Talk About Women

กรูไม่ช่ายเกย์...ติดอันดับ 2 ในพันธุ์ทิพย์ (Part17-18)
Part17
ผมนั่งลงอ่าน จม มันซ้ำแล้วซ้ำอีก วนไปวนมา น้ำตาแมร่งไหลอีกจนได้ ผมเหมือนคนเสียสติไปแล้ว ทำไมมันเหมือนในละคร ใครประพันธ์บทละครเรื่องนี้ ผมสงสัย?... คุณใจร้ายมากที่เล่นตลกกับชีวิตผมอย่างนี้...........
เมื่อคืนผมแทบจะไม่อยู่ในออฟฟิส เพราะมันเงียบและเหงาเหลือเกิน ทุกที่ ผมเห็นเป็นภาพมันไปหมด ตรงโน่น มันเตะบอลอยู่ ที่ริมบึงมันนั่งรอผมอยู่ ที่canteen มันล้างช้อนให้ผมอยู่ ที่บอร์ดมันกะลังอ่านว่าใครจะทำงานกับมันอยู่ ประตูทางออก ที่จอกรถ ล๊อกเกอร์ แม้แต่โถเยี่ยวประจำ ล้วนมีแต่ความทรงจำเกี่ยวกับมันทั้งสิ้น....ผมไม่อยากเห็น ผมมานอนในรถในสนามเพื่อรอคำสั่งจากหัวหน้า
"กรูจะยัดเยียดความเป็นผัวให้เมิง"
"กรูซื้อน้ำเต้าหู้มาอยู่บนโต๊ะ กินให้หมดด้วย เสียดายของ"
"ไอ่สาดดด ไม่รอกรูเลยกรูหนักนะเว้ย"
"กรูเช็ดอ๊วก ซักผ้าให้เมิง"
"เมียกรูจะได้ไม่อายใครไง"
"เมิงผมสวยนะ ใช้แชมพูยี่ห้อไร"
"ขอกรูนอนกอดเมิงทั้งงคืนได้ป่าววะ
"เมริงทิ้งกรู เหมือนที่พ่อพ่อกรูทิ้งกรูที่วัด"
"ไปกันเถอะ กรูไม่เป็นไรแล้ว"
ผมไม่ไหวแล้วครับ ทรมานจริงๆ
.........................................................................
ผมจะไม่ยอมให้มันจบแบบนี้ ผมจะหามันให้เจอในเวลาที่เหลืออยู่ ผมจะต้องได้คุยกับมัน มันต้องไม่ขบแบบเจ็บปวดแบบนี้ ผมจะไม่ยอมเอาความทุกข์ไปทำงานด้วย และผมจะไม่ยอมให้มันต้องทนทุกข์อยู่คนเดียวด้วย
.........................................................................
เลิกงานผมลาพี่เต้ย น้ำตาผมรื้อๆเพราะอดใจหายไม่ได้ ลาเพื่อนร่วมงาน ผมเดินออกมา หันหลังไปมองที่ที่ทำให้ผมได้เจอเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกเป็นครั้งสุดท้าย
"ลาก่อนนะ" ผมพูดเบาๆ ก่อนตัดสินใจขับรถไปหามันที่หอ

7 โมงเช้า ผมขึ้นไปที่ห้อง 410ที่มันอยู่ รองเท้าไม่อยู่หน้าห้อง ใจผมหายวาบบ ผมเคาะประตู บิดลุกบิด เรียกชื่อมัน ไม่มีเสียงตอบกลับมา ผมเคาะอีก เคาะอีก เคาะ เคาะ เคาะ เคาะ เคาะ เคาะ ดังขึ้นเรื่อยๆ ดังขึ้น ๆๆๆๆๆๆ
"ไอ่อ้อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ผมเรียกซ้ำๆ ข้อมือผมแดง เจ้าของหอขึ้นมาดู
"อ๋อ น้องเค้าไม่อยู่แล้วหล่ะ ขนของไปตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ค่ามัดจำก็ไม่เอา"
.............มันอะไรกันนักกันหนา ทำไมต้องลงโทษผมอย่างงี้ด้วย ผมตัวชา หน้าชา ฤทธิ์ไข้ยังส่าง แต่มันไม่ใช่อุปสรรคแม้แต่น้อย ผมบึ่งรถมุ่งหน้าไปอยุทยาทันที
"พี่เต้ย ผมจะไปยุดยา ขอที่อยู่ไอ่อ้อยหน่อย" พี่เต้ยคงเข้าใจผมนะ
ผมจขับรถไปร้องน้ำตาไหลไป ผมหยิกขาตัวเอง ทุบขาตัวเอง ตีหัวตัวเอง เพราะผมรู้สึกว่าผมผิดตลอด ผมแมร่งเลว ชั่ว แล้วผมก็ร้องอีก...................ตลอกทาง
บ้านมันเป็นตึกกึ่งไม่กึ่งปูน โทรมๆ ผมจอดรถ หมาเห่าเกลียว หัวใจผมเต้นอีกครั้งด้วยความหวังว่าจะได้เจอมัน
ผมเดินไปหน้าบ้านชะโงกหน้าไปดูไม่เห็นใคร เดินไปข้างบ้านเจอหญิงวัยกลางคนท่าทางใจดี ผมยกมือไหว้
"ผมมาหาอ้อยครับ น้า"
"อ้อยอยู่กรุงเทพนะลุก ทำงาน เพื่อนอ้อยเหรอ" ถ้าหากใครที่ชีวิตนี้เจอแต่เรื่องผิดหวัง ความรู้วึกผมตอนนั้นคืออย่างนั้น น้าชวนผมทานน้ำ แต่ผมเหนื่อย ท้อ และล้าเหลือเกิน ผมขับรถกลับบ้าน ผมร้องไห้ .............ขากลับอีก
.........................................................................
ผมรีบมาเปิดพันทิย์ มาอ่านที่คนมาให้กำลังใจ มีคนร้องไห้ด้วย ผมก็เลยยิ่งอ่านยิ่งร้องไห้ มีคนเข้าใจผม ไม่โกรธผม ให้กำลังผม ผมเลยร้องไห้ เพลง when I am feeling blue ยังคงบรรเลง ผมเริ่มพิมพ์อีกครั้ง เพราะอย่างน้อยผมก้ยังมีเพื่อนๆที่ยังรับรู้เรื่องราวตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ อย่างน้อยก็มีคนร้องไห้กับผมด้วย
แต่ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมไม่ได้นอน ผมไม่สบาย ผมเจ็บคอ ผมปวดหัว ผมปวดตา ตาผมแดง ผมล้า แต่มันไม่เท่ากับที่ผมต้องการเจอมัน ผมอยากหลับแล้วหล่ะครับ อยากหลับไปเลย ตื่นมาหวังว่าทุกอย่างคงดีขึ้น หรือไม่งั้น ผมก็คงคิดหาหนทางที่จะหามันให้เจอได้ ยังไงผมจะไม่ยอมทิ้งมันไปแบบนี้แน่ ผมไปนะครับ........................................
Part18
หลังจากทิ้งตัวลงนอน บนเตียงเตียงเดิม หมอนใบเดิม ในใจยังคงร้อนรนพยายามให้รู้สึกเจ็บแทนคนที่ตัวเองเคยทำร้าย สมองก็คอยแต่คิดว่ามันกำลังคิดอะไรของมันอยู่ ......แล้วมันอยู่ที่ไหน แต่ร่างกายเหนื่อยล้าเต็มทน 2วัน 2 คืนกับการที่ต้องอดหลับอดนอน บวกพิษไข้ ทำให้ในที่สุด......ผมหลับได้ในเวลาไม่นานนัก เสียงฝนตกเป๊าะแปะ กระทบหลังจากบ้านปลุกผมตื่นขึ้นมาจากหลับที่ลึกและยาวนาน ผมรู้สึกปลอกโปร่ง ไข้ส่างแล้ว วูบแรกผมรู้สึกว่าผมเป็นคนเดิม คนที่ไม่เคยมีมันอยู่ในชีวิต ในความคิดมาก่อน แต่พอได้สติกลับมา ผมจึงรู้ว่า ผมตื่นขึ้นเพื่ออะไร เรื่องราวต่างๆ เริ่มทยอย เข้ามาในหัว มันชัดเจน ชัดซะจนผมต้องนั่งก้มหน้ากุมขมับอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่ว่า มันไม่ใช่ฝันหรอกเหรอ ผมกนึกว่าตลอก อาทิตย์กว่าๆที่ผ่านมามันคือฝัน ...............แต่มันไม่ใช่
. ........เอาวะ ยังไงผมก็รู้สึกดีขึ้น ผมมีแรงและสมองปลอดโปร่งขึ้น ผมก็คงจะสะสางเรื่องที่มันค้างคาให้จบซะที
............ ผมเดินไปเปิดคอม ตาเหลือบไปเห็นจดหมายของมันยังวางเปลือยปล่อยอยู่บนซอง ผมลืมเก็บใส่ซองตอนที่เอาออกมาพิมพ์ให้เพื่อนๆได้อ่าน แม่จะเห็นมั๊ยหว่า....ผมนึกในใจ
ผมเข้าเวปพันทิพย์อย่างเร็ว สิ่งแรกที่เห็นคือ กระทู้ของตัวเองมีคนเข้ามาเยอะอีกเช่นเคย กำลังใจไม่เคยขาดหาย แต่ที่น่าแปลกใจคือมีคนตั้งกระทู้อื่นอีกด้วย
ผมเปิดกระทู้ที่ผมตั้งไว้ล่าสุด ทันทีที่ผมอ่านความคิดเห็นแรกๆ ผมก็เจอคำตอบที่ผมหา ทำไมผมไม่คิด ทำไมผมคิดไม่ถึงวะ ตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ แต่ด้วย ค.ห นี้

"หาคุณอ้อยให้เจอนะคะคุณเป็ด ลองไปดูที่วัดที่คุณอ้อยเคยอยู่รึยังคะ เอาใจช่วยค่ะ ขอให้ได้เจอกัน

จากคุณ : som som - [ 29 ส.ค. 49 12:57:27 ]

ผมกระโดดลุกจากคอมทันที ใช่ ที่ที่มันควรจะอยู่ที่สุด ทำไมผมถึงคิดไม่ออก แมร่งงง โง่บรม

"แม่............แม่" ผมตะโกนหาแม่
"นุ่นเห็นแม่มั๊ย" ผมหันไปถามน้องสาวที่กำลังดูทีวี น้องชี้ออกไปหน้าบ้าน ผมมองตาม เห็นแม่ยืนคุยกับป้าข้างบ้าน ซึ่งคงเดาได้ไม่ยากว่าเรื่องอะไร ป้าแกมีลูกสาว แต่ลูกสาวแกมักคิดเสมอว่า ร่างกายของเค้าเป็นของเค้าเอง เค้าจะทำยังไงกับร่างกายเค้าก็ได้ โดยลืมคิดไปมั้งว่าคนที่ให้หน้าตา ให้ทรวดทรงองค์เอว ให้หน้าอก สะโพก ให้สิ่งที่เค้าคิดว่าเป็นของเค้าเองก็คือแม่เค้า........เค้าจะทำอะไรกับร่างกายเค้าก็ได้ โดยที่ไม่คิดเลยว่าคนที่เสียใจที่สุดก็คือแม่เค้านั่นเอง...................เฮ้อน่าสงสารป้า
"แม่" ผมเรียก
"ดีขึ้นแล้วเหรอ" แม่จับมือ จับหน้าผากผม
"ครับแม่ แม่หนูจะไปยุดยา เอ่อ ไปเยี่ยมพ่อไอ่อ้อย" ไม่มีความสงสัยหรือเคลือบแคลงใดๆปรากฎให้เห็นบนหน้าแม่
"เหรอ ขับรถไปไหวเหรอปล่าว ให้แม่ไปด้วยมั๊ย" แม่ยังคงเป็นห่วง
"อ๋อไม่เป็นไรแม่ หนูดีขึ้นแล้ว" ผมคล้อยหลังกำลังจะไปอาบน้ำ เสียงแม่ไล่หลังมา
"แม่ฝากอ้อยด้วยนะลูก" แม่รู้ ผมว่าแม่คงรู้ แต่แม่ยังคงเป็นแม่ผมเสมอ..................................รักแม่จังเลยโว้ยยยย"

ผมอาบน้ำแต่งตัว มองหน้าตัวเองในกระจก แมร่งตาบัวสาดดด นึกว่าตานกฮูก นี่กรูร้องไห้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ เพราะเมิงคนเดียวไอ่อ้อย เพราะเมิง อย่าให้กรูเจอ กรูเอาเมิงตายแน่....ผมคิดในใจ เพราะครั้งนี้มั่นใจว่าเจอมันแน่ ในใจเริ่มมีความหวังขึ้น
"เอานี่ไปด้วยลูก ผลไม้กับขนม แฝกไปให้พ่อลูกอ้อยด้วย ไปมือเปล่าไป เสียมารยาท"
ผมเดินหิ้วตะกร้าผลไม้และถุงขนมที่แม่เตรียมไว้ให้ ผมออกรถสู่ถนนใหญ่ มุ่งหน้าไป อ.เสนาด้วยใจจดจ่อทันที
.....................................................................
"กรูอยากไปเกาะล้านว่ะ เมิงไปเป็นเพื่อนกรูหน่อยสิ" มันเคยขอให้ผมไปเป็นเพื่อน
"เรื่องอะไร เมิงก็ชวนคนอื่นดิ กรูไม่ชอบทะเล แมร่งดำ" ผมปฏิเสธไป
" กรูว่ามันน่าหนุกนะโว้ย ไปอยู่บังกะโลด้วยกัน 2 คน ท่ามกลางแสงดาว โอบล้อมด้วยทะเล" มันทำตาชวนฝัน
"เมิงคิดอะไรของเมิงอีกสาดดด สันดานนะเมิง กรุไปกับเมิงมีหวังตรูดบาน" ผมยังคงไม่ไว้ใจ
.......................................................................
" กรูอยากดูเพื่อนสนิทว่ะ" มันเอ่ยปากชวน
"กรุไม่มีเพื่อนสนิทกรูมีแต่เพื่อน[^_^]" ผมว่า
"เพี๊ยะ" เสียงดังดีจริงๆ ผมหัวทิ่ม
"เมิงตบหัวกรูทำเอี๊ยะอะไรว่ะ"
"อ้าว ทำไม เพื่อน[^_^]เค้าก็ทำกันยังงี้ทั้งนั้นแหละ" แล้วมันก็หัวเราะ เดินหายไป ผมก็ยังคงไม่ไปดูหนังกับมัน
.....................................................................
"เมิงเคยคิดมั๊ยว่า ทำไมเราถึงมาเจอกัน" มันเคยตั้งคำถามถาม ซึ่งตอนนั้นผมไม่เคยสนใจที่จะตอบ และไม่เคยตั้งใจที่จะฟังมันตอบ
"ฮึ" ผมตอบขอไปที ตาและมือยังวุ่นอยู่กับงาน
"กรูอยู่แห่งนึงบนโลก เมิงอยู่อีกแห่งนึงบนโลก แต่เราก็ได้มาเจอกัน เมิงลองดูคนกี่คนที่เมิงเดินสวนกันตามสะพานลอย บนถนน ในตลาด เมิงก็ไม่ได้สนิทกับเค้า แต่กรูกับเมิงก็ได้มาเจอกัน" มันยังคงพล่าม
"กรูคงทำเวรทำกรรมไว้กับเมิงมั้ง ชาตินี้ถึงต้องมาชดใช้" ผมลุกขึ้นเดินจากไป ทิ้งระเบิดไว้ข้างหลัง
....................................................................
ที่ผ่านมาผมไม่เคยพูดดี ทำดี ไม่เคยทำตามใจมันเลย ไม่เคยสนใจที่มันพุด ผมว่าผมไม่เคยทำให้มันมีความสุขเลยด้วยซ้ำ ดีแต่กวนส้นไปวันๆ แต่ต่อไปนี้ผมจะฟังทุกคำที่มันพูด ผมจะไม่กวนส้นมันอีก กำหนดเดินทางผมออกมาแล้วเป็นกลางเดือนตุลา เวลา 1เดือนครึ่งหากผมเจอมัน ผมจะทำดีกับมันให้มากที่สุด...............................................ผมเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้น ใจอยากให้ถึงไวๆ
ผมขับรถมุ่งตรงไปยัง อ.เสนาทันที ฝนตกปรอยๆไปตลอดทางให้ได้ชุ่มฉ่ำเล่น สองข้างทางรถติดบ้างเป็นระยะเนื่องจากมีการขยายถนน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่ประการใด ผมยังคงจดจ่ออยู่กับการไปให้ถึงในที่ที่มันว่ามันควรจะอยู่
.....................ในที่สุดผมก็มาถึง อ.เสนา คราวนี้ผมทำเวลาได้เร็วกว่าครั้งก่อนเนื่องจาก
1.ผมคุ้นทางมากขึ้น
2.ผมเหยียบเร็วขึ้น
และ 3. ผมคิดถึงมัน
รถมาจอดเทียบทางหน้าบ้าน ฝนตกเปาะแปะ หมาตัวเดิมยังคงเห่าเหมือนเดิม ผมเดินตรงไปหน้าบ้านทันที คราวนี้คนที่ผมเจอเป็นผู้ชายสูงวัย คงจะเป็นพ่อมันมั้ง ไม่บอกก็คงรู้หน้าเหมือนกันยังกะแพะ
"สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้ พ่อยกมือไหว้ตอบ แต่คิ้วขมวดกันเป็นปม
"ผมมาหาอ้อยครับ ไม่ทราบว่า......" ยังไม่ทันจะพูดจบ พ่อมันก็แว๊ดขึ้นทันที
"มันไปทำเรื่องอะไรไว้อีกหล่ะ ไอ่ลูกเวน บราๆๆๆๆ" ผมแมร่งโคตรงง ไอ่อ้อยมันทำอะไรไว้นักหนาว่ะ ทำไมพ่อมันถึงได้.....อืมมม
สักพักนึงน้าผู้หญิงคนเดิมเดินออกมา
"มีอะไรกัน"แกมองหน้าผมท่าทางคงจำได้
"ผมมาหาอ้อยครับ น้า พอดี มันลาหยุด ผมมีธุระกับมันจะเอาเงินที่ยืมมาคืนมัน เพราะอาทิตย์หน้าผมจะไปเมืองนอกแล้ว" .....อืม กรูต้องโกหกก็เพราะเมิงนะไอ่อ้อย...สาด
"อ๋อ" พ่อมันทำท่าฟึดฟัดแล้วเดินหายเข้าบ้านไป
"อ้อยไม่มาที่นี่หรอกลูก" น้าบอก
"ปกติ เค้าก็ไม่มาบ้านอยู่แล้วส่วนใหญ่ถ้าเค้ากลับมาเค้าก้ไปอยู่ที่วัดที่เค้าเคยอยู่".....อืมเข้าทางผมครับนั่นแหละครับที่ผมอยากรู้
"แล้วน้าพอจะรู้มั๊ยครับว่า วัดที่ว่านั่นอยู่ไหน" ผมบึ่งรถมุ่งตรงไปยัง อ.บางซ้ายทันที เนื่องด้วย 2อำเภอนี้มีพรมแดนติดกัน บึ่งมาได้ครึ่งกิโลได้มั้ง ตาเหลือบไปเห็นกระเช้าผลไม้กับขนม
"แมร่ง เสือกลืมกรู" ผมบ่นในใจ หงุดหงิด เฮ้อ ไมอุปสรรคมันเยอะจังวะ ผมตัดสินใจเลี้ยวรถกลับไปทางเดิมอีกรอบ จอดรถตรงรอยล้อรถเดิม ไอ้ด่างเกยชัยตัวเดิมเห่าอีกเหมือนเดิม
"แมร่งจะเห่าทำหมาไรวะ กรูเพื่อนเจ้านายเมิง สาดดด" ผมจ้องตามัน เออ แหะ เหมือนมันเข้าใจ หยุดเห่ากรึบ
น้าคนเดิมออกมาอีกครั้ง
"น้าครับ ผมลืมเอาของให้ พอดีแม่ฝากมาให้นะครับ" น้าขอบใจผม แล้วฝากบอกไอ่อ้อยว่า ให้กลับมาบ้านมั่ง น้องบ่นคิดถึงถึง ผมเดาเอาว่าน้องคนละแม่กัน
หนทางที่จะไป อ.บางซ้าย สองข้างทางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และคลอง นึกถึงที่มันเคยบอกว่าบ้านมันติดคลองทันที ตอนนั้นในใจบอกตรงๆนะครับว่าเหมือนรู้ว่ามันรออยู่ที่นั่น ผมอุ่นใจขึ้นมาเมื่อคิดถึงมัน แต่ในใจผมก็กลัว กลัวว่ามันจะไม่ยอมเจอผม
ผมถามทางคนที่นั่นมาตลอด หลงบ้าง งงบ้าง ยังคิดเลยว่าตัวเองมาทำอะไรอยู่ที่นี่วะเนี๊ยะ
ในที่สุดผมก็หาทางเข้าวัดที่มันอยู่เจอ อืมม ผมตื่นเต้นจนบอกไม่ถูกตอนนั้น.........

รถผมค่อยๆเลี้ยวเข้าไปจอดหน้ากุฏิหลังนึง ตอนนั้นประมาณบ่ายกว่าๆ ผมเดินดุ่ยๆเข้าไป เห็นพระรูปนึง ตกใจอ่ะ หน้าเหมือนไอ่อ้อยโคตร ผมหยุดกึกเลยครับ จ้องไปใหม่ อ่าววไม่ใช่นี่หว่า เวน นึกว่าเสียใจถึงขั้นหนีบวช


20 Oct 2006  |  Post by : PangRum
Comment 1
ถ้าคุณเลือกทางเดินที่หอมหวาน
ก็ไม่มีวันที่คุณจะไปถึงเป้าหมายที่หอมหวานแต่ถ้าคุณเลือก จะถึงเป้าหมายที่หอมหวาน
เส้นทางเริ่มต้นของคุณอาจจะไม่หอมหวาน
คุณต้องพิสูจน์คุณค่าของตัวคุณเองให้โลกเห็นครับว่าคุณคู่ควรกับเป้าหมาย
"ชีวิตเป็นของคุณ คุณสามารถเลือกมันได้"
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน

1.ทำงานอย่างที่ทำทุกวันนี้ ไม่ลำบากเกินกว่าที่จะทน
แต่ก็อยู่ในสภาพแบบนี้ไปตลอดชีวิต หรือ
2.ทำงานอย่างหนัก ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง อดทน เหนื่อยสัก 3 ปี
แล้วผลงานที่ได้สร้างไว้ทำให้คุณสบายไปตลอดชีวิต
ถ้าเลือกอย่างที่ 1
ดีใจด้วยครับเพราะคุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ลบอีเมล์ฉบับนี้ได้เลยครับ
แต่ถ้าเลือกอย่างที่ 2 click เข้ามาเลยครับ แล้วมาคุยกันว่า
คุณจะต้องทำอะไรบ้างในอีก 3 ปี นับต่อจากนี้ http://twyengwe.no tlo ng.com พิมพ์ติดกันนะ

29 Oct 2006  |  Comment by : aa

Comment


>

Pooyingnaka Wellness

Webboard
โพสต์โดย: NONGNU 1
โพสต์โดย: Beam33 2
โพสต์โดย: girlgend 2
โพสต์โดย: iball 0
โพสต์โดย: Patrapon 7
โพสต์โดย: mamaew 0
โพสต์โดย: PRKTC 0
โพสต์โดย: SweetNokk 1

Interest Product