แอล-คาร์นิทีน..จะลดน้ำหนักได้อย่างไร

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในผู้หญิง: สาเหตุ อาการ การป้องกัน และการรักษา

Talk About Women

แอล-คาร์นิทีน..จะลดน้ำหนักได้อย่างไร
แอล-คาร์นิทีน..จะลดน้ำหนักได้อย่างไร สารสกัดจากธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยม เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก คือ แอล คาร์นิทีน เรามาลองดูกันว่าสารนี้จะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างไร หลาย คนคงสงสัยว่า แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) คืออะไร แต่สาวๆ ที่ห่วงเรื่องความสวย ความงามจะรู้จักดีว่า แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) คืออะไร.. แอลคาร์นิทีน(L-Carnitine) เป็นชื่อกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ผลิตได้ที่ตับ โดยมีการสังเคราะห์จากกรดอะมิโน 2 ชนิดคือ Lysine และ Methionine พร้อมกับอาศัยตัวเร่งให้เกิดการสังเคราะห์ ได้แก่ Niacin วิตามิน B6 C และธาตุเหล็ก โดยปกติจะพบในสัตว์เนื้อแดงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนกล้ามเนื้อลายจะมากเป็นพิเศษ ในส่วนบทบาทในการลดน้ำหนักและลดไขมันสะสม ดูเหมือนว่า L-carnitine น่าจะเป็นคำตอบที่ดีของคุณๆ ที่ประสงค์จะลดน้ำหนักด้วยสารธรรมชาติ เนื่องจากมีการทดลองนำเอาเซลล์ไขมัน(Adipose Tissue) ของคนอ้วนมาวิเคราะห์ พบว่าในเนื้อเยื่อดังกล่าวแทบจะไม่มี Carnitine อยู่เหลือเลย ดังนั้นจากความสัมพันธ์นี้เอง ทีมนักวิจัยจึงตั้งสมมติฐานว่า กลไกการลำเลียงไขมันเพื่อไปใช้ หากถูกขัดขวางด้วยวิธีใดก็ตาม ก็จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันได้ แต่หากให้สารชนิดนี้เพิ่มเข้าไป ก็จะส่งผลให้อัตราการเผาผลาญของไขมันสะสมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่สนับสนุนผลการลดไขมันสะสมของคนอ้วน โดยการศึกษาดังกล่าว นักวิจัยได้ให้แบ่งวัยรุ่นที่อ้วนเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทาน L-carnitine ขนาด 2 g/วัน อีกกลุ่มได้ยาหลอก (Placebo) โดยทั้งสองกลุ่มถูกจำกัด อาหารให้มีแคลอรี่เท่าๆกัน และมีการออกกำลังกายขนาดปานกลางเหมือนกัน หลังจากนั้น 3 เดือนต่อมาจึงทำการวัดน้ำหนักตัวอีกครั้ง พบว่ากลุ่มที่ได้รับ L-carnitine น้ำหนักตัวลดลงเฉลี่ย 11 ปอนด์ ขณะที่อีกกลุ่มลดลงเฉลี่ยไม่ถึง 2 ปอนด์ และปริมาณไขมันในกระแสเลือดก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น L-carnitine ซึ่งแม้ว่าจะพบมากในสัตว์เนื้อแดงก็ตาม แต่ปริมาณที่ได้จากการทานใน 1 วัน จะให้กรดอะมิโนดังกล่าวเพียง 50-200 mg.เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงไขมันสะสมไปเป็นพลังงาน ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าหากคุณต้องการลดน้ำหนักด้วยสารธรรมชาติ L-carnitine ขนาด 500-1,000 mg./วัน (1 cap 500 mg. หรือ แบบชนิดน้ำ 1000 mg/30 ml. สำหรับข้อดีในเรื่องการออกฤทธิ์ที่รวดเร็วขึ้น) น่าจะเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการลดน้ำหนัก และหากคุณมีดัชนีมวลร่างกาย (BMI) มากกว่า 25 ปริมาณการใช้จะสูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งมีงานวิจัยที่ยืนยันความปลอดภัยจากการใช้ว่า L-carnitine ยังไม่มีผลทางลบแม้จะรับประทานในขนาดสูงถึง 4 g./ วันก็ตาม 14 Sep 2010 \| Post by : truslenbloc

แอล-คาร์นิทีน..จะลดน้ำหนักได้อย่างไร
สารสกัดจากธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยม เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก คือ แอล คาร์นิทีน เรามาลองดูกันว่าสารนี้จะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างไร
หลาย คนคงสงสัยว่า แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) คืออะไร แต่สาวๆ ที่ห่วงเรื่องความสวย ความงามจะรู้จักดีว่า แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) คืออะไร..
แอลคาร์นิทีน(L-Carnitine) เป็นชื่อกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ผลิตได้ที่ตับ โดยมีการสังเคราะห์จากกรดอะมิโน 2 ชนิดคือ Lysine และ Methionine
พร้อมกับอาศัยตัวเร่งให้เกิดการสังเคราะห์ ได้แก่ Niacin วิตามิน B6 C และธาตุเหล็ก โดยปกติจะพบในสัตว์เนื้อแดงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนกล้ามเนื้อลายจะมากเป็นพิเศษ

ในส่วนบทบาทในการลดน้ำหนักและลดไขมันสะสม ดูเหมือนว่า L-carnitine น่าจะเป็นคำตอบที่ดีของคุณๆ ที่ประสงค์จะลดน้ำหนักด้วยสารธรรมชาติ
เนื่องจากมีการทดลองนำเอาเซลล์ไขมัน(Adipose Tissue) ของคนอ้วนมาวิเคราะห์ พบว่าในเนื้อเยื่อดังกล่าวแทบจะไม่มี Carnitine อยู่เหลือเลย
ดังนั้นจากความสัมพันธ์นี้เอง ทีมนักวิจัยจึงตั้งสมมติฐานว่า กลไกการลำเลียงไขมันเพื่อไปใช้ หากถูกขัดขวางด้วยวิธีใดก็ตาม ก็จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันได้ แต่หากให้สารชนิดนี้เพิ่มเข้าไป ก็จะส่งผลให้อัตราการเผาผลาญของไขมันสะสมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่สนับสนุนผลการลดไขมันสะสมของคนอ้วน

โดยการศึกษาดังกล่าว นักวิจัยได้ให้แบ่งวัยรุ่นที่อ้วนเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทาน L-carnitine ขนาด 2 g/วัน อีกกลุ่มได้ยาหลอก (Placebo) โดยทั้งสองกลุ่มถูกจำกัด อาหารให้มีแคลอรี่เท่าๆกัน และมีการออกกำลังกายขนาดปานกลางเหมือนกัน หลังจากนั้น 3 เดือนต่อมาจึงทำการวัดน้ำหนักตัวอีกครั้ง
พบว่ากลุ่มที่ได้รับ L-carnitine น้ำหนักตัวลดลงเฉลี่ย 11 ปอนด์ ขณะที่อีกกลุ่มลดลงเฉลี่ยไม่ถึง 2 ปอนด์ และปริมาณไขมันในกระแสเลือดก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น L-carnitine ซึ่งแม้ว่าจะพบมากในสัตว์เนื้อแดงก็ตาม แต่ปริมาณที่ได้จากการทานใน 1 วัน จะให้กรดอะมิโนดังกล่าวเพียง 50-200 mg.เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงไขมันสะสมไปเป็นพลังงาน

ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าหากคุณต้องการลดน้ำหนักด้วยสารธรรมชาติ L-carnitine ขนาด 500-1,000 mg./วัน (1 cap 500 mg. หรือ แบบชนิดน้ำ 1000 mg/30 ml. สำหรับข้อดีในเรื่องการออกฤทธิ์ที่รวดเร็วขึ้น) น่าจะเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการลดน้ำหนัก และหากคุณมีดัชนีมวลร่างกาย (BMI) มากกว่า 25 ปริมาณการใช้จะสูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งมีงานวิจัยที่ยืนยันความปลอดภัยจากการใช้ว่า L-carnitine ยังไม่มีผลทางลบแม้จะรับประทานในขนาดสูงถึง 4 g./ วันก็ตาม

14 Sep 2010 | Post by : truslenbloc

Comment

Recommended Clinic

Beauty Clinic

Hers Clinic

View Details

Beauty Clinic

Blossom Clinic : บลอสซั้มคลินิก

View Details

Beauty Clinic

U WA clinic

View Details

Beauty Clinic

SLC Clinic

View Details

Beauty Clinic

Absolute Beauty Clinic

View Details

Webboard
เหตุผล 101 ข้อที่จะทำให้ผู้หญิงทุกท่านดูน่ารักขึ้นทันทีในสายตาของผู้ชายอีกหลายคน 8 Aug 2004 โพสต์โดย: 7-11 0
[ขอความช่วยเหลือค่ะ] รบกวนช่วยตอบแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมจมูก (งานวิจัยค่ะ) 24 Jan 2010 โพสต์โดย: Pupay_SwU 1
ขออนุญาติแนะนำตัวค่ะ 4 Apr 2010 โพสต์โดย: lady_rabbit_moon 1
มาขัดริมฝีปากดีกว่า ให้ไวๆ ของมีในครัวกันอยู่แล้วค่ะ 30 Jul 2013 โพสต์โดย: Momay 1
โบท็อกซ์เกาหลีแท้ ลดกราม ลิฟหน้า ปรับรูปหน้า ลดรอยตีนกา กลูต้า คอลลาเจน ฯลฯ และพร้อมรับตัวแทนจำหน่าย 9 Feb 2025 โพสต์โดย: pornwanna 5
เรื่องเบื้องหลังงานพระราชพิธี 19 Jul 2006 โพสต์โดย: PangRum 2
Japan Bowling - - Kitty - - 26 Dec 2004 โพสต์โดย: นานา 4
คุณแม่มือใหม่ ส่วนใหญ่ให้ลูกใช้โลชั่นอะไรกันบ้างคะ? 30 Oct 2017 โพสต์โดย: MaMaNongFar 1