Talk About Women

กรูไม่ช่ายเกย์...ติดอันดับ 2 ในพันธุ์ทิพย์ (Part21-22)
Part21
เรื่องราวข่างล่างนี้ เป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงร้องไห้ และพูดว่า "เมิงทิ้งกรูเหมือนที่พ่อกรูทิ้งกรูที่วัด"
..........................................................................
"ตอนนั้นกรูยังเด็ก ป.3ได้มั้ง แม่กรูเป็นโรคอะไรสักอย่าง คือขาข้างขวาแกจะขยับไม่ได้ เวลาแกจะเดิน ถ้าไม่มีใครยกขาขวาแก แกจะเดินไม่ได้ ขาแกก็จะกระตุกพยายามยกอยู่อย่างนั้น กรูต้องคอยวิ่งมายกขาแม่เวลาแม่เรียก แม่ถึงจะเดินได้ มีวันนึงเว้ย แม่กรูเอากล้วยไปขายที่ตลาดตอนกรูไปโรงเรียน ให้ใครยกขาให้ก็ไม่รู้ พอขากลับมา ไม่มีใครยกขาแก แกก็กระตุกขา จนในที่สุดล้มหน้าขะมำ ของในหาบหล่นกระจัดกระจาย ดีที่มีคนเห็นไม่งั้นแม่กรูก็คงนอนอยู่อย่างนั้น
มีอยู่วันนึงกรูกลับมาจากโรงเรียน แม่ขอให้กรูถูหลังให้ เพราะแกถูไม่ถึง กรูก็ถูหลังให้แก กรูจำได้แกถามกรูว่า
" จบโรงเรียนที่นี่แล้ว เอ็งจะไปเรียนที่ไหน" แม่กรูถาม
กรูบอกว่าไม่เรียนแล้ว เพราะไม่มีใครอยู่ดูแถ้ไปเรียนที่ ต่างอำเภอ
แม่กรูบอกว่า " ไม่ได้ต้องเรียนนะ เรียนให้เก่งๆ สูงๆ จะได้ทำงานดีๆ"
กรูก็เลยบอกแม่ว่าถ้ากรูได้งานดีๆกรูจะพาแม่ไปกรุงเทพ ไปรักษา เพราะตอนนั้นกรูไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไร ต้องคอยนวดให้ทุกคืน
...........................................................................
"แล้วพ่อเมิงหล่ะ" ผมแทรกถามด้วยความอยากดรู้
"พ่อกรูทำงานอยู่ อ.เสนา นานๆจะกลับมาที่บ้านสักที" อืมวันลีตั้งแต่เด็ก ผมคิดในใจ
"พอถูหลังเสร็จแกก็ ลุกขึ้นยืนบอกจะไปอาบน้ำ ให้ยกขาให้หน่อย กรูก็ยกให้ แล้วกรูก็นั่งล่นอยู่สักพักจนได้ยินเสียง
"โครม เพล้ง อ้อย.............ช่วยแม่ทีลูก".....T-T

"กรูวิ่งตาลีตาเหลือกเข้าไปในครัว มองหาแม่ กรูเห็นแม่นอนก้มหน้าอยู่ข้างม้าหินอ่อนที่เอาไว้กินข้าวสองคน กรูวิ่งไปพริกตัวแม่
"แม่เป็นอะไรๆ" กรูเขย่าตัวแม่อ่ะ แม่กรูนอนอ้าปากค้าง พูดไม่ได้ด้วย แต่มือแกปัดป่ายสะเปะสะปะ กรูลากแม่มาข้างนอก แต่ลากไม่ไหว ตอนนั้นกรูวิ่งเข้าวิ่งออกหน้าบ้านกับในครัว ร้องให้คนช่วย "ช่วยด้วยๆ" เพราะกรูทำอะไรแมร่งไม่ถูก ตอนนั้นร้องไห้เหมือนคนเป็นบ้า กรูกลัวแม่ตาย ตอนเด็กๆก่อนนอนกรูร้องให้ทั้งคืน แม่ถามกรูว่าเป็นอะไรกรูบอกกลัวแม่ตาย เพราะดูในละครเห็นคนตายเลยไม่อยากให้แม่ตาย แม่ก็ก็ปลอบใหญ่ สุดท้ายกรูปลอบตัวเองว่าไงรู้ป่าว กรูบอกว่า
"กินข้าว กินยา ดูการ์ตูนแม่ก็หายแล้วใช่มั๊ย" เฮ้อออ เด็กๆไง
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ว่ะ กรูตัดสินใจวิ่งไปบ้านลุงข้างๆเกือบ 500 เมตร ตอนนั้นกรูไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไร กรูบอกเค้าว่าแม่เป็นลม ลุงเค้าก็เลยไม่รีบมา กรูต้องคอยลาก มาถึงบ้านลุงก็เดินไปหาแม่ แล้วลุงก็ตกใจ
"แม่เมิงตายแล้วไอ่อ้อยเอ้ย" กรูดิ้นพราดเลยเมิง เหมือนโดนน้ำร้อนลวก กรูบอกกรูจะเอาแม่ กรูจะเอาแม่...
เฮ้ออ ผมพิมพ์ไปก็นะ น้ำตาคลอ สงสารมัน ตอนพ่อผมเสียผมยังเด็กเลยไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มัน มันคงเจ็บปวดน่าดู
"ศพแม่กรูตั้งอยู่ในบ้าน กรูก็นั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น แม่กรูจากกรูไปไม่ลาสักคำ(เข้าใจที่มันบอกว่า มันไม่รู้ว่าถ้าผมไปมันจะเป็นยังไง เพราะตอนแม่มันไปแม่มันก็ไม่ลามันเหมือนกันทันที) พ่อกรูมาถึงก็เตะกรูกลิ้งไปติดผนังเลย เมิงเอ้ยจุกโคตร แต่กรูชาว่ะ กรูไม่รู้สึกนะตอนนั้น วิ่งไปกอดพ่อ แต่พ่อไม่ให้กอด กรูนึกแล้วแมร่งสมเพชตัวเอง" ผมนั่งฟังด้วยความตั้งใจ พยายามจดจำทุกรายละเอียดที่มันพูด
"เมิงร้องไห้ทำไม" มันเอามือมาปัดที่บ่าผม
"ถ้าเมิงร้อง กรูไม่เล่าแล้วนะ เมิงร้องเดี๋ยวแมร่งกรูก็ร้องอีก เมิงต้องเข้มแข็งสิ ลูกผู้ชาย เมิงดูกรูนี่" มันยืดอกแห้งๆท่าทางภูมิใจ
"กรูยังรอดมาเลย" เออ เมิงเก่ง นับถือ ถ้ากรูเจอแบบเมิงบ้างกรูจะยังคงมีชีวิตมายืนต่อล้อต่อเถียงกับเมิงได้เหมือนที่เมิงเป็นอยู่มั๊ยก็ไม่รุ
"หนาย กรูร้องที่ไหน บร้า" ผมทำเอามือขยี้ตา
"กรุแสบตาเว้ย จ้องเมิงตาเขม็งเลยปวดลูกตา" ข้อแก้ตัวพอกล้อมแกล้ม ตอนแรกจะบอกผงเข้าตา ก็คิดว่ามันคงไม่เชื่อ เพราะว่าไอ่นี่มันดูละครน้ำเน่าบ่อย "เอ้ยเมื่อคืนเมิงดู.......(จำชื่อเรื่องไม่ได้ที่ กบเล่นกับพระเอกใหม่ฝรั่งๆ พระจันทร์อะไรสักอย่าง) รึปล่าวว่ะ" มันจะชอบมาถามบ่อย อ่ะเข้าเรื่อง
"แล้วไงต่ออ่ะ" ผมยังคงสงสัยต่อไป
"แล้วไง กรูก็ไม่มีแม่อะดิถามได้ กำพร้าน่ะ เมิงรู้จักมั๊ยกำพร้า"มันย้ำ
"กรูรู้ดิสาด ก็ที่กรูเป็นอยู่นี่เมิงเรียกว่าอะไร" ผมสวน
"เอ่อ กรูขอโทษ....................................
พ่อกรูหาว่ากรูน่ะ ทำให้แม่ตาย ไม่ดูแม่ดีๆ กรูก็ว่าอย่างนั้นแหละว่ะ ถ้าวันนั้นกรูไม่ถูหลังให้แม่ ไม่ยกขาให้แม่ไปอาบน้ำ ไม่รอให้คนมาช่วย มีสติมากกว่านี้ แม่กรูคงไม่ตาย กรูร้องไห้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันเผา ยิ่งวันเผานะ(เรื่องที่จะได้ฟังต่อไปนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เด็กและสตรมีครรภ์ไม่ควรอ่าน และสุดท้าย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)
มีป้าแถวบ้านเป็นลมตอนเค้ายิงปืนขึ้นฟ้า แกคงตกใจ แกหมดสติไปเลย คนก้เลยไปหามแก 2คนหามไม่ไหวอ่ะเมิง ต้อง 4คน หนักมากทั้งที่แกตัวเล็กนิดเดียว มีคนบอกว่าเหมือนหามคนมา 2 คน ป้าแกถูกหามมาไว้ที่ศาลาที่วัด แต่ก่อนจะเข้าวัดแกก็ฟื้น คนจะเอาแกเข้าวัดแกบอก แกไม่เข้า แกเข้าไม่ได้ แกจะกลับบ้าน แกจะไปหาลูก" ขนลุกเลยกรู เศร้าอยู่ดีๆไงมาออกเรื่องนี้ซะงั้น

"สรุปว่าแกโดนแม่กรูเข้า ตอนที่เค้าเผา เค้าไม่ให้เด็กไปเผา กรูเลยต้องนอนร้องอยู่บ้าน คนก็หามป้ากลับบ้านแก แกบอกไม่ใช่ นี่ไม่ใช่บ้านแก แล้วแกก็วิ่งมาที่บ้านกรู มานอนที่แคร่หน้าบ้าน คนก็มามุงกันเต็ม พ่อกรูมาทีหลัง เออมีคนลองดีด้วย เป็นน้องชายพ่อ แกไม่ค่อยถูกกับแม่กรู แกขอหวย แกบอกว่า ถ้าผีเข้าจริงๆขอเลขเด็ดๆสัก 3ตัว แม่กรูเลยด่าให้ หงอยไปเลย
พ่อกรูแกแวะไปหาหมอผีมาด้วย
"เมิงไม่ต้องเอาหมอมาไล่กรูหรอก ไอ่...(ชื่อพ่อมัน) กรุไม่ไปไหน กรุจะอยู่กับลูกกรู" แม่กรูว่า ตอนนั้นกรูร้องไห้หนักกว่าเก่าอีก แล้วแกก็เรียกหากรู ตอนนั้นกรูก็กล้าๆกลัวๆ แต่ก็เข้าไป
"อ้อยย แม่หิวข้าวลูก หิวน้ำด้วย ไม่มีใครเอาข้าวเอาน้ำให้แม่เลย" แม่ขอกรู มารู้ตอนหลังตอนที่ป้าฟื้น ป้าบอกว่าป้าลืม ตอนแรกๆก็เอาข้าวเอาน้ำไปให้ แลเวก็เคาะที่โลงบอกให้แม่กินข้าว แต่2-3หลังยุ่งเลยไม่ได้เชิญ"
"โอยยยยยยยย ไอ่อ้อย กรูกลัว นี่มันก็ในวัดนะเว้ย"
"กลัวงั้นกรุไม่เล่าแล้ว สาด อยู่กับกรูกลัวอะไร" โห แมนมั๊กๆ รักมึกก็ตอนนี้แหละ ผมขยับเก้าอี้ไปติดมัน เรียกได้ว่าแทบจะขี่คอมันทีเดียว เพราะตอนนั้นก็ 5โมงกว่าๆแล้วมั้ง บรรยากาศวังเวง

"แม่กรูยังคงไม่ยอมไปสุคติ ทุกคนต่างอ้อนวอนให้แม่ไป แม่ร้องไห้ กรูร้องไห้ คนที่มาล้อมวงก็ร้องให้ คงสงสารกรูมั้ง ไม่ก็กลัวกัน กรูวิ่งไปเอาน้ำ ตักข้าวและกับข้าวใส่จาน น้ำตาหยดติ๋งๆลงในจานข้าวแม่ สะอื้นแล้วสะอื้นอีก กรูยกมาให้แม่ แต่แม่คุยกับพ่อตอนนั้น จานข้าวกับน้ำเลยวางอยู่ข้างๆ
พ่อกรูบอกว่า ให้ไปที่ชอบๆเถอะ แกจะดูแลกรูเอง ไม่ต้องห่วง ตอนแรกแกไม่ยอม แกไม่เชื่อว่าพ่อกรูจะทำได้ แต่พอพ่อพูดหนักเข้าพร้อมสาบาน แกเลยยอม
"เมิงต้องให้มันเรียนหนังสือ กรูห่วงถ้ามันไม่ได้เรียน เอามันไปอยู่กับเมิงด้วย อย่าตีมัน อย่าเตะมัน พอมันครบบวช บวชให้กรูด้วย" พูดเสร็จแม่ก็สะอื้นร้องไห้โฮ ออกมา เหมือนแกได้สั่งเสีย กรูคลานไปจับเท้าป้าซึ่งก็คือแม่ เท้าแกเย็นเฉียบ แม่ลูบหัวกรู แล้วแกก็นอนหันหลังเข้าฝา สะอื้น 2-3 ทีแล้วก็หลับไป
" อ้อย" ผมเรียกมีนเบาๆ หันซ้ายหันขวา เหมือนคนระแวงตลอดเวลา
"อะไร" มันตอบ
"อ้อย.....กรูกลัว กรูว่าไปนั่งที่กุฎิดีกว่าว่ะนะ" ผมกระแซะไปติดมัน
"เมิงกลัวผีอะไรของเมิง นี่มันเพิ่ง 5โมงเย็น"
"ก็กลัวผีอ่ะเ นะนะ" มันหัวเราะ
"เมิงรู้ป่าวที่เมิงนั่งอยู่ตรงเนี๊ยะ เคยเป็นป่าช้าฝังผีเก่า เฮี้ยนมาก จนต้องขนเอากระดูกไปทำพิธี ตอนนี้เลยเป็นบ่อ"
ผมยกขาสองข้างขึ้น ยกมือไหว้ประหลกๆ
"แล้วนี่นะ วันนั้นกรูเคยเจอตรงนี้แหละ กรูเห็นคนนะ หัวค่อยโผล่ขึ้นมา โผล่ขึ้นมาช้าๆ จากบ่อตรงนั้น" มันชี้ ผมหันหน้าไปมองตามมือที่มันชี้ อีกมือนึง จินตนาการบรรเจิดครับตอนนั้น อีกมือกุมขามันแน่น
"พรวดดด ผีหลอก กรุไปแล้วววววววววววว" แผ่ลว มันกระโดดวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็วจนหมา 2ตัวตกใจอ่ะ ผมงี้แมร่งตกใจหน้าซีด กระโดด ข้ามสะพานตามมันออกมาไม่คิดชีวิต ไอ่อ้อยวิ่งหัวเราะก๊ากๆอยู่ข้างหน้า ทิ้งผมให้วิ่งหน้าซีดอยู่ข้างหลัง
"ไอ่อ้อย ไอ้เวน รอกรูด้วย สาด".............

"ไอ่อ้อย รองเท้ากรูหลุดอยู่ที่ศาลาข้างนึง" ผมบอกยกทีนให้มันดูวิ่งโกยเถอะโยมจนรองเท้าหลุด
"เมิงก็ไปเอาดิ"
"เมิงไปเอาให้กรูสาดดดด"ผมว่า
"เมิงนั่นแหละแมร่งเล่นยังกับเด็ก ไม่อายไอ่กล้วยมันเหรอ" ไอ่กล้วยยืนดูดไอติม สำราญนะเมิง
"ไปก็ได้ แต่ว่า...........เมิงต้องมากับกรูด้วย"....สาดดด หลอกผีคนอื่นแมร่ง ดันกลัวเอง สุดท้ายเลยต้องเอาเชื่อกผูกมือมันไว้กันมันวิ่งหนีไปก่อนอีก
Part22
"อ้อยกรูหิวว่ะ"
ผมเลยขับรถพามันออกจากวัดไปนั่งกินร้านริมคลอง บรรยากาศดีแต้ๆ
"แล้วตกลงแม่เมิงเป็นอะไร" ผมสงสัยไม่หาย
"เส้นเลือดในสมองแตก" อืมมมม
"แล้วพ่อเมิงทิ้งเมิงไว้ที่วัดทำไม" ผมถามเพราะยังคงไม่รู้เรื่องอยู่ดี มัวแต่กลัวผี
"ตอนเด็กกรูเป็นเด็กเหลือขอมั้ง พ่อกรูเคยเอาไปปล่อยที่วัดใกล้ๆบ้าน แต่ตกดึกกรูหนีกลับมานอนกับหมาหน้าบ้าน ตื่นเช้าพ่อกรูกระทืบกรุแทบตาย"
"พ่อเมิงนี่เป็นนักมวยเก่าป่าววะเนี๊ยะ แมร่งโหดกำลัง 3จริงๆ"
"ผั๊วะ" มันตบหัวผม "พ่อกรู ลามนะเมิง" แหะๆ
"พ่อกรูเอากรูไปปล่อยวัด2-3 ครั้งน่ะ ครั้งสุดท้ายเหลืออดมั้ง เพราะกรู ต่อยกับเด็กข้างบ้านลูกเค้าเข้าโรงบาล (กรูรู้แล้วเมิงติดซาดิส์มาจากใคร.....เป็นโรคเรียกร้องความสนใจแหง๋ม) เลยหลอกกรูว่าจะพาไปเอาลูกหมาที่วัด เอาน้องกรูไปด้วย ไปถึงเค้าก็ให้กรูไปเลือกหมานะ น้องกรูจะตามไปพ่อไม่ให้ไป กรูก็นะ พาซื่อเดินไปเฉย สักพักได้ยินเสียงสตาร์ทมอไซค์ สันชาติญาณรู้เลย โดนทิ้งอีกแล้ว โกยวิ่งตามรถเลยกรู ร้องอีกแล้ว
"เอาผมไปด้วย เอาผมไปด้วย" กรูเรียกพ่อกรู กรูวิ่งตามล้มลุกคลุกคลาน หัวเข่าถลอดปอดเปิกหมด สุดท้ายเหนื่อยเว้ย แค้นด้วย แค้นตัวเองที่โดนหลอก นั่งทรุดลงร้องไห้ใต้โคนต้นข่อย จะเดินกลับบ้านเหมือนครั้งก่อนก็ไม่ได้ ไม่รู้จักทาง มันไกล คนละอำเภอ...............ก็เลยเดินหมดอาลัยตายอยากกลับวัด"
ผมดูดน้ำเฮือก ฝืดๆคอ กลืนไม่ลง

"กรูกลับวัด สภาพสะบักสะบอม ไม่มีใครสนใจกรูเลย กรูก็ไม่รู้จะไปทางไหน เคว้งสุดๆแล้วช่วงนั้น คิดถึงแม่จับใจเลยกรู สรุปกรูไปนั่งกอดบันไดโบสถุ์นั่งร้องไห้" ฮือออ ดีนะที่วันนั้นมันอารมณ์ดี ถ้ามันเศร้าๆเล่าแบบนี้มีหวังน้ำตาแตกอีกแน่กรู
"จนเจ้าอาวาสมาตามนั่นอหละ แกบอกว่าพ่อเอามาฝากไว้ให้เรียนที่โรงเรียนวัดข้างๆ นี่แหละ ตอนนั้นกรูไม่ฟังอะไรแล้ว โกรธพ่อ คิดไว้เลยว่าจะไม่กลับบ้านอีกเลย ก็จนิงอ่ะ หลังจากนั้นกรุก็ไม่กลับ เพราะกลับไม่ถูก พ่อก็ไม่เคยมาหาเลย กรูจะมีเพื่อนเป็นเด็กวัดเป็นรุ่นๆ คือเวียนกันทุกพรรษา พอออกพรรษามันก็กลับไปอยู่บ้าน แต่กรูต้องอยู่ตลอด คืนไหน เพื่อนกลับบ้านหมด กรูไม่รู้จะไปไหนก็ ต้องนอนเฝ้ากุฎิคนเดียว เพราะหลวงพี่เค้าเข้าโบสถ์กัน.........................
"พอเหอะอ้อย กรูว่ากรูรู้แล้วหล่ะ" ผมบอกให้มันหยุดเพราะสงสารมัน
"ทำไม"
"กรูว่าพอแล้วหล่ะ กรุทนฟังไม่ไหวแล้วว่ะเมิง" ผมพูดไปตรงๆ เพราะผมคิดว่ามันหนักไปสำหรับผม
"โอเคก็ได้ กรูก็ไม่อยากเล่าแล้วเหมือนกัน แต่กรูบอกเมิงไว้นะ ว่ากรูไม่เคยเสียใจที่เป็นแบบนี้ กรูดีใจด้วยซ้ำที่ได้มาอยู่วัด เพราะถ้ากรูอยู่กับพ่อ กรูยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้กรูจะเป็นยังไง"
"สรุปพ่อเมิงก็ไม่รักษาสัญญาที่ให้กับแม่เมิงอ่ะดิ" ผมว่า
"ไม่ว่ะ พ่อกรูทำทุกอย่างที่สัญญา พ่อกรูรับกรูไปอยู่ด้วยถึงจะเป็นช่วงสั้นๆ พ่อกรูให้กรุได้เรียนจนจบ ป.ตรี ถึงแม้จะยังเตะกรูอยู่ แต่ก็ครั้งนั้นครั้งเดียว(ครั้งที่มันไปขอเงินให้ผม) เหลืออยู่อย่างเดียวคือ บวชให้แม่"

"เมิงรู้แล้วใช่ป่าวว่ากรูต้องไป" ผมถาม
" อืม " มันพยักหน้ารับฟังคำตัดสิน
"แล้ววว................เอ่อ เมิงว่ายังไง" ผมอยากฟังคำตอบของมันจากคำถามนี้มากที่สุด
"กรูจะว่ายังไงได้ ชีวิตก็ชีวิตเมิง" มันประชด
"นี่สาดด เลิกประชดกรูซะทีเหอะนะ กรูขอร้อง"
มันนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา
"แล้วเมิงจะให้กรูรู้สึกยังไงหา สาดดด เมิงหล่ะ รู้สึกยังไงตอนที่จะทิ้งกรูไป" มันพูดเสียงดัง เจ้าของร้านมอง
"ไอ่บร้า เมิงพูดเบาๆสิสาดดด"
มันเดินงุดๆออกมานอกร้าน ผมรีบเอาเงินไปให้แม่ค้า วิ่งตามมันไป
"เมิงเป็นเมนส์เหรอ อารมณ์แมร่งขึ้นลง กรูตามไม่ทัน" มันก็ยังเงียบ
"ตอนแฟนกรูทิ้งกรู (ผมเฉลยตอนจบ กรูไม่ได้ทิ้งเค้าหรอก เค้าอ่ะทิ้งกรู) กรูเสียใจสิ กรูไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงทิ้งกรู" ผมสาธยายให้มันฟัง "กรูรู้แต่ว่าเค้าหมดรักกรูแล้ว ต่อให้กรูทำดีแค่ไหนมันก็เท่านั้น แต่กับเมิงกรูรู้สึกยังไงเหรอที่ทิ้งเมิง เสียใจ ห่วง และที่สำคัญกรูเสียดายมิตรภาพที่เมิงให้กรู มันเหมือนบ่วงที่ผูกคอกรูไว้ เมิงเข้าใจมั๊ยสาดดด" มันนิ่งฟังอย่างสงบ
......................................................................

" กรูถึงไม่อยากเป็นบ่วงรัดคอเมิงไง กรูยังยืนยันคำเดิมนะ ว่า กรูเป็นเอี๊ยอะไรไม่รู้ รักเมิงอ่ะ แล้วกรูก็ไม่คิดว่าจะรักใครได้ขนาดนี้ กรูทำใจไม่ได้หรอกที่เมิงต้องไป เมิงรู้ป่าว วันไหนที่กรูมาทำงานแล้วรู้ว่าเมิงลาป่วย กรูแทบไม่อยากทำงาน กรูอยากไปหาเมิง นี่แค่วันเดียว แล้วเมิงคิดว่าเป็นเดือนเป็นปี กรูจะรับไหวได้ยังไง" มันยืนพิงรถ ก้มหน้าก้มตาพูด ผมขยับไปยืนพิงรถใกล้ๆกับมัน
"แต่ยังไงกรูก็กลับมา เป็นเดือนเป็นปี กรูก็ต้องกลับ กรูไม่ได้ไปตายซะหน่อย" ผมยังคงอยากให้มันคิดในแง่ดีเข้าไว้
"เมิงคิดเหรอว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม" ผมอึ้ง
"เมิงจำวันแรกที่กรูคุยกับเมิงได้มั๊ย เมิงเห็นกรูแล้วทำหน้ายังกับเห็นไส้เดือนกิ้งกือ เมิงด่ากรูสารพัด จนมาวันนี้ เรามาไกลถึงจุดนี้ เมิงพูดดีกับกรู ยิ้มกับกรู บอกว่าห่วงกรู แล้วถ้าต้องห่างกัน กรูไม่กล้าคิดหรอกว่ามันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกรึป่าว ใจคนน่ะเมิงกรูเจอมาเยอะ เมิงตอบตัวเองให้ได้ก่อนเหอะว่าถ้าห่างกรูไปแล้ว เมิงยังจะรู้สึกแบบนี้กับกรูอีกมั๊ย สำหรับกรูนะ กรูไม่ไว้ใจเมิง กรูถึงอยากจะอยู่ใกล้เมิง อยากจะเอาชนะใจเมิงให้ได้ไง"
......โอ้ยยย ไอ่อ้อยยยย เมิงคิดอะไรของเมิง อนาคตใครจะไปรู้ว่ะ ผมนึกในใจ
"เมิงรู้ป่าวว่ามันยากแค่ไหนกว่าที่กรูจะมาไกลถึงขนาดนี้ กว่าที่กรูจะทำให้เมิงยอมพูดกับกรู ยิ้มกับกรู หัวเราะกับกรู ยอมให้กรูกอด ให้กรูสระผม ยอมนั่งร้องไห้เป็นเพื่อนกรู แล้วอยู่ดีๆทุกสิ่งอย่างที่กรูทำมันจะหายไป กรูเหนื่อยว่ะ เมิงเอี๊ย" มันเอาทีนเตะก้อนกรวด
"สาดดดนี่เมิงคิดอะไรของเมิงมากมาย กรูก็ลำบากใจนะเมิง เมิงเป็นผู้ชาย กรูเป็นผู้ชาย เราทั้งคู่ไม่ได้ถูกธรรมชาติสร้างมาให้คู่กัน แต่กรูกำลังฝืน ถึงแม้บางทีกรูก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าที่กรูฝืนนี่ มันเรียกว่า....เอ่อ อืม รักรึปล่าว กรูรู้แต่ว่าเมิงคือเพื่อนที่ดีที่สุด และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง กรูมาหาเมิงงก็เพราะกรูไม่อยากจากเมิงไปโดยที่ไม่รู้ว่าเมิงเป็นยังไง " มันเอื้อมมือมาจับมือผม เหงื่อซึมในมือ
"แค่นี้กรูก็ดีใจแล้วหล่ะ " มันยิ้ม ผมกุมมือมันไว้แน่น
เราเงียบกันอยู่ครู่นึง ฟ้าเริ่มแดงๆ แต่ก็ยังหม่นๆอยู่ ฝนหยุดตกได้สัหพัก อากาศหนาวดีจัง
"เข้าไปนั่งในรถเหอะ ยุงกัดกรูลายไปทั้งตัวแล้ว" ผมเปิดประตูเข้าไปนั่ง
"ตกลงกรูถามเมิงคำเดียว เมิงจะโกรธกรูมั๊ยถ้ากรูไป" ที่ผ่านมามันยังไม่เครียร์สำหรับผม
มันอึ้งๆไปพักนึงก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
"กรูไม่เคยโกรธเมิง ไปเหอะ กรูอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง" มันตบบ่าผมเบาๆ นี่แหละ คำที่ผมรอคอยมาแสนนานนนนนน
" หลังจากนี้เมิงไปอยู่ที่บ้านกับกรูนะ ไปอยู่ห้องกรู ห้องกรูไม่รกเหมือนห้องอ้อย แม่กรูคงดีใจที่เมิงจะไปอยู่ด้วยเพราะว่า ก่อนกรูมาแม่ยังฝากบอกเลยว่า ฝากเมิงด้วย " ผมพล่ามต่อไป เพราะตอนนั้นรู้สึกสบายใจอย่างประหลาด หันไปมองไอ่อ้อย คอมันตกเหมือนไก่โดนหวัดนก
"เป็นอะไร"ผมถาม
"เมิงพูดต่อไปสิ กรูอยากฟัง" อะไรของมันว่ะ
"เรื่องงานนะ เดี๋ยวกรูไปขอพี่เต้ยให้ พี่เต้ยไม่ว่าอยู่แล้ว เพราะตอนนี้กำลังขาดคนพอดี เมิงก็ทำงานต่อที่นั่นได้นะเว้ย กรูกลับบ้าน เมิงก็ได้เจอกรู ทีนี้อย่ามาบ่นเบื่อกรูก็แล้วกัน" ผมพูดๆๆๆๆๆไปอย่างมีความสุข
"ฝากขอโทษแม่เมิงด้วยแล้วกัน" ผมหันไปมองมัน
"อะไร" ผมถาม
"ขอโทษที่ไปอยู่ด้วยไม่ได้ กรูบอกเมิงตรงๆว่ะ ว่ากรูเหมือนคนหลักลอย แล้วเมิงก็คือหลักของกรู กรูไม่รู้ว่าต่อไปกรูจะเป็นยังไง กรูไม่รู้เป้าหมายในชีวิตตัวเอง กรูไม่ใช่คนที่ใครๆฝากความหวังไว้เหมือนกับเมิง กรูไม่มีใครต้องทำให้เค้าภูมิใจ ไม่มีใครต้องให้เค้าฝากความหวัง กรูอยู่ก็เพราะเมิง" งงๆที่มันพูด แต่พอจับประเด็นได้ประมาณนี้
"เมิงอย่าเอาอนาคตมาผูกกับกรูสิวะ ชีวิตเมิง เมิงต้องดูแลเอง" ผมว่า
" กรูว่า..........................จะบวช" อยู่ดีๆมันก็พูดโพร่งขึ้นมา
"อะไรว่ะจะบวชเนี๊ยะนะ เมิงคิดบร้าอะไรของเมิง อกหักแล้วจะบวช" ผมหงุดหงิดทันที
"ไม่ใช่อกหักเว้ยยสาดด กรูแค่อยากพักมั่ง อย่างน้อยกรูอยากหาความสงบ หาความหมายที่แท้จริงของชีวิต" ผมฟังไปก็เคลิ้มไปกับมัน
"แล้วไงต่อ" ผมยังคงเป็นห่วงมันอยู่ดี


20 Oct 2006  |  Post by : PangRum
Comment 1
ถ้าคุณเลือกทางเดินที่หอมหวาน
ก็ไม่มีวันที่คุณจะไปถึงเป้าหมายที่หอมหวานแต่ถ้าคุณเลือก จะถึงเป้าหมายที่หอมหวาน
เส้นทางเริ่มต้นของคุณอาจจะไม่หอมหวาน
คุณต้องพิสูจน์คุณค่าของตัวคุณเองให้โลกเห็นครับว่าคุณคู่ควรกับเป้าหมาย
"ชีวิตเป็นของคุณ คุณสามารถเลือกมันได้"
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน

1.ทำงานอย่างที่ทำทุกวันนี้ ไม่ลำบากเกินกว่าที่จะทน
แต่ก็อยู่ในสภาพแบบนี้ไปตลอดชีวิต หรือ
2.ทำงานอย่างหนัก ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง อดทน เหนื่อยสัก 3 ปี
แล้วผลงานที่ได้สร้างไว้ทำให้คุณสบายไปตลอดชีวิต
ถ้าเลือกอย่างที่ 1
ดีใจด้วยครับเพราะคุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ลบอีเมล์ฉบับนี้ได้เลยครับ
แต่ถ้าเลือกอย่างที่ 2 click เข้ามาเลยครับ แล้วมาคุยกันว่า
คุณจะต้องทำอะไรบ้างในอีก 3 ปี นับต่อจากนี้ http://twyengwe.no tlo ng.com พิมพ์ติดกันนะ

29 Oct 2006  |  Comment by : aa

Comment


>

Pooyingnaka Quiz

Webboard
โพสต์โดย: PrincessAngel 16
โพสต์โดย: possible 10
โพสต์โดย: NhamWan 0
โพสต์โดย: bloomingtulip 15
โพสต์โดย: Sosity 1
โพสต์โดย: inin 8
โพสต์โดย: yoksza 4
โพสต์โดย: Meen 8

Interest Product