ปัญหาสุขภาพภายในเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุก
ๆ คนไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตนเองด้วยกันทั้งนั้น ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย ซึ่งผู้หญิงจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเนื้องอกมดลูกสูง
โดยพบว่าผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 30-50 ปี
จะมีอาการที่รบกวนในการใช้ชีวิต อย่างเช่น ปวดประจำเดือนมากกว่าปกติหรือเป็นประจำเดือนมากกว่าปกติ
หรืออื่น ๆ จนส่งผลแทรกซ้อนต่อร่างกาย
และทำให้อาการแย่ลงหรือการรักษามีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นได้
หากปล่อยไว้เนื้องอกอาจเป็นเนื้อร้ายก็เป็นได้
แต่หากเราทราบอาการหรือสังเกตอาการผิดปกติได้ตั้งแต่แรกเริ่มก็จะทำให้มีโอกาสในการรักษาให้หายได้สูง
และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติได้เร็วขึ้น โดยอาการหลัก ๆ ส่วนใหญ่ของโรคเนื้องอกมดลูกมีดังนี้
1. อาการแรกที่เจอเยอะที่สุดคือ
คนไข้จะคลำได้ก้อนที่ท้องน้อย
ซึ่งถ้าเกิดผู้หญิงเราคลำก้อนที่ท้องน้อยได้
ส่วนมากจะเป็นเนื้องอกมดลูก สังเกตดูจากคนท้อง กว่าจะเห็นว่าตั้งครรภ์ก็ประมาณ 4-5
เดือนไปแล้ว เช่นเดียวกัน เนื้องอกมดลูกนี้ก็ต้องทำให้มดลูกมีขนาดโตเท่ากับคนท้อง 4-5
เดือนแล้ว ซึ่งประมาณสัก 15 เซนติเมตรขึ้นไปถึงจะคลำเองได้จากหน้าท้อง
2. อาการที่พบบ่อยที่ทำให้คนไข้ต้องมาพบคุณหมอสูตินรีเวช
คือมีประจำเดือนออกเยอะ
เพราะตัวเนื้องอกไปเบียดโพรงมดลูก
ทำให้ประจำเดือนออกเยอะ แล้วบางทีออกเยอะมากเป็นลิ่มเลือดเป็นก้อนเลือด
บางคนให้ประวัติว่า เป็นประจำเดือนแล้วเป็นลม แล้วก็ต้องไปรับเลือดที่โรงพยาบาลทุกครั้งที่เป็นประจำเดือน
อันนี้จะมีบ้างประปราย
3. อาการที่สามมักจะเกี่ยวข้องกับการมีบุตรยาก
จะตรวจพบเมื่อคนไข้ไปตรวจกับหมอผู้เชี่ยวชาญด้านมีบุตรยาก
พออัลตราซาวนด์ถึงจะเจอ อันนี้มักจะเป็นลักษณะก้อนเล็ก ๆ ไม่บ่งอาการอะไร
บางทีอาจจะมีก้อนแค่ 1-2 เซนติเมตรอยู่ในโพรงมดลูก
ไปขวางการฝังตัวของทารกทำให้มีบุตรยาก
อาการที่รุนแรง
บางคนมีเลือกออกเยอะ ก็มีอาการโลหิตจางได้
หรือบางคนที่ลักษณะก้อนมันยื่นออกไปข้างนอก หมายถึงไม่ได้ยื่นเข้าไปในโพรงมดลูก
ก็จะทำให้ไม่มีประจำเดือนออกเยอะ แต่มันจะยื่นเข้าไปในอุ้งเชิงกรานหรือว่าในท้องน้อยของเรา
อันนี้ก็จะไปกดเบียดลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ ที่เจอบ่อยก็คือ มันเบียดมาข้างหน้า
ก็จะกดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้คนไข้ปัสสาวะบ่อย คนไข้อาจจะเข้าห้องน้ำทุกชั่วโมง
นอนหลับไปแล้วก็ต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำทุก 2-3
ชั่วโมง นอนไม่เต็มอิ่ม อันนี้ก็จะส่งผลถึงคุณภาพชีวิตคนไข้
สิ่งสำคัญในการป้องกัน
และช่วยรับมือกับเนื้องอกมดลูกได้ดี คือการหมั่นตรวจภายในเป็นประจำทุกปี
รวมถึงการตรวจอัลตราซาวด์ และเมื่อพบอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันทั้งการทานอาหารที่มีประโยชน์
ลดความเครียด และการดูแลสุขภาพให้น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป
จะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นเนื้องอกได้อีกทางหนึ่งค่ะ
#เนื้องอกมดลูก