รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ

รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ
ดิฉันเป็นผู้หญิงที่มีลูกแล้ว เป็นลูกสาว อายุ 6 ขวบ และดิฉันได้เลิกกับพ่อของลูกไปซักระยะแล้ว เป็นการเลิกกันด้วยดี แล้ววันนึง ดิฉันก็ได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง เค้าเข้ามาจีบดิฉัน คอยเอาใจใส่ดิฉันทุกอย่าง เราติดต่อกันประมาณ 6 เดือน โดยที่ดิฉันบอกเค้าตั้งแต่แรกเลยว่า ดิฉันไม่เหมาะกับเค้าหรอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฐานะ(บ้านเค้ารวยมาก) การศึกษา รวมถึงอะไรหลาย ๆ อย่าง และที่สำคัญดิฉันเคยมีสามีแล้ว แต่เค้าบอกว่า เค้าไม่แคร์ เค้าบอกดิฉันว่าอย่าคิดมากมันเป็นแค่อดีต และเรื่องฐานะก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ดิฉันไม่ได้บอกเึค้าว่าดิฉันมีลูก และเมื่อเดือนที่แล้วเค้าก็ทราบเรื่องลูกของดิฉันจากพี่ที่รู้จักกัน เค้าถามว่าทำไมดิฉันถึงไม่เคยบอกเค้าเรื่องลูก ดิฉันบอกเค้าไปว่า กำลังหาโอกาสบอกอยู่ เพราะตอนแรกดิฉันคิดว่าเค้าคงไม่ได้สนใจอะไรดิฉันมากมายนัก เลยคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องบอก เพราะวันนึงก็คงต้องห่างกันไป แต่พอยิ่งรู้จักกันก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองรักเค้าไปแล้ว และเมื่อมั่นใจว่าดิฉันรักเค้า ดิฉันจึงกำลังคิดหาทางหาโอกาสบอกเค้าอยู่ แต่เค้าก็มารู้จากคนอื่นซะก่อน เค้าพูดกับดิฉันว่าเค้าเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่ามีอะไรให้บอกเค้าตรง ๆ แต่ดิฉันก็เลือกที่จะไม่บอกเค้า รู้ไหมว่าเค้าเสียใจแค่ไหน บอกตรง ๆ ว่าดิฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะคะ ที่ตัดสินใจบอกเค้าเรื่องลูกช้าไป ทำให้เค้ารู้จากคนอื่นก่อนจนได้ แต่ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะปิดบังเค้าจริง ๆ ค่ะ ตอนนี้ดิฉันบอกเค้าไปว่า แล้วแต่เค้าว่าเค้าจะตัดสินใจยังไง เค้าจะคบดิฉันต่อไป หรือจะเลิกคบก็ได้ แต่ดิฉันขอโทษจริง ๆ ที่ไม่ได้บอกเค้าด้วยตัวเอง <br> <br> ความจริงดิฉันก็เตรียมใจไว้บ้างแล้วค่ะ ว่าเรื่องของเราอาจจะเป็นไปไม่ได้ เพราะความแตกต่างหลาย ๆ อย่าง อย่างที่บอกไปแล้วข้างต้น แต่ก็ยังแอบหวังอยู่เล็ก ๆ ว่าจะสมหวัง ดิฉันก็ต้องยอมรับว่าดิฉันรักเค้าไปแล้ว และรักมากด้วย ถ้าเรื่องของดิฉันกับเค้าต้องจบลงจริง ๆ ดิฉันก็คงเสียใจไม่น้อย ตอนนี้สิ่งที่ดิฉันกังวลมีอยู่ 2 เรื่อง คือ <br> <br> 1. เค้าจะรับเรื่องที่ดิฉันมีลูกแล้ว ได้หรือเปล่า (เค้ายังไม่เคยบอกว่าเค้ารับได้หรือไม่ได้) <br> <br> 2. ถ้าเค้ารับได้ ทางบ้านเค้าล่ะจะรับดิฉันได้หรือไม่ พ่อแม่เค้าจะยอมให้ลูกชายมาคบกับคนที่ฐานะ และการศึกษาต่างกันมากมาย แถมมีลูกติดด้วยหรือไม่ <br> <br> ใครมีความเห็นกับเรื่องนี้ยังไง รบกวนขอคำชี้แนะด้วยค่ะ 11 May 2010 \| Post by : Mymelody210

ดิฉันเป็นผู้หญิงที่มีลูกแล้ว เป็นลูกสาว อายุ 6 ขวบ และดิฉันได้เลิกกับพ่อของลูกไปซักระยะแล้ว เป็นการเลิกกันด้วยดี แล้ววันนึง ดิฉันก็ได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง เค้าเข้ามาจีบดิฉัน คอยเอาใจใส่ดิฉันทุกอย่าง เราติดต่อกันประมาณ 6 เดือน โดยที่ดิฉันบอกเค้าตั้งแต่แรกเลยว่า ดิฉันไม่เหมาะกับเค้าหรอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฐานะ(บ้านเค้ารวยมาก) การศึกษา รวมถึงอะไรหลาย ๆ อย่าง และที่สำคัญดิฉันเคยมีสามีแล้ว แต่เค้าบอกว่า เค้าไม่แคร์ เค้าบอกดิฉันว่าอย่าคิดมากมันเป็นแค่อดีต และเรื่องฐานะก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ดิฉันไม่ได้บอกเึค้าว่าดิฉันมีลูก และเมื่อเดือนที่แล้วเค้าก็ทราบเรื่องลูกของดิฉันจากพี่ที่รู้จักกัน เค้าถามว่าทำไมดิฉันถึงไม่เคยบอกเค้าเรื่องลูก ดิฉันบอกเค้าไปว่า กำลังหาโอกาสบอกอยู่ เพราะตอนแรกดิฉันคิดว่าเค้าคงไม่ได้สนใจอะไรดิฉันมากมายนัก เลยคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องบอก เพราะวันนึงก็คงต้องห่างกันไป แต่พอยิ่งรู้จักกันก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองรักเค้าไปแล้ว และเมื่อมั่นใจว่าดิฉันรักเค้า ดิฉันจึงกำลังคิดหาทางหาโอกาสบอกเค้าอยู่ แต่เค้าก็มารู้จากคนอื่นซะก่อน เค้าพูดกับดิฉันว่าเค้าเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่ามีอะไรให้บอกเค้าตรง ๆ แต่ดิฉันก็เลือกที่จะไม่บอกเค้า รู้ไหมว่าเค้าเสียใจแค่ไหน บอกตรง ๆ ว่าดิฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะคะ ที่ตัดสินใจบอกเค้าเรื่องลูกช้าไป ทำให้เค้ารู้จากคนอื่นก่อนจนได้ แต่ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะปิดบังเค้าจริง ๆ ค่ะ ตอนนี้ดิฉันบอกเค้าไปว่า แล้วแต่เค้าว่าเค้าจะตัดสินใจยังไง เค้าจะคบดิฉันต่อไป หรือจะเลิกคบก็ได้ แต่ดิฉันขอโทษจริง ๆ ที่ไม่ได้บอกเค้าด้วยตัวเอง 
 
ความจริงดิฉันก็เตรียมใจไว้บ้างแล้วค่ะ ว่าเรื่องของเราอาจจะเป็นไปไม่ได้ เพราะความแตกต่างหลาย ๆ อย่าง อย่างที่บอกไปแล้วข้างต้น แต่ก็ยังแอบหวังอยู่เล็ก ๆ ว่าจะสมหวัง ดิฉันก็ต้องยอมรับว่าดิฉันรักเค้าไปแล้ว และรักมากด้วย ถ้าเรื่องของดิฉันกับเค้าต้องจบลงจริง ๆ ดิฉันก็คงเสียใจไม่น้อย ตอนนี้สิ่งที่ดิฉันกังวลมีอยู่ 2 เรื่อง คือ 
 
1. เค้าจะรับเรื่องที่ดิฉันมีลูกแล้ว ได้หรือเปล่า (เค้ายังไม่เคยบอกว่าเค้ารับได้หรือไม่ได้) 
 
2. ถ้าเค้ารับได้ ทางบ้านเค้าล่ะจะรับดิฉันได้หรือไม่ พ่อแม่เค้าจะยอมให้ลูกชายมาคบกับคนที่ฐานะ และการศึกษาต่างกันมากมาย แถมมีลูกติดด้วยหรือไม่ 
 
ใครมีความเห็นกับเรื่องนี้ยังไง รบกวนขอคำชี้แนะด้วยค่ะ

11 May 2010 | Post by : Mymelody210

Comment 7
ขอบคุณ คุณ thaimantruefriend มาก ๆ นะคะ สำหรับคำแนะนำ และกำลังใจดี ๆ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ 9 Jun 2010 \| Comment by : Mymelody210

Comment 7

ขอบคุณ คุณ thaimantruefriend มาก ๆ นะคะ สำหรับคำแนะนำ และกำลังใจดี ๆ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ

9 Jun 2010 | Comment by : Mymelody210

Comment 6
<img src="pic/b24.gif"> อย่าคิดมากครับ และอย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงมือสองมือสามเป็นสิ่งผิด ทีผู้ชายเป็นมือที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ไม่เห็นมีใครว่าประนามผมคิดว่า ผู้หญิงผู้ชายก็คนเหมือนๆกัน เขารับไม่ได้ที่เรามีลูกติดก็ไม่เป็นไรครับ แสดงว่าเขาไม่ได้รักเราจริงๆเพราะ แค่ระดับเพื่อนแท้ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสคุณสมบัติไว้มีสี่ประการเขายังไม่มีเลย เขาจะมาเป็นคู่แท้ของคุณได้ไง <br> 1มิตรแท้ ถ้าเรามีความทุกข์เพื่อนคนนั้นก็ทุกข์ด้วย อนาทรร้อนใจด้วย <br> 2ถ้าเรามีความสุข เขาก็สุขด้วย นี่เรามีความทุกข์ที่เรามีลูกติดไม่มีสามี และเรามีความสุขที่ได้อยู่กะลูกเขาก็ควรมีความสุขที่เห็นคุณมีความสุขไม่ใช่หรือครับ <br> 3เปิดเผยความลับของตนแก่เพื่อน อันนี้คุณอาจจะพลาดไปกับเขา <br> 4 ปกปิดความลับของเพื่อนเอาไว้ <br> การที่ยังไม่พบคนที่ใช่ก็ไม่ต้องเศร้าไปหรอกครับ เพราะถ้าอยู่ไปแล้วพบปัญหาตามมามากมาย กลายเป็นความทุกข์ใจเข้าไปอีกจะไปกันใหญ่ ตอนนี้ก็คงต้องทำใจนะครับ อยู่กะลูกมีลูกเป็นเพื่อน เมื่อคนที่ผ่านเข้ามาจงบอกทุกอย่างที่เป็นคุณจริงๆ ถ้าเขาใช่ก็คือใช่ครับ <img src="pic/b28.gif"> 27 May 2010 \| Comment by : thaimantruefriend

Comment 6

<img src="pic/b24.gif"> อย่าคิดมากครับ และอย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงมือสองมือสามเป็นสิ่งผิด ทีผู้ชายเป็นมือที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ไม่เห็นมีใครว่าประนามผมคิดว่า ผู้หญิงผู้ชายก็คนเหมือนๆกัน เขารับไม่ได้ที่เรามีลูกติดก็ไม่เป็นไรครับ แสดงว่าเขาไม่ได้รักเราจริงๆเพราะ แค่ระดับเพื่อนแท้ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสคุณสมบัติไว้มีสี่ประการเขายังไม่มีเลย เขาจะมาเป็นคู่แท้ของคุณได้ไง 
1มิตรแท้ ถ้าเรามีความทุกข์เพื่อนคนนั้นก็ทุกข์ด้วย อนาทรร้อนใจด้วย 
2ถ้าเรามีความสุข เขาก็สุขด้วย นี่เรามีความทุกข์ที่เรามีลูกติดไม่มีสามี และเรามีความสุขที่ได้อยู่กะลูกเขาก็ควรมีความสุขที่เห็นคุณมีความสุขไม่ใช่หรือครับ 
3เปิดเผยความลับของตนแก่เพื่อน อันนี้คุณอาจจะพลาดไปกับเขา 
4 ปกปิดความลับของเพื่อนเอาไว้ 
การที่ยังไม่พบคนที่ใช่ก็ไม่ต้องเศร้าไปหรอกครับ เพราะถ้าอยู่ไปแล้วพบปัญหาตามมามากมาย กลายเป็นความทุกข์ใจเข้าไปอีกจะไปกันใหญ่ ตอนนี้ก็คงต้องทำใจนะครับ อยู่กะลูกมีลูกเป็นเพื่อน เมื่อคนที่ผ่านเข้ามาจงบอกทุกอย่างที่เป็นคุณจริงๆ ถ้าเขาใช่ก็คือใช่ครับ <img src="pic/b28.gif">

27 May 2010 | Comment by : thaimantruefriend

Comment 5
ขอบคุณ คุณ snoooopy, คุณ escudo69, และคุณ belovely37 มากนะคะ ที่กรุณาเข้ามาให้คำปรึกษาค่ะ แต่ดิฉันคิดว่าเรื่องของดิฉันคงไม่มีทางเป็นไปได้แล้วล่ะค่ะ เพราะดิฉันรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปรงในตัวเค้า ถึงแม้ว่าสมัยนี้ผู้ชายจะรับเรื่องลูกติดได้มากกว่าสมัยก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายทุกคนจะรับได้จริงไหมคะ ยิ่งเมื่ออาทิตย์ที่แล้วทางบริษัทที่เค้าทำงานอยู่ได้ย้ายเค้าให้ไปช่วยงานที่ต่างจังหวัด2-3เดือน ก็ยิ่งทำให้เค้าตีตัวออกห่างจากดิฉันได้ง่ายขึ้นไปอีก ดิฉันโทรหาเค้าวันละหลาย ๆ รอบ เค้าก็ไม่รับสายเลย ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเค้าเป็นฝ่ายโทรหาดิฉันทุกวัน ดิฉันส่งsmsไปหา ส่งเมลล์ไปหาเค้าก็ไม่ตอบ การที่เค้าขาดการติดต่อไปเป็นอาทิตย์ ๆ แบบนี้ (ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็น) ก็คงพอจะเดาได้ไม่ยากว่าเค้าไม่ใช่ผู้ชายคนเดิมที่ดิฉันเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว และดิฉันเองก็คงไม่สามารถจะไปยื้อเค้าไว้ได้ สิ่งที่ทำได้ก็ก้มหน้ายอมรับความจริงที่เกิดขึ้น แต่บางครั้งดิฉันก็เคยแอบคิดนะคะ ว่าดิฉันผิดมากหรือที่เคยมีสามีและมีลูกแล้ว ดิฉันผิดมากหรือที่เป็นผู้หญิงมือสอง เป็นของมีตำหนิ เกิดเป็นผู้หญิงมันลำบากอย่างนี้นี่เองนะคะ 21 May 2010 \| Comment by : Mymelody210

Comment 5

ขอบคุณ คุณ snoooopy, คุณ escudo69, และคุณ belovely37 มากนะคะ ที่กรุณาเข้ามาให้คำปรึกษาค่ะ แต่ดิฉันคิดว่าเรื่องของดิฉันคงไม่มีทางเป็นไปได้แล้วล่ะค่ะ เพราะดิฉันรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปรงในตัวเค้า ถึงแม้ว่าสมัยนี้ผู้ชายจะรับเรื่องลูกติดได้มากกว่าสมัยก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายทุกคนจะรับได้จริงไหมคะ ยิ่งเมื่ออาทิตย์ที่แล้วทางบริษัทที่เค้าทำงานอยู่ได้ย้ายเค้าให้ไปช่วยงานที่ต่างจังหวัด2-3เดือน ก็ยิ่งทำให้เค้าตีตัวออกห่างจากดิฉันได้ง่ายขึ้นไปอีก ดิฉันโทรหาเค้าวันละหลาย ๆ รอบ เค้าก็ไม่รับสายเลย ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเค้าเป็นฝ่ายโทรหาดิฉันทุกวัน ดิฉันส่งsmsไปหา ส่งเมลล์ไปหาเค้าก็ไม่ตอบ การที่เค้าขาดการติดต่อไปเป็นอาทิตย์ ๆ แบบนี้ (ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็น) ก็คงพอจะเดาได้ไม่ยากว่าเค้าไม่ใช่ผู้ชายคนเดิมที่ดิฉันเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว และดิฉันเองก็คงไม่สามารถจะไปยื้อเค้าไว้ได้ สิ่งที่ทำได้ก็ก้มหน้ายอมรับความจริงที่เกิดขึ้น แต่บางครั้งดิฉันก็เคยแอบคิดนะคะ ว่าดิฉันผิดมากหรือที่เคยมีสามีและมีลูกแล้ว ดิฉันผิดมากหรือที่เป็นผู้หญิงมือสอง เป็นของมีตำหนิ เกิดเป็นผู้หญิงมันลำบากอย่างนี้นี่เองนะคะ

21 May 2010 | Comment by : Mymelody210

Comment 4
เคยคิดจะเลิกกับสามี เหมือนกันค่ะ แต่ติดตรงหลายอย่าง ที่สำคัญเรื่องลูกน่ะค่ะ เพราะคิดเสมอว่าผู้หญิงแต่งงานแล้วผู้ชายยังพอรับได้ แต่ถ้ามีลูกแล้วผู้ชาย90% จะต้องคิดดูก่อน แต่ก็มีนะคะที่ผู้ชายรับเรื่องเราได้และเลี้ยงลูกดีเหมือนว่าเป็นลูกตัวเอง ส่วนเรื่องพ่อแม่ผู้ชาย เราลองไปสัมผัส่ก่อนดีไหมคะ บางคนเค้าก็ไม่แคร์ค่ะ ถ้าลูกคุณอ้อนคนแก่เป็นนะคะ รับรองค่ะ มองเห็นเด็ตาดำๆแล้วอดสงสารไม่ได้จริงๆค่ะ 17 May 2010 \| Comment by : belovely37

Comment 4

เคยคิดจะเลิกกับสามี เหมือนกันค่ะ แต่ติดตรงหลายอย่าง ที่สำคัญเรื่องลูกน่ะค่ะ เพราะคิดเสมอว่าผู้หญิงแต่งงานแล้วผู้ชายยังพอรับได้ แต่ถ้ามีลูกแล้วผู้ชาย90% จะต้องคิดดูก่อน แต่ก็มีนะคะที่ผู้ชายรับเรื่องเราได้และเลี้ยงลูกดีเหมือนว่าเป็นลูกตัวเอง ส่วนเรื่องพ่อแม่ผู้ชาย เราลองไปสัมผัส่ก่อนดีไหมคะ บางคนเค้าก็ไม่แคร์ค่ะ ถ้าลูกคุณอ้อนคนแก่เป็นนะคะ รับรองค่ะ มองเห็นเด็ตาดำๆแล้วอดสงสารไม่ได้จริงๆค่ะ

17 May 2010 | Comment by : belovely37

Comment 3
ชีวิตคล้ายๆ คนที่ผมรู้จักคนนึงเลย โดยคู่นั้นผู้ชายรู้ว่าผู้หญิงเคยมีลูกมาแล้วแต่ก็ไม่แคร์เพราะรักจริง ส่วนเรื่องลูกติดฝ่ายชายก็บอกพ่อแม่ว่าเด็กคนนั้นเป็นน้องของผู้หญิง (ลูกหลง - เลยดูอายุห่างกันมากหน่อย) ส่วนเรื่องฐานะที่แตกต่างกันมากผู้หญิงคนนั้นพยายามชนะใจพ่อแม่ฝ่ายชายโดยการเข้าช่วยงานทุกรูปแบบที่ทำได้ โดยพ่อแม่ฝ่ายชายก็ชื่นชมในความขยัน แต่คู่นี้เขาไม่ได้แต่งงานกันนะครับ ฝ่ายชายรับเข้าไปอยู่ในบ้านเลยสัก 5 ปีได้แล้ว ปัจจุบันมีลูกด้วยกันแล้ว 1 คน โดยลูกติดของฝ่ายหญิงก็มาอยู่ด้วยในฐานะน้องสาว <br> <br> สรุป - ผมมองว่าถ้ามีความรักกันจริง ฝ่ายชายก็น่าจะรับเรื่องลูกติดได้ ปัญหาคือทำยังไงให้พ่อแม่ฝ่ายชายยอมรับมากกว่าครับซึ่งคงต้องปรึกษากับฝ่ายชาย ยังไงก็ขอให้โชคดีเหมือนคู่ที่ผมพูดถึงนะครับ 13 May 2010 \| Comment by : escudo69

Comment 3

ชีวิตคล้ายๆ คนที่ผมรู้จักคนนึงเลย โดยคู่นั้นผู้ชายรู้ว่าผู้หญิงเคยมีลูกมาแล้วแต่ก็ไม่แคร์เพราะรักจริง ส่วนเรื่องลูกติดฝ่ายชายก็บอกพ่อแม่ว่าเด็กคนนั้นเป็นน้องของผู้หญิง (ลูกหลง - เลยดูอายุห่างกันมากหน่อย) ส่วนเรื่องฐานะที่แตกต่างกันมากผู้หญิงคนนั้นพยายามชนะใจพ่อแม่ฝ่ายชายโดยการเข้าช่วยงานทุกรูปแบบที่ทำได้ โดยพ่อแม่ฝ่ายชายก็ชื่นชมในความขยัน แต่คู่นี้เขาไม่ได้แต่งงานกันนะครับ ฝ่ายชายรับเข้าไปอยู่ในบ้านเลยสัก 5 ปีได้แล้ว ปัจจุบันมีลูกด้วยกันแล้ว 1 คน โดยลูกติดของฝ่ายหญิงก็มาอยู่ด้วยในฐานะน้องสาว 
 
สรุป - ผมมองว่าถ้ามีความรักกันจริง ฝ่ายชายก็น่าจะรับเรื่องลูกติดได้ ปัญหาคือทำยังไงให้พ่อแม่ฝ่ายชายยอมรับมากกว่าครับซึ่งคงต้องปรึกษากับฝ่ายชาย ยังไงก็ขอให้โชคดีเหมือนคู่ที่ผมพูดถึงนะครับ

13 May 2010 | Comment by : escudo69

Comment 2
คุณ snoooopy คะ <br> <br> ดิฉันก็ยังไม่เคยเจอพ่อแม่เค้าเลยค่ะ เค้าเป็นคนภูเก็ต ส่วนดิฉันเป็นคนเชียงใหม่ เราต่างก็ไปทำงานที่กรุงเทพฯ ก็เลยได้เจอกันค่ะ และด้วยเหตุผลที่ดิฉันยังไม่เคยเจอพ่อแม่เค้าเนี่ยแหละค่ะ ที่ทำให้ดิฉันกังวลว่าเค้าจะยอมให้ลูกชายเค้า ซึ่งมีฐานะร่ำรวย มาคบกับคนจน ๆ แถมมีลูกติดอย่างดิฉันหรือเปล่า 12 May 2010 \| Comment by : Mymelody210

Comment 2

คุณ snoooopy คะ 
 
ดิฉันก็ยังไม่เคยเจอพ่อแม่เค้าเลยค่ะ เค้าเป็นคนภูเก็ต ส่วนดิฉันเป็นคนเชียงใหม่ เราต่างก็ไปทำงานที่กรุงเทพฯ ก็เลยได้เจอกันค่ะ และด้วยเหตุผลที่ดิฉันยังไม่เคยเจอพ่อแม่เค้าเนี่ยแหละค่ะ ที่ทำให้ดิฉันกังวลว่าเค้าจะยอมให้ลูกชายเค้า ซึ่งมีฐานะร่ำรวย มาคบกับคนจน ๆ แถมมีลูกติดอย่างดิฉันหรือเปล่า

12 May 2010 | Comment by : Mymelody210

Comment 1
ความรักคือ ทุกอย่างครับ <br> <br> ผมว่า การมีคู่ชีวิตนี้แหละครับ ดีที่สุดในชีวิตเราแล้ว <br> คุนน่าจะ บอกเค้าแต่แรกครับ ท่าบอกแล้วเค้ายังคุยกับคุนดีๆอยู่ นั่นแหละคือคู่ชีวิตคุนเลยครับ <br> <br> เค้ารับได้ เค้าไม่แคร์เหมือนที่พูดจริงๆ ครับ ท่าเค้ายังคุยกับคุนเหมือนตอนแรก <br> แล้วเค้าเสียใจมากหรือป่าวครับ ที่รู้ว่าคุนมีลูกแล้ว ท่าเสียใจมากอาจหมายถึงเค้ารับไม่ได้นะครับ <br> รับไม่ได้ มี2ความหมายนะครับ คือ รับไม่ได้ที่โกหก หรือ รับไม่ได้ที่มีลูก <br> <br> คุนลองคุยกับเคาไปเรื่อยเถอะครับ คุนจะเข้าใจเอง <br> พ่อแม่เขาเป็นไงหรอครับ . . . <br> แต่พ่อแม่มาเลือกคู่ให้ลูกไม่ได้หลอกครับ เนื้อคู่คือสิ่งที่บังเอิน ต้องเจอกันเอง <br> สมัยนี้ คงน้อยมากครับ ที่จะคลุมถุงชน นอกจากจะหาไม่ได้จริงๆถึงจะคุม <br> <br> ทำนิสัยตัวเองให้ดีที่สุดก็พอละครับ <br> ใจเย็นๆ แค่นี้เค้าก็รับได้แล๊วๆ ^^' <br> <br> <br> สู้ๆครับ <br> ผมตอบคำถามคุนไม่ได้นะครับ ขอโทษด้วย <br> เพราะผมก็ไม่รู้ใจเขาเหมือนกัน <br> 12 May 2010 \| Comment by : snoooopy

Comment 1

ความรักคือ ทุกอย่างครับ 
 
ผมว่า การมีคู่ชีวิตนี้แหละครับ ดีที่สุดในชีวิตเราแล้ว 
คุนน่าจะ บอกเค้าแต่แรกครับ ท่าบอกแล้วเค้ายังคุยกับคุนดีๆอยู่ นั่นแหละคือคู่ชีวิตคุนเลยครับ 
 
เค้ารับได้ เค้าไม่แคร์เหมือนที่พูดจริงๆ ครับ ท่าเค้ายังคุยกับคุนเหมือนตอนแรก 
แล้วเค้าเสียใจมากหรือป่าวครับ ที่รู้ว่าคุนมีลูกแล้ว ท่าเสียใจมากอาจหมายถึงเค้ารับไม่ได้นะครับ 
รับไม่ได้ มี2ความหมายนะครับ คือ รับไม่ได้ที่โกหก หรือ รับไม่ได้ที่มีลูก 
 
คุนลองคุยกับเคาไปเรื่อยเถอะครับ คุนจะเข้าใจเอง 
พ่อแม่เขาเป็นไงหรอครับ . . . 
แต่พ่อแม่มาเลือกคู่ให้ลูกไม่ได้หลอกครับ เนื้อคู่คือสิ่งที่บังเอิน ต้องเจอกันเอง 
สมัยนี้ คงน้อยมากครับ ที่จะคลุมถุงชน นอกจากจะหาไม่ได้จริงๆถึงจะคุม 
 
ทำนิสัยตัวเองให้ดีที่สุดก็พอละครับ 
ใจเย็นๆ แค่นี้เค้าก็รับได้แล๊วๆ ^^' 
 
 
สู้ๆครับ 
ผมตอบคำถามคุนไม่ได้นะครับ ขอโทษด้วย 
เพราะผมก็ไม่รู้ใจเขาเหมือนกัน

12 May 2010 | Comment by : snoooopy

Beauty Clinic

เมโกะ คลินิก Meko Clinic

View Details

Webboard
17 สุดยอดคุณพ่อทำได้ทุกอย่างเพื่อลูกสาว 1 Jan 1970 โพสต์โดย: bloomingtulip 16
จะดึงรูปก็รีบดึง..เวปจะล่มแล้วเนี่ย 1 Jan 1970 โพสต์โดย: StrawberryPinky 0
***สินค้าลดน้ำหนัก ผิวขาว ขายดีอันดับ1 มี อย.รับรอง เข้ามาดูกัลจ้า 1 Jan 1970 โพสต์โดย: AgooDJoB31 0
โรค Attention Deficit Trait 1 Jan 1970 โพสต์โดย: PangRum 2
รีวิว : ได้ชุดชั้นฟรีในมาจาก la senza 1 Jan 1970 โพสต์โดย: jinjoo 0
ดูคลิปนี้กันรึยัง!? น้องฐา สาธิตตรวจเต้า (น่ารักๆ) 1 Jan 1970 โพสต์โดย: buzz7749 0
shopping วันหยุด 1 Jan 1970 โพสต์โดย: jpoonarge 0
น้ำยาอุทัยทิพย์ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: nooknik 9

Webboard