ข้อมูลก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพิ่มความนูน แก้หน้าผากบุ๋ม แบน
ในบทความนี้เลยพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหัตถการความงาม ฟิลเลอร์หน้าผากกันให้มากขึ้นว่าคืออะไร เหมาะกับใคร ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายมั้ย พร้อมข้อควรรู้แบบจัดเต็มเจาะลึกอย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนฉีด
ทำความรู้จัก ฟิลเลอร์หน้าผาก
ฟิลเลอร์หน้าผาก คือ การฉีดสารเติมเต็มใบหน้าที่บริเวณหน้าผาก เพื่อปรับรูปทรงหน้าผากให้มีความนูนโค้ง ทำให้ใบหน้าดูมีมิติยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อหันด้านข้างจะเห็นได้ชัดเจน เหมาะกับการแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หน้าผากบุบหรือบุ๋ม รวมถึงใครที่มีปัญหาหน้าผากเป็นแอ่งเหนือคิ้ว สามารถเติมร่องหน้าผากให้กลับมาเรียบเท่ากันได้ หรือแม้แต่ปัญหาริ้วรอยและรอยยับก็สามารถใช้วิธีการฉีดเติมหน้าผากให้กลับมาเรียบเนียนเต่งตึงขึ้นได้ และยังเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมเพราะไม่ต้องผ่าตัด ทำให้มีผลดีหลาย ๆ อย่างตามมา เช่น ไม่ต้องเปิดแผล ไม่ทำให้เกิดแผลเป็นจากการผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ทำแล้วเห็นผลได้เลย ทำให้ฟิลเลอหน้าผากกลายมาเป็นเทรนด์ความงามที่ทำให้หลายคนชื่นชอบ
ความแตกต่างของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก การเสริมหน้าผากซิลิโคน และการเติมไขมันหน้าผาก
การปรับรูปทรงหน้าผากให้สวยรับกับใบหน้าสามารถทำได้หลากหลายเทคนิค ซึ่งมีทั้งการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก การผ่าตัดเสริมหน้าผาก รวมถึงการเติมไขมันหน้าผาก โดยทั้ง 3 เทคนิคนี้มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของกระบวนการ วัสดุหรือสารเติมเต็มที่ใช้ รวมถึงผลลัพธ์การรักษา ดังนั้น หากใครยังไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับวิธีไหน แนะนำว่าให้ศึกษาข้อมูลและความแตกต่างของแต่ละเทคนิคเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
ฉีดสารฟิลเลอร์บริเวณหน้าผาก
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการปรับรูปทรงหน้าผากแบบไม่ต้องผ่าตัด ใช้เทคนิคการฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) มีข้อดีตรงที่เป็นกรดชนิดเดียวกันกับที่มีอยู่ในร่างกายคนเรา ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้สารเติมเต็มที่เข้าได้ดีกับร่างกายและยังสามารถสลายได้เองเมื่อเวลาผ่านไป โดยสามารถนำมาใช้เพิ่มความนูน ปรับความโค้งมน แก้ไขปัญหาหน้าผากที่ผิดรูป ไม่เท่ากัน มีร่องหน้าผากที่อยู่เหนือคิ้ว ช่วยปรับหน้าผากให้มีความเรียบเนียน เต่งตึง ซึ่งแพทย์อาจพิจารณาฉีดหน้าผาก 1 cc ไปจนถึง 5 cc (ขึ้นอยู่กับลักษณะของหน้าผากคนไข้แต่ละราย)
นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติของสารเติมเต็มชนิดนี้ที่ช่วยอุ้มน้ำในชั้นผิว ทำให้ผิวกลับมาชุ่มชื่น โดยหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วจะให้ผลลัพธ์ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ไม่ทำให้เกิดแผลเป็นเพราะเป็นเทคนิคที่ไม่ต้องเปิดแผลเหมือนการผ่าตัด ใช้เพียงแค่การฉีดโดยเข็มขนาดเล็ก และเป็นเทคนิคที่มีความยืดหยุ่นในการรักษา เช่น หากทำแล้วยังไม่ถูกใจ อยากเพิ่มความนูน ซึ่งสามารถใช้การฉีดเติมหน้าผากได้ หรือในคนที่ฉีดมาแล้วอยากเอาออกก็ใช้วิธีการฉีดสลายออกได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ การฉีด ฟิลเลอร์หน้าผากเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร หากอยากต้องการคงผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้นสามารถกลับมาฉีดเติมได้อีกเรื่อย ๆ
เสริมหน้าผากด้วยแผ่นซิลิโคน
เทคนิคนี้มีความแตกต่างจากเทคนิคอื่นอย่างชัดเจนตรงที่เป็นการผ่าตัดทำศัลยกรรม เพื่อทำการใส่แผ่นซิลิโคนทางการแพทย์ซึ่งมีทั้งชนิดแผ่นที่ขึ้นรูปสำเร็จรูปมาแล้ว และแผ่นซิลิโคนชนิดที่ออกแบบใหม่เฉพาะบุคคล หลังทำแล้วจะช่วยปรับรูปทรงหน้าผากให้มีความนูนโค้ง จุดเด่นอยู่ตรงที่ให้ผลลัพธ์อย่างถาวร แต่มีข้อควรรู้และข้อเสียที่ต้องผ่าตัด ทำแล้วต้องมีเวลาพักฟื้นจากอาการบวมช้ำของแผลผ่าตัด รวมถึงยังต้องดูแลตัวเองและแผลผ่าตัดอย่างระมัดระวัง
ในบางรายที่มีประวัติเกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้ง่ายก็อาจเสี่ยงที่ทำแล้วจะมีแผลเป็นนูนตามมา และยังต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ในการผ่าตัด นอกจากนี้ หากทำแล้วยังไม่สวย อยากเพิ่มหรืออยากลดความนูนจะต้องใช้วิธีการผ่าตัดอีกครั้งเพื่อนำซิลิโคนออกและเสริมใหม่ ทำให้ต้องกลับมาพักฟื้นและใช้เวลาในการดูแลตัวเองที่ยุ่งยากอีกรอบ
เติมไขมันหน้าผาก
เทคนิคการเติมไขมันหน้าผากเป็นการใช้ไขมันจากตัวคนไข้เองที่ได้จากการดูดไขมันส่วนเกิน จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการปั่นคัดแยกให้เหลือแต่เซลล์ไขมันบริสุทธิ์ รวมถึงเทคนิคการปั่นคัดแยกเพื่อให้ได้โมเลกุลไขมันที่เหมาะสมกับการนำมาเติมไขมันที่บริเวณหน้าผาก เพื่อปรับให้มีความโหนกนูนโค้งรับกับใบหน้า มีความโดดเด่นที่เป็นไขมันของตัวเราเอง ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม จึงลดโอกาสเสี่ยงต่ออาการแพ้ ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานหลายปี
แต่มีข้อควรรู้คือ หลังฉีดครั้งแรกแล้วมักให้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะด้วยกลไกธรรมชาติของร่างกายที่ต้องมีการดึงเอาไขมันมาใช้ และหากคุณภาพของเซลล์ไขมันไม่ดีพอก็อาจทำให้ฉีดแล้วไขมันติดน้อย ติดไม่ทน ทำให้ต้องกลับมาฉีดเติมหน้าผากใหม่อีกครั้งภายหลัง ซึ่งหมายถึงต้องกลับมาสู่กระบวนการที่ยุ่งยากซ้ำซ้อนใหม่ เจ็บตัวหลายรอบ นอกจากนี้ ยังต้องดูแลแผลดูดไขมันและต้องพักฟื้น รวมถึงอาจทำให้มีรอยบวมช้ำได้มากในช่วงแรก ซึ่งไม่เหมาะกับคนที่รีบใช้หน้าหรือต้องออกงานสำคัญ แตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากซึ่งหลังทำแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักหน้า
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากเหมาะกับใคร
คนที่มีปัญหาหน้าผากไม่ได้รูปสวย เช่น หน้าผากแบน หน้าผากบุบ หน้าผากยุบ บุ๋ม ผิวไม่เรียบ เป็นคลื่น มีแอ่งเหนือคิ้ว หน้าผากไม่เท่ากัน มีริ้วรอย
คนที่อยากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น
คนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากมีแผลผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น
คนที่ต้องการปรับรูปทรงหน้าผากแบบที่ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
ฉีดหน้าผากแล้วเป็นก้อน คลื่น หรือไหลย้อย เกิดจากอะไร
ในบางรายที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมาแล้วเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบ ฉีดแล้วเป็นก้อน หรือสารเติมเต็มไหลย้อย ในกรณีนี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง เพราะการฉีดฟิลเลอหน้าผากจะต้องฉีดในระดับชั้นเยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งเนื้อของสารเติมเต็มจะทำหน้าที่พยุงและดันให้เนื้อเยื่อที่หุ้มกระดูกขึ้นมา ส่งผลให้หน้าผากนูนสวยเรียบเนียนแลดูเป็นธรรมชาติ เมื่อคลำจับแล้วไม่เจอเนื้อสารเติมเต็ม แต่หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์อาจทำให้เกิดความผิดพลาด เช่น ฉีดแล้วเป็นก้อน ผิวเป็นคลื่น ซึ่งสังเกตง่าย ๆ จากการที่จับหรือกดไปแล้วผิวจะยุบบุ๋มลงไป
นอกจากนี้ ยังพบได้ในกรณีที่ฉีดสารแปลกปลอมหรือฟิลเลอร์ของปลอมก็จะทำให้ผิวไม่เรียบเนียน ผิวเป็นคลื่น หน้าผากเป็นก้อน และไม่ทำให้เกิดการไหลย้อย ดังนั้น หากไม่อยากพบกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เช่นนี้ ก่อนฉีด ฟิลเลอร์หน้าผากแนะนำให้ศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวแพทย์ สถานพยาบาล และเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่สามารถตรวจสอบได้ทุกกล่อง ซึ่งทางสถานพยาบาลจะต้องให้กล่องฟิลเลอร์กลับบ้านเพื่อตรวจสอบได้เอง
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะต้องมีการเตรียมความพร้อม โดยจะมีขั้นตอนที่แนะนำดังต่อไปนี้
ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการทำหัตถการ และศึกษาเกี่ยวกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ รวมถึงแพทย์ที่จะทำการรักษา ซึ่งสามารถเลือกดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะฉีดฟิลเลอหน้าผากจะต้องเข้าพบแพทย์ เพื่อปรึกษา พูดคุย รับการวิเคราะห์ปัญหา และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
หากมีโรคประจำตัว มีประวัติการผ่าตัด อาการแพ้ยา หรือกำลังรับประทานยาชนิดใดอยู่ ควรแจ้งให้แพท์ทราบก่อน
งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด รวมถึงในกลุ่ม NSAIDs เช่น ยาแอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, ไดโคลฟีแน็ก เป็นต้น
งดรับประทานอาหารเสริมและวิตามินที่มีผลต่อการไหลเวียนของเลือด (ทำให้เลือดแข็งตัวช้า) และอาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำได้ง่าย เช่น วิตามินอี, โสม, แปะก๊วย, น้ำมันปลา เป็นต้น
ก่อนเข้ารับบริการประมาณ 3 วัน ควรงดการทำเลเซอร์และการทายาผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่จะฉีด ฟิลเลอร์หน้าผาก
งดดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะเป็นหัตถการที่มีการดูแลตัวเองไม่ยุ่งยาก แต่ทั้งนี้ แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี ฟิลเลอร์เข้าที่ไว และหลีกเลี่ยงอาการไม่พึงประสงค์
ประมาณ 24 ชั่วโมงแรก ผิวบริเวณที่ฉีดเติมหน้าผากอาจมีอาการบวมจากรอยเข็ม จากนี้จะค่อย ๆ บรรเทาและหายได้เองใน 1 - 2 สัปดาห์
ในช่วง 2 สัปดาห์ งดการจับหน้าผากแรง ๆ การนวด หรือการปั้นรูปทรงเอง เพราะฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่และอาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนตัว ส่งผลให้หน้าผากผิดรูป
งดการก่ายหน้าผากและการใส่หมวกที่อาจทำให้เกิดการกดทับและหน้าผากเสียรูปทรง
งดการนอนคว่ำหน้าและการนอนตะแคงประมาณ 1 - 2 สัปดาห์
งดการอยู่ใกล้ความร้อน การทำกิจกรรมในที่ที่มีอากาศร้อน เช่น การเข้าซาวน่า, การออกกำลังกายอย่างหนัก, การโดนแสงแดดจ้านาน ๆ , การนั่งอยู่หน้าเตาปิ้งย่าง เป็นต้น
ในช่วง 2 สัปดาห์ งดรับประทานอาหารที่ไม่สุก กึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารหมักดอง ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อจากเชื้อโรคที่อาจปะปนมากับอาหารประเภทนี้
งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้หลอดเลือดขยายตัวและทำให้อาการบวมช้ำหายช้า
แนะนำให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพราะจะช่วยให้สารเติมเต็มมีการอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ
ข้อดีและข้อควรระวังของฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดีมั้ย? แน่นอนว่าเป็นคำถามยอดฮิตของใครหลาย ๆ คนที่สนใจอยากทำหัตถการนี้ แต่ยังลังเลหรือไม่แน่ใจ โดยสิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้ดี นั่นก็คือ ข้อดีและข้อควรระวังของการฉีด ฟิลเลอร์หน้าผาก ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าเราเหมาะกับหัตถการนี้หรือไม่
ข้อดี
ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น
ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาทำไม่นาน
เจ็บน้อย หลังฉีดแล้วเห็นผลได้เลย และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
เป็นเทคนิคที่มีความยืดหยุ่นในการรักษา สามารถฉีดเติมหน้าผากเพิ่มหรือลดความนูนของหน้าผากได้ตามต้องการ
สามารถใช้การฉีดแก้ไขได้ในกรณีที่อยากเอาสารเติมเต็มออกหรืออยากแก้ฟิลเลอหน้าผาก
ข้อควรระวัง
เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร แต่ทั้งนี้ เมื่อสารเติมเต็มสลายตัวแล้วสามารถกลับมาฉีด ฟิลเลอร์หน้าผากได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนาน
หากเลือกฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือฉีดกับหมอกระเป๋า รวมถึงการใช้ฟิลเลอร์ของปลอม ยาหิ้ว ยาอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ปรับโหงวเฮ้งได้อย่างไร
ในปัจจุบัน เทรนด์ฟิลเลอร์หน้าผากปรับโหงวเฮ้ง ได้กลายเป็นเป็นศาสตร์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างตำราโหงวเฮ้งและศาสตร์ความงาม โดยลักษณะหน้าผากที่ถือว่าสวยโดดเด่นและยังช่วยปรับโหงวเฮ้งให้มีความปัง คือ หน้าผากที่มีความนูนโค้งสวยพอดีรับกับใบหน้า หน้าผากต้องไม่กว้างและไม่แคบเกินไป นอกจากนี้ ลักษณะผิวหน้าผากที่เรียบเนียน สีผิวสดใส เต่งตึง ไร้ริ้วรอย รอยแผลเป็น และรอยตำหนิต่าง ๆ ยังถือว่าโหงวเฮ้งดีอีกด้วย ซึ่งบ่งบอกถึงหน้าที่การงานที่ดี ไม่มีอุปสรรค หากทำการค้าหรือทำธุรกิจก็จะยิ่งดี รับทรัพย์ ราบรื่น รวมถึงบ่งบอกความมีสติปัญญา มีคนอุปถัมภ์ค้ำจุน ครอบครัวและคนรอบข้างดี ด้วยลักษณะที่กล่าวมานี้ทำให้หลายคนหันมาใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากปรับโหงวเฮ้งกันมากขึ้น เพราะมีข้อดีทั้งในด้านความสวยแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์หน้าผาก
ฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายมั้ย
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการทางความงามที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นการใช้สารเติมเต็มที่ถูกผลิตขึ้นเลียนแบบสารไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัยทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีความบริสุทธิ์ เข้าได้ดีกับร่างกาย และเมื่อเวลาผ่านไปสามารถสลายได้เอง หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช้ยาหิ้ว ไม่ใช้ยาปลอม ผสานกับเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ถูกต้องจากแพทย์ที่มีประสบการณ์จะทำให้ได้ผลลัพธ์ดี ไม่เสี่ยงอันตราย แต่หากเลือกฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือฉีดกับคนที่ไม่ใช่แพทย์ (หมอเถื่อน หมอกระเป๋า) อาจเสี่ยงฉีดโดนเส้นเลือดจนอุดตันและทำให้เกิดเนื้อตาย และหากโดนเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังดวงตาก็อาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นตาบอดได้
ฟิลเลอร์หน้าผาก สลายเองหรือไม่
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากและเมื่อเวลาผ่านไป สารเติมเต็มจะสลายได้เองตามธรรมชาติ ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่อยู่ได้เท่าไหร่นั้นจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองของคนไข้แต่ละคน โดยส่วนมากแล้วผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 12 - 24 เดือน นอกจากนี้ ในกรณีที่อยากเอาสารเติมเต็มออกก่อนที่จะสลายตัวเองก็สามารถใช้วิธีการฉีดสลายฟิลเลอร์หน้าผากได้ ซึ่งเป็นการใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL)