Talk About Women

ถ่าย ยาก อ่าค่ะ ทำยังไงดี บอกวิธีที่ ขี้ง่ายๆ แบบไว ๆ หรือ ใช้ เวลา เท่าไหร่ ช่วยแนะนำที ค่ะ
ไม่ค่อยจะปวดท้องอึ ชอบ ปวดท้อง ในเวลา เรียน สอบ ช่วยแนะนำ ที มี วิธี ไหน บ้าง แนะนำ ทีนะค่ะ

18 Feb 2011  |  Post by : sexzeed
Comment 3
โครงการ w.a.s.h. ของโพรเทคส์ 1 Like = 1บาท สำหรับสร้างอ่างล้างมือให้โรงเรียน ดีมากๆ ช่วยกันคลิกหน่อยค่ะ <br> <a href="http://www.facebook.com/nuttc#!/ProtexThailand?sk=app_125060207565984" target="_blank">http://www.facebook.com/nuttc#!/ProtexThailand?sk=app_125060207565984</a><br>


3 Mar 2011  |  Comment by : jean33
Comment 2
อู้หู...ชัดเจนมากมาย <br>
แต่ยังขาดแบบคนที่เรารู้จักเขาเป็นก็เลยขอต่ออีกนิด <br>
<br>
คือเพื่อนเรามันชอบ เปรี้ยวจัด หวานจัด และเผ็ดจัด มาตั้งแต่เด็ก <br>
ตอนนี้ก็เหมือนว่า ลำไส้มันดื้อแล้วอะ...คิดดูละกัน ไม่อึ๊เป็นเดือน ทำไปได้ <br>
<br>
แต่พอบอกให้ลดการทานรสจัด ก็ดื้ออีก ฮ่วย! <br>
บอกให้ดื่มน้ำ 1-2 แก้วหลังจากตื่นนอนทันที ก็ไม่เอาอีก ฮ่วย! <br>
แล้วมันจะปรึกษาคนอื่นทำไม!! งง! <br>
<br>
คือ ก่อนที่จะหาทางแก้..บางที ทางแก้ มันก็อยู่ที่สาเหตุ <br>
แล้วใช้วิธีที่ ใครๆ ก็แนะนำทั้งหลายนั่นช่วยด้วยจะดีมากๆ (เชื่อเถอะนะๆๆๆ)

20 Feb 2011  |  Comment by : the_washer
Comment 1
วิธีป้องกันท้องผูกได้แก่ <br>
<br>
(1). เปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ, เปลี่ยนขนมปังขาวเป็นขนมปังโฮลวีท (เติมรำ), หรือเติมอาหารที่มีเส้นใย (ไฟเบอร์) เสริม เช่น จมูกข้าว รำข้าว <br>
<br>
ไม่กินอาหารกลุ่มธัญพืชขัดสี เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว อาหารทำจากแป้ง ฯลฯ, ไข่, เนยมากเกินไป <br>
<br>
เมืองไทยเราน่าจะทำการวิจัยและพัฒนารำข้าว-จมูกข้าว ทำให้อร่อย และใช้เป็นอาหารเสริม เช่น ป้องกันท้องผูก ป้องกันโรคอ้วน ช่วยให้อิ่มนาน ฯลฯ) <br>
<br>
(2). กินผัก หรือน้ำผักที่ปั่นรวมกาก (smoothie - สมูตตี) <br>
<br>
น้ำผักส่วนใหญ่มีน้ำตาลและแป้งน้อยกว่าน้ำผลไม้ <br>
<br>
(3). กินผลไม้ทั้งผล เช่น ถ้ากินแอปเปิ้ล... ควรกินเปลือกด้วย ฯลฯ <br>
<br>
หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผลไม้ที่กรองกากทิ้ง (น้ำผลไม้ที่กรองกากทิ้งทำให้อิ่มได้น้อยกว่าผลไม้ทั้งผล เพิ่มเสี่ยงอ้วน), ควรดื่มน้ำผลไม้ที่ปั่นรวมกาก และไม่เติมน้ำตาลแทน <br>
<br>
(4). กินถั่วหรือนัท (nut = เมล็ดพืชเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ ฯลฯ) <br>
<br>
(5). ดื่มน้ำ 2 ลิตร/วัน, ดื่มเพิ่มถ้าเสียเหงื่อ หิวน้ำ ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม หรือปัสสาวะน้อยกว่า 2 ชั่วโมง/ครั้งในช่วงกลางวัน (คนเราปัสสาวะน้อยลงในช่วงกลางคืน) <br>
<br>
(6). ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ อย่างน้อย 30 นาที/วัน โดยอาจทำแบบสะสมเวลาได้ เช่น เดินเร็ว 3 ยกๆ ละ 10 นาที, ควรขึ้นลงบันไดตามโอกาส รวมเวลากันให้ได้ 4 นาที/วัน เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อส่วนเอวและขา <br>
<br>
การออกกำลังแบบหนักหน่อย เช่น วิ่ง ฯลฯ มักจะป้องกันท้องผูกได้ดีกว่าการออกกำลังแบบเบาๆ เช่น เดิน ฯลฯ, ออกกำลังนานหน่อยป้องกันท้องผูกได้ดีกว่าออกกำลังไม่นาน <br>
<br>
(7). ดื่มน้ำหลังตื่นนอนเช้า 2 แก้ว เพื่อช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่บีบตัว และให้เวลากับตัวเองสำหรับการถ่ายอุจจาระแบบไม่รีบเร่งหลังอาหารเช้า <br>
<br>
ช่วงเวลาที่ลำไส้ใหญ่หดตัวได้ดี คือ หลังดื่มน้ำ 2 แก้วตอนเช้า หรือหลังอาหารเช้าภายใน 30 นาที <br>
<br>
การศึกษานี้พบว่า ที่มีโรคท้องผูกหรือถ่ายยาก มีความเครียดทั้งทางกายและใจสูงกว่าทั่วไป เช่น เครียดง่าย ปวดอุจจาระมากหรือบ่อยขึ้น ถ่ายออกครั้งละน้อยบ่อยขึ้น ความเชื่อมั่นในตัวเองต่ำลง ฯลฯ และมีทักษะในการเข้าสังคมน้อยลง <br>
<br>
(8). ถ้าถ่ายยาก... การกินลูกพรุนมีส่วนช่วยให้ถ่ายได้ง่ายขึ้น <br>
<br>
(9). ถ้าถ่ายยาก... ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ถ่ายยาก เช่น ไม่ดื่มชาเกิน 2 ถ้วย/วัน, ชงชาด้วยน้ำร้อนจัด 1-2 นาที ไม่แช่ชาในน้ำร้อนนาน (เพื่อลดสารแทนนิน และกาเฟอีน) ฯลฯ <br>
<br>
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หนัก เนื่องจากจะทำให้ปัสสาวะเพิ่มขึ้น เสียน้ำเพิ่มขึ้น <br>
<br>
(10). ถ้าถ่ายยาก... ควรเพิ่มเส้นใยหรือไฟเบอร์ เช่น กินโยเกิร์ตไขมันต่ำ-น้ำตาลต่ำ-เสริมเส้นใย ฯลฯ และเมื่อเสริมแล้ว... ควรดื่มน้ำเพิ่มให้มากพอในช่วงกลางวันด้วย (ถ้าดื่มมากกลางคืน อาจทำให้ต้องตื่นมาปัสสาวะกลางดึก หรือฝันร้าย) <br>
<br>
ฝรั่งมีไฟเบอร์ที่ใช้ช่วยระบาย เช่น เมตามิวซิล ฯลฯ... เมืองไทยเราควรวิจัยและพัฒนาอาหารเสริมไฟเบอร์หรือเส้นใยจากพืชให้ได้ เนื่องจากจะช่วยป้องกันโรคได้หลายอย่าง <br>
<br>
(11). อาหารและยาบางอย่างอาจทำให้ถ่ายยาก เช่น แคลเซียมเม็ด ฯลฯ, ควรลองแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ วันละหลายมื้อ เช่น เปลี่ยนจากการกินเม็ดใหญ่ครั้งเดียว เป็นมื้อละครึ่งเม็ด-สองมื้อ <br>
<br>
การดื่มนมไขมันต่ำ หรือนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียมมักจะทำให้ท้องผูกน้อยกว่าแคลเซียมเม็ด เนื่องจากมีแร่ธาตุหลายชนิดมากกว่า และแคลเซียมจากนมดูดซึมได้ดีกว่า <br>
<br>
การดื่มนมเกิน 1-2 แก้ว/วันอาจทำให้ถ่ายยากได้ในคนบางคน (ไม่ใช่ทุกคน) <br>
<br>
(12). อย่านั่งนานเกิน 2 ชั่วโมง/ครั้ง... การอยู่นิ่งๆ ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ไม่ดี และทำให้กระดูกอ่อนในข้อต่อขาดอาหาร <br>
<br>
การลุกขึ้นเดินไปเดินมา เข้าห้องน้ำ ขึ้นลงบันได 1 ขั้นทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และทำให้สารอาหารซึมซาบเข้าไปเลี้ยงกระดูกอ่อนในข้อต่อดีขึ้น <br>
<br>
เนื่องจากกระดูกอ่อนไม่มีเลือดไปเลี้ยงโดยตรง อาศัยน้ำไขข้อที่ซึมออกมาเมื่อมีแรงกด และซึมเข้าเมื่อแรงกดลดลงคล้ายๆ กับฟองน้ำล้างจานที่ซับน้ำ-คลายน้ำได้ตามจังหวะการบีบ-คลายของมือ

19 Feb 2011  |  Comment by : 153153123

Comment



Insurance

Webboard
โพสต์โดย: nongploy-ploy 2
โพสต์โดย: โรงพยาบาลเอเซีย 0
โพสต์โดย: jubjeab 5
โพสต์โดย: Theeratorn 0
โพสต์โดย: pattirat 0
โพสต์โดย: kej-daw 9
โพสต์โดย: แก้ว พรทิวา 20
โพสต์โดย: Babi 0

Interest Product