Talk About Women

เรื่องราวประจำวันนี้ : มหันตภัยของคุณผู้หญิง-มะเร็งปากมดลูก
ขอโทษที่รอกันนานนะครับ
พอดีช่วงนี้ งานยุ่งมากครับ
ไหนจะต้องตอบกระทู้อื่นๆทั้งที่พิมพ์ดีดไม่เป็นด้วย
จึงผิดนัดมา 2วันเต็มๆ

ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ

มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ

เรื่องนี้เก็บมาฝากจากรายการ "ผู้หญิงถึงผู้หญิง"เมื่อ2วันก่อนครับ
โดยอาจารย์หมอท่านหนึ่ง ระดับรองศาสตราจารย์แพทย์หญิง
(แต่จดชื่อท่านไม่ทันครับ ขออภัย) จากโรงพยาบาลศิริราชครับ
เห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาเล่าให้ฟังครับ

โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นมหันตภัยเงียบที่คร่าชีวิตหญิงไทย
เป็นอันดับต้นๆ แล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด
สาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกนั้น เกิดจาก เชื้อไวรัส HPV
ซึ่งสามารถพบได้บริเวณอวัยวะเพศ และสามารถติดต่อ
ได้ทางเพศสัมพันธ์ครับ

โดยในระยะแรก ซึ่งเรียกว่า ระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูกนั้น
สามารถตรวจได้ง่าย โดยการตรวจที่เรียกว่า ตรวจแป๊บ (Pap)
ซึ่งเป็นการตรวจภายในที่แทบจะไม่เจ็บเลย

ในระยะแรกนี้จะมีระยะฟักตัว 5-10ปี โดยไม่มีอาการเลยครับ
ซึ่งหากตรวจพบสามารถรักษาให้หายได้โดยง่ายครับ
ซึ่งแนะนำให้ตรวจทุกๆปีสำหรับสตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว
(โดยเฉพาะที่มีอายุเกินกว่า 35 ปีขึ้นไปครับ - เจ้าของกระทู้)
ทำให้ลดโอกาสในการที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกได้
แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่กลับมาเป็นอีกนะครับ
เพราะในระหว่างนั้น คุณอาจมีสิทธิที่จะได้รับเชื้อ HPV
จากการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งที่มีความเสี่ยง เนื่องจาก
ผู้ชายเป็นพาหะในการติดต่อ ซึ่งแม้แต่ถุงยางอนามัยก็
ไม่สามารถป้องกันการเกิดได้เนื่องจากสามารถติดต่อได้
โดยการสัมผัสโดยตรง (น่ากลัวมาก - เจ้าของกระทู้)

ใครบ้างที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัส HPV
- สตรีที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
- สตรีที่มีเพศสัมพันธ์รุนแรง เนื่องจากเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
- สตรีที่มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่สะอาดเพียงพอ
- สตรีที่สามีมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน (มีเมียน้อย)
- การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
ยิ่งอายุของผู้หญิงน้อย หรือมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเร็ว ยิ่งเสี่ยง
เนื่องจากมดลูกยังไม่แข็งแรง อ่อนแอต่อการจู่โจมของเชื้อโรค
- สุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้ภูมิต้านทานต่ำ
- ไม่ติดต่อจากการว่ายน้ำร่วมสระเดียวกัน
(จะเห็นว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะติดเชื้อไวรัส HPV ได้
แม้ว่า จะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ตามปกติก็ตาม - เจ้าของกระทู้)

ใครบ้างที่ปลอดจากเชื้อไวรัส HPV
- สตรีที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ (คือยังเวอร์จิ้น -เจ้าของกระทู้)

ใครบ้างที่เสี่ยงน้อยกว่าต่อการติดเชื้อไวรัส HPV
- สตรีที่มีคู่นอนน้อยราย
ยิ่งมีคู่นอนน้อยรายเท่าไร ยิ่งลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- สตรีที่มีคู่นอนเพียงคนเดียว

ทั้งนี้หากมีการพัฒนาจากระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก ไปสู่
ระยะที่สองซึ่งแสดงอาการแล้วจะสามารถรักษาให้หายได้ยาก

อาการเริ่มต้นที่ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ
(อาจเป็นมะเร็งปากมดลูกได้)
- มีเลือดออกอย่างผิดปกติหลังการมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวอย่างผิดปกติ หรือมีกลิ่นรุนแรง
- มีแผลเรื้อรัง เป็นๆหายๆ บริเวณปากช่องคลอด
ติดต่อกันนานเกิน 2 เดือน

(อาการดังกล่าวอาจจะไม่ใช่มะเร็งปากมดลูก จึงควรได้
รับการวินิจฉัยทางการแพทย์โดยละเอียด - เจ้าของกระทู้)

อาจารย์หมอยังได้เพิ่มเติมถึงเรื่องการดูแลความสะอาดจุดซ่อนเร้น
อีกว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ น้ำยาสำหรับล้างจุดซ่อนเร้นใดๆ
( เช่น ไลอาซาน แลคตาสิด ฯลฯ - เจ้าของกระทู้)
เพียงทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือสบู่เด็กก็เพียงพอแล้ว
เนื่องจากน้ำยาสวนล้างดังกล่าวจะไปฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่มี
ประโยชน์ต่อร่างกายและยังทำให้ภายในช่องคลอด สูญเสีย
สมดุลย์ตามธรรมชาติอีกด้วย

ด้วยความปรารถนาดีครับ

ภัทรพลครับ

27 Jun 2008  |  Post by : Patrapon
Comment 14
เอาหนังมาฝากเหมือนกัน เกี่ยวกับมะเร็งมดลูกนี่ล่ะ ดูง่ายเข้าใจง่ายค่ะhttp://www.youtube.com/watch?v=5HkhyYtGR9o&feature=related

28 Nov 2010  |  Comment by : nikee
Comment 13
ขอบคุณค่ะที่นำข้อมูลดีๆมาแบ่งปัน
เราเองก็เป็นผู้หญิงค่ะ เลยชักขยาดมะเร็งปากมดลูกสุดๆ
เด๋วต้องหาโอกาสไปฉีดวัคซีนซะแล้ว
ขอบคุณข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนของทุกความเห็นด้วยค่ะ

15 Jun 2010  |  Comment by : Madew
Comment 12
เมื่อกี๊ไปอ่านเจอบทความในเวบนึงเข้า
เค้าบอกว่าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นมะเร็งปากมดลูกได้
อาจเกิดจากการเป็นเชื้อราในช่องคลอดแล้วเรื้อรัง
ทำให้ลุกลามกลายเป็นมะเร็งได้น่ะ
เพราะเวลาที่เข้าห้องน้ำระหว่างวันก็จะมีความเปียกชื้นน่ะ
ทำให้เกิดเชื้อราได้ อาการของเชื้อราก็คือจะมีตกขาวที่ทำให้คัน

= = คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ไปฉีดเถอะนะคะ
เราฉีดแล้วโล่งอกไป เป็นห่วงคนที่ยังไม่ได้ฉีดน่ะค่ะ
ที่เราเคยบอกไปแล้วว่าเราฉีด Cervarix ราคา 6800 บาท ค่ะ (เด๋วมีคนคิดว่าแพงแล้วไม่ยอมฉีด)
เอ่อลืมไป การใช้ทิชชู่ก็มีส่วนก่อมะเร็งนะ ประมาณว่าขุยๆทิชชู่อาจจะหลุดเข้าไปในช่องคลอดน่ะ
สยองมั๊ยล่ะ แค่นี้ก็เป็นมะเร็งได้

13 Jun 2010  |  Comment by : Poda
Comment 11
เราก็ฉีดแล้วค่ะ ฉีดของ Cervarix คุณหมอแนะนำค่ะว่าตัวนี้ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ดี ระดับภูมิคุ้มกันสูง
เค้าจะมีให้เลือกสองแบบค่ะ อีกตัวนึงจำชื่อไม่ได้อันนั้นจะมีป้องกันหูดด้วย
แต่เราถามหมอ หมอบอกหูดรักษาหายได้ เราก็เลยเลือก Cervarix เพราะเน้นป้องกันมะเร็งมากกว่า
ถือว่าโชคดีมากนะที่ยังป้องกันได้ เราว่าสาวๆทุกคนควรรีบไปฉีดนะคะ
คุณหมอบอกฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ยิ่งดีใหญ่เลย

1 Jun 2010  |  Comment by : Poda
Comment 9
ต้องหมั่นตรวจแพปสเมียร์ค่ะ เรื่องนี้สำคัญคัญมาก อย่าได้มองข้าม เพราะถ้าติดเชื้อแล้วเราไม่มีทางรู้เลยนอกจากจะเป็นระยะรุนแรง แต่ตรวจก็ไม่พอต้องฉีดวัคซีนด้วยค่ะถึงจะผลจริง เราเคยฉีดของ Cervarix 3 เข็ม 6000 กว่าๆค่ะ


18 May 2010  |  Comment by : botye
Comment 8
เรื่องอื่นๆของผมก็ตามนี้นะครับ
http://webboard.pooyingnaka.com/webboards.php?Name=Patrapon

ภัทรพลครับ

29 Jun 2008  |  Comment by : Patrapon
Comment 7
ขอบคุณค่ะ แล้วจะไปฉีดน่ะค่ะ จะ 25 แล้ว

28 Jun 2008  |  Comment by : rabbitjung
Comment 6
*********เพิ่มเติมครับ*******

ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาวัคซีนป้องกัน HPV ออกมาแล้ว
ดีใจล่ะสิ แต่.............ข่าวร้าย ก็คือ...
วัคซีนนี้จะใช้ได้ผลดีสำหรับสตรีที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ และมี
อายุ 9-26 ปีเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าผู้ผลิตวัคซีนจะอ้างว่า สามารถ
ใช้ป้องกันเชื้อไวรัส HPV แต่อาจารย์หมอท่าน กลับบอกว่า
เท่าที่ตรวจสอบดู น่าจะใช้ป้องกันได้เพียง 6 ปี เนื่องจาก
ยาวัคซีนนี้เพิ่งออกมาได้ไม่นาน จึงยังไม่มีรับการรายงาน
จากผู้ใช้ที่มากพอ และยานี้ยังมี ราคาสูงมาก อีกด้วย
(โรงพยาบาลเอกชน 3เข็ม 1หมื่นบาทถ้วน บวก/ลบนะครับ)

อ้อ หลังจากฉีดวัคซีนป้องกัน HPV แล้ว
ไม่ได้หมายความว่า คุณจะไปมีอะไรกับใครหน้าไหน
ได้ตามอำเภอใจนะครับ เพราะอย่างที่บอกว่า วัคซีนนี้ยัง
ไม่สามารถรับประกันได้100% อย่าเสี่ยงเลยดีกว่าครับ
แม้ว่าด้วยวัคซีนนี้ คุณจะไม่ติดไวรัส HPV แต่คุณก็อาจจะ
พบกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ หรือแม้แต่เอดส์ด้วยนะ

(ดังนั้น ผมอยากจะแนะนำให้มีอะไรเมื่อคุณแต่งงานแล้ว
เท่านั้น จะเป็นการดีกว่าครับ เพื่อตัวคุณเองนะครับ

การไม่เปลี่ยนคู่นอน ไม่สำส่อน และความจงรักภักดี
ต่อคู่ครองเพียงคนเดียว เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้
คุณปลอดภัยจากโรคร้ายทั้งปวงครับ

เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่า คนรักของเราไม่สำส่อนครับ
ของแบบนี้ดูกันภายนอกไม่ออกด้วย มันอยู่ข้างในจิตใจ

บางคนรูปหล่อ หน้าตา บุคลิคดีมาก แต่กลับเป็นพวกนิยม
ความรุนแรง (ซาดิสม์) ชอบตบตี และใช้ความรุนแรงกับ
คู่นอน ประเภทเอาแส้เฆี่ยน เทียนลนน่ะ คุณจะทนไหวเรอะ

บางคน มาดแมน สะอาดสะอ้าน เจ้าสำอางค์ แต่งตัวทันสมัย
แต่เป็น เสือไบ (Bisexual) หรือที่เขาเรียกกันว่า "เก้ง" เพราะ
มีเพศสัมพันธ์ได้ทั้งชายและหญิงก็ได้ นั่นยิ่งอันตรายนะครับ
พวกนี้จะดูสะอาดสะอ้าน แต่จริงๆสกปรกมาก เพราะมี
เพศสัมพันธ์แบบไม่ค่อยป้องกัน และมักแลกเปลี่ยนคู่นอน
ซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังมีทั้งทางประตูหน้าและประตูหลังด้วย

อย่างที่บอกแหละครับ ว่า วิธีเดียวคือ พยายามรักษา
ความบริสุทธิ์ของตัวคุณเอง จนกว่าจะแน่ใจในตัวเขา
นั่นหมายถึง การแต่งงานไปเลยครับ

ถ้าเพียงเรื่องแค่นี้ เขาอดทนรอไม่ได้ก็เลิกไปเลยครับ
ถามหน่อยว่า ถ้าไม่มีใครแต่งงานกับคุณแล้ว
คุณต้องตายเหรอ ก็ไม่ใช่ เพราะผู้หญิงสมัยนี้เก่งจะตาย
ไม่มีผู้ชาย คุณก็อยู่อย่างมีความสุขได้นะครับ- เจ้าของกระทู้)

จริงๆข้อมูลนี้ผมก็ได้ข้อมูลมาพร้อมๆกันนั่นแหล่ะ
ก็จากอาจารย์หมอจากโรงพยาบาลศิริราชท่านเดียวกันนั่นแหล่ะ
แต่ว่าลืมพิมพ์ลงไปด้วย เพราะมัวแต่จิ้มดีดอยู่ จนสับสน
ยังไงก็เห็นใจกันมั่งเถอะ สี่ตีนยังรู้พลาดครับ
ส่วนที่อยู่ในวงเล็บ แล้วมีโน้ตว่าจาก เจ้าของกระทู้ นั้น
หมายถึง ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ใช้วิจารณญาณด้วย

ตอบคุณ rabbitjungครับ(สงสัยชื่อเล่นว่า"ต่าย"แหง)

แสดงว่า คุณrabbitjung คงดูรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง
ในวันนั้นเหมือนกับผมแน่ๆเลย เพราะตอนต้น ผมยัง
ไม่ได้บอกเรื่องวัคซีนเลย ข้อมูลผมโอเคมะครับ
ช่วยเพิ่มเติมกันได้นะแต่ขอให้ชัวร์ละกัน
เพื่อทุกๆคนจะได้ข้อมูลในการดูแลรักษาตัวเองครับ

มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
ขอบอกว่าตกใจเลย ตกใจอีกครั้งครับ ที่คุณ rabbitjung
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาคิดว่า วัยรุ่นสมัยนี้จะมีอะไรกัน
ตั้งแต่อายุ 13-14 ซะอีก นี่ผมเข้าใจผิดมาตลอดเลยสิ
แต่แฟนเก่าผมเขาก็เพิ่งมีอะไรกับแฟนตอนอายุเกือบ30นะ
มาตาสว่างเมื่อเขามาอ่านในเว็บนี้น่ะแหละถึงได้รู้ว่า มันไม่ใช่
ยังมีอีกมากมายหลายคนคงรักษาความบริสุทธิ์ตราบจน
ถึงวันแต่งงาน นั่นคือสิ่งที่น่าชื่นชมจริงๆครับ

ผมขอยกย่องจริงๆครับ

ที่ผมพูดเนี่ยไม่อยากจะชวนนอกเรื่องหรือแสดงความลามกนะ
เพียงแค่อยากจะบอกว่า การที่ดำรงหยัดยืนอยู่ได้ท่ามกลาง
ฝูงชนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเห็นแก่ตัวและเอารัดเอาเปรียบ
ได้นั้น มันต้องเข้มแข็งจริงๆ และเชื่อว่าคุณเองก็มีดีพอ

อยากให้คุณ rabbitjung (และเพื่อนๆท่านอื่นด้วยนะ)
ได้อ่านเรื่องนี้จัง ตามลิงค์นี้เลยนะ
ไม่ใช่กระทู้ของผมนะครับ เพียงแค่อยากให้อ่าน
ถ้าไม่มีเวลาก็อ่านเฉพาะของผมก็ได้นะ (อ้าว)
http://webboard.pooyingnaka.com/show.php?Category=sex&No=17082
http://webboard.pooyingnaka.com/show.php?Category=story&No=17175

คุณจะได้รู้ว่า ความรักที่บริสุทธิ์ในอีกมุมมองเป็นอย่างไร

เอาล่ะส่วนเรื่องที่ว่า
คุณ rabbitjung ควรไปฉีดวัคซีน HPV ดีรึเปล่านั้น
ผมอยากให้ลองพิจารณาจากค่าวัคซีนเป็นหลักเลยครับ
ถ้ามีความสามารถที่จะจ่ายโดยที่ไม่เดือดร้อน ก็ฉีดเลยครับ
เพราะคุณยัง Virgin อยู่และยังอยู่ในช่วงอายุที่กำหนดครับ
อย่าลืมว่าคุณมีเวลาตัดสินใจอีกเพียงไม่นานนะครับ

ภัทรพลครับ

28 Jun 2008  |  Comment by : Patrapon
Comment 5
ยังสงสัยอยู่จนถึงวันนี้ว่าเราควรไปฉีดวัคซีน HPV ดีรึเปล่าอ่ะ

คือยัง24 ยังบริสุทธ์อยู่ เคยไปหาหมอครั้งนึง

แต่เค้าบอกว่ามันป้องกันได้นิดหน่อยอ่ะค่ะ

ค่าเข็มมันแพง ถ้าเราและคู่ของเรามีพฤติกรรมไม่สำส่อนก็ไม่น่าจะต้องฉีด

แต่เรายิ่งใกล้ 26 ยิ่งเครียดอ่ะ(คือวัคซีนมันจะได้ผลดีกับคนอายุไม่เกิน 26)

แต่ทีนี้เราจะรู้ได้ไงว่าคู่เราไม่สำส่อนอ่ะค่ะ คุณภัทรพลว่าเราควรไปฉีดดีมี้ยค่ะ

27 Jun 2008  |  Comment by : rabbitjung
Comment 4
ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ

ความรู้เน้นๆ เลยนะเนี่ย

ได้ความรู้แบบเต็มๆ แบบนี้บ้างก็ดีนะ

(สมองเราจะได้พัฒนา...555)
ปีหน้าก็ 35 แล้ว แต่ยังไม่ยอมใจอ่อนไปตรวจเลยซักครั้งเนี่ย
เฮ้อ!!! อ่านแล้วคิดว่าจะพยายามรวบรวมกำลังใจ ยอมเดินไปให้หมอตรวจดูซักที ...ดีกว่าเน๊าะ


27 Jun 2008  |  Comment by : Ladylady
Comment 3
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ค่ะ

27 Jun 2008  |  Comment by : cotton
Comment 2
ชอบสิค่ะให้ความรู้ดีมากเลย

27 Jun 2008  |  Comment by : แจมจัง
Comment 1
ช่วยคอมเม้นท์ด้วยนะครับ
อยากรู้ Feedback ครับว่า ชอบกันรึเปล่า
วันหลังจะได้เก็บมาฝากกันอีก

27 Jun 2008  |  Comment by : Patrapon

Comment


>

Content-Seo

Webboard
โพสต์โดย: ซาโกะ 3
โพสต์โดย: SSUP 0
โพสต์โดย: hgame 0
โพสต์โดย: ออย 8
โพสต์โดย: ตาล 2
โพสต์โดย: arebaba 2
โพสต์โดย: athenaismy 3
โพสต์โดย: MING1994 2

Interest Product