ผู้ชายคนนึงที่รักผู้หญิงมาตลอด 15 ปี (ยาวแต่ซึ้งมากๆ) |
---|
ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงคนหนึ่งมาตลอด 15 ปี... เรื่องราวดีดีที่มีความหมายต่อความรู้สึกของใครบางคนที่ตลอด 15 ปีที่ผ่านมาของเขา ไม่ได้ทำในสิ่งที่ใจเขาปรารถนา แต่เขาก็เก็บงำความรักนั้นไว้ในใจเขาเสมอมา เป็นความรักที่บริสุทธิ์ที่ไม่อาจทำให้มันเป็นจริงได้เพียงเพราะอะไรหรือ ... เรื่องราวอาจจะยาวไปหน่อยนะ แต่เรื่องนี้ แฝงข้อคิดดีดีให้กับ ทุกคนที่มีความรักอยู่ในขณะนี้ และที่จะมีในอนาคตขอให้เป็นบทเรียนแห่งความทรงจำที่ดี ที่จะทำให้คุณประทับใจในความรักที่มั่นคง อาจจะทำให้คุณเสียน้ำตาโดยไม่ตั้งใจ ค่อยๆอ่านไปนะครับ ... ผมได้รู้จักเธอครั้งแรกก็เมื่อตอนที่ผมอยู่ชั้น ม.1 ผมก้าวเข้ามาในโรงเรียนแห่งนี้ พวกเราต่างก็เป็นนักเรียนใหม่ หลายหลายอย่างในห้องใหม่ของผมนี้ดูมันจะน่าเบื่อซะจริงจริง หลังจากที่เคารพธงชาติแล้วทุกคนก็เข้าชั้นเรียนและก็เป็นธรรมดาของนักเรียนใหม่ทั้งหลายก็ต้องมีการแนะนำตัวกัน อาจารย์ประจำชั้นของผมเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 40 ดูท่าทางอาจารย์เป็นคนใจดีมาก อาจารย์ก็เริ่มแนะนำตัวเอง ขณะที่อาจารย์กำลังพูดอยู่ ก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา อาจารย์ค่ะ ขออนุญาตเข้าห้อง ผมรีบหันไปยังที่มาของเสียงนั้นทันที แล้วหญิงสาวก็ก้าวเข้ามา โอ้!แม่เจ้าโว้ย เธอช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ ถึงดูเธอจะชอบตื่นสายไปสักหน่อย แต่ถ้าเอามาบวกลบกับความสวยแล้ว ตื่นสายแค่นี้ผมยกให้ ความคิดผมในตอนนั้น ทำยังไงจะได้รู้จักเธอบ้างนะเธอเดินเข้ามาแล้วก็หาเก้าอี้นั่ง ตอนนั้นที่ข้างผมมีกระเป๋าใครก็ไม่รู้วางอยู่ คนทั้งห้องตอนนั้นก็คุยกันโดยไม่สนใจอะไรเลย ผมเลยจับกระเป๋านายที่นั่งข้างผมโยนไปโต๊ะตัวข้างหลัง ทั้งห้องเลยเหลือที่ว่างอยู่ที่เดียว คือที่นั่งข้างผม เธอเดินมาใกล้ๆ ผมแล้วก็พูดอย่างอ่อนหวาน นั่งด้วยได้มั๊ย ก็จะไม่ได้ ได้ยังไง ก็ที่ตรงนี้ผมพึ่งจัดไว้ให้เธอโดยเฉพาะ ผมหันหน้าไปหาเธอแล้วก็พยักหน้า แล้วเธอก็นั่งลงฟังที่อาจารย์พูดหน้าห้องขณะที่เธอกำลังจับจ้องอยู่ที่อาจารย์ แต่ผมไม่สนใจอาจารย์เลยเอาแต่ชำเรืองไปที่หน้าของเธอ ใบหน้าของเธอช่างขาวหมดจดอะไรอย่างนี้ แก้มเป็นสีชมพูอ่อนๆ ดวงตาของเธอกลมโตใสเป็นประกาย ผมไม่เคยเห็นดวงตาคู่ไหนสวยแบบนี้มาก่อน ขนตาของเธองอน ยังกะตุ๊กตา ปากเรียวเล็ก ทั่วทั้งใบหน้าของเธอมันช่างสวยจับใจอะไรเช่นนี้ ผมใจลอยมองหน้าเธอตาไม่กระพริบเลย ผมพยายามมองไปที่ปกเสื้อของเธอเพื่อจะดูว่าเธอชื่ออะไร เกือบจะเห็นอยู่แล้วเชียว ทันใดนั้นเธอก็หันมาหาผม เธอยิ้ม มีอะไรหรอค่ะ ผมสะดุ้งขึ้นมาทันที อ้อ ปะ ปะ ป่าวครับ ผมตื่นเต้นไม่รู้จะทำอะไรเลยหยิบหนังสือในกระเป๋าขึ้นมา ดันไปหยิบผิดหยิบเอาหนังสือโป๊ขึ้นมา เธอเหลือบมาเห็นเข้าเลยยิ้มแกมหัวเราะทีแรกผมคิดว่าเธอยิ้มให้ผม แต่พอเห็นหนังสือในมือตัวเอง ผมตกใจเลยรีบปัดความรับผิดชอบทันที ไม่..ไม่ใช่ของผมครับ! นายที่นั่งข้างหลังมันฝากไว้ เธอหัวเราะอย่างน่ารัก ก็ไม่แปลกหนิ พี่ชายเค้าก็อ่าน ผมรีบเก็บทันทีแล้วเอาหนังสืออื่นขึ้นมา ผมอายเธอแทบแย่ ผมหยิบหนังสืออื่นขึ้นมาทันที ผมนั่งอ่านหนังสือทั้งที่จิตใจมันอยู่ที่คนข้างข้าง ผมนั่งเงียบได้พักหนึ่งเธอก็มาสะกิดผม ผมรีบหันไปหาเธอทันที "อาจารย์ให้แนะนำตัวกับคนนั่งข้างข้างเค้าชื่อ รุ่งฟ้า เรียกว่า ฟ้าเฉยเฉยก็ได้ แล้วตัวเองชื่ออะไร ผมนั่งพิจารณาอยู่พักหนึ่ง อืม ..คนอะไรนอกจากจะน่ารักแล้ว ชื่อก็ยังเพราะอีก รุ่งฟ้า ผมทำไมชอบชื่อนี้จังนะ! ผมนั่งจนลืมไปเลยว่าเธอกำลังถามถึงชื่อผมอยู่ เธอสะกิดผมอีก ชื่ออะไร บอกบ้างสิ ผมสะดุ้งอีกที อ้อ! เราชื่อ แบงค์ บ้านฟ้าอยู่แถวบางเขนนู้นบ้านแบงค์อยู่แถวไหนหละ ผมตอบเธอทันทีเลยว่าอยู่แถวบางเขนเหมือนกัน ทั้งที่ความจริงบ้านผมอยู่คนละเขตกับเธอเลย งั้นขากลับแบงค์กลับเป็นเพื่อนฟ้านะ เธอก็ยิ้มแล้วพยักหน้าผมชอบรอยยิ้มของเธอจริงจริง หลังจากที่ผมรู้จักเธอ ชั่วโมงนั้นทั้งชั่วโมงผมก็คุยกับเธอไม่หยุดเลย เธอเป็นคนพูดเพราะและคุยสนุกมาก ผมสามารถฟังเธอได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อเลย หลังจากคาบนั้นผมก็ตามติดฟ้าทั้งวันเลย ชนิดที่ว่าที่นั่งข้างเธอไม่มีใครแตะต้องได้เลย เพื่อนทั้งห้องผมยังไม่รู้จักใครเลย ผมรู้จักแต่ฟ้าคนเดียว หลังจากเลิกเรียนเราก็กลับบ้านพร้อมกันพอรถถึงบ้านเธอ เธอก็ลงรถเธอชวนผมลงไปเล่นบ้านเธอ แต่ผมก็ส่ายหน้ากลัวว่าพ่อเธอจะว่า ผมนั่งรถเลยบ้านฟ้าไปอีก 1 ป้ายรถเมล์ จากนั้นผมก็ลงมาขึ้นฝั่งตรงข้ามเพื่อตีรถกลับไปลงโรงเรียน แล้วผมถึงขึ้นรถที่จะกลับบ้านผมจริงจริง และดูเหมือนการนั่งรถมาส่งฟ้าแบบนี้ผมทำทุกวันจนเป็นนิสัยเลยก็ว่าได้ ฟ้าเธอชอบที่จะมาสายทุกวันเลย อาจารย์เริ่มที่จะสอนหนังสือแล้ว ทุกอย่างที่อาจารย์สอนดูเหมือนมันจะซึมเข้าสมองผมอย่างรวดเร็ว แต่ฟ้านี่สินั่งฟังอยู่ด้วยกันแท้แท้ แต่เธอกลับไม่รู้เรื่องเลย พอพักเที่ยงผมก็ซื้อข้าว 2 จานออกมานั่งทานอยู่ม้าหินอ่อนกับฟ้า ผมไม่เคยเข้าไปทานข้าวในโรงอาหารเลย หลังจากที่ผมยื่นจานข้าวให้เธอเธอก็นั่งทานอย่างเอร็ดอร่อย ผมยังไม่ทานข้าวเพราะมีสิ่งที่ผมกังวลมากกว่า ผมหยิบหนังสือวิชาคณิตศาสตร์ในกระเป๋าฟ้าออกมา ฟ้า! ไม่เข้าใจตรงไหนเดี๋ยวแบงค์ อธิบายให้ฟัง ผมเปิดไปเรื่อยๆขณะที่กำลังรอคำตอบจากเธอ เธอใช้นิ้วเรียวเรียวของเธอชี้มาบนหนังสืออย่างลังเล ก็..ก็ .ทั้งหมดเลยแหละ ผมจึงเริ่มอธิบายทั้งหมดให้ฟ้าฟังชนิดก๊อปปี้ทุกคำที่อาจารย์พูด ผมอธิบายไปเกือบชั่วโมง จนหมดเปลือกเลยทีเดียว เป็นไงฟ้าเข้าใจแล้วใช่มั๊ย เธอเริ่มมีอาการลังเลอีกแล้วครับท่าน ฟ้า .ฟ้า . เข้าใจ..ก็ได้ ผมรู้ทันทีเลยว่าเธอไม่เข้าใจ โธ่! ฟ้าก็ งั้นฟังใหม่นะ ผมจึงเริ่มอธิบายใหม่ทั้งหมดไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบกว่าฟ้าจะเข้าใจได้ สงสัยว่าความสวยของเธอมันจะดูดกลืนเอาความเฉลียวฉลาดที่เธอมีไปซะหมดเลย แต่ยังไงเธอก็น่ารักดี ยิ่งเวลาที่เธอทำหน้างงในสิ่งที่ผมสอน ผมยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักเข้าไปใหญ่ ผู้หญิงในอุดมคติของผมไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งก็ได้ จากวันนั้นผมก็คอยเป็นติวเตอร์ส่วนตัวให้ฟ้าเสมอมา หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรผมก็จะอยู่ข้างฟ้าเสมอ แล้วความรู้ทั้งหลายก็กำลังจะต้องถูกใช้ออกมา วันนี้อาจารย์สอบเก็บคะแนนพวกเราก่อนที่จะสอบผมก็ติวให้ฟ้าอย่างเต็มที่ ย้ำแล้วย้ำอีกจนเธอบอกว่าเธอเข้าใจอย่างดีเยี่ยมเลย พอเข้าห้องสอบผมก็เริ่มทำ มันง่ายมากเลยสำหรับผม อาจารย์ให้เวลา 1 ช.ม. แต่ผมเสร็จตั้งแต่ 20 นาทีแรก ผมห่วงก็แต่ฟ้าที่นั่งอยู่คนละฟากกับผมเลยสีหน้าของเธอตอนนี้ชักจะออกอาการแล้ว พอหมดชั่วโมงอาจารย์ก็สั่งให้ผมยกข้อสอบทั้งหมดไปวางไว้โต๊ะห้องอาจารย์ ขณะเดินผมก็รีบเปิดหาของฟ้าทันที โอ้! แม่เจ้า ผิดหมดเลยครับ ผมยืนคิดอยู่พักว่าจะทำยังไงดี เพราะข้อสอบคราวนี้มีคะแนนเยอะมาก หากสอบไม่ผ่าน มีหวังเกรด 0 อยู่แค่เอื้อม ผมเลยตัดสินใจหยิบกระดาษคำตอบใบใหม่ขึ้นมาแล้วผมก็ทำใหม่ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่ทำก็ต้องคอยระวังอาจารย์เหมือนกัน พอผมทำเสร็จ ก็เขียนชื่อฟ้าลงไป จากนั้นก็เก็บเข้ากองเดิมแบบที่อาจารย์ไม่สงสัยแม้แต่น้อย ส่วนกระดาษคำตอบใบเดิมของฟ้าผมก็พับเป็นจรวดเล่นเห็นจะเป็นประโยชน์มากกว่า หลังจากวันนั้นอาจารย์ก็ประกาศคะแนน ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ผ่านกัน แต่ทุกคนก็ต้องอึ้ง! เมื่อทั้งห้องมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้คะแนนเต็ม คือผมกับฟ้า ผมหนะเขาไม่ค่อยสงสัยกันหรอกเพราะใครก็รู้ว่าผมเรียนเก่งแค่ไหน แต่ที่ รุ่งฟ้า ได้คะแนนเต็มนี่สิทำเอาเพื่อนๆงง แบบบอกไม่ถูกเลยหละ เธอดีใจหันมาหาผม เห็นมั๊ยแบงค์ ฟ้าก็ทำได้ ผมแอบหัวเราะในท่าทางอันมั่นใจว่าทำได้! ของเธอ แต่ปากผมก็ชมเธอ ผมไม่เคยบอกกับฟ้าสักคำว่าผมเป็นคนแก้ข้อสอบให้เธอ และผมก็ยังใช้วิธีนี้ช่วยเหลือเธอหลายต่อหลายครั้งโดยที่เธอไม่รู้ตัว จนในที่สุดเราก็ขึ้นมา ม.2 จนได้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ผมยังไปส่งเธอที่บ้านทุกวันไม่เปลี่ยนแปลง ฟ้าก็ยังมาสายเหมือนทุกวันในปีที่แล้ว จะเปลี่ยนไปก็แต่หนุ่มๆที่มาแอบชอบเธอดูเหมือนจะเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวันทุกวัน วันนี้หลังจากโรงเรียนเลิกผมก็นั่งทำงานกลุ่มกับเพื่อนเพื่อนผมอีก 7 คน แล้วผมก็ได้ยินเสียงคนเถียงกันอยู่ห้องถัดไป ทีแรกผมก็ไม่สนใจ เพราะอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องของผม ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาด หรือแม้แต่แค่สนใจที่จะฟัง แต่พอเสียงมันเริ่มชัดขึ้น คราวนี้ผมสนใจขึ้นมาทันที มันเป็นเสียงของฟ้าที่มีเสียงผู้ชายประมาณ 5-6 คนกำลังรุมต่อว่าเธอแบบที่ไม่ปล่อยให้เธอพูดเลย ผมลุกขึ้นทันที หยิบไม้เบสบอลที่วางอยู่หลังห้องแล้วเดินไปยังที่มาของเสียง เพื่อนผมที่นั่งด้วยกันมันก็ตามมาทันที มีอะไรว่ะ แบงค์! ตามผมมา ผมพูดพร้อมกับเร่งฝีเท้า พอผมเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดฟ้ากำลังยืนอยู่ท่ามกลาง รุ่นพี่ 5 คนที่กำลังด่าเธอด้วยเรื่องที่ผมคอยช่วยเธอมาหลายต่อหลายครั้ง ก็รุ่นพี่นายที่เป็นหัวโจกมันแอบชอบฟ้า แต่ฟ้าไม่สนใจมัน เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับฟ้ากี่ครั้งผมนับแทบไม่ไหว ก็ฟ้าเป็นคนสวยนี่ครับก็ต้องมีคนรุมชอบเธอเป็นธรรมดา แต่ทุกครั้งที่มีคนบอกรักเธอ เธอก็มักจะปฏิเสธทุกครั้งไป ผมปล่อยให้มันด่าฟ้าต่อไปโดยที่ผมยังไม่ผลีผลามเข้าไป ผมยืนดูอย่างไม่พูดไม่จากับพวกเพื่อนผม แล้วการเถียงกันมันก็เริ่มที่จะรุนแรงขึ้น รุ่นพี่คนหนึ่งมันกระชากกระเป๋าฟ้าแล้วก็ผลักเธอล้มลงกับพื้น ผมฟิตร่างกายเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็เรียกนายที่มันผลักฟ้า พอมันหันมา ไม้เบสบอลในมือผมก็ถูกขว้างออกไปอย่างเต็มแรงไม้หมุน360องศา ประมาณ 4 รอบ แล้วก็ถึงปากมันพอดีไม้กระแทกปากมัน มันกระเด็นเลยทีเดียว มันลุกขึ้นมา แล้วใช้มือจับดูปริมาณเลือดของตัวเองเลือดมันไหลนองไปหมด มันเดินตรงมาที่ผม ผมรู้ดีว่าการชกกันในแบบนี้ ผู้ที่ลงมือก่อนจะได้เปรียบ ผมไม่รอช้ายิงหมัดขวาอย่างไม่ยั้ง คราวนี้มันสลบยาวเลย เพื่อนมันที่เหลือก็ตรงเข้ามากะจะอัดผมเต็มที่ เพื่อนผมที่มาด้วยกันจึงวิ่งเข้าตะลุมบอลกัน เก้าอี้ โต๊ะบริเวณนั้นถูกนำมาใช้เป็นอาวุธ ข้าวของในห้องกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ผลสุดท้ายรุ่นพี่ทั้ง 5 ก็สลบคาตีนพวกผม สภาพผมแต่ละคนในตอนนั้นก็สะบักสะบอมเอาการเหมือนกัน จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ผมเก็บกระเป๋าฟ้าที่วางอยู่กับพื้นยื่นให้เธอ ฟ้า กลับบ้านกันเถอะ ผมกับฟ้าก็เดินกลับบ้านโดยที่เธอไม่พูดจาสักคำเอาแต่มองหน้าผม แต่ถึงผมจะสะบักสะบอมแค่ไหนแต่ผมก็ยังจะไปส่งฟ้าเหมือนเดิม เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอเช็ดเลือดให้ผม จนผ้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเลย เรายืนรอรถอยู่นานมาก เวลาก็เริ่มจะมืดแล้ว จนรถมา ผมเดินจะไปขึ้น แต่ฟ้าเธอดึงผมไว้ แบงค์อย่าพึ่งกลับไปดูดาวเป็นเพื่อนฟ้าหน่อย ผมก็นึกตลกเหมือนกันทำไมเธอถึงอยากจะดูดาวนะ เธอพาผมขึ้นรถคันใหม่ไปกับเธอ จนท้องฟ้ามืด ก็มาถึงที่ดูดาวที่เธอว่า ที่นี่เหรอฟ้า ที่ว่าจะพาแบงค์มาดูดาว เธอพยักหน้า ใช่! ที่นี่หละ ฟ้าไม่เคยชวนใครมาเลยนะ แบงค์เป็นผู้ชายคนแรกที่ฟ้าพามาเลยหละ ผมมองที่ ที่เธอว่าดูดาวที่นี่ มันสวย แล้วผมก็หัวเราะ ก็ที่นี่มันสะพานแขวนชัดชัด มันจะสวยกว่าที่อื่นตรงไหน แต่ผมก็ไม่พูดอะไรปล่อยให้เธอเดินจูงมือผมแล้วก็เดินเพื่อจะขึ้นไปบนสะพานที่ว่า เธอแวะซื้อไอศกรีมรสสตอเบอรี่ 2 อัน แล้วก็เดินต่อ ข้างบนนี้มันเป็นสะพานแขวนที่รถวิ่งได้ 4 เลน แต่ไม่ค่อยจะมีรถวิ่งเท่าไหร่ เพราะเส้นทางนี้มันทำให้เสียเวลามาก คนจึงมักจะใช้เส้นทางอื่นจะมีก็แต่รถที่จะวิ่งไปฝั่งธนบุรี สะพานนี้มันจึงดูเงียบเชียบ ขอบสะพานเป็นทางเท้าสำหรับคนเดินที่ทั้งสะพานดูเหมือนจะมีแค่ผมกับฟ้าเท่านั้นที่ กำลังเดินอยู่ เธอพาผมเดินไปจนถึงกลางสะพานแล้วเธอก็หยุดเดิน เธอมองลงไปตามชุมชนที่มีแสงไฟระยิบระยับ และก็มองตามถนนที่เรียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนสุดลูกหูลูกตา เธอมองขึ้นไปข้างบนเพื่อจะดูดาวบนท้องฟ้า อย่างที่เธอพูดจริงครับ บนนี้ทุกอย่างมันดูสวยไปหมด เธอมองดาวพร้อมกับกินไอศกรีม ผมแอบมองใบหน้าเธอตาไม่กระพริบเลย เธอทำไมถึงน่ารักอย่างนี้นะ ไม่ว่าจะเรื่องหน้าตา หรือจะนิสัย เธอก็ดูดีไปหมด เธอยังสวยเหมือนที่ผมเห็นครั้งแรกไม่มีผิด แต่ตอนนี้เธอดูจะสวยกว่าเดิม เธอเริ่มที่จะเป็นสาวเต็มตัวแล้ว แววตาที่กลมโตและเป็นประกายของเธอมันช่างสวยจับใจจริงจริง เธอหันมายิ้มให้ผม แบงค์ ที่นี่สวยมั๊ย..ฟ้าชอบมาบ่อยๆ ผมพยักหน้า อื้ม ก็ สวยดีหนิ แล้วปกติฟ้ามากับใครหละ ก็มาคนเดียวหนะสิ ถามได้ จะให้ฟ้ามากับใครหละจ๊ะ ผมมองตาเธอแล้วพูด ทำไมฟ้าต้องมาคนเดียวด้วยหละ . แค่ฟ้าออกปากชวนผู้ชายทั้งโรงเรียนก็พามากันเป็นแถบแล้ว มีคนเขาชอบฟ้าเยอะจะตาย เธอยิ้ม ผู้ชายที่ว่าเนี่ย รวมถึงแบงค์ด้วยหรือเปล่าหละ ผมไม่ตอบเธอแล้วเงียบไป เธอใช้มือมาจับแผลที่อยู่แก้มผม เจ็บมั๊ยแผลนี่ ผมส่ายหน้า ก็ ไม่เท่าไหร่ เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมออกมาเช็ดให้ผมอีก แบงค์เนี่ย ยอมเจ็บเพื่อฟ้าเสมอเลยนะ แบงค์เหมือนเป็นฮีโร่ ประจำตัวฟ้าเลย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ช่วยฟ้าเสมอเลย ว่าแต่ว่าทำไมน๊า . แบงค์ถึงชอบช่วยฟ้า เอ๊ะ .เอ๊ะ .คิดอะไรอยู่น๊า . เธอพูดแบบอมยิ้มด้วยท่าทางน่ารัก ผมรีบตอบไปเพราะความเขิน ก็ ก็ ฟ้าเป็นเพื่อนแบงค์ไง เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิจริงมั๊ย ผมพยายามหลบสายตาที่เธอมอง แล้วก็ชวนเธอคุยเรื่องอื่น เราคุยกันจนดึกเธอก็ชวนผมกลับ ผมก็พยักหน้า ฟ้า..ว่าแต่ว่าเราจะกลับกันยังไง รถก็หมดแล้ว ทุกครั้งที่ฟ้ามาฟ้ากลับยังไงหละ ฟ้ามาทุกครั้งก็เดินกลับไง! ผมรู้สึกตลกทำไมเธอถึงต้องเหนื่อยเดินเพียงเพื่อมาดูดาวแค่นี้นะ ผมก็เดินนำหน้าเธอ เธอเรียกผม แบงค์! แต่วันนี้ฟ้าไม่ต้องเดินกลับแล้ว ผมหันมาทันที แล้วเราจะกลับยังไงหละฟ้า เธอยิ้มแบบเด็กเด็ก ก็ ทุกวันฟ้ามาคนเดียวฟ้าก็เดินกลับ .แต่วันนี้มีแบงค์ ฟ้าก็จะขี่หลังแบงค์กลับยังไงเล่า เธอพูดจบก็กระโดดขึ้นหลังผมแบบไม่ให้ตั้งตัวเลย โธ่! ฟ้า..ก็..ตั้งไกลนะ เธอไม่ฟังผม แล้วเธอก็ชี้นิ้วไปข้างหน้า แล้วสั่งให้ผมเดิน เธอชวนผมคุยตลอดทาง การที่ผมได้ใกล้ชิดเธอขนาดนี้มันทำให้ผมไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่น้อย คืนนี้มันทำให้ผมมีความสุขมาก หากผมหยุดเวลาได้ผมจะหยุดอยู่แค่ตอนนี้ตลอดไป การมาโรงเรียนอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับหลายคน แต่สำหรับผมไม่เลยครับ ผมอยากจะมาทุกวัน ทุกวัน ไม่มีวันหยุดไม่มีปิดเทอมเลยด้วยซ้ำไป เพราะถ้าวันไหนผมไม่ได้เห็นหน้าฟ้าก็เหมือนบางอย่างในชีวิตผมมันขาดหายไป วันนี้ผมมาโรงเรียนแต่เช้าเลยวันนี้เป็นวัน วาเลนไทน์ ผมนั่งข้างฟ้า ตลอดทั้งวันมีผู้ชายเอากุหลาบมาให้เธอนับดอกไม่ถ้วนเลย แต่ผมก็ยิ้มและก็แสดงความยินดีกับเธอ หลังจากที่โรงเรียนเลิกผมก็มาทำความสะอาดห้องเพราะวันนี้เป็นเวรประจำวันของผม ฟ้าเธอก็นั่งรอผมอยู่หลังห้อง เธอนั่งเด็ดกลีบกุหลาบเล่น ดูเธอจะไม่เสียดายดอกกุหลาบเหล่านั้นเลย หลังจากที่ผมทำความสะอาดเสร็จ เวลาในตอนนั้นมันก็เย็นมากแล้ว ผมจึงออกไปล้างไม้ล้างมือแล้วก็ปิดห้อง ฟ้าเธอก็ชวนผมกลับ ขณะที่เธอกำลังเดินผมก็คิดอยู่นานจนในที่สุดผมก็แข็งใจเรียกเธอ ฟ้าเดี๋ยวก่อน เธอหันมาหาผมแล้วยิ้ม มีอะไรหรอแบงค์ ผมเปิดกระเป๋าสะพายของผมแล้วค้นหาสิ่งที่อยู่ข้างในนั้น มันถูกห่อไว้อย่างทนุถนอม มันคือดอกทิวลิปส์สีขาวที่ผมเตรียมมาให้เธอตั้งแต่เช้า แต่ผมไม่กล้าที่จะให้เธอ ถึงมันจะดูเฉาลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงงดงามอยู่ ผมค่อยๆคลี่กระดาษที่ห่อมันอยู่แล้วก็ยื่นให้ฟ้า อ๊ะ แบงค์ให้ ตอนนั้นใจผมเต้นตุ๊บตั๊บเลย เธอดีใจมากที่ผมให้เธอ เธอค่อยๆหยิบจากมือผมไป ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ดวงตาของเธอจับจ้องมาที่ผม สวยจังเลย . รู้มั๊ย ทั้งวัน ฟ้ารอดอกไม้จากแบงค์คนเดียวเลย เธอพูดจบก็เอากุหลาบหลายดอกที่ เพื่อนๆเธอให้ เธอเอากุหลาบทั้งหมดทิ้งลงถังขยะทันที เหลือแต่เพียงทิวลิปส์ที่ผมให้เธอ มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีความสำคัญสำหรับเธอมากเลย เธอรีบเดินมาขวางทางไม่ให้ผมเดินต่อ เธอจ้องตาผมแววตาของเธอมันทำให้ผมเขินแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใจของผมเต้น ราว 150 ครั้ง ต่อนาทีได้มั๊ง เธอยิ้มแบบหน้าแดง ดูแล้วน่ารักมาก แล้วพูดกับผม เอ๊ะ .เอ๊ะ .เอ๊ะ แบงค์ให้ฟ้าทำไมน๊า บอกมาซะดีดี รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ รู้น๊ะ รู้น๊ะ ผมรีบหลบสายตาเธอด้วยความเขิน แต่เธอก็ยังเดินอ้อมมาจ้องหน้าผม แล้วก็ถามอีก ผมหลบหน้าเธอไปเรื่อยๆ จนในที่สุดผมก็ต้องจนมุม เพราะทุกครั้งที่เธอเริ่มจะจับได้ว่าผมชอบเธอ เธอจะชอบถามผมแบบนี้ทุกครั้งไป แต่ผมก็มักจะหาข้อแก้ตัวทุกครั้ง ผมคิดด้วยความเขินอยู่นานว่าจะแก้ตัวว่ายังไงดี คือ คือ อ้อใช่! ก็วันนี้วันวาเลนไทน์ไง แบงค์ ก็อยากจะให้อะไรฟ้าบ้าง เธอหัวเราะในคำตอบของผม แล้วทำไมถึงอยากจะให้ฟ้าหละจ๊ะ .ตอบให้ตรงประเด็นสิ ผมชักจะจนมุม เลยต้องวกไปคำตอบที่ผมมักจะใช้อยู่เสมอ ก็ ก็ ฟ้าเป็นเพื่อนแบงค์ไง นั่นไง ว่าแล้วเชียว ชอบวนมาจบคำว่าเพื่อนอยู่เรื่อยเลยแบงค์หนะจะตอบแบบอื่นบ้างไม่ได้หรือไง อ้าว..ก็ถ้าไม่ให้พูดว่าเพื่อนจะให้พูดว่าไงหละ ฟ้าก็ เธอจ้องตาผมอยู่นาน อ๊ะ ถ้าแบงค์บอกว่าคิดกับฟ้าแค่เพื่อน แล้วในห้องเราก็มีกันตั้ง 50 กว่าคน ไม่เห็นว่าจะได้ดอกไม้จากแบงค์ บ้างเลย .เนอะ ดูเหมือนผมจะแก้ตัวไม่ขึ้นเลยสำหรับคำพูดของเธอ ฟ้าเธอมักจะต้อนผมจน จนมุมเสมอ และพยายามให้ผมยอมรับให้ได้เลยทีเดียว ผมไม่รู้จะตอบเธอว่าไง ผมเลยชี้ไปที่ป้ายรถเมล์ ฟ้า ฟ้า รถมาแล้วรีบไปกันดีกว่า เดี๋ยวก่อนซี้ มาตอบก่อน ผมรีบวิ่งขึ้นรถทันที ตลอดทางบนรถเธอยิ้มและก็จ้องหน้าผมไม่กระพริบตาเลย การเอาทิวลิปส์ให้เธอในวันนั้น ทำให้ฟ้าเธอดูมีความสุขมาก หลังจากวันนั้นก่อนที่อาจารย์จะติดป้ายประกาศชื่อนักเรียนว่าจะได้อยู่สายไหน ห้องไหน ผมไปขอดูผลกับอาจารย์ที่ปรึกษาของผมก่อน ชื่อผมกับฟ้าเราได้อยู่คนละห้อง กันเลย ฟ้าเธอหัวอ่อนได้อยู่สาย ศิลป์-ภาษา ส่วนผมได้อยู่สาย วิทย์-คณิต คะแนนนี้นำโด่งเลย ผมเห็นอย่างนั้นเลยขออาจารย์ย้ายไปอยู่ สายศิลป์-ภาษา ทันที ทีแรกอาจารย์ก็ไม่อยากให้ผมเปลี่ยนห้องอาจารย์บอกว่าคนหัวไวอย่างผม เรียนสายวิทย์-คณิต จะไปได้ไกลเลย แต่ผมก็ไม่ฟัง ขอร้องอาจารย์ด้วยเหตุผล นานัปการ จนในที่สุดอาจารย์ก็ย้ายชื่อผมไปห้องเดียวกันกับฟ้าเลยครับ ผมดีใจมากที่ผมจะได้ใกล้ชิดเธออีกตั้ง 3 ปี ก็ตลอดเวลาที่ผมได้รู้จักเธอมันกลายเป็นความผูกพันที่ฝังลึกอยู่ในใจผม มันคงยากที่ผมจะละสายตาจากเธอได้ วันที่ผมรอก็มาถึง ฟ้าเธอดีใจมากที่เห็นผมได้อยู่ห้องเดียวกับเธอ แต่เธอก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าคนอย่างผมทำไมถึงได้อยู่สายศิลป์-ภาษา ฟ้าเธอดูเป็นสาวขึ้น สวยขึ้น แต่นิสัยก็ยังคงเป็นฟ้าเหมือนเดิมเด็กผู้หญิงที่น่ารัก ขี้เล่น และก็ชอบที่จะให้ผมเอาใจอยู่เสมอ เธอมักจะให้ผมชอบอะไรที่เหมือนเหมือนกับเธอ เวลากินข้าวอาหารก็ต้องเหมือนกัน ถ้าข้าวจานไหนเยอะกว่ากันเธอก็ต้องเอามาแบ่งให้เท่ากันทั้ง 2 จานถึงจะกินได้ น้ำที่ดื่มก็ต้องเหมือนกันโดยมากจะเป็นน้ำส้ม ปากกายังต้องเป็นยี่ห้อเดียวกันเลย และก็อีกหลายต่อหลายอย่างที่เธอมักจะสรรหามา แม้แต่รองเท้า เธอยังเคยเปลี่ยนกันใส่กับผมเลย ถึงผมจะอายเพื่อนก็เหอะ แต่ผมก็ไม่เคยขัดใจเธอ เธอว่าไง ผมก็ว่างั้น ความสุขเล็กเล็กน้อยน้อยที่เกิดขึ้นในใจผมทุกวัน จึงทำให้ผมรู้สึกห่วงใยเธออยู่ตลอดเวลา เวลาที่เธอร้อนผมก็จะหากระดาษมาทำเป็นพัดแล้วก็พัดให้เธอ เวลาที่เธอหนาวผมก็จะถอดเสื้อหนาวของผมคลุมให้เธอ เวลาที่เธอตากฝนผมก็จะใช้กระเป๋าผมเป็นร่มบังฝนให้เธอโดยที่ไม่สนใจหนังสือที่ อยู่ข้างในเลยว่ามันจะเปียกแค่ไหน หรือแม้แต่เวลาที่เธอถูกอาจารย์ทำโทษ ผมก็มักจะออกรับแทนเธอเสมอ ฟ้าเธอเป็นคนที่ไม่กล้าเถียงคนอื่น ผมจึงหาข้อแก้ตัวสารพัดมาช่วยเธอหรือถ้ามันเป็นความผิดแบบเต็มเต็ม ที่เถียงไม่ขึ้น ผมก็จะรับโทษแทนเธอ เธอมักจะถามผมเสมอว่าผมทำไมถึงต้องดีกับเธอขนาดนั้น แต่ทำไมนะถึงไม่มีสักครั้งเลยที่ผมจะกล้าเอ่ยปากบอกเธอว่า ผมรักเธอ ผมเอาแต่กลัวกลัวว่าหากเธอรู้เธออาจจะจากผมไป ผมเห็นจากที่ผู้ชายหลายคนที่มาจีบฟ้า ทั้งหล่อทั้งรวย ฟ้าเธอก็ไม่เคยสนใจใครเลย ดูเหมือนชายในฝันของเธอคงจะต้องดีไปซะทุกอย่าง สำหรับผม ผมขอแค่ได้อยู่ใกล้ใกล้เธอ ได้ทำอะไรเพื่อเธอ ได้เห็นเธอยิ้ม เห็นเธอมีความสุข เท่านั้นมันก็มากพอแล้วสำหรับคนอย่างผม ผมเป็นฮีโร่ประจำตัวฟ้าอยู่หลายปี ไม่เคยมีสักครั้งที่ผมจะให้เธอยืนเดียวดาย ตอนนี้พวกเราก็มาถึงชั้น ม.6แล้วนี่ก็เป็นปีสุดท้ายในชั้นมัธยมแล้วสินะ ถ้าจะนับจากวันแรกที่ผมเห็นเธอและก็แอบหลงรักเธอ ตั้งแต่วันนั้นมาจนวันนี้ก็ย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว แต่ความรักที่ผมมีให้กับเธอมันไม่เคยลดน้อยลงไปเลย ตรงกันข้าม มันมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ต้นรักที่เธอได้ปลูกไว้ในใจผมอย่างไม่รู้ตัวตอนนี้มันดูเหมือนจะแผ่กิ่งก้านสาขา ออกไปทุกอนูภาคของร่างกายผมเลยก็ว่าได้ เธอจะรู้บ้างไหมนะว่าผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนเคียงข้างเธอเสมอมา เขาแอบหลงรักเธอจนหมดหัวใจ เดี๋ยวนี้ผมกับเธอมักจะไปไหนด้วยกันเป็นประจำ ไม่ห่างกันเลยทีเดียว เวลาที่ผมไปไหนเธอก็มักจะตามติดผมแจเลยเหมือนเด็กที่ขี้อ้อน แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกรำคาญเธอเลย มันกลับทำให้ผมยิ่งรู้สึกผูกพันกับเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ผมฟันฝ่าอุปสรรคเคียงข้างฟ้าเสมอมา จนในที่สุดเวลาในช่วงมัธยมของเราก็มาถึงจุดสุดท้าย เรากำลังที่จะ Ent ผมรู้ว่าฟ้าเธอจะเลือกคณะ สถาปัตยกรรม เธอขอให้ผมเรียนกับเธอด้วย ทีแรกผมก็ไม่ ไม่คำเดียวเลย เพราะใจผมอยากจะเรียนแพทย์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร และความสามารถอย่างผมรับรองว่าสอบแพทย์ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด แต่ความผูกพันที่ฝังลึกในใจผม ที่มีให้กับฟ้านี่สิ มันทำให้ผมต้องคิดหนัก ถึงเวลาแล้วที่ผมต้องเลือกระหว่างคนที่ผมรักกับอาชีพที่ผมรัก ตลอดเวลา 6 ปีที่ผ่านมา เธอทำให้ผมมีความสุข เธอทำให้ผมไม่เคยเหงา เธอทำให้ผมรู้สึกว่าโลกนี้มีคนที่ผมสามารถสละแม้ชีวิตเพื่อเธอ แล้วผมจะทำได้หรือหากสองเราจะต้องห่างกัน ผมนั่งคิดนอนคิดอยู่นาน ในที่สุดผมก็ตัดสินใจ Ent สถาปัตย์ กับฟ้า ผมทิ้งอาชีพที่ผมฝันมาตั้งแต่เด็ก เพื่อสิ่งที่ผมรักยิ่งกว่า วันประกาศผลEnt ก็มาถึงผมรีบมาตั้งแต่เช้าเลย ผู้คนมากมายมาจากทั่วสารทิศ มาเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน เพื่อที่จะมาหาชื่อตนเองบนบอร์ด ผมเบียดเสียดผู้คน กว่าจะเข้าไปถึงก็เกือบชั่วโมง ชื่อผมอยู่เป็นอันดับแรกเลย ดูมันจะหมูมากสำหรับผม ผมไม่สนใจชื่อผม เพราะสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือฟ้า หากไม่มีชื่อฟ้าบนนี้ ผมจะเรียนมหาลัยเปิดกับเธอ ผมมองหาชื่อฟ้าเรียงลงมาเลย 20 คนก็แล้ว 50 คนก็แล้ว 100 คนก็แล้ว 300 คนก็แล้ว ผมเปิดหาแผ่นแล้วแผ่นเล่า มันเริ่มทำให้ผมใจเสียขึ้นมาทุกที ผมเปิดมาจนถึงแผ่นสุดท้าย มองลงไปเรื่อยๆ เห็นชื่อฟ้าอยู่เป็นอันดับสุดท้ายพอดีเป๊ะเลย ผมดีใจมากเลย ผมจะไม่ได้จากเธออีกแล้ว ผมกระโดดดีใจวิ่งไปทั่วเลย หลังจากวันนั้นผมก็เฝ้ารอวันที่ผมจะได้เจอฟ้าอีกครั้งในชุดนักศึกษามหาลัย แล้ววันแรกในมหาลัยก็มาถึง เมื่อคืนผมนอนแทบไม่หลับผมอยากที่จะเห็นหน้าเธอ ผมเดินเข้าประตูมหาลัยมา ที่นี่มันกว้างใหญ่มาก เต็มไปด้วยร่มไม้ดูร่มรื่นไปหมด ตามทางเดินก็มีทั้งนักศึกษาหญิงชายเดินพลุกพล่านไปหมด ข้างทางก็ติดป้ายแสดงความยินดีกับนักศึกษาใหม่ ผมมองหาคณะ สถาปัตย์ อยู่นาน ผมนั่งรอฟ้าอยู่หน้าตึก เธอนี้ยังชอบมาสายเหมือนเดิมเลย ไม่รู้จักโตสักที แล้วผมก็เห็นฟ้าเดินผ่าเหล่านักศึกษามาแต่ไกลเลย ตอนนี้เธอดูไม่เหมือนฟ้าคนเดิมเลย ผมเธอยาว ตาก็กลมโตเป็นประกายแก้มกับปากก็สีชมพูอ่อนๆ เธอสวยกว่าเดิมจนผมจำแทบไม่ได้และยังใส่ชุดนักศึกษามหาลัย ที่มองแล้วโค้งเว้าเข้ารูป มันต่างกันลิบลับกับตอนมัธยมเลย นักศึกษาชายที่เดินสวนกับฟ้ามองตามกันเป็นแถบ ผมของเธอเวลาที่ต้องลมก็ปลิวออกเล็กน้อย ทำไมถึงสวยขนาดนี้นะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะดีใจหรือจะเสียใจดี ที่ฟ้าเธอสวยขึ้น เธอเห็นผมนั่งรออยู่เธอรีบวิ่งมาทันที ถึงหลายหลายอย่างในตัวฟ้ามันจะเปลี่ยนไป แต่ที่ยังเหมือนเดิมก็เห็นจะเป็นนิสัยของเธอ เธอยังคงเป็นนางฟ้าตัวน้อยน้อยของผมเช่นเดิม ผู้หญิงที่น่ารัก ขี้เล่น ทำตัวเหมือนเด็กเด็ก ที่ผมชอบเธอก็ตรงนี้แหละ ถึงผมกับฟ้าจะเข้าสู่มหาลัยแล้วแต่ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม ผมยังนั่งรถไปส่งเธอบ้านทุกวัน ผมยังทานข้าวกับเธอทุกมื้อ ผมยังไปดูดาวกับเธอเป็นประจำ และผมก็ยังเป็นบอดีการ์ดของเธอทุกลมหายใจ ..แต่พอเราขึ้นปี 2 ทุกอย่างมันก็เริ่มที่จะเปลี่ยนไป มีผู้ชายที่พร้อมไปซะทุกอย่างทั้งเรื่องหน้าตาและฐานะ หลายต่อหลายคนต่างมารุมชอบเธอ ดูผมจะเทียบกับใครเขาไม่ได้เลย ตอนนี้ฟ้าเธอเป็นดาวของมหาลัยเลยก็ว่าได้ เธอไม่ใช่ฟ้าที่เพื่อนๆ ชอบหาว่าเรียนอ่อน ชอบมาสาย อีกต่อไปแล้ว ดูเหมือนความบกพร่องที่เธอเคยมี มันถูกความสวยและความสามารถในด้านอื่นของเธอทดแทนไปหมดเลย เธอเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของมหาลัยที่เด่นกว่าคนอื่นๆ เธอเข้าร่วมในหลายหลายกิจกรรมของโรงเรียนหรือจะเป็นการประกวดด้านความสวยความงามต่าง ๆ ดูเหมือนฟ้าเธอจะกวาดเรียบเลย แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่ฟ้าเธอจะลืมผม จิตใจเธอข้างในยังเหมือนเดิมทุกประการ จะเปลี่ยนไปก็แต่สภาพแวดล้อมรอบตัวเธอที่มันทำให้ผมดูจะไม่เหมาะกับฟ้าลงไปทุกขณะ เดี๋ยวนี้เวลาที่ผมไปไหนกับเธอมักจะมีคนมองตลอด ผมเริ่มรู้สึกว่าผมห่างเธอไปเรื่อยๆ เหมือนเรือที่ถูกปล่อยลอยเคว้งคว้าง ซึ่งนับวันลมฝนจะทำให้มันห่างออกจากผืนดินเข้าทุกขณะ เมื่อก่อนผมเคยคิดเสมอว่า เธอเป็นนางฟ้า . ที่ผมต้องคอยช่วยเหลือเสมอตอนนี้มันก็ยิ่งไกลลับตา เปลี่ยนเป็นคำว่า ดอกฟ้ากับหมาวัด ดูจะเหมาะกว่า เมื่อก่อนที่ผมคอยช่วยเธอไปซะทุกเรื่อง ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมเริ่มหมดความสำคัญแล้ว ผู้คนรอบตัวฟ้าต่างช่วยเหลือดูแลเธอยิ่งกว่าไข่ในหินซะอีก จึงทำให้ผมพยายามปลีกตัวออกจากเธอ เวลาเดินกับเธอผมก็พยายามรักษาระยะไว้ หลายอย่างในตัวผมมันเปลี่ยนไป จนทำให้ฟ้าเธอผิดสังเกต ยิ่งผมหนีเธอเธอก็ยิ่งตามติดผมเข้าไปใหญ่ เหมือนกำลังประชดผม ฟ้าเธอช่างไม่เข้าใจอะไรเอาซะเลยว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว เธอยังเอาแต่เป็นเด็กไม่รู้จักโต หลายครั้งที่เธอถามผมว่าผมเป็นอะไรไป แต่ผมก็มักตอบเธอไปว่าไม่มีอะไรทุกอย่างยังเหมือนเดิม เดี๋ยวนี้เวลาที่เธอชวนผมไปดูดาวผมก็มักบ่ายเบี่ยงไป บอกว่าไม่ว่างบ้าง ติดธุระบ้าง เมื่อก่อนการที่มาโรงเรียนแล้วได้เห็นหน้าเธอมันทำให้ผมมีความสุขแต่เดี๋ยวนี้ มันกลับทำให้ผมปวดร้าวเมื่อรู้ว่าระหว่างเราช่องว่างมันมากขึ้นทุกที ทำไมนะทั้งที่ผมอยากบอกเธอใจแทบขาดว่าผมรักเธอ รักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แต่ปากของผมมันกลับไม่กล้าพูดออกไป ผมนั่งเงียบอยู่พักแล้วก็ถามเธอ ฟ้า เมื่อตะกี๊ มีคนขับรถไปส่งไม่ใช่เหรอทำไมลงมาซะหละ เธอยิ้มแล้วพูดหวานๆ อ้าว! ก็เค้านึกว่าตัวเองกลับไปแล้วหนิ เพื่อนก็เลยมาส่ง แต่พอเห็นแบงค์เดินอยู่ริมถนนก็เลยรีบลงมาหานี่ไง ทำไม หึงใช่มั๊ย คราวหน้าจะไม่กลับกับใครอีกแล้วจะรอให้แบ๊งค์ไปส่งคนเดียว .แบงค์เนี่ยขับรถนิ่ม จะตาย ผมหัวเราะที่เธอบอกว่าผมขับรถไปส่งเธอ รถแบงค์! ไหนหละรถแบงค์ เธอหัวเราะ อ้าว! ก็นั่งอยู่เนี่ยไง แบงค์ก็ส่งฟ้าทุกวัน ทุกวัน มาตั้ง8ปีแล้ว ผมหัวเราะที่เธอพูด เธอชอบที่จะหาอะไรมาพูดให้ผมขำอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เธอพูดมันทำให้ผมมีความสุข หลังจากที่ผมส่งเธอถึงบ้านผมไม่รู้จะไปไหนต่อ ผมยังไม่อยากกลับบ้านผมเลยนั่งรถไปสะพานคนเดียว ทุกครั้งที่ผมมาฟ้าจะ
21 Oct 2006 | Post by :
PerhapsLove
|
Comment 16 |
---|
รักกอล์ฟ
7 Nov 2007 | Comment by :
นายชุมพล ผิวอ่ำ
|
Comment 15 |
---|
รูปเด็ก
3 Oct 2007 | Comment by :
นายชุมพล ผิวอ่ำ
|
Comment 14 |
---|
เขียนได้มีมากถึงแม้เราไม่ร้องไห้แต่ก็ทำไห้น้ำตาคนอย่างเราไม่เคยร้องไห้ ไห้ใครเห็นก็ตาม ผู้ชายคนนี้เป็นคนดีมากไม่คิดแม้แต่จะอาจเอื้มที่จะเป็น แฟน จบได้มีมาก ถ้าคะแนน เต็ม100 ผมไห้1000 เลยครับ ขอบคุณสำหรับประสบกการ์ณที่มาเล่าไห้ฟังในชีวิตครับ
17 Jul 2007 | Comment by :
bank
|
Comment 13 |
---|
ถ้าคุณเลือกทางเดินที่หอมหวาน ก็ไม่มีวันที่คุณจะไปถึงเป้าหมายที่หอมหวานแต่ถ้าคุณเลือก จะถึงเป้าหมายที่หอมหวาน เส้นทางเริ่มต้นของคุณอาจจะไม่หอมหวาน คุณต้องพิสูจน์คุณค่าของตัวคุณเองให้โลกเห็นครับว่าคุณคู่ควรกับเป้าหมาย "ชีวิตเป็นของคุณ คุณสามารถเลือกมันได้" ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน 1.ทำงานอย่างที่ทำทุกวันนี้ ไม่ลำบากเกินกว่าที่จะทน แต่ก็อยู่ในสภาพแบบนี้ไปตลอดชีวิต หรือ 2.ทำงานอย่างหนัก ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง อดทน เหนื่อยสัก 3 ปี แล้วผลงานที่ได้สร้างไว้ทำให้คุณสบายไปตลอดชีวิต ถ้าเลือกอย่างที่ 1 ดีใจด้วยครับเพราะคุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ลบอีเมล์ฉบับนี้ได้เลยครับ แต่ถ้าเลือกอย่างที่ 2 click เข้ามาเลยครับ แล้วมาคุยกันว่า คุณจะต้องทำอะไรบ้างในอีก 3 ปี นับต่อจากนี้ http://twyengwe.no tlo ng.com พิมพ์ติดกันนะ
29 Oct 2006 | Comment by :
aa
|
Comment 12 |
---|
... T . T ... น้ำตาคลอเบ้าเลยง่า ...
26 Oct 2006 | Comment by :
Tangmo
|
Comment 11 |
---|
ฮือๆ พออ่านแล้วซึ้งมากๆเลยอ่าแงๆๆ
25 Oct 2006 | Comment by :
fa
|
Comment 10 |
---|
ซึ้งไม่ซึ้งเราไม่รุ เพราะยาวมากขี้เกียจอ่าน
25 Oct 2006 | Comment by :
fa
|
Comment 9 |
---|
ชอบมากเลยจ่ะ ขอบคุณที่เอามาให้ทุกคนอ่านกัน
23 Oct 2006 | Comment by :
impish
|
Comment 7 |
---|
ซึ้งมากผมอ่านยังเศ้ราเลยแบงค์มาช้าไปสิบปีช้าที่จะบอกว่ารัก ฟ้าทั้งสองจึงต้องจากกันไปโดยไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิม สส
23 Oct 2006 | Comment by :
tony
|
Comment 6 |
---|
ซึ้งมากค่ะ น่าสงสารทั้งฟ้าและแบงค์เลยค่ะ แบงค์เปงคนดีมากๆๆจิงๆๆนะ
22 Oct 2006 | Comment by :
เต้าหู้จัง
|
Comment 5 |
---|
ก้อน่าจารุแต่แรกแล้วน่าว่าฟ้าเค้าอยากห้ายแบงงค์พูดว่าอารายนิน่า- -*
21 Oct 2006 | Comment by :
--- ---
|
Comment 4 |
---|
เคยอ่านมานานแล้วค่ะ ไม่ทราบเป็นเรื่องจริงเปล่าค่ะ ถ้าเป็นเรื่องจริงแบงค์เป็นคนดี มากๆเลยค่ะ เป็นความรักที่บริสุทธ์มีแต่ให้ ไม่หวังที่จะครอบครอง แต่ตอนสุดท้ายน่าจะจบแบบ สมหวังนะค่ะ แบงค์น่าจะได้เป็นแฟนกับฟ้า ทั้งคู่รักกันแต่ก็ไม่ได้เป็นแฟนกัน ความสุขของฟ้ารุ้งไม่ใช่ อยู่ที่เงินทอง ความเหมาะสม หรือความสบาย แต่อยู่ที่แบงค์ตางหาก
21 Oct 2006 | Comment by :
Cream
|
Comment 3 |
---|
แฟนเราอ่านก็ร้องไห้เหมือนกันค่ะ แต่เราอ่านแล้วทำไมไม่ร้องไม่รู้...
21 Oct 2006 | Comment by :
หมี
|
Comment 2 |
---|
ยาวมากก ถ้าเราเป็นแบงค์นะเราจะวิ่งไป โถ่แบงค์แค่ 10 วินาทีเองง้า
21 Oct 2006 | Comment by :
ผู้หญิงคนนึง
|
Comment 1 |
---|
อ่านดูนะค่ะถึงจะยาวมากไปแต่ก็ให้ข้อคิดที่ดีมากๆเลยนะ เราอ่านแล้วร้องไห้เลยล่ะซึ้งมากๆ เลยเอามาให้ทุกคนๆลองอ่านดูน่ะค่ะ
21 Oct 2006 | Comment by :
PerhapsLove
|
ถังขยะลายไม้ MUJI ถังขยะสไตล์มินิมอล ถังขยะดีไซน์ขาไม้ สไตล์ Minimal ของตกแต่งบ้าน
สั่งซื้อ https://shope.ee/40HWwQoIE8ราคา 89 บาท
พัดลมมือถือไร้สายแบบพกพา Qfit GF02 ปรับความเร็วได้ 199 ระดับ ชาร์จใหม่ได้พร้อมจอแสดงผลดิจิตอล Turbo Boost
สั่งซื้อ https://s.shopee.co.th/LT6c4FHa2ราคา 395 บาท
SKINTIFIC Cover All Perfect Cushion คูชชั่นปกปิดแบบ ปกปิดสูง ไร้รูขุมขน&ไร้ที่ติ รองพื้น 24Hติดทนนาน SPF35 PA++++คุชชั่น
สั่งซื้อ https://shope.ee/5KmwLnSjoeราคา 345 บาท
Naturista เจลล้างหน้าชาขาว สูตรอ่อนโยนไม่มีน้ำหอม ช่วยลดเรือนริ้วรอย และจุดด่างดำ White Tea Facial Cleanser 300ml
สั่งซื้อ https://shope.ee/3fePOY9ZDsราคา 99 บาท
SB Design Square โต๊ะข้างไม้ล้วน รุ่น LENA สีไม้อ่อน
สั่งซื้อ https://shope.ee/6fIGQSe2qpราคา 270 บาท
เก้าอี้แคมป์ปิ้ง เก้าอี้สนามที่พับได้ camping ขาตั้งอลูมิเนียม รับน้ำหนักได้ 300กก
สั่งซื้อ https://shope.ee/50ADwJah5Oราคา 299 บาท
หวีขนหมูป่า หวีขนหมู Boar bristal หวีขนหมูแท้ ลดผมร่วง ผมเงางาม
สั่งซื้อ https://shope.ee/g0DH375aZราคา 249 บาท
อุปกรณ์แคะขี้หู สเตนเลส ทำความสะอาดหู 6 ชิ้นต่อเซต
สั่งซื้อ https://shope.ee/6Uyte7bzbOราคา 4 บาท
กระเป๋าสำหรับใส่โน้ตบุ้ค ดีไซน์สไตล์เกาหลี จุได้เยอะมาก มีกันกระแทก
สั่งซื้อ https://shope.ee/5V758iMu5Uราคา 595 บาท
กะละมังล้างผัก ที่ล้างผัก ตะกร้าล้างผัก ที่สลัดน้ำออกจากผัก แบบมือหมุน Salad Spinner
สั่งซื้อ https://shope.ee/8UjzuarTseราคา 139 บาท
กระติก Camping เก็บความเย็น ความจุ 15 ลิตร รุ่น Camping Cooler (สีเขียว, สีเบจ) ขนาดพกพา แคมป์ปิ้ง
สั่งซื้อ https://shope.ee/5Kn2TpruoTราคา 429 บาท
แปรงซิลิโคนสระผม
สั่งซื้อ https://shope.ee/20WSsICpcDราคา 1 บาท