5 ทักษะที่ต้องมีในการเป็นผู้ค้าส่งยุคใหม่
5 ทักษะขายของออนไลน์ที่ผู้ค้าส่งต้องมี อยากขายดีต้องไม่พลาด!
ในการทำธุรกิจไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้ก็คือเรื่องยอดขาย ยิ่งในยุคที่การขายของออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่หลาย ๆ บริษัท หลาย ๆ ธุรกิจค้าส่งในตลาดค้าส่งรวมถึงคนทั่ว ๆ เองหันไปเลือกทำกันมากขึ้นแล้วนี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ค้าส่งในยุคใหม่จึงจำเป็นต้องรู้ทักษะที่จะช่วยให้ยอดขายพุ่งสูงมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเมื่อไรที่ธุรกิจมีกำไรมากขึ้น โอกาสประสบความสำเร็จของร้านก็ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย
ในปัจจุบันผู้ค้าส่งสามารถนำสินค้าลงขายบนโลกออนไลน์ได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งหลาย ๆ ธุรกิจค้าส่งก็มาพร้อมวิธีการขายแบบใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดใจลูกค้าเป้าหมาย ดังนั้นที่พ่อค้าแม่ค้าขายส่งออนไลน์จึงต้องมีการปรับตัวตามให้ทันกระแสใหม่ ๆ นี้ เพราะทักษะการขายแบบเดิม ๆ อาจใช้ได้ผลไม่เพียงพอแล้วอีกต่อไป
แล้วพ่อค้าแม่ค้าขายส่งออนไลน์ต้องมีทักษะการเป็นผู้ค้าส่งอย่างไรบ้าง? ถ้าอยากขายดี มียอดขายปังมากขึ้นกว่าเดิม! เราไปดูกัน!!
1. ทักษะการจัดการร้านและจัดการสินค้า
ทักษะที่ผู้ค้าส่งหลาย ๆ คนมักมองข้าม โดยเฉพาะธุรกิจค้าส่งที่มีสินค้าหลากหลาย ทักษะการจัดการร้าน และสินค้า เป็นอีกทักษะที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยทักษะนี้จะรวมตั้งแต่…
- ทักษะการเลือกสินค้ามาสต็อกเตรียมขาย
เช่น เลือกจากสินค้าไหนที่ตลาดกำลังต้องการ หรือสินค้าไหนที่สามารถขายควบคู่ไปด้วยกันได้
- ทักษะการจัดหมวดหมู่สินค้าบนหน้าร้านออนไลน์
เช่น การจัดหน้าร้านหรือการเรียงสินค้าบนแพลตฟอร์ม เป็นต้น
- ทักษะการจัดการสินค้าคงคลัง
เช่น การจัดโปรโมชันให้กับสินค้าที่ขายไม่ค่อยออก หรือต้องการล้างสต็อก เพื่อจัดการกับปัญหาสินค้ากำลังจะหมดอายุ หรือสินค้าเสี่ยงเกิดต้นทุนจม
- ทักษะการดูแลสต็อกสินค้า
เป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เจ้าของร้านควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนได้ เช่น การชะลอ หรือลดจำนวนการสั่งสินค้าที่ค้างสต็อกนาน หรือสั่งของที่ขายดีเพิ่ม และทำโปรโมชันส่งเสริมการขาย เป็นต้น
2. ทักษะการบริหารการเงินและบัญชี
ทักษะการเงินและการบัญชีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นทักษะที่จะช่วยให้ร้านเกิดความยั่งยืนในตลาดค้าส่ง และเกิดความมั่นคงในการเงินของตัวพ่อค้าแม่ค้าเอง โดย 3 ทักษะการเงินและบัญชีที่ผู้ค้าส่งควรมี ได้แก่
- แยกบัญชีส่วนตัวและของร้านออกจากกัน
การทำบัญชีเงินฝากโดยแยกส่วนออกจากกันนี้ก็เพื่อให้เราได้รู้รายได้และรายจ่ายที่แท้จริงของร้าน ช่วยให้รู้ว่าเงินมาจากไหน และค่าใช้จ่ายไปลงที่อะไรบ้าง
- ออมและแบ่งกำไรไปเป็นสินทรัพย์ประเภทอื่น
กำไรที่ได้จากการค้าขาย ควรแบ่งไว้ออมหรือลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เช่น ตราสารหนี้ หุ้น ทองคำ เป็นต้น เพื่อให้นำออกมาใช้จ่ายยากขึ้น และยังช่วยให้เก็บออมได้รัดกุมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
3. ทักษะการเข้าใจและการบริการลูกค้า
การทำธุรกิจค้าส่งออนไลน์นั้น การให้บริการเป็นเรื่องสำคัญที่จะสร้างฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น เช่น
- ใส่ใจความต้องการและปัญหาของลูกค้า
ลองสังเกตดูว่าร้านของเราลูกค้าชอบซื้ออะไร ส่วนใหญ่แล้วเป็นกลุ่มลูกค้ากลุ่มใด ผู้ค้าส่งจะได้สื่อสารหรือพูดคุยได้เหมาะสมกับลูกค้า รวมไปถึงให้คำแนะนำลูกค้าได้อย่างตรงจุด
- หมั่นถามฟีดแบ็ก หรือขอคำรีวิวจากลูกค้า
การขอรีวิวจากลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดียที่ใช้ติดต่อกับลูกค้า จะทำให้ร้านรู้ความต้องการของลูกค้า สิ่งที่ต้องปรับปรุงนอกจากนี้ คำชม และรีวิวจากลูกค้านี้ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านอีกด้วย
- ทักษะการวิเคราะห์ “รายงานยอดขาย”
เช่น ลูกค้าชอบซื้ออะไรคู่กัน การใช้จ่ายต่อการซื้อหนึ่งครั้งเฉลี่ยกี่บาท และนำมาออกแบบกลยุทธ์ จัดโปรโมชันที่เหมาะสม
4. ทักษะการตลาดดิจิทัลและการสร้างคอนเทนต์
เมื่อทำการตลาดบนโลกออนไลน์ ผู้ค้าส่งต้องปรับตัวทำการตลาดในรูปแบบที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม ซึ่งต้องผ่านฝึกฝนและทดลองให้เกิดความชำนาญ ไม่ว่าจะเป็น…
- ทักษะการใช้งานโซเชียลมีเดีย
พัฒนาการใช้งานโซเชียลในช่องทางที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ เช่น Facebook, Instagram, LINE หรือว่า TikTok เป็นต้น
- ทักษะการใช้งาน E-Marketplace
เช่น Shopee Lazada Amazon หรือตลาดดิลิเวอรี เพราะช่องทางเหล่านี้คือตลาดกลางที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอยู่จำนวนมาก
- ทักษะการบริหาร และโปรโมตคอนเทนต์
รู้จักวิธีการนำเสนอคอนเทนต์ให้มัดใจลูกค้า เช่น เขียนเนื้อหาแนะนำสินค้า สร้างคอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า ขายของผ่านไลฟ์ การทำวิดีโอสั้น เป็นต้น
- ทักษะการทำโฆษณา
ศึกษาวิธีการยิงโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้เราสามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มการมองเห็นให้กับร้านเรามากขึ้น
- ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด
การทำการตลาดออนไลน์ มีจุดเด่นที่เราสามารถติดตามข้อมูล และดูผลลัพธ์ของทุกสิ่งที่เราทำได้ เช่น คนเห็นโพสต์เท่าไร มีคนซื้อเท่าไรจากโพสต์นี้ เมื่อรู้ข้อมูลชัดเจนก็สามารถนำมาปรับปรุงวิธีการทำการตลาดหรือปรับปรุงการทำงานของธุรกิจค้าส่งเราได้
5. ทักษะการปรับตัวและเรียนรู้
ในฐานะพ่อค้าแม่ค้าขายส่ง การเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก และวิธีการที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ดี ก็คือ…
- สังเกตพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
คอยรับฟัง และสังเกตข่าวสาร พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ วัน
- ก้าวให้ทันกับเทคโนโลยี
เปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ โดยเฉพาะกับแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ผู้คนเริ่มเข้าไปใช้งาน
- กล้าเสี่ยง และทดลอง
ลองดูว่าแพลตฟอร์มไหนคาดว่าจะขายดี และเริ่มทดลองทำ อาจจะต้องใช้ความพยายามในการเริ่มต้น แต่จะเกิดความคุ้มค่าตามมาอย่างแน่นอน
ไม่ว่าผู้ค้าส่งจะประกอบธุรกิจค้าส่งประเภทใดก็ตาม การมีทักษะความรู้ทั้ง 5 ข้อนี้ไว้ จะช่วยให้การทำงาน การบริหารร้านของทุกคนง่าย ราบรื่น และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นทักษะที่เราแนะนำในวันนี้จะช่วยให้ร้านค้าส่งของทุกคนมียอดขายที่ดี มีกำไร และทำให้ธุรกิจไปต่อได้ในตลาดค้าส่งแบบไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน