่มนี้น่าจะดีสำหรับคนทั่วไปในแง่การคิด การใช้ชีวิต การพึ่งตนเอง ถ้านับถืออะไรสักอย่างแต่ไม่เริ่มต้นทำแล้วจะสำเร็จได้อย่างไรคะ ...ไม่พูดต่อดีกว่าค่ะ ไม่อยากให้เป็นประเด็นทางศาสนา ที่เอามาให้อ่านก็เพราะเห็นว่าหนังสือน่าจะมีประโยชน์น่ะค่ะ

25 Oct 2004 | Comment by : BlueGirl

Comment 2
จริงๆแล้วหนังสือเล่มนี้ทำมาเพื่อ ให้มนุษย์ได้สัมผัสถึงพลังของพระเจ้าผู้สร้างสรรพสิ่ง และหนังสือเล่มนี้จะพาเราไปสู่ความรอด ก็คือสวรรค์นั้นเอง เพราะว่ามนุษย์ได้กระทำบาป ฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงเป็นหนทางเดียวเท่านั้น จริงๆแล้วหนังสือเล่มนี้ก็คล้ายกับพระคัมภีร์ไบเบิล แต่เขียนขึ้นให้ชัดเจน สำหรับ ปุ๊ -อัญชลี จงคดีกิจ บอย โกสิยพงษ์ กอบชัย จิราธิวัฒน์ ลอร่า เป็นคริสชนที่ประสบความสำเร็จโดยอำนาจและสติปัญญาที่มาจากพระเจ้า ไม่ใช่ความสามารถของตนเอง และเขาเหล่านี้กำลังจะทำงานที่พระเจ้ามอบหมายไว้นั้นก็คือ การประกาศข่าวเกี่ยวกับความรอดที่มาจากพระเจ้า เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยทำไมหนังสือเล่มนี้จึงมีพระเจ้ามาเกี่ยวข้อง ถ้ามีอะไรสงสัยหรืออยากจะถามหรือสนใจ ก็ โทรมาที่ 019055304 หรือ เมลล์มาก็ได้ krit_sung@hotmail.com 25 Oct 2004 \| Comment by : ซัง

Comment 2

จริงๆแล้วหนังสือเล่มนี้ทำมาเพื่อ ให้มนุษย์ได้สัมผัสถึงพลังของพระเจ้าผู้สร้างสรรพสิ่ง และหนังสือเล่มนี้จะพาเราไปสู่ความรอด ก็คือสวรรค์นั้นเอง เพราะว่ามนุษย์ได้กระทำบาป ฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงเป็นหนทางเดียวเท่านั้น จริงๆแล้วหนังสือเล่มนี้ก็คล้ายกับพระคัมภีร์ไบเบิล แต่เขียนขึ้นให้ชัดเจน สำหรับ ปุ๊ -อัญชลี จงคดีกิจ บอย โกสิยพงษ์ กอบชัย จิราธิวัฒน์ ลอร่า เป็นคริสชนที่ประสบความสำเร็จโดยอำนาจและสติปัญญาที่มาจากพระเจ้า ไม่ใช่ความสามารถของตนเอง และเขาเหล่านี้กำลังจะทำงานที่พระเจ้ามอบหมายไว้นั้นก็คือ การประกาศข่าวเกี่ยวกับความรอดที่มาจากพระเจ้า เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยทำไมหนังสือเล่มนี้จึงมีพระเจ้ามาเกี่ยวข้อง ถ้ามีอะไรสงสัยหรืออยากจะถามหรือสนใจ ก็ โทรมาที่ 019055304 หรือ เมลล์มาก็ได้ krit_sung@hotmail.com

25 Oct 2004 | Comment by : ซัง

Comment 1
อืม 25 Oct 2004 \| Comment by : ...

Comment

Recommended Clinic

Beauty Clinic

SLC Clinic

View Details

Beauty Clinic

Cosmetica Clinic

View Details

Hospital / Wellness

W9 Wellness Center

View Details

Beauty Clinic

Kongju Clinic (กองจู คลินิก)

View Details

Beauty Clinic

KMB hospital Liposuction Thailand โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านดูดไขมัน

View Details

Webboard
7 เคล็ดลับ ทำอย่างไร ให้หน้าเด็ก 15 Dec 2015 โพสต์โดย: bumbleben 0
มีใครกินกาแฟลดความอ้วนแล้วใจสั่นบ้างอ่ะ 26 Feb 2010 โพสต์โดย: LookTan 2
อยากให้อ่าน 26 May 2008 โพสต์โดย: pandanaruto 7
จะตั้งกระทู้อะ 27 Aug 2005 โพสต์โดย: boibizboibiz 0
เครื่องฟอกอากาศและต้นไม้กรองฝุ่น คู่หูจัดการฝุ่นของบ้าน 14 Oct 2020 โพสต์โดย: dumhdurum 0
รวม 10 รีวิวดูดไขมัน จากคลินิกดัง ที่ดารา เซเลป เน็ตไอดอล มาทำ! 16 May 2018 โพสต์โดย: wonderbeauty11 0
เบื่อ...แฟนไม่มีเวลา~~ 20 Aug 2006 โพสต์โดย: dash 7
ใครไม่โพสเราจะโพส...Net Idol ของเกาหลี น่ารักนะ 16 Oct 2005 โพสต์โดย: PrincessAngel 15