ล้วงลึกคุณประโยชน์ของคอลลาเจน ตัวช่วยกระตุ้นผิวหน้าให้สวยฉ่ำอ่อนเยาว์

ตามรอยภัยจากไซเบอร์ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์


ศึกษาบทเรียนด้วยภัยจากไซเบอร์ที่สร้างความเสียหายจนโลกตื่นตัว

เมื่อเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต การป้องกันภัยจากไซเบอร์กลายเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เนื่องจากผู้ประสงค์ร้ายที่ต้องการคุกคามทางไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่งเฉย ความซับซ้อนและความแปลกใหม่ของภัยจากไซเบอร์จึงถูกพัฒนาและเปลี่ยนแปลงวิธีการไปตามเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้น การทำความเข้าใจเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เคยสร้างความตื่นกลัวให้คนทั้งโลกจากภัยไซเบอร์คือ สิ่งที่ช่วยให้คุณได้รู้บทเรียนเพื่อนำไปพัฒนาและเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันภัยไซเบอร์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นบทความนี้จะพาคุณไปย้อนรอยประวัติศาสตร์เหตุการณ์ภัยไซเบอร์ที่ทรงพลังที่สุดเพื่อเป็นกรณีศึกษาในการวางแผนรับมือไซเบอร์

รวม 5 เหตุการณ์ภัยจากไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงโลกดิจิทัลไปตลอดกาล

ปัจจุบันภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งองค์กร หน่วยงาน รวมถึงบุคคลทั่วไปต้องตื่นตระหนกและต้องสรรหาวิธีเพื่อเรียนรู้และวางแผนรับมือการป้องกันภัยไซเบอร์เพื่อให้ส่งผลกระทบและเกิดความเสียหายต่อข้อมูลแสนล้ำค่า แต่คุณทราบหรือไม่ว่าในอดีตเองก็เคยมีเหตุการณ์โจมตีด้วยภัยจากไซเบอร์ที่มีความรุนแรงและก่อให้เกิดผลกระทบด้านความมั่นคง การดำเนินงาน รวมถึงประเทศชาติอย่างมหาศาล นับเป็นบทเรียนราคาแพงที่ทำให้หลายคนหันมาให้ความสนใจเรื่องภัยจากไซเบอร์กันมากขึ้น

ดังนั้นเพื่อให้คุณสามารถเข้าใจความจำเป็นและมีความตระหนักรู้เรื่องการป้องกันภัยไซเบอร์ได้ดียิ่งขึ้น มาสำรวจเหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไปพร้อม ๆ กันเลย

1. WannaCry Ransomware 

WannaCry Ransomware ถือเป็นเหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่รุนแรงที่สุด ส่งผลกระทบต่อทั้งองค์กรและหน่วยงานกว่าหลายร้อยประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจสำคัญอย่าง National Health Service (NHS) ในสหราชอาณาจักร อันส่งผลให้การรักษาผู้ป่วยเกิดการล่าช้าจากระบบดูแลสุขภาพที่หยุดชะงัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นและมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในปี 2017 โดยแฮกเกอร์ได้ใช้ช่องโหว่เพื่อเข้าถึงระบบข้อมูลและรหัสผ่านในคอมพิวเตอร์ของระบบปฏิบัติการ Window ที่ชื่อ EternalBlue จากนั้นได้ทำการนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้เพื่อเรียกค่าไถ่เหยื่อจำนวนมากในการปลอดล็อกข้อมูล

เห็นได้ว่า WannaCry Ransomware สร้างผลกระทบมากมายทั้งองค์กรและหน่วยงานของภาครัฐ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นอีก ควรหมั่นอัปเดตระบบแพตช์อย่างสม่ำเสมอ  มีการติดตั้งระบบป้องกันการแพร่กระจายมัลแวร์ รู้จักสำรองข้อมูล รวมถึงให้ความรู้และฝึกอบรมคนในองค์กรเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์

2. NotPetya 

เหตุการณ์ภัยจากไซเบอร์ NotPetya เป็นมัลแวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายข้อมูลและทำให้ระบบล่ม ไม่สามารถกู้คืนได้โดยการใช้ช่องโหว่ของระบบ Windows SMB (Server Message Block) เหตุการณ์ NotPetya ถูกปล่อยออกมาและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วโลกในปี 2017 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างให้หลายองค์กรใหญ่มีการหยุดชะงัก เช่น Maersk, Merck, และ DHL ซึ่งบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าทุกองค์กรควรให้ความตระหนักเรื่องโครงสร้างพื้นฐานการป้องกันภัยไซเบอร์และวางแผนรับมือการโจมตีภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

3. Stuxnet 

Stuxnet เป็นภัยจากไซเบอร์ประเภทมัลแวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีและทำลายระบบ SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) หรือระบบควบคุมอุตสาหกรรม ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ของอิหร่าน นับเป็นเหตุการณ์การโจมตีคุกคามทางไซเบอร์ที่มีความรุนแรงและซับซ้อนอย่างยิ่งในปี 2010 โดยมีเป้าหมายคือ การทำลายความมั่นคงของชาติและทำลายโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบให้โครงการนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงัก เนื่องจากเครื่องจักรในโรงงาน Natanz ที่ใช้ผลิตยูเรเนียมเกิดการเสื่อมสภาพ

บทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าทุกองค์กรย่อมมีความเสี่ยงในการถูกโจมตีจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ดังนั้นวางแผนการป้องกันภัยไซเบอร์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ไม่เว้นแม้แต่ระบบอุตสาหกรรม

4. Yahoo Data Breach 

Yahoo Data Breach เป็นเหตุการณ์คุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นกับ Yahoo บริษัทเทคโนโลยีและบริการอินเทอร์เน็ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยในปี 2016 ได้มีการเปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลกว่าหลายร้อยล้านบัญชีถูกภัยจากไซเบอร์โจมตีและโจรกรรมข้อมูลไปจากระบบ ส่งผลกระทบให้ความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการสั่นคลอนและทำให้ Yahoo ถูกฟ้องร้องจากหน่วยงานและผู้ใช้จำนวนมาก นับเป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่มีการละเมิดข้อมูลใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของระบบอินเทอร์เน็ต การป้องกันภัยไซเบอร์และใช้งานอินเทอร์เน็ตจึงเป็นสิ่งที่ทั้งผู้ใช้และบริษัทควรให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง

5. Equifax Data Breach 

อีกหนึ่งเหตุการณ์ภัยจากไซเบอร์ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ Equifax Data Breach บริษัทเก็บข้อมูลเครดิตยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา โดยการคุกคามทางไซเบอร์ครั้งนี้ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้กว่า 147 คนในปี 2017 ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลละเอียดอ่อน ข้อมูลส่วนบุคคล หมายเลขประกันสังคม หรือข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลเหล่านี้ล้วนถูกขโมยและถูกละเมิดโดยแฮกเกอร์ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเชื่อมั่นและเป็นผลให้  Equifa ถูกฟ้องร้องค่าเสียหายจำนวนมาก จากเหตุการณ์นี้ยังมีการเปิดเผยอีกว่า Equifax  ได้มีการละลายการอัปเดตแพตช์ระบบความปลอดภัย

บทเรียนราคาแพงครั้งนี้ทำให้เห็นว่าการป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญมาก ทั้งยังควรหมั่นอัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยและอัปเดตแพตซ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซึ่งอาจนำสู่ฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากพบเจอ

เป็นอย่างไรบ้าง? กับเหตุการณ์ภัยจากไซเบอร์ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น WannaCry Ransomware, NotPetya, Stuxnet, Yahoo Data Breach และ Equifax Data Breach  เหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์เหล่านี้ล้วนเป็นบทเรียนสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของรักษามาตรการการป้องกันภัยไซเบอร์ข้อมูลส่วนบุคคลและระบบเครือข่าย เพราะหากละเลยไป อาจนำไปสู่ความเสียหายรุนแรงทั้งด้านความมั่นคงขององค์กร หน่วยงาน ประเทศ หรือแม้กระทั่งการสูญเสียชื่อเสียงและค่าเสียหายมหาศาลที่กระทบต่อการดำเนินการขององค์กร ดังนั้นการเสริมสร้างการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม




Insurance

Popular Blog
  |  Post by : pooyingnayaya
  |  Post by : mafiaporgun
  |  Post by : daisyinfo
  |  Post by : lovetoread
  |  Post by : LEEN
  |  Post by : ririnana
  |  Post by : MissHP
  |  Post by : nemophilanie

สมัครเพื่อรับข่าวสาร

* indicates required

Intuit Mailchimp