รวมหลักสูตร โรงเรียนนานาชาติยอดนิยม หลักสูตรอินเตอร์แบบไหนดี ?

รวมข้อมูลหลักสูตร โรงเรียนนานาชาติยอดนิยมในไทย หลักสูตรอินเตอร์ในไทยมีกี่แบบและแตกต่างกันอย่างไร เลือกยังไงให้เหมาะกับเด็ก รู้ให้ชัวร์ก่อนสมัครโรงเรียนนานาชาติ

การเลือกโรงเรียนให้กับบุตรหลานมีหลายองค์ประกอบปัจจัย หนึ่งในตัวเลือกที่จะเปิดโอกาสทางภาษา และการศึกษาต่อต่างประเทศคือโรงเรียนนานาชาติ ที่มีระบบการศึกษาได้รับการรองรับจากมาตรฐานสากล ที่นอกจากจะมอบประสบการณ์การเรียนรู้สร้างสรรค์ที่แตกต่างแล้ว ก็ยังได้สัมผัสพหุวัฒนธรรมที่หลากหลายจากผู้คนหลายเชื้อชาติ ทำให้มีได้ฝึกทักษะพัฒนาการด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี หากผู้ปกครองท่านใดที่กำลังมองหาข้อมูลการเลือกหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติ ที่เหมาะสำหรับบุตรหลาน ควรเลือกอย่างไร ? หลักสูตรโรงเรียนนานาชาติมีกี่แบบ ? บทความนี้มีคำตอบ 

การเลือกหลักสูตร โรงเรียนนานาชาติสำคัญอย่างไร ?

โรงเรียนนานาชาติแต่ละแห่งแบ่งออกเป็นหลายหลักสูตรด้วยกัน ในบทความนี้จะพาไปเจาะลึกข้อมูลหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถประเมินหาหลักสูตรที่เหมาะสมกับบุตรหลาน หรือเส้นทางการศึกษาที่เป็นเป้าหมายมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร International Baccalaureate (IB) , หลักสูตรอเมริกัน (US) และหลักสูตรอังกฤษ (UK) หลักสูตรที่ใช่จะช่วยสนับสนุนให้ตัวผู้เรียนได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพในตัวเองได้เต็มที่ อีกทั้งยังทำให้สิ่งแวดล้อมการเรียนเป็นไปในทางที่บวกอีกด้วย

หลักสูตร โรงเรียนนานาชาติยอดนิยมในประเทศไทย

โรงเรียนหลักสูตรนานาชาติที่นิยมในประเทศไทยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 หลักสูตร โดยแต่ละโครงสร้างหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติจะมีแนวทางการเรียนการสอนที่ต่างกันดังนี้

หลักสูตรของอังกฤษ (UK) 

โรงเรียนนานาชาติ หลักสูตรอังกฤษ (UK) มีจุดเด่นคือการเรียนการสอนตามหลักสูตร General Certificate of Secondary Education (GCSE) ควบคู่กับ Self-Study ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้ผู้เรียนได้ค้นหาตัวเอง โดยมีวิชาบังคับ 3 วิชาหลักคือ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ทำให้ผู้เรียนมีได้ค้นพบความชอบ ความถนัด จุดอ่อน - จุดแข็งของตัวเอง สามารถปรับตัวเรียนรู้ในสังคมได้เป็นอย่างดี หลักสูตรโรงเรียนนานาชาติของอังกฤษ จะแบ่งช่วงการเรียนออกเป็น 6 Key Stage ตามอายุ 

0. Key Stage Nursery-Reception วัย 4-6 ปี
1. Key Stage Year 1 - 2 วัย 5-6 ปี 
2. Key Stage Year 3 - 6 วัย 7-10 ปี 
3. Key Stage Year 7 - 9 วัย 11-13 ปี 
4. Key Stage Year 10 - 11 (IGCSE) วัย 14-15 ปี 
5. Key Stage Year 12 - 13 (Sixth Form) วัย 16-17 ปี 

หลักสูตรของอเมริกัน (US) 

อีกหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติที่เป็นที่นิยมมากคือหลักสูตรของอเมริกัน (US) โดยจุดเด่นของหลักสูตรนี้อยู่ที่ความหลากหลายของวิชา ช่วยให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดเป็นเหตุเป็นผล เป็นคนที่รอบรู้ สามารถดึกศักยภาพของตัวเองได้ออกมาอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีการสอบวัดระดับ Advanced Placement (AP) ที่สามารถใช้ยื่นเพื่อศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในอเมริกาได้อีกด้วย โรงเรียนนานาชาติระบบอเมริกันในไทยกันแบ่งออกเป็น 3 ระดับชั้นตามอายุดังนี้

•  Grade 0 Kindergarten 
•  Grade 1 - 5 Elementary School 
•  Grades 6 - 8 Middle School
•  Grades 9 - 12 High School 

หลักสูตร International Baccalaureate (IB) 

โรงเรียนนานาชาติหลักสูตร IB (International Baccalaureate) เป็นหลักสูตรที่ถูกจัดตั้งโดย International Baccalaureate Organization (IBO) ที่ถูกใช้มากกว่า 156 ประเทศ มีจุดเด่นคือการเน้นพัฒนาการแต่ละช่วงวัย ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบ พัฒนาความรู้พร้อมบุคลิกภาพให้ปรับตัวเข้าได้กับทุกสังคม โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับการศึกษาดังนี้ 

•  ระดับต้น (IB Primary Years Programme) วัย 3 – 12 ปี
•  ระดับกลาง (IB Middle Years Programme) วัย 11 – 16 ปี
•  ระดับประกาศนียบัตรนานาชาติ (IB Diploma Programme) วัย 16 – 19 ปี

เลือกหลักสูตร โรงเรียนนานาชาติอย่างไร ให้เหมาะกับลูก 

หลักการเลือกหลักสูตร โรงเรียนนานาชาติให้เหมาะกับลูกหลานเบื้องต้น สามารถพิจารณาได้ดังนี้ 

1. ศึกษาหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยให้การยอมรับทั่วโลก

ปัจจัยสำคัญคือการเลือกโรงเรียนที่มีหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติที่มหาวิทยาลัยทุกแห่งให้การยอมรับ เพราะหลักสูตรที่มีมาตรฐานระดับสากล จะสามารถมั่นใจได้ว่าการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศ หรือการศึกษาต่อต่างประเทศ 

2. พิจารณาการเรียนการสอนและบุคลากรของโรงเรียน 

นอกจากหลักสูตร โรงเรียนนานาชาติที่ได้การยอมรับจากสากลแล้ว บุคลากรภายในโรงเรียนเองก็ต้องได้มาตรฐานด้วย เพราะการบริหาร และดำเนินการของโรงเรียนจะส่งผลกระทบต่อตัวผู้เรียนโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ การจัดการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก หรือดูแลความปลอดภัยให้นักเรียนล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน

3. เลือกหลักสูตรที่ตรงกับความสนใจของลูก 

สิ่งสำคัญที่สุดตลอดการเล่าเรียน ก็คือความสนใจของตัวผู้เรียนเอง ผู้ปกครองควรสังเกตว่าบุตรหลานมีความสนใจ มีความถนัด หรือมีความกังวลอะไรบ้าง เพื่อให้สามารถประเมินรูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสมสำหรับเด็กแต่ละคนได้ทั้งในด้านวิชาการ และด้านการใช้ชีวิต

4. กิจกรรมนอกหลักสูตร

จุดเด่นของการเรียนการสอนหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติคือกิจกรรมนอกหลักสูตรที่จะบูรณาการองค์ความรู้ ความสร้างสรรค์ และการใช้ชีวิตให้กับผู้เรียนดังนั้นการดูโรงเรียนนานาชาติที่มีกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของเด็ก จะช่วยสร้างแรงจูงใจ ความกระตือรือร้น และสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในทางบวกให้กับผู้เรียนได้ดี

5. ค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายทั่วไป

แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายตลอดภาคการศึกษาหลักสูตรนานาชาติเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา ผู้ปกครองควรทราบถึงค่าใช้จ่ายอาทิ ค่าเทอม การเรียนเสริม สื่อการเรียนรู้ กิจกรรมนอกหลักสูตร รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเช่น อาหาร การเดินทาง เป็นต้น ดังนั้นการเลือกโรงเรียนนานาชาติที่เดินทางไม่ไกลจากบ้าน ก็มีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้เช่นกัน

สรุปการเลือกหลักสูตร โรงเรียนนานาชาติ

โรงเรียนไม่ใช่แค่สถานศึกษา แต่เป็นช่วงเวลาแห่งการใช้ชีวิต ซึ่งอาจไม่ใช่แค่ 1 - 3 ปี แต่สำหรับเด็กบางคนอาจจะเป็นช่วงเวลาวัยเยาว์เกือบทั้งหมดเลยก็เป็นได้ ดังนั้นนอกจากจะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในเรื่องหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติแล้ว หัวใจหลักก็คือ “ความเป็นตัวตน” ของผู้เรียนเอง ที่จะเป็นองค์ประกอบในการเลือกหลักสูตรอินเตอร์ในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึง “เป้าหมายการศึกษา” ของตัวผู้เรียนเอง ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการศึกษาต่อ หรือการทำงาน เพราะโรงเรียนคือ “สนามจำลองชีวิต” ก่อนจะให้บุตรหลานของท่านออกไปเผชิญหน้ากับโลกของผู้ใหญ่ในอนาคต