แนะนำ ‘ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดเก็บสเต็มเซลล์’

คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่กำลังวางแผนมีบุตร รวมถึงผู้ที่กำลังมองหาหลักประกันทางสุขภาพให้กับลูกน้อย ตัวคุณเอง และทุกคนในครอบครัวในอนาคต ก็คงจะรู้จักกับการเก็บสเต็มเซลล์หรือเก็บ Stem Cell ทารกกันมาไม่มากก็น้อย เพราะสเต็มเซลล์จากรก และ Stem Cell จากแหล่งต้นกำเนิดต่าง ๆ ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ การรักษาโรค และการฟื้นฟูความเสื่อมที่อาจเกิดขึ้นได้กับทั้งตัวคุณเอง ลูกน้อย และทุกคนในครอบครัวของคุณ 

เหตุผลที่การเก็บ Stem Cell ถือเป็นหลักประกันทางสุขภาพที่ดีและมีความน่าสนใจ ที่จะมอบคุณภาพชีวิตทางสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกน้อย ตัวคุณเอง และทุกคนในครอบครัวในอนาคตนั่นก็เป็นเพราะ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ทำให้ได้มีการศึกษาและนำเอาคุณสมบัติเฉพาะตัวของ Stem Cell มาใช้ เพื่อประกอบการรักษาและฟื้นฟูโรคต่าง ๆ และถือได้ว่าเป็นการรักษาทางเลือกใหม่ ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

ซึ่งความสามารถของ Stem Cell ที่ถูกนำมาใช้ในการศึกษาเพื่อนำไปฟื้นฟูและรักษาโรคร้ายต่าง ๆ นั้น ก็คือความสามารถในการแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด และยังสามารถเข้าไปทดแทนเซลล์ภายในร่างกายที่สูญเสียหรือถูกทำลายจากอาการเจ็บป่วย รวมถึงอาการบาดเจ็บต่าง ๆ และภาวะอาการที่เซลล์ถูกทำลายไปจากกระบวนการรักษาโรคร้ายต่าง ๆ นั่นเอง 

และด้วยความสามารถเหล่านี้จึงทำให้การเก็บสเต็มเซลล์จากรก และ Stem Cell จากแหล่งต้นกำเนิดต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ ผู้ที่กำลังวางแผนมีบุตร รวมถึงผู้ที่กำลังมองหาหลักประกันทางสุขภาพให้กับลูกน้อย ตัวคุณเอง และทุกคนในครอบครัวในอนาคต ควรเริ่มต้นวางแผน และมองหาธนาคารเก็บ Stem Cell ทารกที่น่าเชื่อถือเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสดี ๆ ที่จะมีหลักประกันทางสุขภาพเก็บไว้

แต่หลายคนอาจจะยังมีข้อสงสัยว่า แล้วเราควรจัดเก็บ Stem Cell เมื่อไหร่ Stem Cell จากแหล่งต้นกำเนิดต่าง ๆ ควรจัดเก็บตอนไหน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดเก็บ Stem Cell ให้ทุกคนได้รู้ เพื่อใช้ในการวางแผน และเตรียมความพร้อมเข้ารับการจัดเก็บ Stem Cell อย่างเหมาะสม

สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ Cord Blood (CB)

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดเก็บ : “ควรจัดเก็บกับลูกน้อยในช่วงแรกคลอด” 

ประโยชน์ของการจัดเก็บ Stem Cell จากเลือดสายสะดือ Cord Blood (CB)

มีความสามารถในการฟื้นฟูโรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาและฟื้นฟูโรคมะเร็งระบบเลือด และฟื้นฟูโรคได้มากถึง 85 โรค จากกลุ่มโรค

ตัวอย่างโรคที่ Stem Cell จากเนื้อเยื่อสายสะดือสามารถฟื้นฟูได้ 

• กลุ่มโรคมะเร็งเม็ดเลือดทุกชนิด

• กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือดแดง

• กลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญอาหาร

• กลุ่มโรคไขกระดูกผิดปกติ 

• กลุ่มโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ Cord Tissue (CT)

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดเก็บ : “ควรจัดเก็บกับลูกน้อยในช่วงแรกคลอด” 

ประโยชน์ของการจัดเก็บ Stem Cell ทารก จากเนื้อเยื่อสายสะดือ Cord Tissue (CT) : มีความสามารถในการฟื้นฟูโรคที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมสภาพ และช่วยฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย 

ตัวอย่างโรคที่ Stem Cell จากเนื้อเยื่อสายสะดือสามารถฟื้นฟูได้ 

• โรคอัลไซเมอร์

• โรคกระดูกและข้อ

• โรคเบาหวาน

• โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

• โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ

• โรคระบบประสาท

• โรคตับแข็ง

• โรคพาร์กินสัน

• โรคออทิสติก

• โรคแพ้ภูมิตัวเอง

• โรคเสื่อมสมรรถภาพ

• โรครูมาตอยด์

• โรคสะเก็ดเงิน

• โรคจอประสาทตาเสื่อม

• ภาวะการเกิดริ้วรอยจากความเสื่อม

สเต็มเซลล์จากรก หรือ เนื้อเยื่อหุ้มรก Amnion Tissue (AT)

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดเก็บ : “ควรจัดเก็บกับลูกน้อยในช่วงแรกคลอด” 

ประโยชน์ของการจัดเก็บ Stem Cell จากเนื้อเยื่อหุ้มรก Amnion Tissue (AT) : มีความสามารถในการฟื้นฟูโรคทางระบบประสาทและสมอง 

ตัวอย่างโรคที่สเต็มเซลล์จากรกหรือเนื้อเยื่อหุ้มรกสามารถฟื้นฟูได้ 

• โรคระบบประสาท

• โรคอัลไซเมอร์

• โรคสมองพิการ

• โรคหลอดเลือดในสมอง

• โรคออทิสติก

• โรคพาร์กินสัน

• โรครูมาตอยด์

• โรคสะเก็ดเงิน

• อัมพาต 

เนื้อเยื่อไขมัน Adipose Tissue

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดเก็บ : “จัดเก็บกับตัวเอง ทั้งในวันคลอดและเมื่อใดก็ได้ตามที่ต้องการ” 

ประโยชน์ของการจัดเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน Adipose Tissue : มีความสามารถในการฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพจากโรคแพ้ภูมิตัวเอง และข้อเข่าเสื่อม ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนล้า และส่งผลดีต่อเรื่องผิวพรรณและความงาม

ตัวอย่างโรค ความเสื่อม และความงามที่สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมันสามารถฟื้นฟูได้ 

• โรคแพ้ภูมิตัวเอง

• ข้อเข่าและข้อต่อเสื่อมจากการที่น้ำในข้อเข่าน้อยจนมีสภาวะข้อเข่าอักเสบ

• ภาวะความเสื่อมสภาพของสมรรถภาพร่างกาย

• ความเหนื่อยล้า 

• ความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว 

• ความผิดปกติของการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินให้กับผิวหนัง