Talk About Women

ภัยจากคอนแทกต์เลนส์ตาโต... เพื่อนที่ใช้อยู่ ควรอ่านไว้นะคะ น่าสนใจมาก
ระยะนี้มีข่าวจากสื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ฮือฮาถึงการใส่คอนแทกต์เลนส์ (Contact lens) ทำให้ตาโตขึ้น คงเป็นที่สนใจของสาวๆ ตาตี่ๆ กันทั่วไปก่อนจะไปใช้น่าจะมาเรียนรู้ถึงข้อควรปฏิบัติและโทษของมันดูบ้างอย่ามุ่งมั่นเพื่อความสวยงาม โดยลืมนึกถึงความปลอดภัย

เลนส์สัมผัสหรือที่เรียกกันติดปากว่าคอนแทกต์เลนส์เป็นแผ่นพลาสติกใสๆ บางๆ ได้รับการหล่อหรือขัดเกลาให้เป็นแผ่นกลมรูปกระทะ โดยมีความโค้งใกล้เคียงกับความโค้งของตาดำของเรา ตัวเลนส์มีกำลังหักเหของแสงคล้ายๆ เลนส์ที่ใช้ในแว่นตาขนาดต่างๆ เพื่อแก้ไขสายตาที่ฉาบบางๆ อู่ผิวตาดำเป็นตัวยึดให้เลนส์ติดกับตาดำ โดยที่เลนส์ขยับเคลื่อนที่ได้เล็กน้อยเมื่อเรากลอกตาไปมา



ใช้คอนแทกต์เลนส์เพื่ออะไร
ปัจจุบันการใช้คอนแทกต์เลนส์มีจุดประสงค์ 3 ประการ
1. เพื่อแก้ไขสายตาที่ผิดปกติ ทดแทนแว่นสายตากล่าวคือสามารถแก้ไข สายตาสั้น ตายาว ตาเอียง ตลอดจนสายตาผู้สูงอายุ โดยไม่ต้องใช้แว่นตา เป็นจุดประสงค์หลักที่ใช้กันมากที่สุด

2. ใช้รักษาโรคกระจกตาบางชนิด เป็นการใช้ชั่วคราวเมื่อโรคกระจกตานั้นหายก็เลิกใช้

3. ใช้เพื่อความสวยงาม เพื่อเปลี่ยนสีดวงตา หรือเพื่อปิดฝ้าขาวบริเวณตาดำ ในปัจจุบันนำมาใช้ให้ดวงตาดูโตขึ้นที่ฮือฮาเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้


ชนิดของคอนแทกต์เลนส์
คอนแทกต์เลนส์ที่ออกมาแต่เดิมเป็นเลนส์ใสไร้สีเพื่อจุดประสงค์สองข้อแรก สำหรับคอนแทกต์เลนส์สีเพิ่งมีใช้ในระยะ 10 กว่าปีมานี้เอง เพื่อจุดประสงค์ในข้อ 3 และมีบ้างที่คอนแทกต์เลนส์สีช่วยทั้งเปลี่ยนสีตาและแก้ไขสายตาที่ผิดปกติด้วย อาจแบ่งคอนแทกต์เลนส์สีออกเป็น 4 ชนิด
1. Visibility colored lens เป็นสีอ่อนๆ ออกสีฟ้าหรือเขียวอ่อน เป็นอันดับแรกๆ ของคอนแทกต์เลนส์สี

จุดประสงค์ให้ผู้ใช้มองเห็นได้ง่าย แต่เดิมผู้ใช้คอนแทกต์เลนส์ไร้สีเมื่อถอดออกจากดวงตาแทบจะมองไม่เห็น อาจจะตกหล่นหรือหาย หรือแม้เมื่อถอดออกจากตาใส่ในตลับอาจวางเลนส์ที่ขอบตลับเมื่อปิดตลับทำให้เลนส์ฉีกขาดได้ ถ้าทำเป็นสีจางๆ จะช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นเลนส์ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเลนส์สีชนิดนี้สีจางมากจึงไม่เปลี่ยนสีตาของผู้ใช้

2. Enhance colored contact lens เป็นเม็ดสีที่ย้อมเข้าไปในเนื้อคอนแทกต์เลนส์ที่เข้มกว่าและเม็ดสีหนาแน่นกว่า

จุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนสีตาของผู้ใช้ โดยเม็ดสีจะอยู่ในเนื้อคอนแทกต์เลนส์รอบๆ เว้นตรงกลางให้แสงเข้าเพื่อให้มองเห็นได้ดี

3. Opaque colored contact lens เม็ดสีที่เข้มขึ้นไปอีกอยู่ในเนื้อเลนส์ที่ลึกลงไป มีสีต่างๆ หลายสีใช้ในการเปลี่ยนสีตา ถือเป็นเครื่องประดับบริเวณตามักใช้ในนักแสดงที่แต่งตัวสีฉูดฉาด และต้องการให้ดวงตามีแปลกๆ ด้วย

นอกจากนี้ อาจย้อมเม็ดสีให้กินบริเวณรอบนอกของเลนส์ ทำให้เมื่อใช้เลนส์นี้ดูตาดำใหญ่ขึ้นอันเป็นที่มาของเลนส์ช่วยให้ตาโต

4. Light-Filtering contact lens เป็นการพัฒนาการของคอนแทกต์เลนส์สีชนิดล่าสุดมักใช้ในกีฬา เป็นการนำเลนส์เป็นสีเพื่อกรองแสงบางสีออกไป เพิ่มความชัดของวัตถุที่จะมองเห็น เช่น เพื่อให้สีของลูกเทนนิสหรือลูกกอล์ฟเด่นชัดขึ้น ตัวอย่างนักกอล์ฟใช้สีอำพันเพื่อตัดสีครามของท้องฟ้าไกลๆ ทำให้เห็นลูกกอล์ฟชัดขึ้น


ใครเหมาะใช้คอนแทกต์เลนส์
ถ้าท่านตัดสินใจที่จะลองใช้คอนแทกต์เลนส์สี ควรปรึกษาจักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญดูก่อนว่าดวงตาของท่านเหมาะสมหรือสมควรใช้หรือไม่ คอนแทกต์เลนส์มิได้เหมาะสำหรับดวงตาทุกคู่ ผู้ที่ไม่เหมาะที่จะใช้ได้แก่
1. ผู้ที่มีโรคผิวหนังบริเวณเปลือกตาแบบเรื้อรังการที่เปลือกตาอักเสบทำให้ไม่สบายตา อีกทั้งมักมีสารที่ขับจากต่อมบริเวณเปลือกตาเปลี่ยนไป
2. ผู้ที่ตาแห้ง
3. มีกระจกตาผิดปกติ
4. เป็นภูมิแพ้ เพราะผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ อาจจะเกิดการแพ้ต่อสารที่ทำเลนส์หรือแพ้น้ำยาที่กับเลนส์
5. มีโรคเรื้อรังทางร่างกาย เช่น เบาหวานที่ควบคุมไม่ดี โรคของต่อมไทรอยด์ที่มีตาโปน เพราะผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักจะมีตาแห้งไม่ค่อยกะพริบตา
6. ผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพจิต มีความกังวลขี้ระแวง
7. ผู้ป่วยที่มีโรคข้อมือ มีมือสั่นจากโรคสมอง เช่น โรคพาร์กินสัน จำให้จับต้องเลนส์ที่สัมผัสได้ไม่ดี
8. หญิงตั้งครรภ์และสตรีวัยทอง
9. ผู้ที่ใช้ยาประจำบางตัว เช่น ยารักษาโรคกระเพาะ ผู้ที่กินยาคุมกำเนิด ผู้ใช้ยากลุ่มคลายเครียดประจำ เป็นต้น


คอนแทกต์เลนส์สี
สำหรับคอนแทกต์เลนส์สีก็คงคล้ายคอนแทกต์เลนส์ทั่วไปแต่เพิ่มเม็ดสี เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวคงตอบสนองความต้องการในแง่ความสวยงาม แต่มีข้อเสียมากกว่าคอนแทกต์เลนส์ธรรมดาหลายประการ เช่น
1. ราคาแพงกว่า

2. ด้วยเหตุที่มีเม็ดสีเข้าไปอยู่ในเนื้อคอนแทกต์เลนส์บริเวณที่เป็นสี ออกซิเจนจะไม่ซึมผ่านเข้าไปเลี่ยงกระจกตา อีกทั้งเม็ดสีเป็นสิ่งแปลกปลอม อาจทำให้เกิดโทษจากการแพ้เม็ดสีในคนบางคนได้

3. ด้วยเหตุที่มีเม็ดสีปนในเนื้อเลนส์ ผิวอาจไม่เรียบเป็นเนื้อเดียวกัน เชื่อว่าอาจมีเมือก โปรตีนที่มีอยู่ในน้ำเข้าไปฝังตัวทำให้เลนส์เสียเร็วขึ้น และเลนส์สีจะมีความหนากว่าเลนส์ปกติ ทำให้ออกซิเจนซึมผ่านจากอากาศ น้ำตาไปเลี้ยงกระจกตาน้อยลง

4. โดยเฉพาะรายที่เป็นสีเข้มๆ เพราะต้องการเปลี่ยนสีตาทำให้การดูแลรักาายากกว่าเลนส์ทั่วไปกล่าวคือหากมีสิ่งสกปรก ปนเปื้อน เช่น มีกลุ่มเมือกปน เชื้อโรคติดอยู่ ซึ่งจะเห็นได้ง่ายในเลนส์ธรรมดา ทำให้ผู้ใช้สามารถเช็ดถูออก หรือถ้าไม่ออกก็เลิกใช้คู่นั้นเพื่อความปลอดภัย หากเป็นคอนแทกต์เลนส์สี มองไม่เห็นใช้ต่อไปทำให้เกิดตาอักเสบในเวลาต่อมาได้

5. ในกระบวนการทำคอนแทกต์เลนส์สี ต้องเว้นบริเวณตรงกลางกับรูม่านตา เพื่อให้ผู้ใช้แลเห็นวัตถุ การเว้นขนาดตรงกลางจะใหญ่ไปหรือเล็กไปสำหรับบางคนเนื่องจากเวลากะพริบตาหรือกลอกตาไปมามีการขยับของคอนแทกต์เลนส์ อาจทำให้บริเวณที่เป็นสีมาบังตาทำให้มัวลงได้ เนื่องจากการเว้นขนาดบริเวณตรงกลางทำเป็นขนาดแน่นอนทั้งหมด แต่ขนาดรูม่านตาและการขยับของคอนแทกต์เลนส์เวลากระพริบตาไม่เท่ากันทุกคน


ก่อนใช้คอนแทกต์เลนส์
เมื่อตัดสินใจจะใช้คอนแทกต์เลนส์คู่แรก ควรได้รับการตรวจตาเสียก่อนว่า ไม่มีข้อห้ามในการใช้และประกอบจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น มิใช่ไปซื้อเอาตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านสะดวกซื้อ และเมื่อได้คอนแทกต์เลนส์มาแล้วควรปฏิบัติตนดังนี้
1. ไม่ว่าจะเป็นคอนแทกต์เลนส์ชนิดใด ล้วนต้องนำมาแปะไว้หน้าตาดำ ถือเป็นสิ่งแปลกปลอมที่อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาหรือการอักเสบได้ ความสะอาดจึงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคอนแทกต์เลนส์สกปรกมีเชื้อโรคก็เท่ากับนำเชื้อโรคไปใส่ในตา ซึ่งในบางครั้งอาจไม่เกิดโทษร้ายแรง แต่สักวันหนึ่ง ถ้ากระจกตามีรอยถลอกเชื้อโรคก็จะเข้าไปในเนื้อกระจกตาทำให้กระจกตาอักเสบและเกิดโรคร้ายแรงตามมา

2. ใช้คอนแทกต์เลนส์ให้ถูกประเภท ชนิดที่มีอายุ 2 สัปดาห์ไม่ควรใช้เกินกว่านั้นแม่คอนแทกต์เลนส์ที่ระบุว่าใส่นอนได้ก็ไม่ควรใส่นอน

3. แม้คอนแทกต์เลนส์รุ่นใหม่ๆ จะออกแบบให้ออกซิเจนซึมผ่านได้ดีตามที่มีโฆษณากันอยู่ ตาที่ใส่คอนแทกต์เลนส์ อยู่จะได้รับออกซิเจนน้อยลงเสมอ ถ้าใส่ไม่นานเกินไปก็จะเป็นการขาดออกซิเจนของตาดำ ที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายมากนัก จึงควรมีเวลาให้ตาได้พักหรือปลอดการใส่คอนแทกต์เลนส์ ขอแนะนำว่าแม้ท่านจะเลือกแก้ไขสายตาผิดปกติด้วยคอนแทกต์เลนส์ท่านก็ควรจะมีแว่นเป็นอะไหล่ไว้ใช้เวลาพักตาจากคอนแทกต์เลนส์

4. ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ประกอบคอนแทกต์เลนส์อย่างเคร่งครัด

5. การทำความสะอาดคอนแทกต์เลนส์ ต้องทำอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วยการทำความสะอาด ล้างฆ่าเชื้อและการเก็บ (cleaning, rinsing, disinfecting and storage) หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเกลือ ซึ่งเทถ่ายจากขวดใหญ่โดยคิดว่าจะประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากกระบวนการถ่ายเทน้ำเกลือ อาจทำให้เชื้อโรคปนเปื้อนได้ น้ำยาที่แช่คอนแทกต์เลนส์ต้องเททิ้งทุกครั้ง

6. หากมีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บตา ตาแดง ตาพร่ามัว ควรจะถอดคอนแทกต์เลนส์ออกและปรึกษาจักษุแพทย์

7. พึงระลึกว่าการใช้คอนแทกต์เลนส์ใช่ว่าจะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะใส่คอนแทกต์เลนส์ตาดำจะอยู่ในภาวะขาดออกซิเจนบ้าง อาจมีโรคแทรกซ้อน หากใช้ไปนานๆ ผู้ใช้จึงควรรับการตรวจจากจักษุแพทย์เป็นระยะแม้ไม่มีอาการผิดปกติ

8. ขอเตือนว่ามีผู้ใช้คอนแทกต์เลนส์ไม่ถูกต้องก่อให้เกิดผลเสียหลายอย่าง เช่น เจ็บตา ตาแดง กระจกตาเป็นแผล ซึ่งนอกจากทรมานจากการเจ็บปวด เสียเงิน เสียเวลาในการรักษาบางรายเป็นรุนแรงถึงขั้นเสียสายตาเล็กน้อยไปจนถึงมากอย่างถาวร


คอนแทกต์เลนส์เป็นสิ่งแปลกปลอมของร่างกายก่อนนำมาใช้ควรพิจารณาถึงสุขภาพและความจำเป็นไม่ใช่เพื่อแฟชั่นเท่านั้น รวมทั้งปรึกษาจักษุแพทย์ด้วย.

ศ.พญ.สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต
นิตยสารหมอชาวบ้าน ปีที่ 27 ฉบับที่ 323 มีนาคม 2549]





12 Jan 2008  |  Post by : Rattiya69

Comment


>

Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: LaaLaa 5
โพสต์โดย: wongd2 0
โพสต์โดย: nakaa 1
โพสต์โดย: darksheepz 0
โพสต์โดย: yingyeeying 0
โพสต์โดย: putkyu 0
โพสต์โดย: wanchai55 5
โพสต์โดย: pairy_pairy 1

Interest Product