เครื่องฟอกอากาศและต้นไม้กรองฝุ่น คู่หูจัดการฝุ่นของบ้าน

Talk About Women

เครื่องฟอกอากาศและต้นไม้กรองฝุ่น คู่หูจัดการฝุ่นของบ้าน
ปัญหาเรื่องฝุ่นจิ๋ว หรือ PM 2.5 ยังเป็นเรื่องที่น่ากังวลไม่ต่างกับโควิด-19 เพราะแม้เราจะรู้จักฝุ่นนี้มานานแล้วแต่ก็ยังหาวิธีแก้ปัญหาไม่ได้ ทำได้แค่เพียงหาวิธีการในการป้องกันตัวเองให้รอดปลอดภัยเท่านั้น นวัตกรรมที่เกิดขึ้นมามีทั้งแผ่นกรองฝุ่น หน้ากากกันฝุ่น และยังรวมไปถึงเครื่องฟอกอากาศด้วย เรียกว่าเป็นวิวัฒนาการในการป้องกันตัวเองของมนุษย์เลยก็ว่าได้ เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาประสิทธิภาพไปไกลมาก คือสามารถดูดกรองฝุ่นในอัตราที่สูงขึ้น ในขณะที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่น้อยลง เสียงการทำงานของเครื่องฟอกอากาศในบ้านที่น้อยลงทำให้การติดตั้งในบ้านไม่ทำให้ผู้อาศัยเกิดความรำคาญมากเท่าสมัยก่อนแล้ว สำหรับที่อยู่อาศัยอย่างบ้านที่ควรมีการปรับสภาพห้องให้สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กออกจากอากาศให้มากที่สุดเพราะเป็นพื้นที่ที่ควรมีความปลอดภัยสูงสุด คนส่วนใหญ่นั้นมีการใช้ชีวิตราวครึ่งหนึ่งของชีวิตนั้นอยู่ที่บ้าน การปรับให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดฝุ่นจึงควรทำอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การทำให้ฝุ่นไม่สามารถผ่านเข้ามาได้ง่ายด้วยการปิดกั้นช่องว่าง รูโหว่ต่าง ๆ ที่เป็นรอยต่อระหว่างภายในและภายนอกบ้าน ปิดตามรูรั่วเหล่านั้นด้วยพลาสติก ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในบ้านโดยเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง หากห้องมีขนาดใหญ่อาจทำการเพิ่มปริมาณเครื่องฟอกอากาศให้เพียงพอกับการฟอก ในการทำงานควรเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ภายในบ้านหรือห้องนั้นมีแรงดันอากาศที่สูง เผื่อว่าตามบริเวณรอยรั่วที่คุณปิดนั้นปิดได้ไม่หมด หรือมีบางจุดที่ยังมีช่องโหว่อยู่ ฝุ่นที่จะเข้ามาภายในห้องนั้นจะถูกอากาศภายในห้องที่มีแรงดันสูงกว่าด้านนอก ดันฝุ่นนั้นออกไป การตรวจสอบว่าห้องที่คุณปรับนั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่ ให้ใช้เครื่องวัดฝุ่น PM 2.5 ตรวจวัดในขณะที่ทำการเปิดระบบ ปริมาณฝุ่นควรต่ำกว่า 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จึงจะเรียกปลอดภัย ซึ่งตามปกติจะต่ำกว่านี้อยู่แล้ว หลังจากคุณออกบ้านไปทำการปิดระบบฟอกอากาศและกลับเข้ามาค่าปริมาณฝุ่นไม่ควรจะเพิ่มสูงมากนัก ถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าคุณได้ทำการปรับห้องให้ปลอดฝุ่นได้ดีแล้ว หากยังก็ลองหารอยรั่วเพื่อทำการอุดให้เรียบร้อย นอกจากการใช้เครื่องฟอกอากาศแล้วอีกวิธีหนึ่งที่นำมาใช้ร่วมกันคือการปลูกต้นไม้กรองฝุ่นไว้ภายในบ้านด้วย เช่น ต้นเดหลี ลิ้นมังกรหรือพลูด่าง คุณไม่ต้องกังวลว่าต้นไม้จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจนเป็นอันตราย แต่ต้นไม้กรองฝุ่นเหล่านี้จะมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำ ใบเป็นมันเงา เพราะเมื่อมีฝุ่นมาจับแล้วมีการคายน้ำ ฝุ่นนั้นจะถูกล้างลงไปบริเวณโคนต้น รากก็จะทำการดูดน้ำที่ปนกับฝุ่นนั้นไปเลี้ยงต้นไม้ สารบางชนิดที่ปนเปื้อนมากับฝุ่นเป็นแร่ธาตุให้พืชได้ด้วย แต่ก็ควรวางไว้ในบริเวณที่โดนแสงเพื่อให้พืชเกิดการสังเคราะห์แสงได้ด้วย ใช้ทั้งเครื่องฟอกอากาศในบ้านร่วมกับต้นไม้กรองฝุ่นเท่านี้แหละห้องคุณก็จะปลอดฝุ่น ปลอดภัย อาศัยได้อย่างหมดกังวลแล้ว ติดตามความรู้ดีๆ ได้ที่ : https://www.camarciothai.com/article/15 14 Oct 2020 \| Post by : dumhdurum

เครื่องฟอกอากาศและต้นไม้กรองฝุ่น คู่หูจัดการฝุ่นของบ้าน

ปัญหาเรื่องฝุ่นจิ๋ว หรือ PM 2.5 ยังเป็นเรื่องที่น่ากังวลไม่ต่างกับโควิด-19 เพราะแม้เราจะรู้จักฝุ่นนี้มานานแล้วแต่ก็ยังหาวิธีแก้ปัญหาไม่ได้ ทำได้แค่เพียงหาวิธีการในการป้องกันตัวเองให้รอดปลอดภัยเท่านั้น นวัตกรรมที่เกิดขึ้นมามีทั้งแผ่นกรองฝุ่น หน้ากากกันฝุ่น และยังรวมไปถึงเครื่องฟอกอากาศด้วย เรียกว่าเป็นวิวัฒนาการในการป้องกันตัวเองของมนุษย์เลยก็ว่าได้ เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาประสิทธิภาพไปไกลมาก คือสามารถดูดกรองฝุ่นในอัตราที่สูงขึ้น ในขณะที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่น้อยลง เสียงการทำงานของเครื่องฟอกอากาศในบ้านที่น้อยลงทำให้การติดตั้งในบ้านไม่ทำให้ผู้อาศัยเกิดความรำคาญมากเท่าสมัยก่อนแล้ว สำหรับที่อยู่อาศัยอย่างบ้านที่ควรมีการปรับสภาพห้องให้สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กออกจากอากาศให้มากที่สุดเพราะเป็นพื้นที่ที่ควรมีความปลอดภัยสูงสุด คนส่วนใหญ่นั้นมีการใช้ชีวิตราวครึ่งหนึ่งของชีวิตนั้นอยู่ที่บ้าน การปรับให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดฝุ่นจึงควรทำอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การทำให้ฝุ่นไม่สามารถผ่านเข้ามาได้ง่ายด้วยการปิดกั้นช่องว่าง รูโหว่ต่าง ๆ ที่เป็นรอยต่อระหว่างภายในและภายนอกบ้าน ปิดตามรูรั่วเหล่านั้นด้วยพลาสติก ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในบ้านโดยเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง หากห้องมีขนาดใหญ่อาจทำการเพิ่มปริมาณเครื่องฟอกอากาศให้เพียงพอกับการฟอก ในการทำงานควรเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ภายในบ้านหรือห้องนั้นมีแรงดันอากาศที่สูง เผื่อว่าตามบริเวณรอยรั่วที่คุณปิดนั้นปิดได้ไม่หมด หรือมีบางจุดที่ยังมีช่องโหว่อยู่ ฝุ่นที่จะเข้ามาภายในห้องนั้นจะถูกอากาศภายในห้องที่มีแรงดันสูงกว่าด้านนอก ดันฝุ่นนั้นออกไป การตรวจสอบว่าห้องที่คุณปรับนั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่ ให้ใช้เครื่องวัดฝุ่น PM 2.5 ตรวจวัดในขณะที่ทำการเปิดระบบ ปริมาณฝุ่นควรต่ำกว่า 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จึงจะเรียกปลอดภัย ซึ่งตามปกติจะต่ำกว่านี้อยู่แล้ว หลังจากคุณออกบ้านไปทำการปิดระบบฟอกอากาศและกลับเข้ามาค่าปริมาณฝุ่นไม่ควรจะเพิ่มสูงมากนัก ถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าคุณได้ทำการปรับห้องให้ปลอดฝุ่นได้ดีแล้ว หากยังก็ลองหารอยรั่วเพื่อทำการอุดให้เรียบร้อย นอกจากการใช้เครื่องฟอกอากาศแล้วอีกวิธีหนึ่งที่นำมาใช้ร่วมกันคือการปลูกต้นไม้กรองฝุ่นไว้ภายในบ้านด้วย เช่น ต้นเดหลี ลิ้นมังกรหรือพลูด่าง คุณไม่ต้องกังวลว่าต้นไม้จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจนเป็นอันตราย แต่ต้นไม้กรองฝุ่นเหล่านี้จะมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำ ใบเป็นมันเงา เพราะเมื่อมีฝุ่นมาจับแล้วมีการคายน้ำ ฝุ่นนั้นจะถูกล้างลงไปบริเวณโคนต้น รากก็จะทำการดูดน้ำที่ปนกับฝุ่นนั้นไปเลี้ยงต้นไม้ สารบางชนิดที่ปนเปื้อนมากับฝุ่นเป็นแร่ธาตุให้พืชได้ด้วย แต่ก็ควรวางไว้ในบริเวณที่โดนแสงเพื่อให้พืชเกิดการสังเคราะห์แสงได้ด้วย ใช้ทั้งเครื่องฟอกอากาศในบ้านร่วมกับต้นไม้กรองฝุ่นเท่านี้แหละห้องคุณก็จะปลอดฝุ่น ปลอดภัย อาศัยได้อย่างหมดกังวลแล้ว ติดตามความรู้ดีๆ ได้ที่ : https://www.camarciothai.com/article/15

14 Oct 2020 | Post by : dumhdurum

Comment

คุณยังไม่ได้ทำการ Login ไม่สามารถ Comment ได้ค่ะ
กรุณา Login ให้เรียบร้อย

Lasted Board
ผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก 08 Oct 2024
สอบถามค่ะ เพื่อนๆมีวิตามิน หรือ ตัวช่วยตัวไหนช่วยเรื่องชะลอวัยได้บ้างคะ นอกจากแอสต้า 02 Sep 2024
กระเป๋าเดินทางล้อลากที่เหมาะกับการถือขึ้นเครื่อง ใครมีรุ่นไหนแนะนำบ้างคะ ? 28 Aug 2024
ช่วยแนะนำครีมย้อมผม สีสวยติดทนนาน ราคาไม่แพง ปิดผมขาวได้ดี กลิ่นไม่ฉุนให้หน่อยค่ะ 23 Aug 2024
ดูแลสุขภาพฟันให้มีสุขภาพดีเป็นเรื่องสำคัญ 21 Aug 2024
beautynovat รับพรีออเดอร์เครื่องสำอางแบรนด์เนมของแท้จากต่างประเทศ 27 Jul 2024