Talk About Women

เรื่องราวจากประสบการณ์และความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจากการทำแท้ง….
เราเป็นเด็กต่างจังหวัด แต่ต้องจากบ้านมาเข้ากรุงเทพเพื่อเรียนได้มีโอกาสมาเช่าหอพักย่านเอกมัย และได้เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งเป็นคนต่างจังหวัดเช่นเดียวกัน รู้จักกันได้ไม่นาน แต่เธอค่อนข้างเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร


บางวันก็ไม่กลับห้อง เราก็ไม่เคยถามว่าไปไหนมา เพราะเราเองก็เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน ไม่สนิทถึงกับต้องมาถามเรื่องส่วนตัวในตอนนี้ บางวันกลับมาก็เอาแต่ร้องไห้ เหม่อลอย จนบางครั้งเราเองก็พลอยประสาทเสียไปด้วย ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ไม่ดีนะ แต่พอมาถึงประมาณวันที่ 2 พฤษภาคม หากเราจำไม่ผิด เรากำลังหลับอยู่ กึ่งหลับกึ่งตื่นทำนองนั้น เราก็เห็นเด็กวิ่งเล่นในห้อง ก็ยังถามตัวเองอยู่ว่า เด็กที่ไหนมาวิ่งเล่นในห้อง ลุกมาเปิดไฟก็ไม่เห็นมีใคร


บางครั้งก็รู้สึกมีคนมารื้อข้าวของ บางครั้งก็วิ่งไปมา ตอนแรกๆเราก็ไม่รู้สึกกลัว แต่พอหนักๆเข้า เราก็กลัวมากขึ้น เพราะมีความรู้สึกว่า มีคนแอบมองเราอยู่ทุกย่างก้าวภายในบ้าน เพื่อนเราเองบางวันก็ร้องไห้กลับมา เพราะทะเลาะกับแฟนเขาทะเลาะกันบ่อยขึ้น จนกระทั่งได้ไปบอกแม่ค้าหน้าปากซอย แกก็แนะนำให้ไปถวายสังฆทานที่วัดใกล้ๆ


ประมาณวันที่ 6 ที่ผ่านมา เราและเพื่อนก็ไปซื้อสังฆทานกะว่าจะไปถวาย ซึ่งก็เป็นวัดอยู่ใกล้ๆที่เราพัก เขาไปก็เห็นหลวงพี่องค์หนึ่งกำลังกวาดลานวัดอยู่ เราก็บอกว่าจะมาถวายสังฆทานดูท่านก็อายุไม่มาก น่าจะอายุประมาณ28-32ปี ก็บอกให้พวกเราไปนั่งรอ ท่านก็หายไปสักพักหนึ่ง กลับมาพร้อมกับนุ่งห่มเรียบร้อยกว่าเดิม


ท่านก็ถามว่า โยมมาถวายสังฆทานเนื่องในงานอะไร เราก็เล่าให้ฟัง สักพักหนึ่งท่านก็ขอดูลายมือเรา วันเดือนปีเรา ท่านก็บอกว่าไม่มีอะไร แต่พอดูลายมือของเพื่อนเราท่านทักว่า อาตมาถามได้ไหม เพื่อนเราก็บอกว่าได้ ท่านก็ถามตรงๆว่า โยมเคยทำแท้งมาเหรอ? เพื่อนเราก็พยักหน้า เราแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลย ว่าเพื่อนร่วมห้องเคยทำแท้งมา ท่านก็บอกอีกว่า มีอยู่สามอย่างนะ ที่อยากให้โยมทำใจก็คือ คนที่ทำแท้งอายุจะสั้น เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยๆ คนในบ้านชอบทะเลาะกันบ่อยๆ อยากได้อะไรส่วนมากไม่ค่อยสมหวัง สิ่งเหล่านี้โยมจะต้องเจอ รู้ไหมว่า สิ่งที่หลวงพี่องค์นี้บอก ในใจของเราบอกว่าใช่ตลอด


มีคำพูดหนึ่งที่ท่านพูดมาแล้วเราชอบก็คือ โยมไม่ต้องห่วงหรอกนะความลับของโยมมันจะอยู่กับอาตมาและจะจากโลกนี้ไปพร้อมกับลมหายใจอาตมา ท่านก็แนะนำว่าแค่ถวายสังฆทานอย่างเดียวและแค่ครั้งเดียวคงไม่พอหรอก โยมต้องทำวิธีขอขมากรรมวิญญาณเด็กที่ถูกทำแท้งด้วย (ใครอยากรู้วิธีขอขมากรรมและทำบุญอย่างไรเมล์สอบถามเราได้นะ naaattt99@gmail.com) และท่านก็ทำพิธีกรรมอีกหลายอย่างให้ทั้งอาบน้ำมนต์ และแนะวิธีการอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวร โดยการสวดมนต์และทำสมาธิในคราวมีโอกาสและกรวดน้ำไปให้เด็กที่ถูกทำแท้ง โดยที่เราสมมติชื่อเขา และนามสกุลของเรา ก่อนกลับเราถวายปัจจัยให้กับท่าน ท่านก็บอกว่าโยมทั้งสองเก็บเอาไว้เหอะ เอาไว้ทำบุญให้กับเด็กนะ เพราะโยมก็ยังขอตังค์พ่อแม่ใช้อยู่ เรารู้สึกดีมากๆเลย สิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยเชื่อก็เริ่มเชื่อขึ้นมาแล้ว หลังจากนั้นอีกสามสี่วันต่อมา


เพื่อนเราฝันว่ามีเด็กมาหายืนอยู่ปลายเท้าร้องไห้และยิ้ม บอกว่าอยากเข้ามากอด ทั้งที่เธอทำแท้งมาได้เกือบปีกว่าๆแล้ว เราก็โทรบอกรายละเอียดให้กับหลวงพี่ทราบตลอด และที่น่าตกใจนั่นก็คือ ท่านบอกว่าเพื่อนของโยมไม่ใช่ว่าอาตมาเพิ่งเคยเจอหรอก เจอมาเยอะแล้ว ทั้งคนรวยคนจนคนฐานะปานกลาง เคยทำแท้งมาหมดแล้วแล้วท่านก็ทำพิธีให้มาเยอะแล้ว และจะเยอะมากขึ้นหากแต่เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ทำอะไรหวังเพียงแค่ความสุขสนุกสนานที่ผิดครรลองมิได้คำนึงถึงจิตสำนึกที่ดีงาม เมื่อพลาดมาแล้วเกิดความกลัวทีหลัง เรื่องที่เล่าให้ฟังทั้งหมด อยากให้เป็นแง่คิดนะ หรือใครบางคนอาจจะพลาดไปแล้ว (ปรึกษาเราได้นะ) ถึงไม่ช่วยได้มาก อาจจะทำได้แค่ให้สบายใจขึ้นมาบ้างก็ยังดีกว่า ไม่ได้ช่วยอะไรเลย


19 Jun 2009  |  Post by : naaattt99
Comment 3
คิดก่อนทำจะได้ไม่เสียใจค่ะ

21 Jun 2009  |  Comment by : bonanza
Comment 2
ทางที่ดีควรป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าแก้ไขด้วยวิธีทำแท้ง

20 Jun 2009  |  Comment by : rassaya
Comment 1
ทำอะไรต้องคิดให้ดี

แล้วก็ป้องกันให้มากที่สุด

จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง

19 Jun 2009  |  Comment by : Samirant

Comment


>

Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: suwan 3
โพสต์โดย: Girlyyy 3
โพสต์โดย: dudesweet 0
โพสต์โดย: 4242 1
โพสต์โดย: girlgend 0
โพสต์โดย: mhoonoii 0
โพสต์โดย: jittirat 11
โพสต์โดย: sleepsleep 0

Interest Product