วิธีทำให้บ้านอยู่แล้ว(สุขภาพ)ดี ด้วยเครื่องฟอกอากาศภูมิแพ้
เครื่องฟอกอากาศภูมิแพ้หรือเครื่องฟอกอากาศในบ้านขจัด PM 2.5 เครื่องฟอกอากาศแบบไหนดีที่จะทำให้บ้านของเราเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของเรามากที่สุด..?
คำถามนี้เป็นคำถามที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากขึ้น เพราะวิถีชีวิตของคนเมืองในทุกวันนี้ต้องเจอกับปัญหาสุขภาพมากมาย หนึ่งในนั้นที่เป็นปัญหาร้ายแรงก็คือ ฝุ่น ควัน และมลภาวะทางอากาศที่หากสูดดมเข้าไปอย่างยาวนานอย่างต่อเนื่องก็อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้น พื้นที่ที่จะต้องสะอาดและปลอดภัยต่อร่างกายที่สุดก็คือที่อยู่อาศัยของเราหรือบ้านนั่นเอง
แล้วทุกคนรู้หรือไม่ว่าหนึ่งโรคร้ายของคนเมืองคือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ จากมลภาวะทางอากาศที่เป็นพิษ ไม่ว่าจะเป็นโรคปอด ไซนัส หวัด หรือโรคภูมิแพ้ จากรายงานทางการแพทย์ของไทยพบว่าคนกรุงเทพฯ มีอัตราผู้ป่วยภูมิแพ้สูงถึง 50 % โดยสาเหตุหลักมาจากปัญหามลพิษที่มักจะเกิดจากการปล่อยควันเสียของโรงงานอุตสาหกรรม ควันดำจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ รวมทั้งไอเสียจากรถยนต์ที่มีปริมาณมากขึ้นทุกวัน
และถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ในบ้านมลพิษเหล่านี้ก็ยังลอยปะปนไปกับอากาศในบ้านของคุณด้วยเช่นกัน ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศภูมิแพ้ในบ้านจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้คุณและทุกคนในบ้านของคุณมีร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น
โดยอาการเบื้องต้นของภูมิแพ้จะเริ่มจากเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หายใจไม่สะดวก ป่วยง่าย เหมือนเป็นไข้หวัดตลอดเวลา คัดจมูก น้ำมูก น้ำตาไหล แต่ไม่มีไข้ขึ้น ทั้งหมดนี้เราสามารถป้องกันการเกิดอาการได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลารถติด พักอาศัยอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท หรือออกไปสูดอากาศนอกเมือง ออกกำลังกายเป็นประจำ และที่สำคัญคือจะต้องจัดการบ้านให้มีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถอยู่ในบ้านได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีมากที่สุด
แล้ววิธีทำให้บ้านอยู่แล้วสุขภาพดีจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. บ้านเพื่อสุขภาพดี ต้องถ่ายเทอากาศได้ดีด้วย!
บ้านที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยนั้นควรที่จะสามารถเปิดหน้าต่างถ่ายเทอากาศได้ และมีแสงแดดส่องถึง เพราะหากบ้านของเราระบายอากาศได้ไม่เพียงพอนั้น นอกจากจะเกิดความร้อนกับความชื้นสะสมจนทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ความร้อนและความชื้นนี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดไรฝุ่นกับเชื้อราตามที่ต่าง ๆ ภายในบ้านที่จะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้หรือหอบหืดอีกด้วย การถ่ายเทอากาศในบ้านนี้ยังเป็นการช่วยลดภาระเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศภูมิแพ้ให้ไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป และยังช่วยในการขับไล่ความร้อนและความชื้น ทั้งยังส่งผลที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
2. ติดตั้งมุ้งลวดกรองฝุ่นควบคู่กับการใช้เครื่องฟอกอากาศ
การติดมุ้งลวดที่หน้าต่างและประตูบ้านควบคู่ไปกับการใช้เครื่องฟอกอากาศภูมิแพ้จะช่วยกรองฝุ่นให้ผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้น้อยลง ทั้งยังฟอกอากาศในบ้านให้บริสุทธิ์มากขึ้นอีกด้วย แต่หากสงสัยว่าถ้าเรามีเครื่องฟอกอากาศในบ้านแล้วทำไมยังต้องมีมุ้งลวดกรองฝุ่น นั่นก็เป็นเพราะว่าหากเราติดมุ้งลวดด้วยจะทำให้เราสามารถเปิดหน้าต่างและประตูทิ้งไว้เพื่อทำให้อากาศถ่ายเทได้มากขึ้น และทำให้ภายในห้องไม่อุดอู้ และไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคนั่นเอง
3. หมั่นทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ
การทำความสะอาดบ้านนั้นเป็นวิธีที่ง่ายมากที่สุดแต่ก็ทำได้ยากที่สุดสำหรับบางคนเช่นกัน เพราะบางคนอาจจะไม่มีเวลาในการทำความสะอาดบ้านเนื่องจากจากภาระหน้าที่การงานต่าง ๆ การมีเครื่องฟอกอากาศภูมิแพ้สักเครื่องจะช่วยกรองฝุ่นและขจัด PM 2.5 ที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้และลดสารกระตุ้นที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ที่สะสมในห้องให้ลดน้อยลง ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการทำความสะอาดบ้านให้กับเราได้เป็นอย่างดี
4. ห้องนอนต้องสะอาด อย่าลืมติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน
โดยเฉลี่ยแล้วเราใช้ชีวิตในห้องนอนวันละ 6 – 8 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ดังนั้นนอกจากที่เราจะหมั่นซักผ้าคลุมที่นอน ปลอกหมอน และหมอนข้างเพื่อช่วยยับยั้งการเกิดโรคภูมิแพ้แล้ว การหาเครื่องฟอกอากาศภูมิแพ้ดี ๆ สักเครื่องมาไว้ในห้องนอนก็เป็นทางเลือกที่ดีของชาวภูมิแพ้ด้วยเช่นกัน เพราะเครื่องฟอกอากาศนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจว่าเราจะได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ในขณะนอนหลับ และไม่มีฝุ่นละอองหรือสารก่อให้เกิดภูมิแพ้มารบกวนจนหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทั้งคืน
แล้วเราจะเลือกเครื่องฟอกอากาศแบบไหนดีที่จะส่งเสริมให้เรานอนหลับได้สบายที่สุด เรามาดูกัน
มีเสียงเบา ทำงานเงียบ ไร้เสียงครบกวนเวลานอน
เลือกให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง
เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันหลากหลาย ทั้งช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้ ฆ่าเชื้อโรค ลดกลิ่น และกำจัด PM 2.5
เลือกเครื่องฟอกอากาศที่ไม่สร้างโอโซน
เลือกเครื่องฟอกอากาศที่อายุการใช้งานยาวนาน ไม่ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์บ่อย
โดยเราควรวางเครื่องฟอกอากาศภูมิแพ้ไว้ในตำแหน่งที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกและไม่มีอะไรมาบดบังมากที่สุด เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะหากวางตัวเครื่องฟอกอากาศไว้ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม อย่างเช่นบริเวณหัวเตียง จะมีโอกาสทำให้เราได้รับฝุ่นละออง เชื้อโรค หรือสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ที่ลอยฟุ้งปะปนกันในอากาศก่อนจะถูกฟอกให้สะอาดนั่นเอง
แล้วเครื่องฟอกอากาศแบบไหนดีที่สุดสำหรับทุกคนในครอบครัวและในทุก ๆ พื้นที่นั้น เราขอแนะนำเครื่องฟอกอากาศภูมิแพ้ Airocide ที่เป็นนวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศในบ้านที่ตอบโจทย์ทั้งรูปลักษณ์และประสิทธิภาพการทำงาน มาพร้อมกับเทคโนโลยี Photocatalytic Oxidation (PCO) ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อองค์การ NASA ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายทั้งช่วยกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และทำลายเชื้อโรค ก๊าซอินทรีย์ สารระเหย รวมถึงสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่สร้างโอโซน และที่สำคัญคือมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ค่าบำรุงรักษาต่ำ ไม่ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์บ่อยให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่บานปลายอย่างแน่นอน!