เลเซอร์ขนรักแร้ วิธีการกำจัดขนที่เห็นผลลัพธ์ได้จริงเป็นวิธีการกำจัดขนที่ได้รับความนิยมมากขึ้นแซงหน้าการกำจัดขนแบบเดิมๆ อย่างการถอน โกน หรือแว็กซ์ ที่ทำร้ายผิวและตามมาด้วยปัญหาขนคุด ผิวหนังไก่ ปัจจุบันหลายๆ คนจึงหันมาพึ่งเลเซอร์ขนรักแร้มากขึ้น แต่การทำเลเซอร์เองก็มีให้เลือกหลายประเภทซึ่งให้ผลลัพธ์ต่างกัน เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวต่างกัน ก่อนทำจึงควรศึกษาให้ดีว่าตนเองเหมาะกับเลเซอร์ประเภทไหน เพื่อให้การทำเลเซอร์ขนรักแร้ออกมาเห็นผลที่ดี และไม่มีอาการข้างเคียงที่น่ากังวล
เลเซอร์รักแร้ดีกว่ากำจัดขนแบบอื่นๆ อย่างไร?
เทียบกับการกำจัดขนด้วยวิธีอื่นๆ
เลเซอร์ขนรักแร้ช่วยให้การกำจัดขนรักแร้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า
ทั้งความเกลี้ยงเกลาในการกำจัดขน และระยะเวลาที่ขนขึ้นใหม่ก็ช้ากว่า
เทียบกับการถอนขนรักแร้ แว็กซ์ ที่ทำ 1 ครั้งอยู่ได้นาน 2 - 3
สัปดาห์ หรือการโกนขนที่อยู่ได้เพียง 2 - 3 วัน
แต่เลือกเลเซอร์อย่างสม่ำเสมอสามารถเว้นช่วงไม่ให้ขนรักแร้ขึ้นได้นานเกือบปี
นอกจากนี้เส้นขนใหม่ที่งอกหลังกำจัดขนด้วยการถอนและโกนยังทำให้เกิดปัญหาผิวอย่างขนคุด หนังไก่ หรือขนขึ้นเป็นตอทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน ในขณะที่เลเซอร์ขนรักแร้สามารถช่วยให้ผิวหลังกำจัดขนดูเรียบเนียนขึ้นได้
เลเซอร์รักแร้มีกี่แบบ?
เลเซอร์รักแร้ยอดนิยมในปัจจุบันมีหลักๆ ทั้งหมด
3 แบบด้วยกัน ได้แก่
1. IPL
IPL เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้พลังงานลำแสงความเข้มสูงมาเป็นพลังงานในการกำจัดเส้นขน
โดยจะไม่ใช่พลังงานเลเซอร์อย่างเครื่องรุ่นอื่นๆ แต่สามารถกำจัดขนได้เช่นกัน
เครื่อง IPL มีทั้งแบบที่ทำในคลินิกและเครื่องพกพาสำหรับใช้เองที่บ้านได้แต่จะมีค่าพลังงานที่ต่างกัน
โดยปกติแล้วเครื่อง IPL มีคลื่นความยาวตั้งแต่ 515 - 1,200
นาโนเมตร
- ข้อดี : เครื่องมีความอ่อนโยน ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่น่ากังวลหลังทำ มีเครื่องแบบพกพอให้เลือกทำเองที่บ้านได้สะดวก
- ข้อจำกัด : ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ ไม่สามารถกำจัดเส้นขนที่มีความหนามากๆ หรือขนสีเข้มได้ จึงไม่เห็้นผลในคนที่มีผิวคล้ำ
2. Diode Laser
เครื่องเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมในการกำจัดขนสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
เครื่องรุ่นนี้มีความยาวคลื่น 810 - 1,350 นาโนเมตร สามารถกำจัดขนได้ดี
โดยเฉพาะกับคนที่มีเส้นขนหนา
- ข้อดี : กำจัดขนในบริเวณกว้างได้ดี เหมาะกับคนที่มีขนเส้นหนา เห็นผลลัพธ์ไว
- ข้อจำกัด : จับเม็ดสีผิวอ่อนได้ไม่ค่อยแม่นยำจึงกำจัดขนเส้นอ่อนได้ไม่ค่อยดี ไม่เหมาะกับจุดที่ต้องเก็บรายละเอียด และเหมาะกับคนผิวขาวมากกว่าคนผิวคล้ำ
3. Yag Laser
Yag Laser จะมี 2 ประเภทที่มีความยาวคลื่นต่างกัน
เหมาะกับใช้แก้ปัญหาคนละแบบ นั่นคือ
Q-Switch
เครื่องที่ช่วยลดความเข้มของเม็ดเลือดสีเมลานินได้ดี
ส่วนมากใช้เพื่อแก้ปัญหาผิว มีความยาวคลื่น 525
นาโนเมตร แต่สามารถใช้กำจัดขนได้
บางคลินิกก็เลือกใช้เพื่อกำจัดขนรักแร้ แต่จะไม่เห็นผลลัพธ์ในการทำได้ดีเท่า Long
Pulse Nd Yag
Long Pulse ND Yag
เครื่องเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนดี
เห็นผลลัพธ์ได้ในทุกสภาพผิว ความยาวคลื่น 1,024
นาโนเมตร เหมาะกับกำจัดขนได้ในหลายตำแหน่ง ทั้งเส้นบางและเส้นหนาโดยไม่ทำร้ายผิว
- ข้อดี : เห็นผลลัพธ์ไว กำจัดขนรักแร้ได้ทั้งในคนผิวขาวและผิวคล้ำ ไม่ทำให้เกิดสะเก็ดที่ผิวหลังทำ
- ข้อจำกัด : ใช้เวลาในการทำที่ต่อเนื่อง 3 - 5 ครั้งถึงเห็นผลลัพธ์แบบชัดเจน
อยากรู้เรื่อง มากกว่านี้ คลิกเลย : https://www.gangnamlaserclinic.com/underarm-laser-hair-removal/
เลเซอร์แบบไหนเหมาะกำจัดขนรักแร้บ้าง?
เลเซอร์แต่ละแบบสามารถเห็นผลลัพธ์ในการกำจัดขนได้แต่จะเหมาะกับสภาพผิวบางแบบ
รวมทั้งตำแหน่งในการกำจัดขนที่ต่างกัน เลเซอร์ที่เหมาะกับกำจัดขนรักแร้คือ
เลเซอร์ Long Pulse Nd Yag เพราะสามารถกำจัดได้ทั้งขนเส้นหนาและบาง
ซึ่งพบได้ทั้ง 2 แบบบริเวณรักแร้ และยังเห็นผลลัพธ์ความเรียบเนียนได้ดี
เลเซอร์อย่าง Diode และ IPL ก็สามารถใช้กำจัดขนรักแร้ได้เช่นกัน แต่ Diode จะเห็นผลในขนเส้นหนามากกว่าจึงทำให้เหลือขนรักแร้เส้นบางๆ ไว้ และไม่เกลี้ยงเกลาเท่าที่ควร ส่วน IPL จะต่างกันตรงที่เห็นในขนเส้นบาง หากเป็นคนที่มีขนรักแร้บางก็สามารถเลือกทำด้วย IPL ได้
ทำเลเซอร์ขนรักแร้แล้วขนหยุดขึ้นถาวรหรือไม่?
เลเซอร์ขนรักแร้เรียกได้ว่าเป็นการกำจัดขนได้ในระยะยาว
การทำเลเซอร์ต่อเนื่องจะช่วยลดระยะการเกิดขนและลดปริมาณขนรักแร้ลงไปได้เยอะ
ซึ่งผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของเลเซอร์จะช่วยยับยั้งไม่ให้เส้นขนขึ้นได้นานเกือบปี
ขึ้นอยู่กับสภาพขนและวงจรการเกิดขนของแต่ละบุคคล เทียบกับการกำจัดขนด้วยวิธีอื่นๆ
การทำเลเซอร์ขนรักแร้ก็ให้ผลลัพธ์ที่กึ่งถาวร
สามารถหยุดกำจัดขนไปได้นานในระยะเวลาหนึ่ง
สรุป ทำไมถึงควรกำจัดขนรักแร้ด้วยเลเซอร์
เลเซอร์ขนรักแร้ช่วยให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีไม่เพียงแค่การกำจัดขน แต่ยังเห็นผลเรื่องสภาพผิวที่ดูเรียบเนียนขึ้น ทำให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น เลือกเลเซอร์ขนรักแร้มีข้อดีดังนี้
ลดความถี่ในการกำจัดขนรักแร้
ขนรักแร้ขึ้นช้าลง ขนมีความบางลง
เพิ่มความมั่นใจในการใส่เสื้อแขนกุด
โชว์ใต้วงแขนได้แบบไร้กังวล
แก้ปัญหาขนคุดได้ดี
ลดกลิ่นอับ อาการคัน
ช่วยให้รักษาความสะอาดได้ง่ายขึ้น
ช่วยให้ผิวใต้วงแขนดูเรียบเนียน
สีผิวสม่ำเสมอขึ้น