ฟิลเลอร์ปาก ทางแก้ทรงปากที่ท่านต้องการ เพิ่มความปังให้ท่านได้
หากท่านใดที่ต้องใช้ใบหน้าในการประกอบอาชีพ หรือต้องการแก้ไขรูปทรงของริมฝีปาก โดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมปาก การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของท่านได้ในทันที ทั้งยังไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ วันนี้เราจะมาพูดถึงรายละเอียดเบื้องต้นของฟิลเลอร์ปาก ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อของฟิลเลอร์แต่ละชนิด การเตรียมตัวก่อน – หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก และใครบ้างที่เหมาะกับฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ท่านได้พิจารณาก่อนฉีดฟิลเลอร์จากสถานพยาบาลที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน
ทำความเข้าใจเบื้องต้น ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร? ปลอดภัยจริงไหม ?
ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร
ฟิลเลอร์ปาก เป็นการทำหัตถการที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ในประเทศไทยจะนิยมใช้ฟิลเลอร์ด้วยการเติมสารประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด : Hyaluronic acid (HA) เข้าสู่ร่างกายในบริเวณที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น ฉีดฟิลเลอร์ปาก , ฉีดฟิลเลอร์คาง , ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา , ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม , ฉีดฟิลเลอร์จมูก , ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นต้น ซึ่งสารประเภทไฮยาลูรอนิกเป็นสารสังเคราะห์ที่มีความปลอดภัยจากธรรมชาติ โดยได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายในการทำหัตถการ ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์จะทำหน้าที่คล้ายกับคอลลาเจน (ทดแทน) และช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้นในบริเวณที่เติมสารเข้าไป เนื่องจากเกิดการเสื่อมสภาพความเต่งตึงอายุตามวัยที่เพิ่มนั้นเอง
การเข้าบริการฉีด fillerปาก จะใช้ระยะเวลาในการเติมสารไม่นานไม่ต้องมีการพักฟื้นให้กับร่างกายเหมือนกับการผ่าตัดศัลยกรรมในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าสู่ปาก หรือบริเวณอื่นที่ต้องการ จะสามารถสลายฟิลเลอร์ปากเองได้ตามธรรมชาติด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งแจ้งไว้ข้างผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้ออย่างแน่ชัด ดังนั้นการเติมฟิลเลอร์ปาก จึงเป็นการทำหัตถการซึ่งช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ช่วยทำให้ผิวหนังบริเวณปากเกิดความเต่งตึงน่าดึงดูด ดูอวบอิ่มได้รูปทรงตามที่ต้องการซึ่งจะเห็นผลชัดเจนหลังฉีดฟิลเลอร์ปากทันที
ฉีดฟิลเลอร์ปาก กับ ผ่าตัดปาก แตกต่างกันอย่างไร ? ควรเลือกแบบไหนดี
ความแตกต่างระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ปาก กับการผ่าตัดศัลยกรรมปาก จะมีด้วยกันดังต่อไปนี้การฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฟิลเลอร์ปาก เป็นการทำหัตถการด้วยการฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิดเข้าสู่ตำแหน่งที่ต้องการ โดยสารเติมเต็มชนิดนี้จะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งมีความปลอดภัยไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา โดยการฉีดฟิลเลอร์ปากจะสามารถปรับรูปทรงได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฉีดปากกระจับสวยๆ ฟิลเลอร์ปากสายฝอ เป็นต้น แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางที่ช่วยออกแบบทรงฟิลเลอร์ปากให้ได้รูปร่างตอบรับกับโครงสร้างใบหน้าของท่าน เพียงแต่เป็นการทำหัตถการฟิลเลอร์ปากที่ไม่ถาวรนั่นเอง
การผ่าตัดศัลยกรรมปาก
การผ่าตัดปาก จะเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมปากที่มีสภาพปากรูปทรงถาวรหลังผ่าตัด โดยจะขึ้นอยู่กับเนื้อปากของแต่ละคน หรือรูปทรงเดิมของปาก ซึ่งการผ่าตัดปากจะเน้นในการลดความหนา - ขนาด – สัดส่วนของปาก และหลังทำการผ่าตัดมักต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นร่างกาย ประมาณ 3 – 7 วัน รวมถึงอาจเกิดความเสี่ยงหลังผ่าตัดปากอีกเช่นเดียวกัน รวมถึงหากท่านมีความต้องการแก้ทรงปากที่ผ่านการผ่าตัดปากจะทำการแก้ไขได้ยาก ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมาลำดับ
ฟิลเลอร์ปาก ใครสามารถฉีดได้บ้าง ?
ใครบ้างที่เหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การทำฟิลเลอร์ปาก จะเป็นการทำหัตถการที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจต่อท่านที่มีความต้องการให้รูปทรงปากมีความอวบอิ่ม เต่งตึง มีความน่าดึงดูด ด้วยรูปทรงที่มีความนิยมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นฉีดปากสายฝอ ปากกระจับสายฝอ ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากทรงเกาหลี ยกมุมฉีดปากเกาหลี เพื่อสามารถสร้างความมั่นใจในการดำเนินชีวิต หรือหน้าที่การงานได้ ซึ่งฟิลเลอร์ปากจะสามารถทำได้กับท่านได้ ดังนี้
- ท่านที่ต้องการปรับแต่ง แก้ไขรูปทรงของริมฝีปากให้มีรูปทรงที่เข้ากับโครงสร้างของใบหน้าให้ดูมีมิติ อวบอิ่ม ฟูเด้งดูน่าค้นหา เนื่องจากมีทรงริมฝีปากที่แห้ง ขาดความชุ่มชื้น หรือมีร่องลึกตามริมฝีปากเด่นชัดตามอายุ ส่งผลให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวา เพิ่มความสดใส อ่อนเยาว์
- ท่านที่ต้องการปรับแก้ไขปากให้อวบอิ่ม อิ่มฟู ตรงกับความเชื่อในศาสตร์ของโหงวเฮ้ง
- เหมาะกับท่านที่ทำงานในด้านความงาม ไม่ว่าจะเป็นนักรีวิวเครื่องสำอาง นายแบบ- นางแบบที่ต้องใช้ใบหน้าในการประกอบอาชีพ การฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไม่ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นจึงสามารถตอบโจทย์ได้ทันที
- เหมาะกับท่านที่ต้องการแก้ไขทรงปากหลังจากการผ่าตัดปากให้ปากได้มีรูปทรงหนาขึ้นจากเดิม
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก มีอะไรบ้าง?
การเตรียมตัวก่อนเข้าใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ปาก แน่นอนว่าการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ตรวจสอบแพทย์ที่ทำการดูแลท่านว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ มีความชำนาญเฉพาะทางหรือไม่ การสำรวจรีวิวจากผู้ใช้บริการฟิลเลอร์ปากจริง ศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ไม่ว่าจะเป็นผลดี – ผลเสีย – ผลข้างเคียงความเสี่ยงอื่น ๆ ของฟิลเลอร์ปากในแต่ละรูปแบบ จะช่วยให้ท่านสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ (หากเกิดขึ้นจริง)
- ควรงดเครื่องแอลกอฮอล์ทุกชนิดก่อนเข้าทำหัตถการฟิลเลอร์ปาก
- งดกิจกรรมกีฬาที่ต้องใช้การสูบฉีดของเลือด
- ควรงดยาทาชนิดที่ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ เช่น ยา Ibruprofen , Ponstan , Diclofenac, Naproxen และงดทานประเภทวิตามิน เช่น Vitamin E , Primrose oil , Garlic , ยาแก้นอนไม่หลับ(ยาบรรเทาอาการซึมเศร้า) เป็นต้น
อย่างไรก็ตามเมื่อท่านได้คลินิกและแพทย์ตรงกับความต้องการแล้วนั้น สิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ทราบนั่นคือ ประวัติโรคประจำตัว รวมทั้งประวัติการแพ้ยา เพื่อให้แพทย์ได้วางแนวทางการฟิลเลอร์ปากได้อย่างปลอดภัย จากการเตรียมตัวที่ได้กล่าวมาข้างต้น จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับท่านได้อย่างเต็มที่
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากต้องปฏิบัติตัวยังไง ?
เนื่องจากหลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีอาการบวมแดง รู้สึกเจ็บในบริเวณที่ฉีด อาการจะดีขึ้นตามลำดับภายใน 1 ถึง 2 สัปดาห์ ข้อควรปฏิบัติหลังเข้าใช้บริการฟิลเลอร์ปาก ท่านควรทำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแลอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ปากได้ ทั้งยังสามารถได้ทรงฟิลเลอร์ปากตรงตามความต้องการ รวมทั้งช่วยให้รูปทรงฉีดปากจากฟิลเลอร์ของท่านมีอายุได้นานขึ้นอีกด้วย
- ควรหลีกเลี่ยงเครื่องมึนเมาที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดการสูบบุหรี่
- งดรับประทานอาหารรสชาติจัด ทั้งอาหารที่มีความร้อนสูง และหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำร้อน เพราะจะส่งผลให้ปากอักเสบ หรือบวมมากยิ่งขึ้น
- งดการอยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิร้อนสูง เช่น ห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ
- งดกิจกรรมประเภทกีฬาที่ต้องออกกำลัง / ยกของหนัก เนื่องจากจะส่งผลให้รูปปากเสียทรงได้
- งดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการนวดในบริเวณใบหน้า หลีกเลี่ยงการแกะ เกา บีบ จับ กัดดึงริมฝีปาก
- งดแต่งหน้า ทาลิปสติก ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากฉีดปาก
- ควรดื่มน้ำในอุณหภูมิห้องบ่อย ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ได้อุ้มน้ำอิ่มฟู ไม่ควรใช้หลอดดูดน้ำจะทำให้ปากเสียทรงได้
ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงไหนที่นิยมเหมาะสมกับเรา
การเข้าใช้บริการฟิลเลอร์ปากเป็นการทำหัตถการที่มีความปลอดภัย หากเข้ารับบริการจากแพทย์ผู้ชำนาญมากประสบการณ์ จะช่วยให้ท่านเห็นผลได้ในทันทีหลังจากฉีด fillerปาก ในปัจจุบันรูปทรงปากที่ได้รับความนิยมโดยส่วนใหญ่ภายในประเทศไทยนั้น จะมีด้วยกันหลายประเภทซึ่งจะมีความแตกต่างกันตามแต่ละเทคนิคของแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง ดังนี้
1. ฉีดฟิลเลอร์ปากประเภทคลาสสิค (Classic Lip) : จะเป็นการเติมสารให้ได้รูปทรงปากดูอวบอิ่ม เต่งตึงสมส่วนตามโครงสร้างของใบหน้า ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปากเติมให้ปากมีมิติเน้นธรรมชาติ
เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ปากเกาหลี (Cherry Lip) : จะเป็นการ fillerปากให้มีลักษณะคล้ายลูกเชอร์รี่ในบริเวณริมฝีปากล่าง เพื่อให้มองเห็นขอบปากชัดเจนขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสอ่อนเยาว์น่ามองยิ่งดึงดูดขึ้น
2. ฉีดฟิลเลอร์ปากประเภททรงปากสายฝอ (Sexy Lip) : จะเป็นการเติมฟิลเลอร์ปากในบริเวณริมฝีปากล่าง ริมฝีปากบนอย่างเต็มอัตราส่วนแต่ที่แพทย์เห็นสมควร วิธีนี้จะไม่สามารถมองเห็นขอบปากชัดเจน ซึ่งเน้นให้เกิดความอวบอิ่ม เซ็กซี่น่าค้นหานั่นเอง
3. ฉีดฟิลเลอร์ปากประเภททรงปากกระจับ (Classic ผสม Cherry Lip) : จะเป็นวิธีการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ผสมกันระหว่างทรงคลาสสิค และทรงปากเกาหลี จะช่วยให้ปากมีความโค้งสวยเข้ากับใบหน้า ขอบปากเห็นชัดเจน ทั้งริมฝีปากล่างจะเห็นคล้ายลูกเชอร์รี่ ทำให้ริมฝีปากไม่หนา หรือบางจนเกินไป ส่งผลให้ปากดูอมยิ้มน่ามอง
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดีที่ได้รับความนิยม และปลอดภัย
การเข้าใช้บริการฟิลเลอร์ปากเป็นการทำหัตถการที่มีความปลอดภัย หากเข้ารับบริการจากแพทย์ผู้ชำนาญมากประสบการณ์ จะช่วยให้ท่านเห็นผลได้ในทันทีหลังจากฉีด fillerปาก ในปัจจุบันรูปทรงปากที่ได้รับความนิยมโดยส่วนใหญ่ภายในประเทศไทยนั้น จะมีด้วยกันหลายประเภทซึ่งจะมีความแตกต่างกันตามแต่ละเทคนิคของแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง ดังนี้
สำหรับท่านใดที่ต้องการใช้บริการฟิลเลอร์ปาก การทำความเข้าใจคุณสมบัติของฟิลเลอร์ และชื่อแต่ละยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้จะช่วยให้ท่านสามารถสังเกตชนิดว่าเป็นของฟิลเลอร์แท้ / ฟิลเลอร์ปลอมได้ ทั้งช่วยรักษาสภาพริมฝีปากได้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในเบื้องต้นจะมีด้วยกัน ดังนี้
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane
Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจากประเทศสวีเดนที่สามารถเสื่อมสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยผ่านการยอมรับจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (US-FDA : US-FDA Approved / US-FDA Cleared ) โดยมีฟิลเลอร์แต่ละรุ่นที่ผลิตมา ดังนี้
- Restylane Defyne มีลักษณะชนิดเนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง ให้ความรู้สึกสัมผัสบางเบานิ่มปานกลาง เหมาะกับเทคนิคทรงปากเกาหลี ทรงปากสายฝอ และรูปทรงปากกระจับ โดยมีอายุการใช้งานได้นานถึง 18 เดือน
- Restylane Kysse มีเนื้อฟิลเลอร์ลักษณะละเอียดมีความคงตัวสูง ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่สามารถช่วยแก้ไขผู้ที่มีปัญหาบริเวณริมฝีปากโดยตรง่วยให้มองเห็นขอบปากชัดเจน เพิ่มความชุ่มชื้น อวบอิ่ม ไม่ส่งผลให้ปากบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับเทคนิคทรงปากเกาหลี และทรงปากกระจับ มีอายุการใช้งานนานถึง 12 เดือน
- Restylane Vital light มีเนื้อสัมผัสชัดเจนละเอียดขนาดเล็กซึ่งมีส่วนผสมของยาชา ช่วยแก้ปัญหาในบริเวณใบหน้าได้ดี เหมาะกับเทคนิคทรงปากแบบธรรมชาติ มีอายุการใช้งานได้นาน 6 – 12 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero
- Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยมีสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acidมากที่สุด สามารถช่วยกลืนเข้ากับเนื้อผิวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสยืดหยุ่นสูง ช่วยยกกระชัดริมฝีปากเหมาะกับเทคนิคทรงปากเกาหลี
- Belotero Balance (กล่องสีส้ม) ด้วยเนื้อผิวสัมผัสนิ่มในระดับกลาง มีอายุการใช้งานนานถึง 12 – 18 เดือน
- Belotero Soft (กล่องสีเหลือง) ด้วยผิวสัมผัสเหลว ช่วยให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติ มีอายุการใช้งาน 6 – 12 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm
- Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกาที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ทั้งได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก Juvederm ผลิตจากบริษัทที่ผลิต Botox Allergan ซึ่ง Juvederm มีสารเติมเต็มที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างภายในร่างกายที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (US-FDA) และอย.ประเทศไทย ด้วยเนื้อสัมผัสมีค่าความคงตัวสูง ช่วยให้ได้รูปทรงปากตามที่ต้องการคงความเป็นธรรมชาติ
- Juvederm Volite เนื้อสัมผัสละเอียดนิ่ม ช่วยให้ริมฝีปากอวบอิ่มชุ่มชื้น ทั้งเซ็กซี่ มีอายุการใช้งานนานถึง 8 - 12 เดือน
- Juvederm Voluma เนื้อสัมผัสแน่นฟูปานกลาง เหมาะกับท่านที่ต้องการปากทรงอวบอิ่ม มีอายุการใช้งานได้นานถึง 18 เดือน
- Juvederm Ultra Plus เนื้อสัมผัสของฟิลเลอร์นิ่มฟู เหมาะกับทรงปากสายฝอ มีอายุการใช้งานนานถึง 12 เดือน
สรุป การเลือกใช้บริการฟิลเลอร์ปาก
การเข้าใช้บริการฟิลเลอร์ปากให้ได้มาตรฐาน ควรเข้าปรึกษากับสถานพยาบาลที่มีถูกต้องปลอดภัย พร้อมด้วยแพทย์ที่มีประสบการณ์มีความชำนาญด้วยเทคนิคเฉพาะทาง เพื่อให้ได้รูปริมฝีปากอวบอิ่ม เต่งตึง นุ่มฟู ดังที่ท่านต้องการ คุ้มค่ากับยอดเงินที่เสียไป ทั้งยังลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก และท่านควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้มีความคงรูปทรงของริมฝีปากได้นานขึ้น
