ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว คืออะไร
ฟอกสีฟัน หรือ ฟอกฟันขาว (Teeth Whitening) คือ หนึ่งในวิธีการที่ทำให้ปัญหาฟันเหลือง ฟันคล้ำ กลับมาเป็นฟันที่ขาวสะอาดขึ้นได้ โดยการใช้น้ำยาฟอกสีฟันเข้าไปทำปฏิกิริยา ปรับผลึกเม็ดสีในชั้นเนื้อฟัน เมื่อเม็ดสีจางลง ก็จะทำให้ฟันกลับมาดูขาวขึ้น ซึ่งวิธีการฟอกฟันขาวนี้จะไม่ทำร้ายชั้นผิวเคลือบฟันสาเหตุของฟันเหลือง
ในความเป็นจริงแล้ว การที่ฟันมีการเปลี่ยนแปลงเป็นฟันเหลือง ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้- ปัจจัยภายนอก ได้แก่ พฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ หรือการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม ประเภท ชา กาแฟ น้ำอัดลม จนทำให้มีคราบสีมาเกาะที่บริเวณผิวฟัน
- ปัจจัยภายใน เช่น อายุ กรรมพันธุ์ การสะสมของสารมีสีในเนื้อฟัน หรือมีการรับประทานยาTetracycline ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะที่ระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในขณะสร้างฟันหรือฟันตาย
ประเภทของการฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว
การฟอกสีฟัน หรือการฟอกฟันขาว ที่มักได้รับความนิยมในคลินิกทันตกรรม มีอยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่1. การฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น Cool light
การฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น Cool light คือ การนำน้ำยาฟอกสีฟันทาลงบนผิวฟัน จากนั้นใช้ระบบแสง LED เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน เมื่อเม็ดสีฟันแตกตัว ก็จะทำให้ฟันดูขาวสว่างขึ้นข้อดีของการฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น Cool light
ข้อเสียของการฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น Cool light
- - ในการฟอกสีฟัน 1 ครั้ง สามารถทำให้ฟันดูขาวขึ้นได้ 3 - 4 ระดับขึ้นไป
- - ใช้ระยะเวลาในการทำไม่นาน โดยระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับสีฟันในตอนแรกเริ่ม
- - ค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูก ปลอดภัย
- - เนื่องจากระบบแสง LED มีความเข้มข้นสูง อาจเกิดการระคายเคืองเนื้อเยื่อในช่องปากได้
- - หลังจากฟอกสีฟันเรียบร้อยแล้ว อาจมีอาการเสียวฟันเล็กน้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาการจะค่อยๆดีขึ้นจนหายเป็นปกติเอง
- - สีฟันขาวจะสามารถคงอยู่ได้ในระยะเวลา 6 - 12 เดือน
2. การฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์
การฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ คือ การนำแสงเลเซอร์ไดโอด (LD) ซึ่งมีความร้อนต่ำ มีความยาวคลื่นเฉพาะตัว เข้ามาใช้ เพื่อช่วยกระตุ้นสารฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงให้เกิดปฏิกิริยาการแตกตัวของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) ซึ่งเป็นส่วนผสมหนึ่งของน้ำยาฟอกสีฟัน ทำให้สารสามารถแทรกผ่านไปยังเนื้อฟันได้ และเพื่อให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้นข้อดีของการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์
ข้อเสียของการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์
- - สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- - ได้รับการรับรองแล้วว่ามีความปลอดภัย
- - เลเซอร์สามารถฟอกสีฟันซ้ำในแต่ละซี่ได้ ในกรณีมีฟันที่สีไม่เหมือนกับฟันข้างเคียง
- - ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
- - อาจมีอาการเสียวฟันหลังจากทำการฟอกสีฟันเสร็จ แต่อาการจะสามารถดีขึ้นจนหายเองได้
- - อาจมีการระคายเคืองเนื้อเยื่อในช่องปากเล็กน้อย
3. การฟอกสีฟันแบบ Zoom
การฟอกสีฟันแบบ Zoom คือ เทคโนโลยีที่มีการผสานกันระหว่างการใช้แสงสีฟ้า และการใช้ความร้อนต่ำในการกระตุ้นประสิทธิภาพของน้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง เมื่อเกิดการแตกตัวของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) สารจะสามารถแทรกตัวเข้าไปทำปฏิกิริยากับเม็ดสีที่อยู่บนชั้นเนื้อฟัน ทำให้ฟันขาวขึ้นข้อดีของการฟอกสีฟันแบบ Zoom
ข้อเสียของการฟอกสีฟันแบบ Zoom
- - มีอาการเสียวฟันหลังจากทำการฟอกสีฟันน้อยกว่ารูปแบบอื่นๆ
- - สามารถเห็นผลลัพธ์หลังจากฟอกสีฟันเสร็จได้ในทันที โดยฟันจะขาวขึ้น 3 - 8 ระดับ
- - มีความปลอดภัย เนื่องจากต้องทำการฟอกสีฟันรูปแบบนี้กับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- - เหมาะกับบุคคลที่ไม่ต้องการฟอกสีฟันซ้ำหลายครั้ง
- - ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว เหมาะกับใคร
การฟอกสีฟัน หรือ การฟอกฟันขาว เหมาะกับ..
- - ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ บุคลิกภาพ
- - บุคคลที่มีหน้าที่การงานเกี่ยวกับการสื่อสาร เจรจา
- - บุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับสีฟัน เช่น ฟันคล้ำ ฟันเหลือง
- - ผู้ที่อยากมีความมั่นใจในสีฟันเพิ่มมากขึ้น
- - ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มสีเข้มเป็นประจำ
- - คนที่ใช้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากยาบางตัวอาจส่งผลต่อกระดูกและฟัน
ฟอกสีฟัน กับ วีเนียร์ แตกต่างกันอย่างไร
ถึงแม้ว่าการฟอกสีฟันกับการทำวีเนียร์ จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ฟันของคุณขาวสะอาดขึ้นได้เหมือนกัน เเต่ทั้งสองอย่างนี้ ก็ยังมีรายละเอียดที่แตกต่างกันอยู่ ดังนี้การฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟัน เป็นการนำน้ำยาฟอกฟันขาวที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide)มาทำให้เกิดปฏิกิริยากับเม็ดสีที่อยู่บนเนื้อฟัน ด้วยรูปแบบวิธีการต่างๆ จนทำให้ฟันตามธรรมชาติขาวขึ้นการทำวีเนียร์
ส่วนการทำวีเนียร์ เป็นการนำวัสดุที่มีลักษณะและสีคล้ายฟันมาติดเข้าที่บริเวณผิวฟันด้านหน้าเท่านั้น ไม่สามารถครอบคลุมไปจนถึงฟันด้านในได้ โดยส่วนใหญ่แล้วการทำวีเนียร์มักจะเน้นไปในเรื่องของความสวยงาม การปรับแต่งและแก้ไขในเรื่องเกี่ยวกับรูปร่างฟันและสีของฟันดังนั้น หากใครที่กำลังลังเลว่าควรจะทำฟอกสีฟันหรือวีเนียร์ดี ให้ลองพิจารณาจากความเหมาะสม ความต้องการ และข้อแนะนำอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยที่มีความแตกต่างกัน ดังนี้
การฟอกสีฟัน เป็นการที่ทำให้ฟันตามธรรมชาติขาวขึ้น โดยใช้น้ำยาฟอกสีฟันทำปฏิกิริยากับเม็ดสีที่อยู่ในเนื้อฟัน ดังนั้นจึงทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับฟันของแต่ละบุคคล ไม่สามารถระบุระดับความขาวได้ชัดเจน แตกต่างจากวีเนียร์ที่เป็นการนำวัสดุที่แต่ละคนเลือกใช้ เช่น วัสดุคอมโพซิตวีเนียร์ วัสดุเซรามิกวีเนียร์ มาติดลงบนผิวฟันเดิม จึงทำให้วีเนียร์สามารถเลือกระดับความขาว รวมไปถึงรูปร่างของฟันได้ตรงกับความต้องการ
- 1. ระดับความขาวของสีฟัน
- 2. ระยะเวลาในการทำและการเข้าพบทันตแพทย์
- 3. การใช้ชีวิตประจำวัน
- 4. ระยะเวลาของสีฟัน
- 5. ค่าใช้จ่ายในการทำ
ขั้นตอนการฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว
โดยทั่วไป ขั้นตอนในการฟอกสีฟัน หรือฟอกฟันขาวที่คลินิกทันตกรรม มีดังนี้
- เมื่อเข้าพบทันตแพทย์ จะได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน หากพบอาการผิดปกติของฟัน จะทำการรักษาให้เสร็จเรียบร้อยก่อน อีกทั้งยังมีการอุดฟัน ขูดหินปูน และขัดฟัน เพื่อทำให้ประสิทธิภาพในการฟอกสีฟันดียิ่งขึ้น
- จากนั้นก่อนเริ่มการฟอกสีฟัน จะทำการใส่ที่กั้นริมฝีปาก และที่ปกป้องเหงือก
- ทันตแพทย์จะนำน้ำยาฟอกสีฟันทาลงไปที่บริเวณผิวฟัน
- ใช้เครื่องมือการฟอกสีฟันตามรูปแบบที่ได้เลือกไว้ เช่น การใช้ระบบแสง LED, การใช้เลเซอร์ หรือการฟอกสีฟันแบบ Zoom และทำจนกระทั่งเสร็จสิ้นการฟอกสีฟันนั่นเอง
ฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน ทำได้ไหม?
การฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน 'สามารถทำได้' โดยการฟอกสีฟันที่บ้าน (Home Bleaching) เป็นการนำอุปกรณ์ที่ทางทันตแพทย์จัดเตรียมไว้ให้ เช่น เจลที่ฟอกฟันขาว, Tray ที่พิมพ์ปากไว้แล้ว กลับมาทำด้วยตนเองที่บ้านภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งการทำฟอกฟันขาวที่บ้าน จะมีขั้นตอนในการทำที่แตกต่างจากการฟอกสีฟันกับทันตแพทย์ ดังนี้ขั้นตอนการฟอกฟันขาวด้วยตัวเองที่บ้าน
- เข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพภายในช่องปาก รวมถึงจัดการปัญหาที่มีอยู่ โดยการ อุดฟัน จัดฟัน ขูดหินปูน
- จากนั้นทันตแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฟอกสีฟัน และทำการพิมพ์ปากเพื่อทำTray ให้โดยเฉพาะแต่ละบุคคล
- ทำการทดลองใช้ Tray ที่ทำสำเร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งให้คำแนะนำปริมาณเจลฟอกสีฟัน
- นำชุดอุปกรณ์กลับไปทำการฟอกฟันขาวที่บ้านด้วยตนเอง
- ก่อนเริ่มฟอกสีฟันที่บ้าน จะต้องทำความสะอาดฟันให้เรียบร้อยเสียก่อน
- จากนั้นนำเจลใสฟอกสีฟัน ลงถาดฟอกสีฟัน และนำถาดนั้นใส่เข้าไปข้างในปากให้สนิท
- สามารถใช้สำลีชุบน้ำ เช็ดน้ำยาฟอกสีฟันที่เกินออกมาจากถาดฟอกสีฟันได้
- ใส่ถาดฟอกสีฟันนี้ไว้ประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- เมื่อครบจำนวนชั่วโมงแล้ว ให้นำถาดฟอกสีฟันออก และบ้วนน้ำสะอาดโดยไม่ต้องแปรงฟัน
- จำเป็นต้องเข้าพบทันตแพทย์เพื่อติดตามผลใน 4-7 วันแรก เพื่อตรวจว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่
การปฏิบัติตัวหลังฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว
หลังจากที่ฟอกสีฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือวิธีการดูแลฟันของตนเองอย่างถูกวิธี เพื่อยืดระยะเวลาให้ฟันขาวได้นานยิ่งขึ้น โดยวิธีการดูแลฟันหลังฟอกสีฟันเสร็จ มีดังนี้- หลังจากฟอกสีฟันเสร็จ อาจมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้น เบื้องต้นสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด หรือยาสีฟันที่ลดอาการเสียวฟัน หลังจากนั้นอาการจะค่อยๆหายจนกลับมาเป็นปกติ
- หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องดื่ม ให้ทำการบ้วนปากหลังจากดื่มเสร็จสิ้นแล้ว
- งดสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่อาจมีผลทำให้ฟันกลับมาเหลืองได้เร็วขึ้น
- ใช้แปรงสีฟันหรือไหมขัดฟัน ทำความสะอาดฟันและช่องปากอย่างถูกวิธี
- เข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน ทุก 6 เดือน
- ส่วนอาหารที่สามารถทานได้ ได้แก่ นมไขมันต่ำ ไก่ไม่มีหนัง เต้าหู้ ไข่ขาว เนื้อปลาหรือชีสที่มีสีขาว เป็นต้น
ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว ราคาเท่าไหร่
โดยปกติแล้ว การฟอกสีฟัน ราคาของแต่ละรูปแบบจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้ น้ำยาฟอกฟันขาว คลินิกทางทันตกรรม และสภาพฟันของแต่ละบุคคล จึงทำให้แต่ละบุคคลอาจมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เท่ากัน ซึ่งโดยประมาณแล้ว แต่ละรูปแบบการฟอกฟันขาว มีราคาดังต่อไปนี้- ฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น Cool light ราคาอยู่ที่ประมาณ 6,800-15,000 บาท
- ฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,500-10,000 บาท
- ฟอกสีฟันแบบ Zoom ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,500-15,000 บาท
- ฟอกสีฟันที่บ้าน Home Bleaching ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000-6,000 บาท
ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว ที่ไหนดี
ฟอกฟันขาวที่ไหนดี? เป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนสงสัย เพราะการเลือกคลินิกทันตกรรมเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด หากเลือกแล้วเจอคลินิกทันตกรรมที่ดี ก็จะทำให้ผลลัพธ์เป็นไปตามแผนการรักษา ทำให้เรารู้สึกคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายไป แต่ถ้าหากเจอคลินิกทันตกรรมที่ไม่ดีพอ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาทีหลังได้ ดังนั้น การเลือกคลินิกทางทันตกรรมที่ดี จะประกอบด้วยเกณฑ์ดังต่อไปนี้- คลินิกทันตกรรมมีความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
- มีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง
- ทันตแพทย์มีความเชี่ยวชาญในด้านการฟอกสีฟัน และมีใบประกอบวิชาชีพทันตกรรม
- มีข้อมูลรีวิวการรักษาจากผู้ใช้บริการจริง
- มีเครื่องมือทางทันตกรรมที่ทันสมัยและครบครัน
ข้อสรุป ‘ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว’
สรุปก็คือ การฟอกสีฟันคือหนึ่งในทันตกรรมที่สามารถช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของฟันสีคล้ำ หรือฟันเหลืองให้กลับมาเป็นฟันตามธรรมชาติที่ขาวสะอาดได้อีกครั้ง โดยมีรูปแบบการฟอกฟันขาวต่างๆ เช่น แบบใช้แสงเย็น Cool light, แบบใช้เลเซอร์ ,แบบ Zoom และแบบฟอกสีฟันที่บ้านด้วยตนเอง (Home Bleaching) ซึ่งแต่ละแบบมีขั้นตอน ความเข้มข้นของสารฟอกสีฟัน และค่าใช้จ่ายในการทำที่แตกต่างกัน
ดังนั้นก่อนเลือกทำฟอกสีฟัน ควรเข้าพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจวินิจฉัย ขอคำปรึกษาและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล อีกทั้งควรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันหลังจากทำฟอกสีฟันเสร็จสิ้นแล้วอยู่อย่างเสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและทำให้ฟันขาวสามารถอยู่กับคุณไปได้นานยิ่งขึ้น