Talk About Women

พิชิตกระดูกพรุน ภัยเงียบที่ควรระวัง
ข้อมูลโดย ดร.เทพินทร์ พยัคฆชาติ
Bangkok Anti-Aging Center (แบงคอก เอนไทน์ เอจจิ้ง เซ็นเตอร์)
ปัจจุบันเปอร์เซ็นต์การเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆของคนไทยในรอบสามปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็ง เบาหวาน ความดัน หรือเส้นเลือดตีบ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้คนหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพ และรักษาสุขภาพมากกว่าเดิม แต่มีอยู่หนึ่งโรคที่ทุกคนยังคงมองข้ามและละเลย บางคนไม่ทราบด้วยซ้ำ ว่าโรคนี้เป็นโรคร้ายแรงติดอันดับหนึ่งในสิบที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด นั้นคือ “ โรคกระดูกพรุน” โรคร้ายใกล้ตัวที่กัดกินร่างกายคุณไปอย่างช้าๆ โดยเจ้าของร่างกายไม่สามารถรู้ตัวได้เลยหากไม่ระมัดระวังให้ดี เพราะโรคนี้เป็นโรคที่ไม่แสดงอาการใดๆออกมา เมื่อคุณทราบอีกที่ก็อาจจะสายเกินแก้ไปเสียแล้ว
โรคกระดูกพรุนเป็นโรคที่เรามักมองข้ามเพราะโรคนี้ส่งผลกระทบต่อร่างกายเราอย่างช้าๆไม่เกิดอาการอย่างโจ่งแจ้ง เป็นภัยเงียบที่ค่อยๆลุกลาม ถ้าหากใครไม่ใส่ใจสุขภาพร่างกายอย่างละเอียดจริงจะไม่สามมารถทราบได้เลยว่าเป็นโรคนี้อยู่ ยิ่งในปัจจุบันการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ นั่งจ้องหน้าคอมเป็นเวลานานๆ ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้มากขึ้น ซึ่งโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย โดยมักจะพบในวัยผู้สูงอายุ
โรคกระดูกพรุน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า osteoporosis ( ออส-ที-โอ-พอ-รอ-สิส) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของกระดูกที่เกิดเนื่องจากมีความไม่สมดุลในกระบวนการผลัดผิวกระดูก โดยเซลล์สลายกระดูกทำงานมากกว่าเซลล์สร้างกระดูก ทำให้มวลกระดูกมีความหนาแน่นลดลง เนื้อกระดูกบางลง มีความแข็งแรงน้อยลง และมีความเปราะบางเพิ่มมากขึ้น โรคนี้เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญในผู้สูงอายุ เนื่องจากไม่มีอาการใดๆ ทั้งนี้ กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคกระดูกพรุน ก็ต่อเมื่อเกิดการกระดูกหัก ซึ่งมักเกิดตามหลังอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม ตกบันได ตกจากเก้าอี้ นอกจากนี้ ผู้สูงอายุที่มีการไออย่างรุนแรงก็อาจทำให้กระดูกซี่โครงหักได้ ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุนจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกหักเนื่องจากมวลกระดูกของเรามีความหนาแน่นน้อยลง การเดินลื่นหกล้มแม้จะยั้งตัวได้โดยหัวไม่ฟาดพื้นก็อาจเกิดกระดูกข้อมือหักจากการใช้มือยันตัวไว้ ตำแหน่งของกระดูกที่หักส่วนใหญ่จะเป็นที่กระดูกข้อมือ กระดูกสะโพก และ กระดูกสันหลัง อธิบายได้ว่า เมื่อหกล้ม คนเราก็จะเอามือยันพื้นไว้เพื่อประคองตัวเอง แต่ด้วยความที่เนื้อกระดูกบางลง กระดูกข้อมือจึงไม่สามารถรับน้ำหนักตัวได้เต็มที่เหมือนตอนหนุ่มสาว กระดูกข้อมือจึงหัก เมื่อกระดูกข้อมือหักก็ใช้มือข้างนั้นหยิบจับอะไรไม่ได้ในระหว่างที่ต้องเข้าเฝือก หากมีก้นกระแทกพื้นเช่นในกรณีตกบันไดหรือตกจากเก้าอี้ ทำให้เดินไม่ได้ในระหว่างการรักษา บางรายอาจต้องเปลี่ยนข้อมือเพื่อใส่ข้อมือเทียมแทน ทำให้ต้องนอนติดเตียง ซึ่งอาจเกิดแผลกดทับหรือโรคอื่นๆ ตามมาได้หากไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ
Bangkok Anti-Aging Center (แบงคอก เอนไทน์ เอจจิ้ง เซ็นเตอร์) เล็งเห็นความสำคัญของโรคกระดูกพรุนว่าเป็นภัยเงียบที่ใกล้ตัวเราขึ้นมากในปัจจุบัน จึงเปิดการสัมมนาเพื่อเป็นวิทยาทานให้ความรู้ ในหัวข้อ “พิชิตกระดูกพรุน ภัยร้ายของทุกวัย ” โดย ดร.เทพินทร์ พยัคฆชาติ เป็นวิทยากรความรู้และพูดคุยเรื่อง “กระดูกพรุน” รวมถึงแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับ วิธีลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน ดังนี้
รับประทานแคลเซียมให้เพียงพอ คือ ประมาณวันละ 1,000 มิลลิกรัม แต่ผู้หญิงในช่วงวัยหมดประจำเดือน (อายุ 50-55 ปี) ควรรับประทานแคลเซียมวันละ 1,500 มิลลิกรัม โดยอาจเป็นการดื่มนม หรือรับประทานปลาตัวเล็กตัวน้อยทอดกรอบ กุ้งแห้ง กุ้งฝอย กะปิ เต้าหู้เหลือง เป็นต้น หรือรับประทานยาเม็ดแคลเซียม
ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงพอสมควร อย่างสม่ำเสมอ เช่น การวิ่งหรือเดินเร็วๆ ที่มีการลงน้ำหนักบนกระดูก (ไม่วิ่งจ๊อกกิ้ง ไม่วิ่งบนพื้นปูนหรือซีเมนต์ และไม่เดินทอดน่อง) การยกน้ำหนัก การลีลาศ และฝึกการทรงตัว เช่น ยืนด้วยขาข้างเดียว
ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป คือมีค่าดัชนีมวลกาย ระหว่าง 18-23
งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิด
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถห่างไกลจากโรคกระดูกพรุนหรือโรคอื่นๆรอบตัวได้อย่างสบาย เห็นไหมละครับ การมีสุขภาพที่แข็งแรงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเพียงแค่หันมาใส่ใจและดูแลตัวเอง คุณก็สมามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ดังสุภาษิตไทยที่กล่าวไว้ว่า “ การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ"


8 Jun 2016  |  Post by : prad001

Comment



Pooyingnaka Quiz

Webboard
โพสต์โดย: piglet_koko 0
โพสต์โดย: Miffy 5
โพสต์โดย: GoneHin 6
โพสต์โดย: subunsiphp 0
โพสต์โดย: lady_gaga 0
โพสต์โดย: pinkbear 1
โพสต์โดย: megomego 0
โพสต์โดย: Au_Aoun 3

Interest Product