Talk About Women

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกค่ะ
สาวๆ คนไหนเคยฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกบ้างเอ่ย?

พอดีแราไปฉีดแล้ว เลยอยากบอกต่อกับสาวๆ ทุกคนว่านอกจากตรวจคัดกรองแล้วควรฉีดวัคซีนควบคู่ไปด้วยน่าจะดีกว่าค่ะ

เพราะขึ้นชื่อว่ามะเร็งปากมดลูกแล้ว ถ้าใครเป็นก็คงจะทรมานน่าดู แถมกว่าจะรู้ตัวบางทีก็อาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้ เพราะโรคนี้มันใช้เวลา 10-15 ปี กว่าที่จะรู้ตัว บางคนพอรู้ก็เป็นในระยะ 2 หรือไม่ก็อาจจะเป็นในระยะสุดท้ายแล้วก็ได้ค่ะ

แน่นอนว่าถ้าเราเป็นในช่วงระยะแรก การรักษาอาจจะได้ผล แต่ถ้าเป็นในระยะสุดท้าย การรักษาอาจจะไม่ทัน

เพื่อเป็นการป้องกันเราควรที่จะตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปีค่ะ แต่ก็มีเชื้อบางชนิดอย่างเชื้อที่เรียกว่าเชื้ออะดีโน เชื้อชนิดนี้เป็นตัวการของการเกิดมะเร็งปากมดลูก แถมเจ้าเชื้อนี้ก็ไม่สามารถพบได้จากการตรวจคัดกรองด้วย ฟังแค่นี้ก็เริ่มน่ากลัวแล้วใช่มั้ยล่ะ ตรวจพบก็ไม่เจออีก (น่ากลัวจิงๆ ) แต่การฉีดวัคซีนก็เป็นการช่วยได้อีกย่างหนึ่ง ฉีด 3 เข็ม แต่สามารถป้องกันได้ถึง 7 เป็นอย่างน้อย ซึ่งภูมิที่ฉีดก็จะไม่ตก บางคนอาจจะไม่ได้กลับมาฉีดอีกเลยก็ได้..... แต่อย่าลืมที่บอกไว้ข้างต้นว่า นอกจากฉีดวัคซีนแล้ว เราก็ควรที่จะตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปีด้วย

บางคนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไกลตัว คิดว่าตัวเองไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงแต่สาวๆ รู้กันมั้ยว่า ทุกวันจะต้องมีผู้หญิงเสียชีวิตจากการเป็นมะเร็งปากมดลูก 15 คน/วัน ไม่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะ

ทีนี้เริ่มเห็นความสำคัญของการป้องกันหรือยังคะ หรือจะต้องรอให้เกิดขึ้นกับตัวคุณก่อน บางทีกว่าจะรู้ตัวก็อาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้ค่ะ



13 Jun 2011  |  Post by : khunyingying
Comment 16
อัพเดทข่าวกันสักนิดนะคะ

ใครที่สนใจอยากฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ตอนนี้มีโปรโมชั่นจากโรงพยาบาลเปาโลที่พหลโยธิน

ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก Cervarix ราคา 6,800 บ. แถม Gym Ball ตั้งแต่วันนี้-31 ส.ค.54 ค่ะ

สามารถรับบริการได้ที่อาคาร1 ชั้น 4 แผนกสูติ-นรีเวช ค่ะ

รู้อย่างนี้แล้วต้องรีบไปกันนะคะ



21 Jul 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 15
ถูกต้องแล้วจร้า.......

เด๋วนี้ผู้หญิงอย่างเราต้องหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองให้มากขึ้น รักตัวเองให้มากขึ้น

เพราะโรคมะเร็งปาดมดลูกเป็นภัยเงียบสำหรับผุ้หญิงอย่างเราเลยทีเดียว

ซึ่งอาการของเจ้าเชื้อนี้จะไม่ปรากฎในช่วงแรก แต่อาการจะเกิดก็ต่อเมื่อเราเป็นในระยะที่ 2 แล้ว ซึ่งใช้เวลา 10-15 ปี

กว่าที่เราจะรู้ตัว.....บางทีอาจจะรักษาไม่ทันหรือ อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายไปมากมายกับการรักษา

เพราะฉะนั้นเราจึงควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีอย่างสม่ำเสมอและถ้าจะให้ดีที่สุด

ควรที่จะฉีดวัคซีนควบคู่ไปด้วย จะทำให้เราห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูกจร้า



20 Jul 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 14
ขอบคุนค่ะ สำหรับความรู้ดีๆ สำหรับสาวๆ

ดีนะ เราฉีดวัคซีนเข็มแรกไปเมื่อ 2 เดือนก่อน เพราะ เดวนี้ผู้หญิงต้องดูแลตัวเองจริงๆ



20 Jul 2011  |  Comment by : Honeyza
Comment 13
ใครมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องมะเร็งปากมดลูกก็ถามมากันได้นะคะ

อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวค่ะ แล้วก็ไม่ต้องเขินอายที่จะไปตรวจคัดกรอง

หรือว่าถ้าใครมีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้น ก็รีบไปหาหมอโดยด่วนนะจร้า

หากปล่อยให้เนิ่นนาน อาจสายเกินไป

ด้วยความปราถนาดีจร้า



12 Jul 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 12
แล้วสาวๆ รู้มั้ยคะว่า

มะเร็งปากมดลูกติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ เท่านั้น

ถึงเราจะมีคู่นอนเพียงคนเดียวก็สามารถติดมะเร็งปากมดลูกได้นะคะ

และหากคิดว่าสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง แล้วก็คงเป็นมะเร็งปากมดลูกหรอก อยากบอกว่าคิดผิดค่ะ

เพราะถุงยางไม่สามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ ดังนั้นผู้หญิงอย่างเราๆ ก็สามารถติดเชื้อมะเร็งปากมดลูกได้

การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย และมีคู่นอนหาลยคน ยิ่งเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกค่ะ

แล้วรู้มั้ยว่ากลุ่มที่เป็นมะเร็งปากมดลูกมากที่สุดคือวัยรุ่น

ถ้าหากว่าคุณยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลย อายุ 35 ปีขึ้นไป แนะนำว่าให้ไปตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปีค่ะ

หากมีอาการผิดปกติ เช่น ตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น มีเลือดปน หรือมีเลือดออกทุกครั้งที่เพศสัมพันธ์

ให้รีบไปหาหมอค่ะ เพราะนั่นคืออาการของมะเร็งปากมดลูก



24 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 11
อ่านแล้วก็ช่วยกันบอกต่อด้วยนะ

มะเร็งปากมดลูก อันตรายกว่าที่เราคิดค่ะ

24 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 10
รักจิ๊....ชิมิ ชิมิ

24 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 9
มาดูของแต่ละคนกันดีกว่า �����

24 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 8
พอเปิดมาหน้าต่อไปเห็นคอลัมน์ marie claire roadshow

เห็นสาวๆ เค้าใส่เสื้อ รณรงค์ป้องกันมะเร็งปากมดลูก

ซึ่งทาง marie claire เค้าจัดทำเสื้อยืดเป็นคอลเล็กชั่นพิเศษ

เพื่อต้องการเตือนใจให้ผู้หญิงหันมาใส่ใจถึงภัยร้ายใกล้ตัว อย่างมะเร็งปากมดลูก

ไอเดียเก๋มากกกก

24 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 7
พอดีเห็นโฆษณาใน marie claire เป็นโฆษณามะเร็งปากมดลูก

24 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 6
หายกันไปนาน สำหรับการอัพเดทเรื่องมะเร็งปากมดลูก

มาอัพเดทกันต่อดีกว่า คราวที่แล้วพูดเรื่องระยะเวลาในการฉีดวัคซีน

คราวนี้มาพูดถึงประสิทธิภาพในการป้องกันดีกว่า

บางคนอาจสงสัยว่าถ้าฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้ว ภูมิคุ้มกันจะอยู่ได้นานแค่ไหน

ถ้าเป็นของ cervarix ภูมิจะอยู่ได้นานอย่างน้อย 8 ปี และจะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ภูมิไม่ตก

อาจอยู่ไปตลอดชีวิต โดยไม่ต้องฉีดซ้ำ ราคาอยู่ที่ 6800

ส่วน gardsil ภูมิคุ้มกันจะอยู่ที่ 5 ปี หลังจากนั้นภูมิก็จะตก ต้องไปฉีดซ้ำ ราคา 7800 ค่ะ




24 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 5
พรุ่งนี้จะมราอัพเดทเพิ่มเติมนะค่ะ



16 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 4
การฉีดวัคซีนเค้าก็จะฉีดกัน 3 เข็ม แต่ของCervarix จะฉีดแบบเดือนที่ 0,1,6
ของ Gardasil จะฉีดเดือนที่ 0,2,6 ค่ะ

การฉีดวัคซีน จะฉีดที่แขน เหมือนที่เราฉีดวัคซีนทั่วไปจร้า.....
(คงแอบคิดมากกันช่ายม๊า ว่าจะฉีดตรงนั้นหรือป่าว 5555++)




16 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 3
วัคซีนที่ป้องกันมะเร็งปากมดลูกตอนนี้ มีอยู่ 2 ยี่ห้อ คือ Cervarix และ Gardasil
เราก็สงสัยว่าทำไมคุณหมอถึงแนะให้เราฉีดของ Cervarix ทั้งที่ Gardasil ป้องได้ถึง 4 สายพันธุ์
คือเชื้อ HPV 16, 18, 6, 11 ซึ่งป้องกันหูดหงอนไก่ได้ด้วย

คุณหมอก็บอกว่าถึงจะป้องกันได้ 4 สายพันธุ์ ก็จริง แต่ด้วยความที่ในวัคซีนมีสายพันธุ์ที่ 6, 11 มารวมอยู่ด้วย จึงทำให้ประสิทธิภาพของตัวยาที่จะป้องกัน เชื้อ HPV 16, 18 เจือจางลง
แต่ถ้าเราอยากจะป้องกันมะเร็งปากมดลูกจริงๆ ก็ต้องเลือก Cervarix หรือถ้าอยากจะป้องกันหูดหงอนไก่
ก็เลือก Gardsil ตามนั้น


16 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 2
มะเร็งปากมดลูกชนิดอะดีโนเกิดจากสายเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ที่ 16, 18, 45 และ 31
แล้วรู้มั้ยคะว่า สายพันธุ์ที่ 16, 18 เป็นสายพันธุ์หลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูกถึง 70 %
วิธีการป้องกันเชื้อดังกล่าว คือการฉีดวัคซีนที่ป้องกันเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ 16, 18 ก็จะสามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง แต่จะให้ดีก็ต้องหมั่นไปตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จะดีที่สุดค่ะ

ตรวจคัดกรอง+การฉีดวัคซีน เป็นสิ่งที่คุณหมดบอกมาค่ะ

(ยังไม่จบนะ)

16 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying
Comment 1
คราวที่แล้วเกริ่นเอาไว้เรื่องที่เราไปฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก
วันนี้ก็เลยอยากจะพูดถึงเรื่องวัคซีนที่เราไปฉีดมาค่ะ
วัคซีนที่คุณหมอแนะให้เราฉีดมีชื่อว่า Cervarix
ซึ่งเราฟังจากที่คุณหมอเค้าอธิบายมาและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเอกสารโปรชัวร์ที่ได้ตามโรงพยบาล
เท่าที่เราเข้าใจนะว่า มะเร็งปากมดลูกที่เราพบกันบ่อยมี 2 ชนิดค่ะ
ชนิดแรกเนี่ย เรียกว่ามะเร็งปากมดลูกชนิดสแควมัส เจ้าเชื้อชนิดนี้จะมักเกิดตรงบริเวณปากมดลูกด้านนอกค่ะ
แต่สามารถตรวจพบได้จากการตรวจคัดกรอง (แพปสเมียร์) ส่วนชนิดที่สองเรียกว่ามะเร็งปากมดลูกชนิดอะดีโน
จะเกิดบริเวณที่ลึกลงไปในคอมดลูก ซึ่งการตรวจคัดกรองอาจจะไม่สามารถตรวจพบได้
เพราะด้วยความที่ตรวจพบยากนี่เอง จึงทำให้มะเร็งปากมดลูกชนิดอะดีโนเป็นชนิดที่พบบ่อยมากถึง 15-20 เปอร์เซ็นต์ ของมะเร็งปากมดลูกทั้งหมด

ฟังดูแล้วอาจจะน่ากลัวเพราะไม่สามารถตรวจเจอได้
แต่ถ้าเรารู้และเข้าใจสาเหตุของมัน ก็จะไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

เด๋วมาคุยต่อกันนะ....อิอิ

16 Jun 2011  |  Comment by : khunyingying

Comment


>

Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: SweetNokk 13
โพสต์โดย: numnim40 31
โพสต์โดย: Piyaporn Chumkaew 10
โพสต์โดย: Moolily 1
โพสต์โดย: bbminions 5
โพสต์โดย: sweetysweetie7 4
โพสต์โดย: เอล 1
โพสต์โดย: how 0

Interest Product