ปัญหาสุขภาพภายในเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุก
ๆ คน และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตนเองด้วยกันทั้งนั้น อย่างผู้หญิงก็จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเนื้องอกมดลูก
โดยพบว่าผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 30-50 ปี และมักจะแสดงอาการที่รบกวนในการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ
เช่น ปวดประจำเดือนมากกว่าปกติเป็นประจำเดือนมากกว่าปกติ หรืออื่น ๆ
ด้วยความไม่รู้หรือเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติ
กว่าจะรู้ตัวอีกทีขนาดของเนื้องอกอาจขยายตัวขึ้นจนส่งผลกระทบกับอวัยวะที่อยู่ใกล้เคียง
จนส่งผลแทรกซ้อนอื่น ๆ ต่อร่างกายของเราได้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใส่ใจ
และดูแลตนเองให้ดี ๆ โดยอาการที่บ่งชี้ว่าอาจจะเป็นเนื้องอกมดลูกมีดังนี้
อาการที่อาจเป็นเนื้องอกมดลูก
1.มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
หรือมีเลือดประจำเดือนออกมากขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป มีอาการซีดโดยไม่รู้ตัว
2.รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เป็นลมบ่อย
3.ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด
อาจเกิดจากก้อนเนื้องอกไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ
4.ท้องผูก อาจเกิดจากก้อนเนื้องอกไปกดเบียดลำไส้ใหญ่ส่วนปลายที่ต่อกับทวารหนัก
หรือกดบริเวณทวารหนัก อาจมีอาการท้องอืด รู้สึกท้องโตขึ้นเรื่อย ๆ
5.เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ทั้งที่ไม่เคยเจ็บ
6.คลำพบก้อน แม้อาจไม่มีอาการ
แต่อาจคลำพบก้อนบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือช่องท้อง เนื่องจากก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่
7.มีบุตรยากและแท้งบุตร
เนื่องจากก้อนเนื้องอกยื่นเข้าไปในโพรงมดลูก
เกิดการอุดตันของท่อนำไข่หรือขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน
หากคุณอยากลดความเสี่ยงที่จะไม่ให้เป็นเนื้องอกมดลูกนั้น
คุณต้องดูแลสุขภาพตนเองให้ดี ๆไม่ให้มีน้ำหนักตัวมากเกินไป หรือทานน้อยจนผอมไป
ไม่ควรทำงาน และใช้ชีวิตด้วยความเครียด
เพราะมันจะส่งผลทำให้ต่อมใต้สมองหลั่งฮอร์โมนไปควบคุมการทำงานของรังไข่ไม่เป็นปกติ
ฉะนั้นการดูแลสุขภาพโดยรวมจะช่วยให้การทำงานของฮอร์โมนเป็นไปอย่างปกติ
ส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ดี รวมถึงมดลูกและรังไข่มีสุขภาพที่ดี จะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นเนื้องอกได้อีกทางหนึ่งค่ะ
#เนื้องอกมดลูก