อาการปวดหลังเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย
และจะพบมากขึ้นในคนวัยทำงาน โดยส่วนใหญ่เกิดจากการใช้อิริยาบถไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น
ลักษณะงานก้ม ๆ เงย ๆ ยก นั่งหลังงอ เดินหลังโก่ง
หรือยกของหนักในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการปวดหลังนั้นถือว่าเป็นอะไรที่ทรมานมาก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีต่าง
ๆ ที่สามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้นำมาใช้กัน โดยมีหลายวิธีด้วยกันดังนี้
วิธีที่ช่วยลดอาการปวดหลัง
1. นั่งไขว้ขา บิดเอว
ได้ผลดีหากปวดหลังส่วนล่าง หรือส่วนใกล้เอว
เริ่มจากนั่งขัดสมาธิบนพื้น ยกขาขวาวางพาดทับขาซ้าย ขาซ้ายงอเข่านอนลงชิดพื้น
ขาขวาตั้งเข่าขึ้น มือขวาแตะพื้น มือซ้ายแตะท้ายทอย จากนั้นเอียวตัวไปทางขวาจนสุด
ค้างไว้ 5-7 วินาที จากนั้นกลับมาหน้าตรง
วางมือซ้ายบนพื้นข้างลำตัว มือขวาแตะท้ายทอย บิดเอวไปทางขวา ค้างไว้ 5-7
วินาที จากนั้นสลับข้าง และสลับมือ บิดเอวทั้ง 2
ข้าง เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อส่วนหลัง โลหิตไหวเวียนในบริเวณหลัง
เอว ได้ดียิ่งขึ้น
2. ดึงแขนข้ามไหล่
ใครที่ปวดเมื่อยหลังบริเวณหลังส่วนบนใกล้กับต้นแขน
หรือไหล่ ลองยกแขนข้างขวาขึ้นตรง ๆ บิดแขนซ้ายไปด้านหลัง ปลายนิ้ววางไว้กลางหลัง
งอเฉพาะศอกขวาลงมา พยายามเอานิ้วมือขวาแตะนิ้วมือซ้ายที่กลางหลังให้ได้มากที่สุด
ค้างไว้ท่านั้น 10 วินาที แล้วเปลี่ยนแขนอีกข้าง ค้างไว้ 10
วินาทีเท่ากัน สามารถทำได้เรื่อย ๆ จนกว่าอาการปวดจะดีขึ้น
3. นอนราบแผ่นหลังติดพื้น
หาที่นอนที่ไม่นุ่มและไม่แข็งจนเกินไป
แต่มีพื้นแบนราบพอที่จะนอนลงไปได้สบาย ๆ ดันแผ่นหลังให้ติดพื้น เกร็งหน้าท้อง
ค้างไว้ 10 วินาที แล้วพัก จากนั้นทำซ้ำราว 2-3
ครั้ง ช่วยให้แผ่นหลังที่อ่อนล้า กลับเข้ามาอยู่ในสภาพปกติ จัดเรียงกระดูกและกล้ามเนื้อให้กลับมาเข้าที่เหมือนเดิม
เห็นทำง่าย ๆ แค่นี้ แต่ได้ผลดีเชียวล่ะ
4. นอนงอเข่า
นอนราบ ยกเข่าขึ้นมาทีละข้าง ใช้แขนดึงรั้งเอาไว้
ค้างไว้ 10 วินาที สลับขายกค้างไว้ 10
นาทีเท่ากัน วิธีนี้ช่วยลดอาการปวดหลังบริเวณหลังส่วนล่าง ส่วนใกล้สะโพก
หรือบางคนปวดหลังแล้วร้าวลงสะโพก และขา
5.ประคบน้ำแข็ง
ใช้ถุงน้ำแข็ง หรือ ice pack เลื่อนไปตามแนวหลังคล้ายการนวดราว
5-10 นาที
อาจจะให้คนใกล้ชิดช่วยทำให้เพราะเราอาจทำเองไม่สะดวก
ความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยลดการอักเสบของกล้ามเนื้อได้
ถึงแม้ว่าอาการปวดหลังอาจต้องใช้เวลากว่าอาการจะทุเลาลง
แต่บางครั้งก็อาจมีอาการที่เป็นสัญญาณเตือนว่าควรรีบพบแพทย์ทันที ได้แก่ อาการปวดหลังที่เป็นเรื้อรังติดต่อกันนานเกินกว่า
3 เดือน , ปวดหลังร้าวลงสะโพก
ขา จนถึงบริเวณน่องหรือเท้า , อาการปวดเฉียบพลันที่ไม่ทุเลาลงเมื่อได้พัก
หรือมีอาการปวดรุนแรงจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ , อาการปวดหลังจากการได้รับบาดเจ็บหรือหกล้ม , อาการปวดร่วมกับ อย่างอื่น เช่น ควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ , ขาอ่อนแรง , ชาบริเวณขา
เท้า หรือรอบทวารหนัก , คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ , น้ำหนักลดผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ หากมีอาการตรงกับข้อใดข้อหนึ่งที่เราได้เอ่ยมาอย่ารอช้าเด็ดขาดต้องรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองค่ะ
#ปวดหลัง