ไปทำตาสองชั้นมา สวยปลื้มจนอยากบอกต่อเลย

ไปทำตาสองชั้นมา สวยปลื้มจนอยากบอกต่อเลย
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ เราเป็นคนนึงที่เชื่อว่าการมีดวงตาสวยก็ทำให้หน้าดูสดใสมากขึ้น เพราะเราเป็นคนตาเล็กมากเอาเป็นว่าชั้นตาแทบมองไม่เห็น ดูหลบในแถมชั้นตาไม่เท่ากันอีกต่างหาก บางทีก็ชอบโดนทักว่าแบบว่าอาหมวย ปูก้า ไชน่าดอลอะไรแบบนี้ตลอด เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบให้คนมาล้อเลียนหรือเปรียบเทียบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เวลาโดนทักทีไรมันรู้สึกอึดอัดเล็กๆ ตลอดเลย อยากให้ดูตาโตขึ้นค่ะ เพราะ 1. เราอยากให้ตาเราชัดขึ้นแต่ไม่อยากได้หนามาก 2.เราอยากให้ตาเท่ากัน แล้วก็ 3.เราไม่อยากโดนล้อแล้ว ไม่ชอบเลย ฮือๆ พอเราตัดสินใจจะทำตาสองชั้นก็นั่งหารีวิวเลย ดูจนตาแฉะก็ตัดสินใจลองไปปรึกษากับมาสเตอร์พีซ คลีนิกดูเพราะเห็นตาของคนนี้แล้วเราชอบมาก ซึ่งตาของเรา เราก็ว่าเหมือนของคนข้างบนอยู่น๊า เนี่ยตาแบบนี้เลย ก็เลยลองเข้าไปปรึกษาดูซักหน่อย ถ้าไม่โอเคค่อยไปดูที่อื่น ซึ่งตอนเราเข้าไปปรึกษาในห้องจะมีเรากับคุณหมอแล้วก็เซลล์คอยดูแลเราว่าควรทำอะไรบ้าง ตอนเข้าไปปรึกษาเราก็ปริ้นรูปข้างบนไปให้หมอดูด้วยว่าเราชอบแบบนี้น้า หมอก็มาตรวจตาเรา แล้วก็เอาเครื่องมือมาวัดชั้นตา เสร็จแล้วก็เอาเมจิกมาจุดที่ตาแล้วเอาเครื่องมือมาจิ้มที่เปลือก แล้วก็ให้เราลืมตาดูในกระจก หมอก็บอกกับเราว่าเราเป็นคนที่ระหว่างตากับคิ้วค่อนข้างแคบหมอจะทำให้ไม่สูงมากนะคะ แต่จะทำให้ชั้นตาดูชัดเป็นธรรมชาติมากขึ้น และอาการบวมจะน้อยมาก เราโอเคเลย ชอบหมอที่ดูใจเย็นและอธิบายชัดเจนดี คุยเสร็จแล้วก็กลับลงมานั่งคุยกับทางเซลล์ต่อว่าจะเอายังไงดี แต่ด้วยบรรยากาศตอนนั้นรู้สึกว่าโอเคมากก็เลยโอเค ทางเซลล์ก็นัดวันมาให้พร้อมอธิบายการดูแลตัวเองก่อนทำตาสองชั้นมาค่ะ การดูแลก่อนทำตาสองชั้นก็ไม่มีอะไรมาก งดเหล้า บุหรี่ วิตามิน ก่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และไม่ควรแต่งหน้าก่อนการทำตา สติกเกอร์ตาสองชั้น กาวทำตาสองชั้นพวกนี้ก็ติดไม่ได้นะ เค้าบอกว่ามันจะทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงที่เปลือกตาอะไรทำนองนั้น วันนัดทำตาสองชั้นก็มาแบบชิวๆเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวรถติดเพราะที่นี่เค้าอยู่ติดกับ BTS เลย เราก็ว่าดี เพราะทำเสร็จก็ได้นั่ง BTS กลับได้เลยถึงบ้านเร็วดีด้วย มาถึงคลีนิกทางเซลล์ก็ให้เรานั่งรอก่อนแปปนึงค่ะ ก็มีน้ำมีขนมให้เรากินรอนิดหน่อย วันนี้ที่เรามาคนเยอะมาก และทางเซลล์ก็ดูวุ่นๆกันตลอดเลย แต่ก็ไม่ได้รอนานเท่าไหร่ประมาณเกือบชั่วโมงได้ ถือว่าเราโชคดีมาก ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเซลล์ก็จะคอยดูแลเราตลอด คอยบอกว่าเราควรทำอะไรยังไง ต้องไปล้างหน้า เปลี่ยนชุดคลุม ใส่หมวกคลุมหัว ประมาณนี้ เมื่อเสร็จแล้วเซลล์ก็จะพาเราไปที่ห้องผ่าตัดให้เรานอนรอหมอก่อน แล้วเซลล์จะกลับมาอีกทีตอนเราทำตาเสร็จ ระหว่างรอหมอ พยาบาลจะทำความสะอาดหน้าให้เราอีกรอบ พอคุณหมอมาก็จะหยอดอะไรบางอย่างลงไปที่ตาเรา มันเป็นความรู้สึกเย็นๆ แปลกๆ แล้วหมอก็จะวัดชั้นตาเราอีกครั้ง แล้วใช้เมจิกมาร์กไว้ มาถึงตอนหวาดเสียวสำหรับเราแล้ว มันคือการฉีดยาชา!! เราค่อนข้างตื่นเต้น เพราะจากที่อ่านในรีวิว บางคนก็บอกว่าเจ็บมาก บางคนก็เจ็บจี้ดๆ บางคนก็ไม่เจ็บเลย แต่ของเราตอนที่หมอฉีดยาชาเป็นความรู้สึกเหมือนโดนมดกัดมากกว่า แล้วก็ชาๆ ฉีดเสร็จ เราก็ได้ยินเสียงหมอพูดอะไรบางอย่างแล้วก็ได้กลิ่นเหมือนยุงถูกช็อต จากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรเลย แถมเราหลับตาอยู่ด้วย แต่หมอจะให้เราลืมตาหลับตาเป็นช่วงๆ นะ จำได้ว่าทำแค่แปปเดียวก็เสร็จประมาณ 30 นาที หมอก็ย้ายเราไปนอนพักที่ห้องพักฟื้นแล้วประคบเย็นที่ตาต่อ 15 นาที เซลล์ก็มาแล้วพาเราลงไปข้างล่างเพื่อรับยาและของที่เราฝากไว้ค่ะ ก่อนกลับทางเซลล์จะกำชับเรื่องการดูแลหลังทำ และวันนัดติดตามผลใน 7 วัน 1 เดือน และ 3 เดือนค่ะ ชอบตรงนี้แหละไม่ทิ้งลูกค้าหลังทำเสร็จ 1 วัน ตาไม่บวมไม่ช้ำเลย แปลกมากๆ วันที่ 7 ชั้นตาเล็กลงจากวันแรก วันที่ 15 ไม่รู้สึกจี้ดๆตึงๆ ที่ตาแล้ว 1 เดือน ตาสวยแบบที่สั่งเลย รับยาเสร็จเราก็นั่ง BTS กลับบ้านเลยค่ะ เรื่องการดูแลเราจะไม่ล้างหน้าเลยหนึ่งวันเต็มๆ ใช้ผ้าเปียกเช็ดหน้าแทน แต่ไม่ให้โดนตานะ พอวันต่อๆมาก็ล้างหน้าปกติ แต่เว้นช่วงตาเหมือนเดิมค่ะ ของเราถือว่าแปลกมากเพราะตาไม่บวมไม่ช้ำเลย มีรู้สึกตึงๆ ที่ตาบ้างตอนกระพริบตาค่ะ นอกนั้นปกติสุดๆ ตอนไปทำงานเพื่อนที่ทำงานก็ถามว่านี่คือทำมาแล้วหรอทำไมไม่บวมเลย ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกัน ไปติดตามผลมาตอน 7 วัน หมอบอกว่าแผลสวยมาก ตาสวยมาก ไม่ช้ำไม่บวมเลย ดูแลดีนะเรา ซึ่งตอนนี้ครบ 1 เดือนก็ไปติดตามผลอีกรอบหนึ่งค่ะ จากที่สังเกตรู้สึกว่าชั้นตาเล็กนิดหน่อยค่ะ น่าจะเข้าที่แล้ว หมอก็บอกว่าตาเราโอเคเลย ไม่มีอะไรผิดปกติ เราก็โอมาก ณ ตอนนี้ไม่โดนล้อว่าเป็นยายหมวยแล้วชั้นตาก็เท่ากันแล้ว แถมมีแต่คนชมว่าตาดูสวยธรรมชาติมาก แล้วเราก็รู้สึกว่าตั้งแต่ทำตามาขนตาเด้งขึ้นด้วย แบบเมื่อก่อนมันจะเฉียงลงพื้น แต่ตอนนี้มันเฉียงขึ้นมาเฉยเลย ดีจริงๆ ก็ขอจบการแชร์ประสบการณ์เพียงเท่านี้นะคะ มีข้อสงสัยอะไรถามเราได้เลยนะ เรายินดีตอบหรือไม่ก็ถามที่คอลเซนเตอร์ที่เบอร์ 02-105-4370 ของทางคลีนิกได้เลยค่ะ 25 Jan 2017 \| Post by : allthingnice

ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ เราเป็นคนนึงที่เชื่อว่าการมีดวงตาสวยก็ทำให้หน้าดูสดใสมากขึ้น เพราะเราเป็นคนตาเล็กมากเอาเป็นว่าชั้นตาแทบมองไม่เห็น ดูหลบในแถมชั้นตาไม่เท่ากันอีกต่างหาก บางทีก็ชอบโดนทักว่าแบบว่าอาหมวย ปูก้า ไชน่าดอลอะไรแบบนี้ตลอด เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบให้คนมาล้อเลียนหรือเปรียบเทียบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เวลาโดนทักทีไรมันรู้สึกอึดอัดเล็กๆ ตลอดเลย

อยากให้ดูตาโตขึ้นค่ะ เพราะ 1. เราอยากให้ตาเราชัดขึ้นแต่ไม่อยากได้หนามาก 2.เราอยากให้ตาเท่ากัน แล้วก็ 3.เราไม่อยากโดนล้อแล้ว ไม่ชอบเลย ฮือๆ พอเราตัดสินใจจะทำตาสองชั้นก็นั่งหารีวิวเลย ดูจนตาแฉะก็ตัดสินใจลองไปปรึกษากับมาสเตอร์พีซ คลีนิกดูเพราะเห็นตาของคนนี้แล้วเราชอบมาก

ซึ่งตาของเรา เราก็ว่าเหมือนของคนข้างบนอยู่น๊า เนี่ยตาแบบนี้เลย ก็เลยลองเข้าไปปรึกษาดูซักหน่อย ถ้าไม่โอเคค่อยไปดูที่อื่น ซึ่งตอนเราเข้าไปปรึกษาในห้องจะมีเรากับคุณหมอแล้วก็เซลล์คอยดูแลเราว่าควรทำอะไรบ้าง ตอนเข้าไปปรึกษาเราก็ปริ้นรูปข้างบนไปให้หมอดูด้วยว่าเราชอบแบบนี้น้า หมอก็มาตรวจตาเรา แล้วก็เอาเครื่องมือมาวัดชั้นตา เสร็จแล้วก็เอาเมจิกมาจุดที่ตาแล้วเอาเครื่องมือมาจิ้มที่เปลือก แล้วก็ให้เราลืมตาดูในกระจก หมอก็บอกกับเราว่าเราเป็นคนที่ระหว่างตากับคิ้วค่อนข้างแคบหมอจะทำให้ไม่สูงมากนะคะ แต่จะทำให้ชั้นตาดูชัดเป็นธรรมชาติมากขึ้น และอาการบวมจะน้อยมาก เราโอเคเลย ชอบหมอที่ดูใจเย็นและอธิบายชัดเจนดี คุยเสร็จแล้วก็กลับลงมานั่งคุยกับทางเซลล์ต่อว่าจะเอายังไงดี แต่ด้วยบรรยากาศตอนนั้นรู้สึกว่าโอเคมากก็เลยโอเค ทางเซลล์ก็นัดวันมาให้พร้อมอธิบายการดูแลตัวเองก่อนทำตาสองชั้นมาค่ะ

การดูแลก่อนทำตาสองชั้นก็ไม่มีอะไรมาก งดเหล้า บุหรี่ วิตามิน ก่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และไม่ควรแต่งหน้าก่อนการทำตา สติกเกอร์ตาสองชั้น กาวทำตาสองชั้นพวกนี้ก็ติดไม่ได้นะ เค้าบอกว่ามันจะทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงที่เปลือกตาอะไรทำนองนั้น วันนัดทำตาสองชั้นก็มาแบบชิวๆเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวรถติดเพราะที่นี่เค้าอยู่ติดกับ BTS เลย เราก็ว่าดี เพราะทำเสร็จก็ได้นั่ง BTS กลับได้เลยถึงบ้านเร็วดีด้วย มาถึงคลีนิกทางเซลล์ก็ให้เรานั่งรอก่อนแปปนึงค่ะ ก็มีน้ำมีขนมให้เรากินรอนิดหน่อย วันนี้ที่เรามาคนเยอะมาก และทางเซลล์ก็ดูวุ่นๆกันตลอดเลย แต่ก็ไม่ได้รอนานเท่าไหร่ประมาณเกือบชั่วโมงได้ ถือว่าเราโชคดีมาก ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเซลล์ก็จะคอยดูแลเราตลอด คอยบอกว่าเราควรทำอะไรยังไง ต้องไปล้างหน้า เปลี่ยนชุดคลุม ใส่หมวกคลุมหัว ประมาณนี้ เมื่อเสร็จแล้วเซลล์ก็จะพาเราไปที่ห้องผ่าตัดให้เรานอนรอหมอก่อน แล้วเซลล์จะกลับมาอีกทีตอนเราทำตาเสร็จ ระหว่างรอหมอ พยาบาลจะทำความสะอาดหน้าให้เราอีกรอบ พอคุณหมอมาก็จะหยอดอะไรบางอย่างลงไปที่ตาเรา มันเป็นความรู้สึกเย็นๆ แปลกๆ แล้วหมอก็จะวัดชั้นตาเราอีกครั้ง แล้วใช้เมจิกมาร์กไว้ มาถึงตอนหวาดเสียวสำหรับเราแล้ว มันคือการฉีดยาชา!! เราค่อนข้างตื่นเต้น เพราะจากที่อ่านในรีวิว บางคนก็บอกว่าเจ็บมาก บางคนก็เจ็บจี้ดๆ บางคนก็ไม่เจ็บเลย แต่ของเราตอนที่หมอฉีดยาชาเป็นความรู้สึกเหมือนโดนมดกัดมากกว่า แล้วก็ชาๆ ฉีดเสร็จ เราก็ได้ยินเสียงหมอพูดอะไรบางอย่างแล้วก็ได้กลิ่นเหมือนยุงถูกช็อต จากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรเลย แถมเราหลับตาอยู่ด้วย แต่หมอจะให้เราลืมตาหลับตาเป็นช่วงๆ นะ จำได้ว่าทำแค่แปปเดียวก็เสร็จประมาณ 30 นาที หมอก็ย้ายเราไปนอนพักที่ห้องพักฟื้นแล้วประคบเย็นที่ตาต่อ 15 นาที เซลล์ก็มาแล้วพาเราลงไปข้างล่างเพื่อรับยาและของที่เราฝากไว้ค่ะ ก่อนกลับทางเซลล์จะกำชับเรื่องการดูแลหลังทำ และวันนัดติดตามผลใน 7 วัน 1 เดือน และ 3 เดือนค่ะ ชอบตรงนี้แหละไม่ทิ้งลูกค้าหลังทำเสร็จ

1 วัน ตาไม่บวมไม่ช้ำเลย แปลกมากๆ

วันที่ 7 ชั้นตาเล็กลงจากวันแรก

วันที่ 15 ไม่รู้สึกจี้ดๆตึงๆ ที่ตาแล้ว

1 เดือน ตาสวยแบบที่สั่งเลย
รับยาเสร็จเราก็นั่ง BTS กลับบ้านเลยค่ะ เรื่องการดูแลเราจะไม่ล้างหน้าเลยหนึ่งวันเต็มๆ ใช้ผ้าเปียกเช็ดหน้าแทน แต่ไม่ให้โดนตานะ พอวันต่อๆมาก็ล้างหน้าปกติ แต่เว้นช่วงตาเหมือนเดิมค่ะ ของเราถือว่าแปลกมากเพราะตาไม่บวมไม่ช้ำเลย มีรู้สึกตึงๆ ที่ตาบ้างตอนกระพริบตาค่ะ นอกนั้นปกติสุดๆ ตอนไปทำงานเพื่อนที่ทำงานก็ถามว่านี่คือทำมาแล้วหรอทำไมไม่บวมเลย ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกัน
ไปติดตามผลมาตอน 7 วัน หมอบอกว่าแผลสวยมาก ตาสวยมาก ไม่ช้ำไม่บวมเลย ดูแลดีนะเรา ซึ่งตอนนี้ครบ 1 เดือนก็ไปติดตามผลอีกรอบหนึ่งค่ะ จากที่สังเกตรู้สึกว่าชั้นตาเล็กนิดหน่อยค่ะ น่าจะเข้าที่แล้ว หมอก็บอกว่าตาเราโอเคเลย ไม่มีอะไรผิดปกติ เราก็โอมาก ณ ตอนนี้ไม่โดนล้อว่าเป็นยายหมวยแล้วชั้นตาก็เท่ากันแล้ว แถมมีแต่คนชมว่าตาดูสวยธรรมชาติมาก แล้วเราก็รู้สึกว่าตั้งแต่ทำตามาขนตาเด้งขึ้นด้วย แบบเมื่อก่อนมันจะเฉียงลงพื้น แต่ตอนนี้มันเฉียงขึ้นมาเฉยเลย ดีจริงๆ ก็ขอจบการแชร์ประสบการณ์เพียงเท่านี้นะคะ มีข้อสงสัยอะไรถามเราได้เลยนะ เรายินดีตอบหรือไม่ก็ถามที่คอลเซนเตอร์ที่เบอร์ 02-105-4370 ของทางคลีนิกได้เลยค่ะ

25 Jan 2017 | Post by : allthingnice

Hospital / Wellness

W9 Wellness Center

View Details

Webboard
จะทำยังไงเมื่อรู้ว่าคนที่เรารักกำลังจะจากเราไป 2 May 2006 โพสต์โดย: bsar 8
Girly Berry -+-Gossip-+- 2 Sep 2005 โพสต์โดย: StrawberryPinky 13
เคล็ดลับเผด็จใจสาว 22 Feb 2005 โพสต์โดย: 7-11 2
3DNA นวัตกรรมอัจฉริยะ กับการสั่งผลิตแว่นตา ที่ไร้ขีดจำกัด สำหรับคุณคนเดียวเท่านั้น 15 Jun 2020 โพสต์โดย: wonderone 0
ปัญหา หน้าบาน แขน ขา สะโพก ใหญ่ ทำไงดี 25 Mar 2007 โพสต์โดย: momam 2
ส่งต่อแรงบันดาลใจ สะท้อนเส้นทางความสุข สู่การเป็น "Successful Women" จาก "เมิร์ซ เอสเธติกส์" 30 Nov 2018 โพสต์โดย: BEAUTY400 0
โดเรมอนภาคซาดิส 13 May 2009 โพสต์โดย: MING1994 0
แฟนเก่า 6 Jun 2007 โพสต์โดย: maib 8

Webboard