อาจกล่าวได้ว่ายิ่งไวรัส COVID-19 แพร่ระบาดนานเท่าไหร่
ธุรกิจออนไลน์ก็ดูจะก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วขึ้นเท่านั้น ก่อให้เกิดยุค New Normal โดยเฉพาะในไทยที่แม้ห้างสรรพสินค้าจะเปิดให้บริการตามปกติแล้ว
แต่ผู้คนก็เน้นไปเพื่อรับประทานอาหาร หาความบันเทิง หรือนัดพบปะกันเท่านั้น ซึ่งยังผูกติดการช้อปปิ้งสินค้าทั่วไป, สุขภาพ
และความงาม, เสื้อผ้า
และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์กับร้านค้าออนไลน์ดั่งเช่นช่วงปิดเมืองยาวนานที่ผ่านมา
ในไตรมาสที่ 3 ปี 2021 นี้ iPrice Group บริษัทวิจัยการตลาด และเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์ ได้อัพเดตข้อมูลงานวิจัย The Map of E-commerce หรือสงครามอีคอมเมิร์ซ ที่รวบรวมข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์, อันดับการใช้งานแอพพลิเคชั่น และจำนวนผู้ติดตามทางโซเชียล
ช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน ปี 2021 จากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั้ง 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และไทย ซึ่งหยิบยกตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย
และเวียดนามมาวิเคราะห์ โดยมีไฮไลท์ที่สำคัญ ดังนี้
‘Shopee’ ยืนหนึ่ง ร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่ชาวมาเลเซีย เวียดนาม และไทย เข้าชมเว็บไซต์สูงสุด
ไม่ใช่แค่ไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ที่ Shopee กลายมาเป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ซขวัญใจชาวไทย และตลาดเพื่อนบ้าน (มาเลเซีย และเวียดนาม) สำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย Shopee ก้าวขึ้นมาครองบัลลังก์ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2020 ในขณะที่ตลาดเวียดนามคว้าชัยไปตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2018 และตลาดมาเลเซียไตรมาสที่ 2 ปี 2019
มากไปกว่านั้น หากทำการเปรียบเทียบร้านค้าอีคอมเมิร์ซประเภททั่วไปทั้งหมดในงานวิจัย
Map of
E-commerce ของไทย
มาเลเซีย และเวียดนาม จะพบว่าส่วนแบ่งการตลาดของ Shopee ในตลาดมาเลเซียมีสูงถึง 71% ในขณะที่ตลาดไทย
และเวียดนามมีเปอร์เซ็นส่วนแบ่งการตลาดเท่ากันที่ 57%
ไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ
ร้านค้าอีคอมเมิร์ซทั่วไปในเวียดนามดูจะมีการแข่งขันอย่างเข้มข้น
เพราะนอกจากสามอันดับแรกที่ iPrice Group หยิบยกขึ้นมาข้างต้นนี้แล้ว
ร้านค้าอีคอมเมิร์ซประเภททั่วไปอื่น ๆ ยังได้ส่วนแบ่งการตลาดอีกกว่า 14% ในขณะที่ตลาดไทยมีเพียง 6%
การศึกษาข้อมูล
iPrice Group ได้รวบรวมข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ทั้ง 3 ประเทศจาก SimilarWeb โดยใช้การจัดอันดับร้านค้าอีคอมเมิร์ซจากงานวิจัย Map of E-commerce (สงครามอีคอมเมิร์ซ) ในแต่ละประเทศได้แก่
มาเลเซีย, ไทย และเวียดนาม ช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2021 (กรกฎาคม - กันยายน) โดยเน้นร้านค้าประเภททั่วไปเท่านั้น
และวิเคราะห์ส่วนแบ่งการตลาดจากผลรวมผู้เข้าชมเว็บไซต์ของร้านค้าประเภททั่วไป
นักช้อปไทยมีส่วนร่วม (Engagement) ต่อโพสบน Facebook ของร้านค้าอีคอมเมิร์ซ ‘น้อย’ ที่สุด
ปัจจุบันโลกโซเชียลกลายมาเป็นสื่อสำคัญทางโลกออนไลน์ไปแล้ว
โดยยอดผู้ติดตามก็สามารถบ่งบอกคะแนนความนิยมของร้านค้าอีคอมเมิร์ซแทนจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้เช่นกัน
แต่ความสนใจ หรือความมีส่วนร่วม (Engagement)
ต่อโพสต่าง ๆ
ของร้านค้าก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ซึ่งจากการเก็บข้อมูลจำนวนการมีส่วนร่วมต่อโพสบน Facebook ของร้านค้าอีคอมเมิร์ซชั้นนำ
3 อันดับแรกของตลาดอีคอมเมิร์ซในมาเลเซีย เวียดนาม และไทย พบว่า
นักช้อปชาวไทยมีส่วนร่วมต่อโพสของร้านค้าอีเมิร์ซน้อยที่สุด เพียง 20% เท่านั้น แม้จำนวนผู้ติดตามจะมีไม่ต่างจากตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศเพื่อนบ้าน
(มาเลเซีย และเวียดนาม) แต่คาดส่วนใหญ่กดติดตามเพื่อรอการอัพเดตโปรโมชั่น
และแคมเปญน่าสนใจต่าง ๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ประเทศที่นักช้อปมีส่วนร่วมต่อโพสบน
Facebook ของร้านค้าอีคอมเมิร์ซทั่วไปสูงสุดคือ มาเลเซีย คาดเป็นเพราะบัญชี
Facebook ของ Shopee,
Lazada และ PG Mall ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร
ทำให้ยอดการมีส่วนร่วมอาจรวมไปถึงนักช้อปชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศด้วยต่างจากไทย
และตลาดเวียดนาม (36%) ที่ข้อมูลบนเพจเป็นภาษาท้องถิ่น
การศึกษาข้อมูล
iPrice Group ได้รวบรวมข้อมูลการมีส่วนร่วมต่อโพสบนแพลตฟอร์ม Facebook
โดยใช้คำค้นหาเป็นชื่อร้านค้าอีคอมเมิร์ซ 3 อันดับแรก
(ร้านค้าทั่วไป) ของแต่ละประเทศได้แก่ มาเลเซีย, ไทย
และเวียดนาม ข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงจากการที่ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมต่อโพส เช่น ‘แสดงความคิดเห็น’, ‘ถูกใจ’, ‘ว้าว’ , ‘รักเลย’,
‘ฮ่าฮ่า’, ‘เศร้า’ และ
‘โกรธ’ บน Facebook ตลอด
1 ปี ที่ผ่านมา (15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020
– 2021)
ชาวไทย ใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลสูงสุดใน SEA (ไม่รวมสิงคโปร์)
เป็นอนิสงค์อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 อีกนั่นเอง ที่ทำให้เกิดวิถีชีวิตแบบ ‘New Normal’ ขึ้น สอดคล้องกับรายงานของ Google,
Temasek และ Bain & Company ว่าด้วยการเพิ่มขึ้นของจำนวนการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อันได้แก่ มาเลเซีย, เวียดนาม, ไทย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ หากนำตัวเลขผู้ใช้งานมาเปรียบเทียบกันจะเห็นว่า
คนไทยมีการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลสูงสุดในภูมิภาคถึง 89.99% แบ่งเป็นก่อนการแพร่ระบาด 73.7% ช่วงแพร่ระบาดจนถึงครึ่งปีแรกปี 2021 อีก 16.2% และผู้ที่ไม่ได้ใช้งานมีเพียง 10.1% เท่านั้น โดยการเปรียบเทียบนี้จะไม่รวมประเทศสิงคโปร์เพราะจำนวนประชากรที่มีจำกัด
ทำให้การใช้ชีวิตควบคู่ไปกับธุรกิจดิจิทัลดูเป็นเรื่องปกติ แม้แต่แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคอย่าง
Shopee และ Lazada ยังมีต้นกำเนิดจากประเทศนี้
สำหรับเหตุผลที่ผู้บริโภคหันมาใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลกันอย่างต่อเนื่องส่วนใหญ่เพราะเชื่อว่า
‘ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น/สะดวกสบายมากขึ้น’ หากขุดลึกไปถึงการใช้งานแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจะพบว่า
ผู้คนส่วนใหญ่เน้นการช้อปสินค้าทั่วไป(65%), สินค้าเพื่อสุขภาพ และความงาม (62%), เสื้อผ้า (60%) และอิเล็กทรอนิกส์ (53%)