Talk About Women

เฉพาะคุณผู้หญิง ( วัยรุ่นที่เรียนอยู่ )
คุณได้อะไรจากแฟนคุณ...ที่คบกัน



26 Dec 2008  |  Post by : our
Comment 15
เราขอเเค่ว่า เค้ารักเรา รักคนเดียว ก็พอ

6 Apr 2009  |  Comment by : princessnook
Comment 14
ความรักน่ะ ครับ เป็นการให้โดยไม่ต้องการแม้สิ่งตอบแทน แต่ต้องการเพียงความจริงใจเป็นน้ำหล่อเลี้ยงให้คงอยู่ได้เท่านั้นเอง

29 Jan 2009  |  Comment by : artno1
Comment 13
ก็ไม่ได้หวังจะได้อะไรหรอก คบไปอ่ะ

แต่พอคบๆไปก็ได้นะ น้ำตา กับความเสียใจเนี่ย ยังไงก็ได้กันทุกคู่

16 Jan 2009  |  Comment by : iamaris
Comment 12
การจะรักใครซักคน...หรือคบใครซักคน...ถ้ามันเกิดขึ้นเพราะความรักจริงๆนะครับ....ไม่จำเป็นต้องได้อะไรกลับมาหรอกครับ สิ่งที่ต้องการ คือขอให้คนที่เรารัก มีความสุข ไม่ว่าเค้าจะรักเรารึเปล่าก็ตาม

30 Dec 2008  |  Comment by : nickaru
Comment 10
น้ำตา ความเสียใจ

29 Dec 2008  |  Comment by : punkberry
Comment 8
ได้ผู้ชายที่แสนดีกลับมาคนนึง คนที่รักและเป็นห่วงเรา คนที่คอยให้กำลังใจ ไม่ว่าจะกี่เดือนกี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนไป คนที่รักและแคร์ความรู้สึกเรา

เพราะคนเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองจริงมั้ย คนแย่ๆ ไม่ได้รักเราพอๆกับที่รักตัวเค้าเอง เราก็คงไม่อยากจะทุ่มเทให้เค้าหรอก

ไม่ได้คาดหวังว่าจะอยู่กับคนคนนี้ตลอดไปหรอก ไม่ได้หวังว่าจะเป็นคนสุดท้าย ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น ขอแค่วันนี้ มีคนดีๆ จับมือเดินข้างๆก็พอละ

รู้สึกเหมือน In Love อยู่ทุกวันเลย ทั้งๆที่ก็คบมาหลายปีแล้ว 555

27 Dec 2008  |  Comment by : PlaiFon
Comment 7
เนื้อหา »
คุณจะทำอย่างไร ? ถ้าวันหนึ่งคู่รักที่สนิทเสน่หามากว่าหกปี มาสารภาพกับคุณว่า
เขาทำผู้หญิงคนหนึ่งท้อง !

ทั้งๆ ที่ตลอดเวลาที่รักใคร่ใกล้ชิดกันมา นอกจากถูกเนื้อต้องตัวกันธรรมดาแล้ว เขากับคุณก็ยังไม่เคยเกินเลยไปกว่าปกติ คุณอยากจะเชื่อว่าเขาติดกับผู้หญิงคนนั้นคงต้องการจับเขา ! เพราะขนาดนอนร่วมห้องกัน คุณปฏิเสธที่จะให้เขาล่วงข้ามแดนพรหมจรรย์ เขาก็เชื่อ แต่ทำไมกับผู้หญิงที่เขารู้จักเพียงไม่กี่เดือนกลับฉกฉวยเขาไปจากคุณได้ ?


คุณเสียใจ…ผิดหวัง…เจ็บปวด แต่ก็อยากจะให้อภัยเขา อยากช่วยให้เขาพ้นบ่วงกับดักของผู้หญิงคนนั้น เขาปฏิเสธจะรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้นกับเด็กก็ด้วยเหตุผลที่ว่า เพราะรักคุณ ! และเพื่อเห็นแก่มนุษยธรรมคุณจำเป็นต้องเล่นบทแม่พระ ยกเขาให้กับผู้หญิงคนนั้น สุดท้าย…เมื่อเขาไม่สามารถจะปฏิเสธความรับผิดชอบอันนั้นไปได้ เขาก็กล่าวโทษว่า เป็นเพราะคุณ ! ที่ทำให้เขาต้องไปหาเศษหาเลยเอากับผู้หญิงอื่น เพราะคุณหวงตัวเกินไป เพราะคุณไม่ให้ความสุขทางเพศแก่เขา เขาจึงต้องตกอยู่ในสภาพอย่างนั้น !


ไหนจะเสียใจ…เจ็บปวด…ไหนจะเสียดายเวลาที่รักกันมา ไหนจะต้องมานั่งทบทวนถามตัวเองว่า…เป็นความผิดของคุณจริงๆ หรือ ที่หวงแหนพรหมจรรย์ไว้ก็เพียงเพื่อเขาคนเดียว…เพียงเพื่อจะรอให้ถึงวันหนึ่งซึ่งคุณกับเขา ผูกมัดเป็นคนคนเดียวกันตามกฎหมาย สุดท้ายเจ้าเยื่อพรหมจรรย์นั้นก็ยังอยู่ แต่หัวใจคุณแตกสลาย…คุ้มกันหรือไม่ ?


ก็แล้วในทางกลับกัน คุณจะทำอย่างไร ? ถ้า…คุณกับเขารักกันมาตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างแนบสนิทตลอดมา แม้ว่าคุณจะมาจากครอบครัวที่เข้มงวดกวดขัน คุณถือพรหมจรรย์เป็นเรื่องยิ่งใหญ่สำหรับลูกผู้หญิง แต่เพราะรักเขาอย่างแน่วแน่ มั่นคง คุณจึงมอบตัวมอบใจให้เขาอย่างไม่คำนึงถึงสิ่งใด เพราะแน่ใจว่าเขาจะเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิตคุณ แต่แล้วพอปีสี่เขาก็ขอเลิกด้วยเหตุผลสั้นๆ ว่า เขายังอยากมีเวลาให้กับตัวเองเพื่อจะเติบโตต่อไป คุณรู้สึกว่ารับไม่ได้ จะทำอย่างไรกับพรหมจรรย์ที่เสียไป ถ้าพ่อแม่รู้เข้าจะต้องเสียใจ แล้วผู้ชายอื่นล่ะ ? เขาจะรู้หรือเปล่าว่าคุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์ คุณปวดร้าว ขมขื่น เจ็บปวด เสียใจ ฟูมฟายจะให้เขาคืนความรัก คำมั่นสัญญาเก่ามา แต่เขายังยืนยันจะแยกทางไป คุณทนเป็นผู้ถูกปฏิเสธไม่ไหว เขาจะเมินเฉยต่อพรหมจรรย์ที่พรากไปจากคุณได้อย่างไร ?


ในความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายของสังคมไทยทุกวันนี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะภูมิใจและคาดหมายจะเป็นคนสุดท้ายสำหรับผู้ชายนั่นคือ เขาจะเหลวแหลกมีผู้หญิงมากี่คนเธอไม่สนใจ เพียงขอให้เธอได้ชื่อว่า เป็นคนสุดท้ายของเขาตลอดไปก็พอ ในขณะที่ผู้ชายคาดหมายว่าเขาจะเป็นคนแรกสำหรับผู้หญิงคนที่เขาจะแต่งงานร่วมหอลงโรงด้วยเสมอ เพราะฉะนั้นผู้หญิงส่วนใหญ่จึงพยายามรักษาพรหมจรรย์ของตนไว้ เพื่อคนที่นักของเธอคนเดียว ทนเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ทะนุถนอมรักษษตัวเพื่อให้มีค่าสำหรับการถูกเลือก !


สังคมได้กำหนดบทบาทให้ผู้ชายเป็นผู้นำ เป็นฝ่ายเลือก ในขณะที่ผู้หญิงต้องเดินตามและยอมรับการถูกเลือกด้วยความภาคภูมิใจ หากผู้หญิงคนใดแหวกม่านประเพณีออกไป ผลที่ตามมาคือการถูกลงโทษด้วยคำประณาม และด้วยความรู้สึกที่ปลูกฝังมาดั้งเดิมเป็นบทกำหนดโทษที่รุนแรงอยู่ในตัวของมันเอง ผู้หญิงจำนวนมากจึงตกอยู่ในกรอบของความกลัว และความกลัวทำให้กลายเป็นคนไร้เดียงสาแม้อายุจะเข้ากลางคน!


"สุนีย์" เป็นตัวอย่างของผู้หญิงวัย 30 กว่า ผู้มากับปัญหาแรก แฟนหนูทำผู้หญิงท้อง !


ด้วยวัย 30 กว่าๆ เธอไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเซ็กซ์เป็นอย่างไร ในกลุ่มเพื่อนผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันที่คบหาสนิทสนมกันอยู่ ต่างก็เป็นคนโสดกันทั้งนั้น หันไปทางไหนก็เจอะแต่คนไร้เดียงสา บางคนที่มีสามีมีครอบครัวแล้วก็ไม่มีใครมาคุยให้ฟัง จะพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่พี่น้องรึ ? ก็ไม่เคยมีใครคุยกันถึงเรื่องนี้ สุนีย์กับคู่รักคบหากันมาเจ็บปี กำลังจะวางแผนแต่งงาน เธอเป็นคนเรื่อยๆ สบายๆ


" เรื่องกอดจูบภายนอกเป็นเรื่องธรรมดา แต่พอถึงจุดนั้น หนูจะห้ามเขา เขาก็เชื่อ…เป็นอย่างนี้เรื่อยมา…นี่ถ้าพ่อแม่พี่น้องรู้ว่า เขาไปทำผู้หญิงท้อง ต้องเป็นเรื่องใหญ่ เราคงแต่งงานกันไม่ได้ "


เธอกล่าวด้วยท่าทางจริงจังเคร่งเครียด แต่มองดูอ่อนเยาว์และไร้ความสามารถในการตัดสินใจ สำหรับผู้หญิงวัยนี้ ทุกอย่างยังขึ้นอยู่กับความพอใจของพ่อแม่พี่น้อง มันเป็นความเยาว์วัยที่ถูกเลี้ยงไว้ไม่ให้โต


สุนีย์ไม่เคยมีความคิดว่านี่เป็นชีวิตของเธอ เธอต้องเลือกต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง เธอปล่อยตัวเองให้อยู่ในกรอบของสังคมและยอมรับบทบาทที่ถูกยัดเยียดให้โดยคำสั่งสอนของครอบครัว ! เธอเฝ้าถามตัวเองว่า จริงๆ แล้วมันคุ้มกันหรือเปล่าที่เธอรักษาพรหมจรรย์ไว้ได้ แต่เธอก็เสียเขาไป เสียดายเวลา แล้วจริงๆ แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่า พรหมจรรย์นั้นมีค่าแก่การรักษาหรือไม่ ยิ่งพิจารณาไปก็ยิ่งไม่เข้าใจ เด็กคนใหม่อายุน้อย ยังสาวอยู่มาก ยิ่งเธอกล้าเสี่ยงปล่อยตัวปล่อยใจ คนของเราหรือจะไม่หลงใหล ? ก็แล้วเวลาแห่งความใกล้ชิดมาหลายปีมันไม่มีค่าผูกใจผู้ชายไว้บ้างเชียวหรือ ? และสิ่งที่เธอต้องการทราบต้องการคำตอบที่ชัดเจนต่อไปก็คือ จริงๆ แล้วผู้ชายอดใจเรื่องเซ็กซ์ ไม่ได้เชียวหรือ ทำไมผู้หญิงเราจึงอดทนกันได้เป็นปีๆ โดยไม่มีอะไรกับใคร แต่ผู้ชายเขาใกล้ชิดคนไหนก็เผลอตัวเผลอใจไปได้ทุกที่ ? ทำไม ? …มันเป็นความอ่อนแอหรือความมักง่ายในสันดานของผู้ชายกันแน่ ?


ก็แล้วในกรณีของ "จัน" สาวน้อยวัย 21 ปีนี้ล่ะ ? เธอกล้าเสี่ยงมอบตัวมอบใจให้เขาด้วยความหวังที่จะให้เขาเป็นคนแรกและคนสุดท้าย แต่ทำไมเขาจึงไม่เห็นคุณค่าพรหมจรรย์ของเธอ ? ทำไมผู้ชายจึงไม่คิดว่า ผู้หญิงทุกคนหวงตัวหวงพรหมจรรย์ของเธอแค่ไหน การมอบให้จึงมีความหมายสำหรับเธอมากมาย และมันเป็นสิ่งที่เธอคาดหวังว่า เขาควรจะทะนุถนอมความรู้สึกนี้ไว้ด้วยความภาคภูมิใจ !


ในสังคมไทยมีผู้หญิงมากมายที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกับสุนีย์และจัน ซึ่งเป็นตัวแทนของพฤติกรรมที่ตรงข้าม แต่ตั้งอยู่บนรากฐานเดียวกัน คือความเชื่อมั่นยึดมั่นในพรหมจรรย์ แต่ผลลัพธ์ของทั้งสองคนก็ออกมาตรงกัน คือต่างก็สูญเสียคนรักของตนไปด้วยเงื่อนไขของฝ่ายชาย


ในขณะที่จากการตอบแบบสอบถามสำรวจความคิดเห็นของผู้ชายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลสำรวจออกมาตรงกันที่ว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายปรารถนาจะแต่งงานกับผู้หญิงพรหมจรรย์ ขณะเดียวกันสถิติการหย่าร้างของคู่สมรสที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทยเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า พรหมจรรย์ไม่ได้เป็นเงื่อนไขในการผูกมัดชีวิตสมรสไว้ได้ ตรงกันข้ามการขาดประสบการณ์ทางเพศของฝ่ายหญิงกลายเป็นข้ออ้างที่ผู้ชาย นำไปใช้แสวงหาความสุขทางเพศกับผู้หญิงอื่น หรือในสังคมไทยการที่สังคมยอมรับการมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน ทำให้กลายเป็นเงื่อนไขข้อผูกมัดให้ผู้หญิงต้องกักขังตัวเองไว้ในกรอบพรหมจรรย์มากขึ้น เพราะหากพลาดไปจะทำให้คุณค่าด้อยลงสำหรับการแข่งขันเพื่อเป็นฝ่ายถูกเลือก


ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า จริงๆ แล้วผู้ชายใช้อะไรเป็นมาตรฐานในการเลือกผู้หญิงกันแน่ พรหมจรรย์หรือประสบการณ์ทางเพศ ?


หรือในอีกความหมายหนึ่ง จริงๆ แล้วผู้ชายอาจไม่มีมาตรฐานอะไรที่แน่นอนชัดเจน เพียงอาศัยโอกาสของสถานการณ์ทางสังคมที่ถูกกำหนดให้เหนือกว่า มาใช้ในการเอาเปรียบผู้หญิง


หรือในอีกความหมายหนึ่ง ผู้หญิงปล่อยตัวเองให้อยู่ในขอบข่ายของความคาดหวังของสังคม โดยที่สังคมไม่ได้รับประกันเลยว่า การรักษาพรหมจรรย์ไว้จนคืนวันแต่งงาน จะเป็นใบรับประกันความยืนยาวของชีวิตสมรส หรือการยอมเสี่ยงเอาพรหมจรรย์เข้าแลกกับความมั่นคงของผู้ชายก็เป็นเงื่อนไขที่ใช้ไม่ได้อีกเช่นกัน


ถ้ากระนั้น ตรงจุดไหนที่ผู้หญิงควรจะยืนหยัดเพื่อสิทธิ และเสรีภาพในการตัดสินใจ เกี่ยวกับขั้นตอนของความสัมพันธ์ทางเพศของเธอกับผู้ชาย ?


และไม่ว่าผู้หญิงจะมีความมั่นใจในตัวเองขนาดไหน หรือเป็นผู้หญิงสมัยใหม่เพียงใด ตราบที่เรายังอยู่ในสังคมไทยเราไม่ควรมองข้ามขนบธรรมเนียมประเพณี หรือความเชื่อถือทางสังคมไทยเกินไปนัก และการติดอยู่ในกรอบประเพณีมากเกินไป ก็ทำให้ผู้หญิงเราขาดการเรียนรู้เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ หรือไม่อาจทำหน้าที่ภรรยาของเราอย่างมีความสุขไปพร้อมกันได้ด้วย


เรื่องของเซ็กซ์ หรือความสัมพันธ์ทางเพศเป็นเรื่องละเอียดอ่อนลึกซึ้ง เป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์เราจึงห้ามไม่ให้ผู้ชายคิดเรื่องเซ็กซ์ พูดเรื่องเซ็กซ์ หรือหยุดความต้องการเซ็กซ์ไม่ได้ แต่เมื่อตัดสินใจที่จะเสี่ยง ผู้หญิงควรพร้อมที่จะเผชิญกับผลลัพธ์ที่จะตามมา เพราะคำว่า "เสี่ยง" อาจหมายถึง "ได้หรือเสีย" เท่าๆ กัน ถ้าเสี่ยงแล้วทำให้เกิดการเรียนรู้และผูกใจเขาไว้ได้ก็นับเป็นโชคดี แต่ถ้าเสี่ยงแล้วสุดท้ายไปด้วยกันไม่ได้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราก็ควรยอมรับการสิ้นสุดความสัมพันธ์ อย่างคนที่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา เพราะเราเป็นฝ่ายตัดสินใจเสี่ยงเอง การจะฟูมฟายเสียดายพรหมจรรย์หรือติดอยู่ที่ว่าเสียให้เขาไปแล้ว เราจะต้องเป็นของเขาไปตลอดไป เป็นความคิดที่ทำร้ายตัวเอง หรือไม่ให้โอกาสตัวเองพบคนที่ดีกว่า


ในความรักความสัมพันธ์ของหญิงชาย เปรียบเหมือนการเดินทางมาพบกันคนละครึ่งทาง เราทุกคนต่างรู้ขอบเขตตัวเอง ถ้ายึดติดกับพรหมจรรย์ก็ควรรอให้ถึงวันแต่งงาน แต่ถ้าก้าวข้ามแดนตัวเองออกไป ก็ต้องพร้อมจะรับผิดชอบผลลัพธ์ที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นทางบวกหรือทางลบ ในเรื่องของความสัมพันธ์ทางเพศเป็นความร่วมมือของคนสองคนที่จะต้องให้ และรับไปพร้อมกัน จึงไม่มีใครเป็นฝ่ายได้เปรียบเสียเปรียบ ถ้าได้เป็นความพึงพอใจก็ได้ทั้งสองคน ถ้าเสียก็เสียด้วยกัน แต่เมื่อความสัมพันธ์ยุติลง ควรทำใจหยิบยกเอาความสุขที่เคยมีร่วมกันมาเก็บไว้ในความทรงจำที่ดีต่อกัน เพราะถ้าเราดื้อดึงดันที่จะฉุดรั้งเขาเอาไว้ให้ได้เพียงเพราะคิดว่า เราให้พรหมจรรย์เขาไปแล้ว ลองนึกถึงภาพความทุกข์อันยาวนานที่จะทอดสะพานรอเราอยู่แล้ว ความสุขที่เคยมีก็จะจางหายไป ชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไปสำหรับทั้งหญิงและชาย ? เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนไหนทำใจยอมรับการสิ้นสุดความสัมพันธ์ไม่ได้ ก็ไม่ควรเสี่ยง


และไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานภาพใดก็ตาม ไม่มีใครบอกคุณได้ว่าเมื่อไร และกับใคร คุณควรเสี่ยง ไม่ควรเสี่ยง คุณเท่านั้นที่จะต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณาตัดสินใจด้วยตัวเอง มองหาพลังในตัวเองดูว่า มีมากน้อยเพียงใดกับการเผชิญกับผลลัพธ์ที่จะตามมา ถ้าไม่พร้อมก็จงยับยั้งใจไว้ก่อน แต่ถ้าไม่คิดจะลองเสียเลย ก็อาจพลาดโอกาสจากการใช้ชีวิตเพศกับคนที่เรารักก็ได้


จุดสำคัญที่ควรต้องพิจารณาอีกแง่มุมหนึ่งก็คือ "เซ็กซ์" เป็นเรื่องของความสุข เมื่อก้าวเข้าไป จงแสวงหาความสุขให้เต็มที่จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าเราเท่านั้นเป็นฝ่ายเสียพรหมจรรย์เพื่อเขา เป็นความผิดของเราต่างหากที่ไม่รู้จักตักตวงความสุขจากความสัมพันธ์ในครั้งนี้ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้จำไว้เสมอว่า


"ไม่มีอะไรที่สายเกินไป สำหรับการตั้งต้นใหม่ !"





26 Dec 2008  |  Comment by : ผู้หญิงวัยเรียน
Comment 6


ไม่จำเปงต้องให้อารายกันหรอก

มีความรักให้กันก้อพอแล้ว

26 Dec 2008  |  Comment by : nammon15
Comment 5
โจร โฉด ชั่ว เลว ทราม....ปล้น ฆ่า

สุดท้ายในใจลึก...เขาไม่อยากเป็นโจร

คนเราทุกคนล้วนไม่อยากทำสิ่งไม่ดี



26 Dec 2008  |  Comment by : our
Comment 4
กับสิ่งที่คุณเรียกว่ารัก....และยอม...ให้เขาไป

26 Dec 2008  |  Comment by : our
Comment 3
ต้องได้อะไรด้วยเหรอ? เราไม่ใช่คบคนที่สิ่งของ

26 Dec 2008  |  Comment by : GiGi
Comment 2
เค้าให้ความรักเรา ใจดีด้วยงะ ที่สำคัญ อ่อนโยนด้วย

26 Dec 2008  |  Comment by : 2amp

Comment


>

Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: overseas 0
โพสต์โดย: bebefanc 12
โพสต์โดย: luknorn 9
โพสต์โดย: mochimayji 4
โพสต์โดย: PRKTC 0
โพสต์โดย: horizon_p 1
โพสต์โดย: *** 5
โพสต์โดย: namaburo 0

Interest Product