SEO (Search Engine Optimization) คือ การปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาของ Google โดยการทำ SEO นั้นมีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจในระยะยาว ถึงแม้จะต้องใช้ระยะเวลาหลายเดือน เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่เมื่อเริ่มทำ SEO แล้ว เว็บไซต์ของคุณก็จะติดอันดับอยู่บนหน้าแรกของ Google ได้นานกว่าการซื้อโฆษณาผ่าน Google Ads 

นอกจากนี้ SEO ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ และดึงดูดผู้เข้าชมที่มีคุณภาพ ทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน แต่ทว่า! ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ทำ SEO แล้วจะติดหน้าแรกบน Google ได้ง่าย ๆ โดยการทำให้ติดอันดับนั้นมีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งการทำคอนเทนต์ การปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะสม และการทำ Backlink เป็นต้น แล้วเราควรเลือก SEO Agency ยังไงดีล่ะ ? สำหรับการเลือกสามารถดูได้จาก 3 ข้อหลัก ๆ ดังนี้

1. รู้เทคนิคการทำ On-Page SEO

On-Page SEO เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ในผลการค้นหา เพราะฉะนั้น เอเจนซีที่คุณเลือกควรมีความชำนาญในการปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์ เช่น 

• การใช้ Keyword อย่างเหมาะสม 

• การปรับปรุงโครงสร้าง URL 

• การใช้แท็ก Heading (H1, H2, H3) อย่างถูกต้อง 

• การเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ

• การใช้ Meta Tags ที่เหมาะสม

2. เข้าใจ KEYWORD ที่เหมาะสมกับธุรกิจ 

SEO Agency ที่คุณเลือกควรมีความสามารถในการทำ Keyword Research ที่มีประสิทธิภาพ สามารถค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้อง และมีปริมาณการค้นหาสูง รวมถึงสามารถวิเคราะห์ Keyword ของคู่แข่งเพื่อหาโอกาสในการแข่งขัน 

ทั้งนี้ การเลือก Keyword ที่เหมาะสมยังสามารถช่วยดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มีความสนใจ และความต้องการที่ตรงกับธุรกิจ รวมไปถึงช่วยปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น

3. มีการกำหนด KPI เป็นเป้าหมายกลยุทธ์

การกำหนดตัวชี้วัด หรือ KPI จะช่วยให้สามารถวัดผลความสำเร็จของการทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เอเจนซีที่ดีควรสามารถช่วยคุณกำหนด KPI ที่เหมาะสม และติดตามผลการทำงานได้ เช่น

• เพิ่มจำนวน Traffic 

• เพิ่มอัตราการคลิก (CTR) ของผลการค้นหา

• เพิ่ม Conversion Rate

• เพิ่มเวลาในการอยู่บนหน้าเว็บไซต์ (Time on Site)

การเลือก SEO Agency หรือบริษัทรับทำ SEO ควรเลือกเอเจนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะจะช่วยให้เว็บไซต์ธุรกิจของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google อย่างยั่งยืน เพิ่มความน่าเชื่อถือ ดึงดูดผู้เข้าชมที่มีคุณภาพ และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวเมื่อเทียบกับการซื้อโฆษณาออนไลน์