Talk About Women

กรูไม่ช่ายเกย์...ติดอันดับ 2 ในพันธุ์ทิพย์ (Part 5-6)
Part5

"หลับสบายมั๊ยหล่ะ ที่รัก" ผมจี๊ดไปถึง โสตประสาท กระกทั่งกับฆ้อน กรดิกชนกันดิ๊กๆ
"กรูอุตส่าห์เห็นเมิงเป็นเพื่อน คิดไว้ใจ เมิงนี่มานเลวสาดดด กรูเป็นผู้ชาย เมิงก็เป็นผู้ชาย เมิงมันวิปริตผิดเพศ เลวอย่างงี้กรู มิน่าพ่อเมิงถึงไม่เอา"
"ปั๊ก".........เลือดออกเลยครับ ผมโดนมันชกปากอ่ะ ตกใจดิครับ ไม่คิดว่ามันจะกล้าทำ
"เมิงพูดอย่างงี้ได้ไง ทำไมเมิงพูดอย่างงี้ เมิงเมาอ๊วกใส่ตัวเมิงเองใส่กรู ใส่รถกรู กรูหามมาบนห้อง ถอดเสื้อให้ เช็ดอ๊วกที่กางเกงให้ โน่น แหกตาดู เสื้อเมิงแขวนอยู่โน่น อ๊กวเมิงกรูไม่เคยรังเกียจ แต่กรูรังเกียจคำที่เมิงพร่ามออกมาเมื่อกี้ ..........กรูจะบอกอะไรให้ ต่อให้เมิงนอนแก้ผ้ากรูก็ทำอะไรเมิงไม่ได้........เพราะกรูทำไมเป็น"
ฟังแรกๆสำนึกครับ มาเกือบหลุดหัวเราะเอาตอนที่มันบอกว่าทำไม่เป็นนี่แหละ ต้องกลั้นไว้แทบตาย
พูดจบมันเดินชนผมโครมใหญ่ก่อนหายไปในห้องน้ำ
.....................

ผมตัดสินใจนั่งรอมันอยู่ในห้องเพื่อรอเคลียร์กับมัน เพราะใจยังรู้สึกผิด ไม่ได้รู้สึกผิดที่ตบหัวมันหรอกนะ แต่ผิดที่พูดเรื่องพ่อมันอย่างนั้น...........ระหว่างที่นั่งเอาน้ำแข็งประคบปาก ในใจก็คิดทบทวนอะไรไปเรื่อยเปื่อย
........ที่ผ่านมา ถึงผมจะรำคาญมันบ้าง หงุดหงิดบ้างและก็ขยะแขยงเป็นบางครั้งด้วยก็เถอะ แต่ผมยอมรับว่าอยู่ใกล้มันแล้วสบายใจ อุ่นใจด้วย(เคยมีปัญหากับมอไซค์รับจ้างหน้าซอยบ้านมัน.....โทรกริ๊งเดียว ลงมาเคลียร์ให้ มอไซค์จ๋อยไปเลย) มันไม่เคยทำให้ผมเสียความรู้สึกนะ(มันจะเสียใจเพราะผมมากกว่า) เอาใจใส่ เพื่อนผมคนอื่นที่ผมดีกับมัน มันยังดีไม่เท่ากับที่เพื่อนคนนนี้ดีกับผมเลย.....คิดแล้วก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันที่พูดไม่ดีกับมันเมื่อกี้
"เอา...ประคบปากไว้ เดี๋ยวเจ่อ กรุไม่อยากโดนแม่เมิงด่า" มันยื่นผ้าห่อน้ำแข็งมาให้ แล้วก็เดินออกไปนอกระเบียง
"กรู ขอโทษ" ผมตะโกนบอกมัน
.................มันยังคงเงียบ เหมือนโกรธ..เล่นตัว

" กรูขอโทษ เมิงได้ยินป่าว"
"ได้ยิน"
..........
.............
.........
...........
..........
............มันก็ยังเงียบอยู่
"แล้วเมิงจะให้กรูทำไง"
"กรูไม่อยากให้เมิงพูดเรื่องพ่อกรูอีก กรูเจ็บพอแล้ว เข้ามั๊ย"
"เข้าใจ" ผมพนักหน้า งึดๆ
.................มันลงมานั่งข้างๆ ผมหล่ะกลัวใจมันจริงๆ แต่มันคงไม่ทำอะไรหรอก เพราะมันทำไม่เป็น อิๆ...
"เจ็บมากป่าว ไหนกรูดูสิ" มันจับที่หน้าผมดูผลงานที่มันทำ
"เจ็บสิแมร่ง โอ้ย เมิงจะเอานิ้วจิ้มกรุทำหอกอะไร เจ็บโว้ย"
"กรูขอโทษนะ กรูทำเมิงเจ็บ"
"เออ ไม่เป็นไรหรอก หายกัน"
"งั้นกรูกลับบ้านก่อนนะ เจอกันที่ทำงานตอนเย็นโว้ย"
ผมลามันก่อนเดินออกมา มันเดินมาส่งที่หน้าประตู
"อ้าว ไม่ไปส่งกรูหน้าปากซอยแล้วเหรอ ไม่กลัวกรูโดนวินมอไซค์ตืบเหรอ"ผมแซว
"ไม่อ่ะ กูของีบสักเดี๋ยว เมื่อคืนแมร่งสาดที่ไหนไม่รู้ทั้งกรน ทั้งพร่ามจนกรูนอนไม่ได้
.................แหะๆ กรูเอง...............

เดินลงมา ผ่านรถที่มันจอดไว้ ชะโงกหน้าไปดู ย้อนรอยที่ทำไว้เมื่อคืน ปรากฎว่าสะอาดเอี่ยม แสดงว่ามันกินไป เอ้ย..เช็ดไปแล้ว เมื่อคืนคงเช็ดอ๊วกกรูทั้งคืน สะใจ 555 กรูบอกแล้วว่า กรูไม่กินเหล้า ยังจะพากรูไปกิน ดี สม...
..........สักแป๊บครับ ยังไม่ทันถึงบ้านดี มันโทรเข้ามือถือ ตอนแรกว่าจะไม่รับ เพราะเอียนมันเต็มทีอยู่กับมันทั้งคืน
" เออ เฮ้ย กรูจะโทรมาย้ำกับเมิง เมิงอย่าบอกแม่เมิงนะว่า โดนกรูชกปาก"
"เออ แต่เมิงต้องเล่าให้กรูฟังให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน" แล้วมันก็เริ่มเล่าตั้งแต่ที่คุณๆท่านๆชาวพันทิพย์ได้อ่านมาข้างตนนั่นแหละ
"เมิงถอดเสื้อกรู แล้วเมิงทำอะไรอีก"
" กรูก็เช็ดตัวให้เมิง เช็ดหน้าให้เมิง แล้วก็เอาเสื้อเมิงไปเหยีบน้ำตากให้"
"แค่นั้นจริงๆเหรอวะ"
"เอ่อ อืม ..."น้ำเสียงมีเลศนัย "กรุแค่นอนกอดเมิง....เอ่อ .....ก็เมิงนั่นแหละ เอาหมอนข้างกรูไปขี่ กรูนอนไม่หลับถ้าไม่ได้กอดหมอนข้าง กรูก็เลย.......กอดเมิง"
ตู๊ดๆๆๆๆๆๆ " ไอ่ เอ้ย" มันวางโทรศัพท์ทันที ผมว่าแล้ว คนอย่างมันไม่ดีจริงหรอก แต่จะว่าไปก็อุ่นดีเหมือนกันนะ อ้าว อิๆ............

ตอนเย็นวันนั้นผมขับรถไปทำงานเข้ากะดึกตามปกติ สักพักก็มีเพื่อนที่ทำงงานสายการบินแถบตะวันออกกลางสายหนึ่งโทรมาบอกว่า เค้ากำลังจะรับสจ๊วต.......
.............ฟังแล้วก็อืมมม น่าสนนะ แต่ว่าต้องไปอยู่ประเทศเค้า ยังไงดี คุยกันไปคุยกันมาพอพูดเรื่องเงินตาโตเลย เอาก็เอาลองดู
............ผมเก็บเรื่องสมัครงานใหม่ไว้ไม่บอกใครแม้แต่มัน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก มันอีกแล้ว แมร่งงงง....
...." ถึงบริษัทยัง รอกรูด้วยนะ"
"ทำไมต้องรอว่ะ กรูไม่เข้าใจ"
"เอาเหอะ เมียรอผัว มันจะอะไรนักหนา"
"เมียกับผีเมิงอะสิ ใครเป็นเมียเมิง"
"แหมไม่ต้องอายหรอก ดูสิหน้าแดงเป็นตูดลิงแสมแล้ว คริๆ" มันรู้ได้ไงว่าผมหน้าแดงว่ะ
"แค่ได้นอนกอดกรู เมิงเรียกกรูเมียเมิงแล้วเหรอ ว้าฮ่าๆๆ ถ้ากรูยอมเป็นเมียเมิงจริงๆ เมิงจะทำเป็นเร้อ" ผมท้าทาย


"เอ้ย ที่กรูไม่ทำเมิงไม่ใช่ทำไม่เป็นหรอก แต่กรูไม่อยากทำเท่านั้น กรูอยากให้เมิงยอมสยบกรูด้วยใจโว้ยยย.....ลองเมิงได้กับกรุนะ ขี้คร้านแมร่งจะสะกิดกรูทั้งคืน ทีนี้แหละถึงตากรูเล่นตัวมั่งเมิงอย่ามาว่ากรูแล้วกาน"
"อุบาทว์โคตรนะเมิง พอเหอะ กรูขีเกียจอ๊วกใส่รถกรู เก็บไว้อ๊วกใส่รถเมิงดีกว่า" ตาผมเหลือบไปเห็นร้านขายน้ำเต้าหู นึกได้ว่า มันคงไม่ได้ซื้อมาหรอกเพราะว่าตื่นเอาเย็นร้านหน้าซอยมันคงวายไปแล้ว
"น้ำเต้าหู ถุงนึงครับ" ในใจคิดจะกินเอง แต่ก็นะ
" เอ่อ ป้า เอาอีกถุงครับไม่หวาน" มันกินไม่หวาน เศษเงิน 5-10บาทซื้อไปให้มันเห้อะ คิดในใจ....
..............................................................
ผมมายืนรอมันหน้าบริษัท ตอนนั้นไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเชื่อมันด้วยก็ไม่รู้ มันบอกให้รอ ก็รอ...เชื่อง!!!!
สักพักรถฮอนด้าร้ายๆ(ผมเรียกว่าอิฮ้อนด้าร้าย) ก็มาเทียบ
"ทำไมไม่เหยียบตีนกรูไปเลยวะ อีกนิดเดียว" ผมพูดประชดเพราะเห็นว่าเกือบชนผม มันเปิดประตูใหม่สตาร์ทรถ ทันที
"เมิงทำอะไร สาดดด"
"อ้าว เอี๊ยก็เมิงให้กรูเหยียบตีนให้อ่ะ อะไรของเมิง เอาแต่ใจจริงๆ" ผมส่ายหน้าทันที ไม่รู้ว่า ซื่อ หรือบื่อกันแน่
" เอากรูซื้อน้ำเต้าหู้มาฝาก"
ผมยื่นน้ำเต้าหู้ให้มัน มันทำท่ายังกะเห็น ซีดานมายืนอยู่ตรงหน้า(มันบ้าซีดาน)
" เมิงซื้อน้ำเต้าหู้ให้กณุเหรอ" มันทำท่าบีบน้ำตาด้วยความตื้นตัน
"เวอร์ๆ ไปแล้วหล่ะ เดี๋ยวกรูก็เทให้หมาแมร่งแ**กเลย มันรีบคว้าไปทันที
"เมิง กรูไม่กินนะ กรูจะเก็บไว้จนมันเป็นเต้าหู้แล้วเอาไปตั้งบนหิงบูชา"
........................ส้นทีน.........................
............................................................

Part6
" วิ๊ดวิ๊วๆ คู่รักยม ขย่มโลก" เสียงพี่เต้ย หัวหน้า แมร่งแซวมาแต่ไกล ผมรีบฉีกรัศมีออกมาจากที่เดินข้างมัน ฉิ่งไปเดินคนละข้างทางด้วยความอาย ในใจก็ก่นด่า ขย่มบ้านเมิงสิ ไอ่พี่เต้ย ()ไม่กล้าด่าออกเสียงกลัวโดนไล่ออก


"อย่ามาแซวเมียผมนะพี่ เดี๋ยวโดน พี่ก็พี่เหอะ ผมไม่ไว้หน้านา" มันรีบเสียบทันทีที่เห็นจังหวะ สมแล้วที่เป็นแฟนบอลฝรั่งเศส เสียงโห่รับจากพวกบ่างทั้งหลาย แฮ้วขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย อีเย็นอย่างผมรึจะทนไหว รีบฉิ่งไปห้องอาหารด้วยความละเหี่ยวใจ............
"แมร่งขึ้นมาแ**กไม่รอกรู ชาติหน้าเกิดเป็นหมูร้อยชาติ"
"ตามกรูมาทำไมอีก กรูอายคน เมิงไปนั่งโต๊ะอื่นไป ชิ่ว" ผมโบกมือไล่หยอย
"ไอ่สาดดด เมิงกล้าไล่ผัวเมิงเหรอ"
"ไอ่เอี๊ย คำก็ผัว 2คำก็ผัว กรูอายคนเค้าเมิงรู้มั๊ย ไอ่ชิบหา...ย"
มันเงียบ.................
..............
...........
...................
.....................
..................
..............
"นี่...(มันเรียกชื่อผมครังแรกในรอบปีมั้ง) เราว่าเรามาพูดกันเพราะดีกว่ามั๊ย ผัวเมียเค้าไม่พูดคำหยาบต่อกัน มันเป็นลางไม่ดี"
ผมไม่พูดอะไร ตักข้าวใส่ปากต่อ เพื่อนที่มาทีหลังเดินถือจานข้าว หัวเราะกระซิกๆไม่มีใครมานั่งร่วใต๊กับเรา 2คนเลย
"ว่าไงครับ ผมว่าเรามาพูดดีๆเพราะๆกันดักว่ามั๊ย"มันว่า
"เรื่องของเมิง"......
"นี่ผมรู้ว่าคุณ..(ชื่อผม)..ชอบกินไข่ อ่ะผมให้"
.................
"ทานน้ำอะไร เดี๋ยวผมไปซื้อน้ำ........อ่ะไม่ตอบงั้นเอาน้ำโอเลี้ยง เดี๋ยวมานะจ๊ะ" มันพูดนะจ๊ะอีกแล้วหลังจากที่หายไปนานเป็นชาติ
ผมนั่งทานอยู่แป๊บนึง โทรศัพท์จากเพื่อนก็โทรมา....ผมลุกเอาจานไปเก็บแล้วก็ออกไปเลย เพื่อนบอกวันที่สายการบินตะวันออกกลางตจะสมัคร ประมาณกลางกรกฏาคคมพอดี ให้ผมเตรียมตัวไว้ ผมก็อืมๆลองดู.........
...........................................................................
".....(มันเรียกชื่อผมทางวิทยุ)" เพราผมออกมาทำไฟล์แล้ว
"ว่า ว่า" ผมตอบวิทยูไป
" ไอ่สาดดด ทำไมไม่รอกรู ไอ่เวร เดี๋ยวเจอกรูเมิงตายแน่สาดดดด" แมร่งผมหน้าชาเลย มันวิทยุมาคนได้ยินกันทั้งบริษัทแน่ๆ ส่วนใหญ่เค้าใช้เรื่องงานเท่านั้น สักเดี๋ยวใจพี่เต้ยวิทยุแซว
"เฮ้ย เรื่องผัวเมียเอาไว้ก่อน เอางานก่อน ไอ่...เมิงอย่าเล่นมันถึงตายนะเว้ย เอาพอหลาบจำ" แล้วก็หัวเราะ.....สักพักเพื่อนร่วมงานคนอื่นเอาอีก กดวิทยุพูดอีก
"ถ้าพรุ่งนี้ไอ่...มันลาให้ไปหาที่ห้องไอ่..ได้เลย ผมว่าตายคาห้อง 555"สนุกกันจัง..........

ผมบึ่งรถจากสนามบินเข้าออฟฟิส เจอมันนั่งสูบบุหรี่อยู่หน้าออฟฟิส
"ไหนเมิงบอกจะพูดกับกรูเพราะๆไง ดีแตกเหรอ" ผมรับใส่กอ่นที่มันเล่นผม
" คนอย่างเมิงพูดดีได้ไม่นาน" แล้วมันก็ลุกขึ้นลากมือผมไป ในรถตู้
"เมิงฟังกรูนะ กรูรู้ว่าเมิงรู้ ว่า กรูคิดยังไงกับเมิง"
"อะไรเมิงเนี๊ยะ ไม่ต้องมานั่งใกล้กรูก็ได้" ยิ่งว่ามันเหมือนยิ่งยุ
"อ่ะ เมิงมานั่งตักกรูดีกว่ามั๊ย" ผมถ้าอีกครั้ง
"ไม่ต้องเฉไฉ กรูถามเมิงคำเดียวว่าเมิงรู้สึกยังไงกับกรู"
สีหน้ามันเอาจริงครับงานนี้ ผมนั่งแคะเล็บก้มหน้า
ในรถตู้เงียบได้ยินแต่เสียงแอร์
"เมิงเป็นเพื่อนกรูคนนึง" ผมว่า
"แค่เพื่อนเหรอ......เท่านั้นเองเหรอ"....
......มาถึงตอนนี้นะครับ ผมยอมรับว่าผมกลัวทำร้ายจิตใจมัน ความรู้สึกผมจริงๆคือมันเป็นเพื่อน เพื่อนที่พิเศษ แต่ไม่ใช่คนพิเศษ มันมีค่ามากกว่าเพื่อนธรรมดา จะให้ผมกอดมันก็ได้ จูบมันก้ได้ แต่ผมไม่รู้สึกอะไรมากกว่าเพื่อนที่พิเศษ แต่ว่า..........ไอ่เพื่อนพิเศษมันพิเศษแค่ไหนนั่นคือสิ่งที่ผมไม่รู้
"ช่ายเมิงคือเพื่อนกรู แค่เพื่อน".....มันนิ่งไปเลยอ่ะ เงียบไปเลย ผมเองก้กระอักกระอ่วนใจเหมือนกัน
"ไม่เป็นไร ตอนนี้เมิงคิดว่ากรูเป็นแค่เพื่อน แต่กรูเชื่อสักวันกรูจะเป็นมากกว่านี้เว้ย เมิงคอยดู" แล้วมันก็กรธโดดผลุงออกจากรถตู้ไป ปล่อยให้ผมนั่งงง อะไรของมันเนี๊ยะ นึกว่าจะสำนึก เวร!!!!
.....................................................................
ช่วงหลังจากนั้น ผมทุ่มเทกับเรื่องสมัครงานใหม่มาก อ่านภาษาอังกฤ และก็ฝึกสัมภาษณ์ทุกคืน แล้วพอดีช่วงนั้นเสก็ตเราไม่ตรงกันมันเข้าดึก ผมขอพี่เต้ยเข้าเช้าเพราะกลางคืนผมจะอ่านหนังสือ
"แมร่ง พี่เต้ย ย้ายเสก็ตผมไปเช้าด้วยเส่ นะพี่" มันตื้อพี่เต้ย
"ไม่ได้ เมิงไปอยู่เช้าหมด ปล่อยเด็กใหม่ให้อยู่บ่ายเละหมด"
"โห่ พี่นะๆๆๆๆ " มันเข้าไปบีบไหล่พี่เต้ย ผมนั่งมอง ส่ายหัวด้วยความระอา
"ไม่ได้เว้ย กรูละเซ็งผัวเมียคู่นี้จริงๆ"
...........................................................................
วันสมัครงานวันแรก ผมลางาน วันโทรมาแต่เช้า
"เมิงลางานไปไหน" ผมบอกว่าพอดีจะไปต่อใบขับขี่ มันก็อือๆๆ เล่าเรื่องที่มันเจอตอนผมไม่อยู่ เจอคนนั้นคนนี้ แอบขโมยกินโน่นกินนี่ผมก็ฟังๆ
วันนั้นผมสมัครงานเสร็จประมาณเกือบ 6 โมงแล้วหล่ะ ขับรถออกจากโรงแรมเห็นร้านขายเต้าหู้ ใจนึกถึงมันพิกล....

ผมไม่เจอหน้ามันเลยเป็นอาทิตย์ เพราะกลางคืนผมอ่านหนังสือ ปิดโทรศัพท์ กลางวันทำงาน ห้ามพกโทรศัพท์ นอกจากวิทยุ....ชีวิตมันหลวมๆยังไงไม่รุ
...........................................................
เพื่อนโทรมาบอกว่าผมผ่าน นัดสัมภาษณ์อีกอาทิตย์นึง อืมมมใกล้เข้ามาแล้ว...ผมคิดในใจ...แต่ตอนนั้นมันก็ว้าวุ่นนะ มันเหมือนมีผีเสื้อมาบินว่อนอยู่ในท้องบอกไม่ถูก แต่ที่รู้คือ ไม่อยากจากไอ่...ไป กลัวไม่มีใครกวนประสาท
.......................................................................
10 โมงเช้าวันเสาร์....
"เป็ดๆ(สมมุติว่าผมชื่อเป็ดไปเลยแล้วกันนะ จริงไม่ใช่นา) ลูก...โทรมา" ผมลุกไปรับโทรศัพท์
"เออ ว่าไง"
"กรูคิดถึงเมิงว่ะ ไม่รู้เป็นบร้าอะไร"
"กรูบอกให้มั๊ย ก็เมิงเป็นบร้าไง ไอ่บร้า มีอะไร"
"วันนี้ไปจตุจักรกันนะ"
"ไม่เอากรูมีธุระ"
"อีกแล้ว ตามใจ กรูก็แค่ลองชวนดู แค่นี้แหละ" จ๋อยไปเลย สมน้ำหน้า
ผมอาบน้ำกะว่าจะอ่านหนังสือต่อที่บ้าน อาบไปอาบมาทำไมมันนึกถึงหน้าไอ้แมงวันก็ไม่รู้(รู้แล้วว่าหน้ามันเหมือน อ๊อฟ ปองศักดิ์) ต่อไปเราก็คงเจอกันน้อยลงหรือไม่ก็...............................จะไม่ได้เจอกันอีกเลย
" เออ เมิงจะไปจตุจักรอีกรึป่าว"
"ไม่แล้วว่ะ กรูไม่มีเพื่อนไป" อืม น่าสงสาร ณ บัดดล
"กรูไป ไปป่าว"
"อะไรเมิงหาไอ่เฮี้ย...กรูเดาใจเมิงไม่ถูกแล้วสาดดด"
"จะไปไม่ไป" ผมยื่นคำขาด
"ไป" มันกระแทกเสียงเหมือนโดนบังคับ
สรุปวันนั้นทั้งวันผมกับมันได้ไปเดินหัวดำอยู เจเจ

วันพุธผมหยุด เลยได้ทีแว๊บไปสัมภาษณ์งานมา ก็เรื่อยๆไม่มีอะไร เพราะไม่คิดว่าจะได้อยู่แล้ว เสร็จจากภารกิจก็เกือบค่ำ แล้วก็ไม่ได้เจอมันอีกเลย จนกระทั่งเมื่ออาทิย์ที่ผ่านมา ผมได้รับโทรศัพท์ว่า
.............ผ่านสัมภาษณ์ครับ นัดตรวจร่างกายรอคอนเฟิร์มอีกที ......ผมดีใจลิงโลด กระโดดโลดเต้น วิ่งไปกอดแม่บอกว่า ได้เป็นสจ๊วต....แล้วหล่ะแม่ แม่ก็ดีใจด้วย เพราะรู้ว่านี่คือความฝันของผม
"แล้วโทรไปบอกลูก.....หรือยัง" ผมสะดุดทันทีเลยอ่ะ เพราะว่าดีใจจนลืมนึกถึงมันไปเลย
"ยังแม่ เดี๋ยวโทรบอกมันทีหลังก็ได้"
ผมเดินขึ้นห้องไปด้วยความหงอยเหงาในใจแปลกๆ เมื่อกี้ยังดีใจอยู่เลย แต่ทำไมตอนนี้มันเคว้งๆยังไงไม่รู้ ผมยอมรับว่าผมนึกถึงมัน เดินวนไปวนมาในห้อง........
อยู่ดีๆ ผมหยิบโทรศัพท์ โทรไปหามันเฉยเลยเหมือนคนโดนยาสั่ง พอได้ยินเพลงเรียกเข้าผมกดวางทันที(อีกแล้ว...เพิ่งรู้ตัวว่าไม่ควรทำ) ไม่นานเกินรอ มันโทรกลับมา แต่ผมดิไม่กล้ารับ รอจนมันต้องโทร 2ครั้งน่ะ
"เออ มีอารายยย"เสียงมันง่วงนอน
"ปล่าว มือกรูไปโดน..โทดที"
"เฮี้ย......" ตู๊ดๆๆๆๆๆ แหะๆมันวางหูใส่ผม
ผมยังคงกระวนกระวายใจไม่หาย เดินไปเดินมา สุดท้ายก็โทรไปหามันอีกที
"อารายเมิงอีก อยากเป็นเมียกรูเหรอ เดี๋ยวแมร่งจัดให้ชุดใหญ่เลย สาดดดด กูจาน้อนนนนนนนน" มันลากเสียงสูง
"เออ เมิง .....เมิงมานอนบ้านกรูมั๊ย....." กรึ๋ยๆๆๆพูดไปแล้วทำไงดีหว่า.....
"จริงเหรอ มันทำเสียงตื่นเต้น เออ กรูไป กรูออกไปตอนนี้เลยนะ"
"เออ ตามใจเมิง แม่กรูให้ชวนนะ อย่าคิดว่ากรูอยากให้เมิงมานอนด้วย" โบ้ยไปให้แม่เลยงานนี้อิๆ.............


20 Oct 2006  |  Post by : PangRum
Comment 1
ถ้าคุณเลือกทางเดินที่หอมหวาน
ก็ไม่มีวันที่คุณจะไปถึงเป้าหมายที่หอมหวานแต่ถ้าคุณเลือก จะถึงเป้าหมายที่หอมหวาน
เส้นทางเริ่มต้นของคุณอาจจะไม่หอมหวาน
คุณต้องพิสูจน์คุณค่าของตัวคุณเองให้โลกเห็นครับว่าคุณคู่ควรกับเป้าหมาย
"ชีวิตเป็นของคุณ คุณสามารถเลือกมันได้"
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน

1.ทำงานอย่างที่ทำทุกวันนี้ ไม่ลำบากเกินกว่าที่จะทน
แต่ก็อยู่ในสภาพแบบนี้ไปตลอดชีวิต หรือ
2.ทำงานอย่างหนัก ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง อดทน เหนื่อยสัก 3 ปี
แล้วผลงานที่ได้สร้างไว้ทำให้คุณสบายไปตลอดชีวิต
ถ้าเลือกอย่างที่ 1
ดีใจด้วยครับเพราะคุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ลบอีเมล์ฉบับนี้ได้เลยครับ
แต่ถ้าเลือกอย่างที่ 2 click เข้ามาเลยครับ แล้วมาคุยกันว่า
คุณจะต้องทำอะไรบ้างในอีก 3 ปี นับต่อจากนี้ http://twyengwe.no tlo ng.com พิมพ์ติดกันนะ

29 Oct 2006  |  Comment by : aa

Comment


>

Content-Seo

Webboard
โพสต์โดย: MuMu 2
โพสต์โดย: Sarita Thareethoy 0
โพสต์โดย: anut 8
โพสต์โดย: PrincessAngel 10
โพสต์โดย: แจ่ม 3
โพสต์โดย: ampare 7
โพสต์โดย: cascharn 1
โพสต์โดย: pattirat 0

Interest Product