เมื่อลูกวัยรุ่นขอให้แม่ซื้อยาคุมกำเนิดให้

เมื่อลูกวัยรุ่นขอให้แม่ซื้อยาคุมกำเนิดให้
"เมื่อลูกวัยรุ่นขอให้แม่ซื้อยาคุมกำเนิดให้" <br> พ.ญ.ชัญวลี ศรีสุโข(chanwaleesrisukho@hotmail.com) <br> <br> "คุณหมอคะ ลูกสาวดิฉันอายุ 14 ปี ถามเรื่องการใช้ยาคุมกำเนิด และขอให้แม่ซื้อยาคุมกำเนิดให้ ดิฉันไม่สบายใจเลยค่ะ กลัวลูกจะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร" คุณรตี (นามสมมติ) พิจิตร <br> <br> ฟังคำถามของคุณรตีแล้ว ดิฉันมาคิดดูว่า ถ้าลูกสาวอายุ 14 บอกแม่ของตนแบบนี้เมื่อยี่สิบปีก่อน อาจจะถูกตีตายไปแล้วก็ได้ แต่สมัยนี้ ต้องยอมรับว่าสังคมเปลี่ยนไปมาก การที่ลูกบอกมาเช่นนั้น คนเป็นแม่ต้องยอมรับความจริงและพยายามมองโลกในแง่ดีไว้ก่อน <br> <br> การมองโลกในแง่ดีนั้นได้แก่ ลูกอาจจะถามความรู้ทางวิชาการเรื่องยาคุมกำเนิดและซื้อมาดูก็ได้ หรือบางทีเพื่อนๆ กินยาคุมเพื่อรักษาสิว ลูกก็อาจจะอยากกินบ้างก็เป็นไปได้ และถึงแม้จะซื้อมาใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ก็นับว่ายังดีกว่าปล่อยให้ตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม และแง่ดีอีกอย่างคือ ลูกสาวของคุณรตีน่าจะสนิทสนม หรือให้ความไว้วางใจแม่ (คือคุณรตี) มากพอสมควร จึงไม่มีความลับปกปิดกัน ซึ่งเป็นเรื่องดีและหายาก เพราะวัยรุ่นในปัจจุบันต่างมีสังคมของตนเอง และเชื่อเพื่อนฝูงมากกว่าพ่อแม่ทั้งนั้น <br> <br> การเชื่อเพื่อนฝูงของวัยรุ่นนั้น ทำให้มีค่านิยมหรือความเชื่อที่ผิดๆ เช่นเชื่อว่า เสียตัวครั้งเดียวไม่ท้อง (ความจริงคือ มีเพศสัมพันธ์ครั้งเดียว หากบังเอิญเป็นช่วงไข่ตก และเชื้ออสุจิฝ่ายชายแข็งแรง ก็ตั้งท้องได้) กินยาคุม 1 เม็ด ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ (ความจริงคือ ต้องกินยาคุมกำเนิดทุกวันวันละ 1 เม็ด และกินให้ตรงเวลาเดิม แม้ไม่มีเพศสัมพันธ์ก็ต้องกินให้หมดแผง) คุมกำเนิดโดยการหลั่งนอกปลอดภัยไม่ท้องร้อยเปอร์เซ็นต์ (ความจริงคือ การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ฝ่ายชายต้องมีความเชี่ยวชาญที่จะกลั้นการหลั่ง และบางทีก่อนหลั่งน้ำอสุจิ ก็มีตัวอสุจิมาแปดเปื้อนกับน้ำหล่อลื่นที่ปลายอวัยวะเพศแล้ว จึงไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์) วัยรุ่นบางคนก็เชื่อว่าจะท้องก็ต่อเมื่อฝ่ายหญิงถึงจุดสุดยอดเท่านั้น (ความจริงคือไม่ว่าฝ่ายหญิงจะถึงจุดสุดยอดหรือไม่ก็ตามหากฝ่ายชายมีการหลั่งน้ำเชื้อ ฝ่ายหญิงมีการตกไข่ ฝ่ายหญิงก็สามารถตั้งครรภ์ได้)ฯลฯ <br> <br> อย่างไรก็ตาม เมื่ออธิบายลูกถึงเรื่องการคุมกำเนิดโดยยาคุมกำเนิด หากลูกยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็เป็นสิทธิของคนเป็นแม่ที่จะสอนสั่งว่า อายุของลูกนั้นยังน้อยนักไม่เหมาะที่จะมีเพศสัมพันธ์ และความรักกับเพศสัมพันธ์นั้นไม่ได้เป็นเรื่องเดียวกันหรือไปด้วยกัน เพศสัมพันธ์ที่เหมาะสมและมีคุณค่า ควรอยู่ที่ความพร้อมที่จะรับผิดชอบกับทุกสิ่งถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา แต่หากลูกมีเพศสัมพันธ์แล้ว การรับประทานยาคุม เพื่อป้องกันก็น่าจะดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ต้องเตือนลูกว่า ยาคุมกำเนิดนั้นไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใดๆ ได้ ไม่ว่าโรคหนองในแท้ หนองในเทียม โรคหูดหงอนไก่ โรคแผลริมอ่อน โรคฝีต่างๆ และที่สำคัญคือโรคเอดส์ นอกจากนั้นจะคุมกำเนิดได้ก็ต้องกินยาคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี เช่น กินเม็ดแรกแผงแรกภายใน 5 วันของประจำเดือน และกินทุกวัน แต่ละวันต้องกินตรงเวลาเดิม เมื่อยาคุมหมดแผง (ชนิด 21 เม็ด) หรือเมื่อกินถึงเม็ดหลอก (ชนิด 28 เม็ด) ต้องมีประจำเดือนมาเป็นต้น และยาคุมนี้ปกติไม่แนะนำให้เด็กวัยรุ่นที่อายุน้อยมากๆ เช่น อายุ 12-13 ปีกิน เพราะอาจทำให้ร่างกายไม่สูงต่อ แต่ทั้งนั้นและทั้งนี้ หากชั่งน้ำหนักระหว่างความสูงกับความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์แล้ว ก็อาจจะให้รับประทานยาคุมได้ <br> <br> อย่างไรก็ตาม แม้การคุมกำเนิดโดยยาคุมกำเนิดจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ร้อยละ 99 แต่ก็เป็นวิธีคุมกำเนิดชั่วคราว ต้องกินทุกวัน และต้องกินให้ถูกวิธี ซึ่งวัยรุ่นส่วนใหญ่มีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องลืมกิน บางคนก็ไม่อยากเอายาคุมไปโรงเรียน กลัวครูว่า ดังนั้นวัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์ และไม่ประสงค์จะตั้งครรภ์อีกนาน อาจมีทางเลือกการคุมกำเนิดวิธีอื่นซึ่งเป็นการคุมกำเนิดกึ่งถาวร เช่น การฝังยาคุมกำเนิด การใส่ห่วงคุมกำเนิด ฯลฯ <br> <br> ดังนั้นนอกจากคุณแม่จะให้คำแนะนำเบื้องต้น คุณแม่อาจพาลูกสาว ไปปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ ที่หน่วยวางแผนครอบครัว ซึ่งมีอยู่ทุกโรงพยาบาล และทุกคลินิกที่เขียนไว้ว่ารับวางแผนครอบครัว เพื่อที่แพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์จะได้ช่วยอธิบายและให้ความรู้ลูกสาวของคุณแม่ได้อีกทางหนึ่ง <br> <br> จาก คม ชัด ลึก ค่ะ 25 Nov 2005 \| Post by : StrawberryPinky

"เมื่อลูกวัยรุ่นขอให้แม่ซื้อยาคุมกำเนิดให้" 
พ.ญ.ชัญวลี ศรีสุโข(chanwaleesrisukho@hotmail.com) 
 
"คุณหมอคะ ลูกสาวดิฉันอายุ 14 ปี ถามเรื่องการใช้ยาคุมกำเนิด และขอให้แม่ซื้อยาคุมกำเนิดให้ ดิฉันไม่สบายใจเลยค่ะ กลัวลูกจะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร" คุณรตี (นามสมมติ) พิจิตร 
 
ฟังคำถามของคุณรตีแล้ว ดิฉันมาคิดดูว่า ถ้าลูกสาวอายุ 14 บอกแม่ของตนแบบนี้เมื่อยี่สิบปีก่อน อาจจะถูกตีตายไปแล้วก็ได้ แต่สมัยนี้ ต้องยอมรับว่าสังคมเปลี่ยนไปมาก การที่ลูกบอกมาเช่นนั้น คนเป็นแม่ต้องยอมรับความจริงและพยายามมองโลกในแง่ดีไว้ก่อน 
 
การมองโลกในแง่ดีนั้นได้แก่ ลูกอาจจะถามความรู้ทางวิชาการเรื่องยาคุมกำเนิดและซื้อมาดูก็ได้ หรือบางทีเพื่อนๆ กินยาคุมเพื่อรักษาสิว ลูกก็อาจจะอยากกินบ้างก็เป็นไปได้ และถึงแม้จะซื้อมาใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ก็นับว่ายังดีกว่าปล่อยให้ตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม และแง่ดีอีกอย่างคือ ลูกสาวของคุณรตีน่าจะสนิทสนม หรือให้ความไว้วางใจแม่ (คือคุณรตี) มากพอสมควร จึงไม่มีความลับปกปิดกัน ซึ่งเป็นเรื่องดีและหายาก เพราะวัยรุ่นในปัจจุบันต่างมีสังคมของตนเอง และเชื่อเพื่อนฝูงมากกว่าพ่อแม่ทั้งนั้น 
 
การเชื่อเพื่อนฝูงของวัยรุ่นนั้น ทำให้มีค่านิยมหรือความเชื่อที่ผิดๆ เช่นเชื่อว่า เสียตัวครั้งเดียวไม่ท้อง (ความจริงคือ มีเพศสัมพันธ์ครั้งเดียว หากบังเอิญเป็นช่วงไข่ตก และเชื้ออสุจิฝ่ายชายแข็งแรง ก็ตั้งท้องได้) กินยาคุม 1 เม็ด ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ (ความจริงคือ ต้องกินยาคุมกำเนิดทุกวันวันละ 1 เม็ด และกินให้ตรงเวลาเดิม แม้ไม่มีเพศสัมพันธ์ก็ต้องกินให้หมดแผง) คุมกำเนิดโดยการหลั่งนอกปลอดภัยไม่ท้องร้อยเปอร์เซ็นต์ (ความจริงคือ การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ฝ่ายชายต้องมีความเชี่ยวชาญที่จะกลั้นการหลั่ง และบางทีก่อนหลั่งน้ำอสุจิ ก็มีตัวอสุจิมาแปดเปื้อนกับน้ำหล่อลื่นที่ปลายอวัยวะเพศแล้ว จึงไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์) วัยรุ่นบางคนก็เชื่อว่าจะท้องก็ต่อเมื่อฝ่ายหญิงถึงจุดสุดยอดเท่านั้น (ความจริงคือไม่ว่าฝ่ายหญิงจะถึงจุดสุดยอดหรือไม่ก็ตามหากฝ่ายชายมีการหลั่งน้ำเชื้อ ฝ่ายหญิงมีการตกไข่ ฝ่ายหญิงก็สามารถตั้งครรภ์ได้)ฯลฯ 
 
อย่างไรก็ตาม เมื่ออธิบายลูกถึงเรื่องการคุมกำเนิดโดยยาคุมกำเนิด หากลูกยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็เป็นสิทธิของคนเป็นแม่ที่จะสอนสั่งว่า อายุของลูกนั้นยังน้อยนักไม่เหมาะที่จะมีเพศสัมพันธ์ และความรักกับเพศสัมพันธ์นั้นไม่ได้เป็นเรื่องเดียวกันหรือไปด้วยกัน เพศสัมพันธ์ที่เหมาะสมและมีคุณค่า ควรอยู่ที่ความพร้อมที่จะรับผิดชอบกับทุกสิ่งถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา แต่หากลูกมีเพศสัมพันธ์แล้ว การรับประทานยาคุม เพื่อป้องกันก็น่าจะดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ต้องเตือนลูกว่า ยาคุมกำเนิดนั้นไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใดๆ ได้ ไม่ว่าโรคหนองในแท้ หนองในเทียม โรคหูดหงอนไก่ โรคแผลริมอ่อน โรคฝีต่างๆ และที่สำคัญคือโรคเอดส์ นอกจากนั้นจะคุมกำเนิดได้ก็ต้องกินยาคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี เช่น กินเม็ดแรกแผงแรกภายใน 5 วันของประจำเดือน และกินทุกวัน แต่ละวันต้องกินตรงเวลาเดิม เมื่อยาคุมหมดแผง (ชนิด 21 เม็ด) หรือเมื่อกินถึงเม็ดหลอก (ชนิด 28 เม็ด) ต้องมีประจำเดือนมาเป็นต้น และยาคุมนี้ปกติไม่แนะนำให้เด็กวัยรุ่นที่อายุน้อยมากๆ เช่น อายุ 12-13 ปีกิน เพราะอาจทำให้ร่างกายไม่สูงต่อ แต่ทั้งนั้นและทั้งนี้ หากชั่งน้ำหนักระหว่างความสูงกับความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์แล้ว ก็อาจจะให้รับประทานยาคุมได้ 
 
อย่างไรก็ตาม แม้การคุมกำเนิดโดยยาคุมกำเนิดจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ร้อยละ 99 แต่ก็เป็นวิธีคุมกำเนิดชั่วคราว ต้องกินทุกวัน และต้องกินให้ถูกวิธี ซึ่งวัยรุ่นส่วนใหญ่มีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องลืมกิน บางคนก็ไม่อยากเอายาคุมไปโรงเรียน กลัวครูว่า ดังนั้นวัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์ และไม่ประสงค์จะตั้งครรภ์อีกนาน อาจมีทางเลือกการคุมกำเนิดวิธีอื่นซึ่งเป็นการคุมกำเนิดกึ่งถาวร เช่น การฝังยาคุมกำเนิด การใส่ห่วงคุมกำเนิด ฯลฯ 
 
ดังนั้นนอกจากคุณแม่จะให้คำแนะนำเบื้องต้น คุณแม่อาจพาลูกสาว ไปปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ ที่หน่วยวางแผนครอบครัว ซึ่งมีอยู่ทุกโรงพยาบาล และทุกคลินิกที่เขียนไว้ว่ารับวางแผนครอบครัว เพื่อที่แพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์จะได้ช่วยอธิบายและให้ความรู้ลูกสาวของคุณแม่ได้อีกทางหนึ่ง 
 
จาก คม ชัด ลึก ค่ะ

25 Nov 2005 | Post by : StrawberryPinky

Comment 3
ก็ดีค่ะ <br> <img src="pic/b4.gif"> 22 Jul 2006 \| Comment by : tipparat

Comment 3

ก็ดีค่ะ 
<img src="pic/b4.gif">

22 Jul 2006 | Comment by : tipparat

Comment 2
เห็นด้วย โลกเปลี่ยนไป และเปลี่ยนไป ขอให้คุณแม่เข้มแข็งและเข้าใจลูกสาว ด้วยค่ะ ในยุโรป แม่ต้องเป็นฝ่ายซื้อยาคุม และให้ลูกกิน และบางครั้งยังต้องไปรับลูกกลับจากบ้านแฟน <br> 20 May 2006 \| Comment by : เห็นด้วย

Comment 2

เห็นด้วย โลกเปลี่ยนไป และเปลี่ยนไป ขอให้คุณแม่เข้มแข็งและเข้าใจลูกสาว ด้วยค่ะ ในยุโรป แม่ต้องเป็นฝ่ายซื้อยาคุม และให้ลูกกิน และบางครั้งยังต้องไปรับลูกกลับจากบ้านแฟน

20 May 2006 | Comment by : เห็นด้วย

Comment 1
แวะมาค่ะ <br> ^-^ 7 Jan 2006 \| Comment by : nanapinkky

Comment 1

แวะมาค่ะ 
^-^

7 Jan 2006 | Comment by : nanapinkky

Beauty Clinic

เมโกะ คลินิก Meko Clinic

View Details

Webboard
ชมพู่ อารยา ในชุดสีชมพูฟูฟ่อง ยังกับเจ้าหญิงแสนซนแน่ะ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: buakly 6
ถ้าคุณพบว่าแฟนของคุณที่คบกันมาจนจะแต่งงานเป็นมนุษย์จิ้งจอก คุณจะทำยังไง 1 Jan 1970 โพสต์โดย: indy12 0
มาลองอ่านดูนะ 69 เจ้าเก่า 1 Jan 1970 โพสต์โดย: Pox 3
แฟนคลับ ปูเสื่อรอ ออฟ-จุมพล หยอด “คิดถึง” 28 สิงหานี้ เตรียมเซอร์ไพร์ส ไว้อ้อน เพียบ! 1 Jan 1970 โพสต์โดย: DSK4277 0
ใครชอบแมวมาดูคลิปนี้ฮาดีค่ะ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: Moya 3
ของขวัญต้อนรับวันแม่ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: MinamiEze 0
รบกวนถามนิดนึงค่ะ T-T 1 Jan 1970 โพสต์โดย: puppy_1789 0
ระวัง....9 โรค..ที่คนทำงาน office ต้องเจอแน่ 1 Jan 1970 โพสต์โดย: Rattiya69 2

Webboard

ชมพู่ อารยา ในชุดสีชมพูฟูฟ่อง ยังกับเจ้าหญิงแสนซนแน่ะ

1 Jan 1970 โพสต์โดย: buakly 6